จอมนักรบอหังการ - บทที่ 301 โอหังต่อหน้าเย่อู๋เทียน ผลลัพธ์หนักหนามากนัก1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 301 โอหังต่อหน้าเย่อู๋เทียน? ผลลัพธ์หนักหนามากนัก!1
ภาพนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ในที่นั้นตกใจถึงขีดสุด!
ภายในที่จัดงานที่กว้างขวาง เงียบกริบลงทันที!
ใครก็ไม่คิดว่า ฝีมือของเย่อู๋เทียนจะน่ากลัวจนถึงขั้นที่ทำให้ตกใจแบบนี้!
แค่ดาบเดียวเท่านั้น!
ก็ทำเอากำแพงของที่จัดงานแตกร้าวเป็นผุยผง!
สิบสามบัลลังก์นั่นที่เหมือนกับบัลลังก์ก็พากันหล่นร่วงไปตามๆกัน!
นี่มัน…
ยังจะเรียกว่าคนได้อีกรึ?
ที่น่ากลัวที่สุดคือ ดาบเมื่อกี้ของเย่อู๋เทียนเหมือนจะไม่ได้ใช้แรงเต็มที่!
ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เขาจะเหลือแรงไปรักษาอิ่นโม่โฉวได้ยังไง?
พริบตาเดียว
เย่อู๋เทียนกลายเป็นจุดเด่นทันที
สายตาแต่ละคู่
พุ่งไปที่เขาคนเดียว
ในผู้ชมพวกนั้นข้างซ้ายของเวทีมีผู้คนที่ใส่ชุดคลุมยาวกลุ่มหนึ่ง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าตกตะลึง
พวกเขาเหมือนลืมหายใจไปแล้ว
คนพวกนี้เหมือนกันหมด ตรงหน้าอกด้านซ้ายมีเข็มกลัดชิ้นหนึ่งอยู่
บนเข็มกลัดนั่นสลักคำว่าหลิงไว้
เห็นได้ชัดว่า คนพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่พันธมิตรมังกร เป็นยอดฝีมือของตระกูลหลิง!
ท่ามกลางผู้ชมพวกนั้นด้านซ้ายของเวที ก็มีคนกลุ่มหนึ่งต่างตกตะลึงถึงขีดสุดในเวลานี้เช่นกัน!
เสื้อผ้าของพวกเขาให้ความรู้สึกแปลกตาพอดู
บนหน้าอกทุกคนมีเข็มกลัดเหมือนกัน
แต่บนนั้นกลับสลักอักษรสองตัว
เสวี๋ยนอู่!
เข็มกลัดบนหน้าอกด้านซ้ายของพวกเขาประหนึ่งกระดองเต่า
เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาจากเขาเสวี๋ยนอู่!
แต่ในตอนนี้กลับเงียบกริบ ทำตัวเหมือนเต่าที่หดหัวด้วยความหวาดกลัวเกินไป!
พวกเขาเคยคิด
พลังยุทธ์ของเย่อู๋เทียนจะน่ากลัวถึงระดับหนึ่ง!
แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่า เย่อู๋เทียนจะน่ากลัวถึงระดับนี้!
หลังจากตกตะลึงชั่วครู่ ยอดฝีมือที่มาจากเขาเสวี๋ยนอู่ต่างพร้อมใจกันมองไปทางคนผู้หนึ่ง
เป็นคนแก่ผมสีเทาที่ใส่หน้ากากสีทองคนหนึ่ง
เวลานี้คนแก่คนนี้กำลังยืนอยู่บนเวที ห่างจากเย่อู๋เทียนแค่สามสิบเมตร
คนแก่คนนี้คือเจ้าสำนักแห่งส่วนหลังภูเขาเสวี๋ยนอู๋
ชื่อจูเก่อเจิน!
เหมือนกับเจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพที่พึ่งตายภายใต้ดาบเย่อู๋เทียนไปเมื่อกี้
เขาเองก็เป็นหนึ่งในสิบสามบัลลังก์บัลลังก์บนบัลลังก์ เห็นได้เลยว่าเขามีฐานะสูงส่งแค่ไหน!
จูเก่อเจินกำลังมองเย่อู๋เทียนตาไม่กะพริบ
เพราะว่าใส่หน้ากาก ดังนั้นเลยมองสีหน้าเขาไม่ออก
แต่ดูจากสายตาเขา เหมือนกับว่าไม่ได้ตกใจอะไรมากมายกับท่าทีเย่อู๋เทียนเมื่อครู่!
ตรงกันข้ามในสายตาเขายังฉายแววดูถูก
แต่กลับเห็นว่า เย่อู๋เทียนในตอนนี้ยังคงรักษาอาการให้อิ่นโม่โฉวอยู่
อิ่นโม่โฉวที่อยู่ใต้มือใหญ่นั้นรู้สึกแค่เพียงว่ามีลมปราณที่ไม่มีที่มาสายหนึ่งค่อยๆคืบคลานไปทั่วร่างกายเธอ!
