จอมนักรบอหังการ - บทที่ 307 ประหนึ่งจักรพรรดิเสด็จ!1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 307 ประหนึ่งจักรพรรดิเสด็จ!1
ลนลานแล้ว!
เย่ฉิงชางลนลานแล้ว!
เพราะหลังจากที่อิ่นโม่โฉวกุมข้อมือเขา เขากลับรู้สึกว่าลมปราณในร่างตนที่เหมือนมังกรเหลือง…
กำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว!
ไม่!
ไม่ใช่สลาย!
แต่กำลังพุ่งไปที่จุดไน่กวน จุดจิงชวี จุดหลิงเต้าซึ่งเป็นจุดชีพจรสำคัญสามจุดตรงข้อมือตนอย่างบ้าคลั่ง!
ในตอนนี้เอง เย่ฉิงชางที่เดิมประหนึ่งมังกรแปดตัวประทับร่าง ออร่าทั่วร่างกลับสลายไปอย่างรวดเร็ว
ประหนึ่งหิ่งห้อยท่ามกลางสายลม!
เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตอนนี้นอกจากเย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีแล้ว ทุกคนต่างเบิกตากว้าง
มองไปยังอิ่นโม่โฉวกับเย่ฉิงชางสองคนที่อยู่ด้านล่างเวทีอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ฝ่ายแรกออร่าแข็งกล้า!
ฝ่ายหลังออร่าหม่นหมอง!
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“หรือว่าการที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะเกี่ยวข้องกับคำพูดนั้นที่เย่อู๋เทียนพูดออกมาเมื่อกี้?”
“เมื่อกี้เย่อู๋เทียนกำลังชี้แนะอิ่นโม่โฉวหรอ?”
คนมากมายในที่นั้นเกิดความคิดพิเรนทร์อย่างนี้ออกมาแทบจะพร้อมกัน
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ…
ไม่!
เป็นไปได้ยังไง!?
อาศัยแค่คำพูดเดียวนี้ ก็ทำให้สถานการณ์ที่เดิมเพลี่ยงพล้ำไปทางหนึ่งแล้ว พลันพลิกกระดานได้เลย?
แต่กลับเห็นหานตี้ซือในตอนนี้
สายตาไม่ได้มองที่อิ่นโม่โฉวกับเย่ฉิงชางมากนัก แต่กลับมองเย่อู๋เทียน
บนใบหน้าแก่ชราของหานตี้ซือเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
หรือว่า…
เย่อู๋เทียนยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ท่าทางไม่สนใจว่าอิ่นโม่โฉวจะเป็นหรือตาย!
ตอนนี้ดูแล้ว เขา…
มั่นใจนานแล้ว!
ในตอนนี้เอง เย่อู๋เทียนยื่นมือออกไปรับกระบี่สยบชั่วเล่มนั้นในมือหานตี้ซือ พลางพูดเสียงเบาหวิวว่า
“เมื่อกี้คุณพูดเองนะ กระบี่เล่มนี้ยกให้ผมแล้วนะ”
หานตี้ซือหน้ากระตุก
ดวงตากลมโตคู่หนึ่งเบิกกว้างราวกับระฆัง
จ้องไปที่เย่อู๋เทียน
โกรธจนตัวสั่นเทา
“เธอ…”
“เธอ…”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย
“ผมทำไม? คุณพูดไม่เป็นคำพูดหรือไง!”
หานตี้ซือโกรธอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้
“ข้าอ่อนแอมาก ถ้าข้าไม่มีกระบี่นี่ป้องกันตัวเอง ใครจะฆ่าข้าก็ได้นี่นา เจ้า…ช่างอกตัญญูจริงๆ!””
เย่อู๋เทียนยักไหล่
“ไปฝึกตามคำพูดที่ผมพึ่งชี้แนะอิ่นโม่โฉวไป ไม่ถึงสามเดือน คุณก็จะสามารถมีฝีมือที่เหนือกว่าเย่ฉิงชางสามเท่าได้!”
