จอมนักรบอหังการ - บทที่ 306 ปรมาจารย์แห่งยุค เย่อู๋เทียน!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 306 ปรมาจารย์แห่งยุค เย่อู๋เทียน!2
ฝีมือของเย่ฉิงชางจะน่ากลัวถึงขั้นนี้!
ที่แท้หลายปีมานี้…
เย่ฉิงชางปกปิดฝีมือที่แท้จริงมาตลอด!
พริบตาเดียวอารมณ์ของเย่เฉียนหลงหนึกอึ้งถึงขีดสุด
ต่อไปจะทำยังไงดี?
ถ้าอีกเดี๋ยวเย่ฉิงชางลงมือฆ่าเย่อู๋เทียน เช่นนั้นอนาคตของตระกูลเย่…จะไม่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือเย่ฉิงชางหรอ?”
หันมองมุมนั้นที่เย่ฉิงชางอยู่ก่อนหน้านี้
สายตาที่สองแม่ลูกหานเฟิ่งอี้ถังเลี่ยนมองเย่ฉิงชางเลื่อมใสจนถึงขีดสุด
หานเฟิ่งอี้ถึงกับโพล่งออกมาว่า
“ถังเลี่ยน ตอนนั้นลูกไม่ได้คารวะผิดอาจารย์!”
สีหน้าถังเลี่ยนปรากฏรอยยิ้มมาดร้ายขึ้นมา พลางหันมองเย่อู๋เทียน
“วันนี้เจ้าหมาเย่อู๋เทียน ในที่สุดก็จะได้กลายเป็นหมาตัวหนึ่งอย่างแท้จริงแล้ว!”
เย่อู๋เทียนได้ยินคำพูดนี้แต่ไกล เขาเบนสายตามามองถังเลี่ยนทันที
แค่สายตาแวบเดียว
สีหน้าถังเลี่ยนก็ซีดเผือดลงทันที
ไม่กล้าส่งเสียงอะไรอีก
จากนั้นถังเลี่ยนก็หายตัวไปจากที่เดิม พุ่งเข้าหาเย่ฉิงชางที่อยู่ด้านล่างเวที
เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้ถังเลี่ยนคิดว่า
ขอเพียงตนหลบอยู่ด้านหลังถังเลี่ยน เย่อู๋เทียนก็ไม่อาจทำอะไรตนได้
น่าเสียดายที่เขาคิดผิด
เย่อู๋เทียนขยับปลายเท้าอีกครั้ง เตะก้อนหินเด้งไป
ชิ้ว!
ก้อนหินพุ่งไป
ปึ้ง!
โดนเข้ากับด้านหลังข้อเข่าของถังเลี่ยนอย่างจัง
“อ๊า!”
ขาข้างหนึ่งของถังเลี่ยนเลือดสาดตรงนั้นทันที
ถังเลี่ยนสูญเสียสมดุล ล้มลงพื้นด้วยท่าหมอบลงราวกับหมา
พอหันกลับไปมอง ถังเลี่ยนก็เห็นขาขวาของตนอยู่ในสภาพเนื้อกระดูกขาดจากกันเรียบร้อยแล้ว
หานเฟิ่งอี้เห็นภาพนี้แล้วสมองว่างเปล่าทันที
ไม่คิดเลยจริงๆว่า
ลูกชายของตนที่เป็นศิษย์ของเย่ฉิงชางจะอ่อนแอแบบนี้ต่อหน้าเย่อู๋เทียน!
เย่ฉิงชางมองถังเลี่ยนแวบเดียว
ราวกับไม่ได้เก็บความเป็นตายของถังเลี่ยนมาใส่ใจเลย
เขาที่กำลังดูดซับพลังยุทธ์ของอิ่นโม่โฉว หันมองเย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีเบาๆ พลางแค่นเสียงหยันออกมา
“ไม่กล้าลงมา กล้ายืนอยู่แค่ข้างบน แล้วกลั่นแกล้งขยะอย่างถังเลี่ยนรึ?”