บาดแผลของสองแขนและสองขาค่อยๆเริ่มคันอย่างน่าประหลาด
อิ่นโม่โฉวกัดฟันทน
เธอรู้ว่า
อาการบาดเจ็บของเธอกลับค่อยๆฟื้นฟูด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ!
นอกเหนือจากนี้แล้ว เธอยังรู้สึกว่า….
เจ็ดเส้นประสาทแปดสัญญาณชีพของตนเหมือนถูกหล่อเลี้ยงด้วยลมปราณนี้อยู่
เหมือนฟื้นคืนมีชีวิตอีกครั้ง!
แค่ช่วงหายใจไม่กี่ครั้ง ก็รู้สึกว่าฝีมือตนเพิ่มพูนไม่ใช่แค่ระดับเดียว!
และในตอนนี้เองอิ่นโม่โฉวค้นพบอย่างตกใจว่า
ผิวของตนเริ่มเหี่ยวย่นลงอย่างรวดเร็ว!
และอีกแค่ช่วงหายใจไม่กี่ครั้ง อิ่นโม่โฉวกลายเป็นคนแก่ด้วยความเร็วชนิดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ไม่ว่าจะผิวพรรณหรือเส้นชีพจร ล้วนกลายเป็นอ่อนแอและหย่อนยาน!
“อาจารย์…ทำไมฉัน…”
อิ่นโม่โฉวตกใจมาก
เย่อู๋เทียนกลับบอกเสียงเรียบว่า
“อย่าลนลาน”
จากนั้นพอพูดจบ
ผิวพรรณของอิ่นโม่โฉวก็ค่อยๆฟื้นฟูความเรียบเนียนขึ้น
จากแก่ชราเป็นอ่อนเยาว์!
ในที่สุดก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง!
บาดแผลที่พาดผ่านกันไปมาบนใบหน้าพวกนั้นอ่อนลงไปหลายส่วน!
รวมถึงบาดแผลพวกนั้นบนร่างกายเธอก็หลุดลอกออกจากชั้นผิวเดิมราวกับผิวหนังที่ตายแล้ว!
ทุกคนมในที่นั้นตกใจกับภาพนี้มาก!
นี่มัน…
ปลูกถ่ายกระดูก สร้างร่างเนื้อขึ้นใหม่?
ผู้ชมพวกนั้นที่รายล้อมเวที ในมุมหนึ่งที่ไม่เด่นสะดุดตา
เย่ฉิงชางบัลลังก์อยู่ตรงนั้นมองภาพนี้อย่างเย็นชา และเริ่มหวั่นไหวเล็กน้อย
ถังเลี่ยนบัลลังก์อยู่ข้างเขากลับมีสีหน้าตกตะลึงตาค้าง
โพล่งออกไปฉับพลันว่า
“เย่อู๋เทียนรู้ในพลังแก่นม่วงด้วยรึ?”
เย่ฉิงชางแค่นเสียงหยันว่า
“ผมออกจะประหลาดใจพอดูเลย แต่แค่มายากลเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอก!”
ถังเลี่ยนมองเย่ฉิงชางแวบหนึ่ง เห็นว่าสีหน้าเขาไม่ได้หวาดเกรงอะไร ก็แอบถอนหายใจโล่งอก
บนเวที คนแก่คนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกลางก็เหมือนกับเย่ฉิงชางเมื่อครู่…
ถึงจะหวั่นไหวบ้างแต่ไม่นานก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
คนแก่คนนี้แซ่เย่ ชื่อตัวเดียวว่าขวาง
เหล่าจู่คนหนึ่งของตระกูลเย่แห่งพันธมิตรมังกร
ตอนนี้กลับมายืนอยู่ที่นี่ด้วยฐานะของหัวหน้าผู้อาวุโสของสมาคมผู้อาวุโสแห่งพันธมิตรมังกร!
วันนี้การไล่ล่าที่วางไว้เพื่อเย่อู๋เทียนโดยเฉพาะ ถึงเย่ฉิงชางจะเป็นคนวางหมากเอง… แต่คนที่เป็นตัวแทนเย่ฉิงชางทำหน้าที่จัดการไล่ล่านี้กลับเป็นเย่ขวาง!
เวลานี้หลงรั่วหานและเย่หวงเยก็ออกจากห้องน้ำชาห้องนั้นเมื่อครู่มายังที่นี่
หลงรั่วหานเห็นเย่ขวางเข้าก็อึ้งตะลึงเล็กน้อย
“ทำไมเย่ขวางก็อยู่ด้วย?”
เย่หวงเยมองไปยังเวทีที่อยู่ไกลๆ สายตาจับจ้องไปที่หัวนั้นของเจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพ
“ถึงข้าจะเป็นคนส่งคนไปก่อตั้งวิหารจอมเทพขึ้นมา แต่เจ้าวิหารแห่งวิหารจอมเทพกลับเป็นลูกชายบุญธรรมของเย่ขวาง”
พอได้ยินคำนี้ สีหน้าหลงรั่วหานเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที
เย่หวงเยพูดอีกว่า