หานตี้ซือได้ยินคำนี้ เขาแทบกลั้นหายใจตาย
“ความหมายของเธอคือ ตอนนี้เธอกำลังสอนฉันหรือ? เธอกลายเป็นอาจารย์ แล้วฉันกลายเป็นลูกศิษย์หรอ?”
เย่อู๋เทียนหัวเราะ
“ไม่หรอก อย่าคิดอย่างนั้นสิ”
หานตี้ซือแค่นเสียงหนัก ยื่นมือจะไปแย่งกระบี่
เย่อู๋เทียนเบี่ยงตัวหลบ ยื่นกระบี่สยบชั่วในมือให้เสิ่นรั่วชิง พลางพูดอย่างน้อยคำเรียบง่ายว่า
“ผมไม่ชอบใช้กระบี่ คุณใช้แล้วกัน”
เสิ่นรั่วชิงรับกระบี่สยบชั่วมา สายตาที่มองเย่อู๋เทียนดูประหลาดใจมาก
เย่อู๋เทียนถามอย่างสงสัยว่า
“ทำไมหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงอึ้งเล็กน้อย ก่อนส่ายหัวตอบ
“ไม่มีอะไร”
เย่อู๋เทียนยิ้มถามอย่างทะเล้น
“เมื่อครู่ท่าทีผมตอนชี้แนะอิ่นโม่โฉว หล่อไหม?”
เสิ่นรั่วชิงหน้าแดงเรื่อด้วยความอายทันที
นี่มันที่ไหน?
มาหยอกเย้ากันแบบนี้!
หานตี้ซือคิดจะแย่งกระบี่มาจากมือเสิ่นรั่วชิง
“ชิงเอ๋อร์ เธอไม่เป็นวรยุทธ์ กระบี่นี่แหลมคมเกินไป ไม่เหมาะกับเธอหรอก”
เสิ่นรั่วชิงเบี่ยงตัวหลบ
“สามีฉันให้ฉันนะ”
หานตี้ซือโกรธแทบเป็นลมไป
คนพวกนั้นที่รายล้อมรอบเวทีเห็นภาพนี้เข้า ก็แทบเป็นลมไปตามๆกันเหมือนกัน
นี่มันที่ไหนหะ?
คิดว่าเป็นห้องนั่งเล่นบ้านพวกเธอหรือไง?
เพื่อนเล่นหรอ?
แต่กลับเห็นหลงรั่วหานที่ยืนอยู่ข้างพวกเย่อู๋เทียน
สายตาที่เธอมองเย่อู๋เทียน ใช้คำว่าตกตะลึงมาบรรยายไม่พอแล้ว
เธอบ่นพึมพำคำพูดนั้นที่เย่อู๋เทียนชี้แนะอิ่นโม่โฉวเมื่อกี้ พร้อมกับเดินลมปราณในตัว ลมปราณเริ่มจากชิวซวี…
สุดท้ายหลงรั่วหานตกใจมากที่พบว่า
ลมปราณในร่างตน เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งราวกับมังกรเหลืองที่บ้าคลั่ง
วิชาจิตมังกรเหลือง ชั้นที่เก้า เก้ามังกรผนวกร่าง ง่ายดายอย่างนี้เลย?
เย่อู๋เทียนถึงหันมองหลงรั่วหาน
พลางบอกยิ้มๆว่า
“วิชาจิตมังกรเหลืองที่คุณรู้จัก แบ่งเป็นเก้าชั้นใช่ไหม และเก้าชั้นนี้ก็เป็นระดับที่ว่า?”
หลงรั่วหานย้อนถามกลับอย่างไม่รู้ตัวว่า
“ไม่อย่างนั้นแล้วยังไงล่ะ?”