พอเย่อู๋เทียนได้ยินคำนี้ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
ทำให้คนรู้สึกสบายๆถึงขีดสุด
ต่อให้ตอนนี้อิ่นโม่โฉวกำลังโดนเย่ฉิงชางดูดซับพลังยุทธ์อยู่ ก็เหมือนจะไม่ได้ถูกเขาเก็บมาใส่ใจเหมือนกัน
เสิ่นรั่วชิงที่ยืนข้างเย่อู๋เทียนพลันบอกออกมา
“ไปช่วยโม่โฉว ถ้าคุณไม่ไป ฉันไป!”
เย่อู๋เทียนกลับยิ้มบางบอก
“ใจเย็นๆก่อน!”
หานตี้ซือที่ยืนอยู่ข้างเย่อู๋เทียน สีหน้าเคร่งเครียดถึงขีดสุด เขายื่นกระบี่สยบชั่วไปหาเย่อู๋เทียนอีกครั้ง พลางพูดเสียงต่ำ
“เทียนเอ๋อร์ ในมือเธอไม่มีอาวุธ กระบี่นี้ต่อไปเป็นของเธอละ ไปช่วยลูกศิษย์ของเธอซะ!”
“ครอบครัวเราไม่มีหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ปกป้องคนในบ้าน!”
เย่อู๋เทียนมองหานตี้ซือแวบหนึ่งพลางหัวเราะ
“เย่ฉิงชางเก่งกาจขนาดนี้ คุณไม่กลัวว่า ผมไปแล้วจะกลับมาไม่ได้หรือไง?”
สีหน้าหานตี้ซือเคร่งเครียดทันที
“ถ้าเธอไม่ไป ฉันไปเอง แม่งเอ๊ย แก่แล้วแก่แล้ว ยังต้องไปดูแลศิษย์หลานอีกแหน่ะ!”
เสิ่นรั่วชิงก็บอก
“ฉัน…ฉันไปกับคุณด้วย”
เย่อู๋เทียนเหล่เสิ่นรั่วชิง พูดอย่างหน่ายใจว่า
“อย่าเหลวไหลไปด้วย!”
เสิ่นรั่วชิงอึ้ง พูดด้วยสีหน้าแดงเรื่อ
“ลูกศิษย์คุณจะแห้งจนเป็นปลาแดดเดียวแล้วนะ!”
เย่อู๋เทียนผ่อนลมหายใจอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเบนสายตากลับไปที่อิ่นโม่โฉวอีกครั้ง
พลางพูดว่า
“ลมปราณเริ่มจากชิวซวี ไหลไปเซินหวี รวมตัวที่กาวฮวงหมุนเวียนไปที่เฟิงฝู่ เดินวนเริ่นม่ายอีกรอบ นิ้วนางมือว้ายต้องอ่อนแรง กระดูกทั้ง24ต้องควบแน่น นี่เป็นชั้นที่เก้าของวิชาจิตมังกรเหลือง เก้ามังกรผนวกร่าง!”
พอคำพูดนี้ออกมา
แต่ละคำพุ่งเข้าหูอิ่นโม่โฉว
เหมือนฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายพอดี
อิ่นโม่โฉวรีบทำตามคำพูดของเย่อู๋เทียนเมื่อครู่ ลมปราณเริ่มจากชิวซวี ไหลไปเซินหวี รวมตัวที่กาวฮวงหมุนเวียนไปที่เฟิงฝู่……
แค่เวลาช่วงหายใจสามครั้ง
ลมปราณบนตัวอิ่นโม่โฉวเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
ประหนึ่งเทพสงครามหญิงที่เป็นหนึ่งในใต้หล้า!
ผมยาวสยาย ยกมือขึ้นพุ่งคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเย่ฉิงชางอย่างรวดเร็วรุนแรง
จากนั้นออร่าทั่วตัวเย่ฉิงชางพลันรุนแรงขึ้นมาทันที ประหนึ่งมังกรเหลืองแปดตัวพร้อมกันพุ่งลงหลุมโคลน
เย่ฉิงชางที่พึ่งรู้สึกตัว พลันสีหน้าเปลี่ยนทันที
แต่กลับเห็นเย่อู๋เทียนที่ยืนอยู่บนเวทีเวลานี้ เขายืนเอามือไพล่หลัง สีหน้าอ่อนโยน ท่าทางไม่สะทกสะท้านอะไร…
ปรมาจารย์แห่งยุค!