เย่อู๋เทียนพูดแค่สองคำว่า
“วิธีฝึก”
หลงรั่วหานเบิกตากว้างถาม
“ไม่ใช่ระดับ แต่เป็นวิธีฝึก?”
เย่อู๋เทียนพยักหน้าบอก
“ใช่”
หลงรั่วหานสูดลมหายใจสะท้านเยือก จากนั้นเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ รีบถามต่อ
“มีแต่คนที่ใช้พลังตันหลอมร่างกายถึงจะฝึกวิชานี้ได้ใช่ไหม?”
เย่อู๋เทียนส่ายหน้าบอก
“ไม่ใช่”
หลงรั่วหานถามอีก
“งั้น…งั้นเพราะอะไรล่ะ?”
เย่อู๋เทียนบอกยิ้มๆ
“คุณไม่ใช่ลูกศิษย์ผมสักหน่อย ทำไมต้องสอนคุณล่ะ?”
หลงรั่วหานคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที ริมฝีปากแดงขยับบอก
“ขออาจารย์….”
แต่ไม่ทันรอหลงรั่วหานพูดจบ เย่อู๋เทียนตัดบทด้วยใบหน้ายิ้มละไมว่า
“กลับไปให้อิ่นโม่โฉวสอนคุณแล้วกัน คุณไม่คู่ควรเป็นลูกศิษย์ผม”
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่า พอหลงรั่วหานได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกอย่างไร
ตน เทพธิดาแห่งพันธมิตรมังกร!
ไม่คู่ควรเป็นลูกศิษย์ของเย่อู๋เทียน?
เหล่าผู้แข็งแกร่งในยุทธจักรที่มาจากทั่วทุกมุมโบกรอบๆเวที ไม่มีใครเลยที่ไม่ตกตะลึงถึงขีดสุด
แต่ละคนเบิกตาถลนแทบหลุดออกมานอกเบ้าแล้ว
เทพธิดาแห่งพันธมิตรมังกร…
หลงรั่วหาน!
คุกเข่าลงกับพื้น เพราะอยากคารวะเย่อู๋เทียนเป็นอาจารย์!
ไม่คู่ควร?
เจอคนโอหังมามาก ไม่เคยเจอที่โอหังขนาดนี้!
โดยเฉพาะเย่เฉียนหลงที่ยืนอยู่บนเวทีไม่ห่างจากเย่อู๋เทียนมากนัก
ใบหน้าเขาสั่นระริก
ไม่คิดเลยว่า
เย่อู๋เทียนจะรู้จักวิชาจิตมังกรเหลืองซึ่งเป็นวิชาที่ไม่ถ่ายทอดให้คนนอกของตระกูลหลงดีขนาดนี้!
แถมแค่พูดน้อยคำเรียบง่ายอย่างนั้น ยังบรรลุระดับสูงที่สุดของวิชาจิตมังกรเหลืองอีก ไม่สิ ชั้นบางๆของวิธีฝึกที่สูงที่สุด!
ส่วนฐานะเทพธิดาแห่งพันธมิตรมังกรอย่างหลงรั่วหาน กลับอยากคารวะเย่อู๋เทียนเป็นอาจารย์….
ไม่คู่ควร?
ถ้าอนาคตของตระกูลเย่แห่งพันธมิตรมังกร มีคนอย่างเย่อู๋เทียนมานำพา เช่นนั้น…
ตระกูลเย่….
จะเป็นยังไงนะ?
พอคิดถึงตรงนี้ ต่อให้เย่เฉียนหลงรู้ว่า เย่อู๋เทียนต้องไม่สนใจจะนำตระกูลเย่แน่ แต่ในใจยังคงเลื่อมใสอย่างถึงที่สุด!
แต่พอมองไปที่เย่หวงเยด้านล่างเวที
เธอกลับไม่ได้มองเย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีเลย
แต่กลับมองอิ่นโม่โฉวและเย่ฉิงชางอย่างตกตะลึง
รู้แพ้รู้ชนะแล้ว!