จอมนักรบอหังการ - บทที่ 329 เย่อู๋เทียน ก้าวเดียวข้ามผ่านห้าแดน!1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 329 เย่อู๋เทียน ก้าวเดียวข้ามผ่านห้าแดน!1
ดาบสีทองเล่มนั้น ถึงแม้ว่าจะอยู่บนศาลาเนินสูง
คมดาบนั้น ลำแสงสีทองราวกับพลังดาบ กลับไม่สะท้อนออก
เสียงดาบราวกับเสียงมังกรร้องกระจายไปทุกทิศทุกทาง
สายตาของผู้คนในงานโอสถและการฝังเข็ม ล้วนมองมาที่นี่ทั้งหมด
นำทีมโดยเย่ฉิงชาง
ตระกูลหลิง ตระกูลเย่ ผู้กล้าในประเทศหลง รวมถึงผู้นำกองกำลังต่างๆในโลก
ตอนนี้ ทุกคนตื่นตระหนก
พวกเขารู้แล้ว
เจ้าของดาบสีทองที่ยืนอยู่ด้านบนศาลาเนินสูงคือใคร!
จางจิงหลวน!
ดาบยาวสีทอง
มีชื่อว่าเทพมังกร!
มันคืออาวุธวิเศษของจางจิงหลวน!
เมื่อดาบนี้มาถึง
นั่นหมายความว่า จางจิงหลวนปรากฏตัวแล้ว!
ขอเพียงที่ใดที่จางจิงหลวนปรากฏตัวขึ้น!
ทุกคนที่อยากได้แผ่นหินสมบัติในมือของหานตี้ซือ จะต้องถูกฝังไว้ที่นี่ทั้งหมด!
นอกจากเย่ฉิงชางและคนอื่นๆ
แผ่นหินสมบัติที่อยู่ในมือของหานตี้ซือ รวมถึงเย่เฉียนหลงและคนอื่นๆที่ยืนอยู่ด้านหลังของหานตี้ซือ
วินาทีนี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
พวกเขาไม่คิดว่า
วันนี้ ทุกคนจะต้องถูกฝังไว้ที่นี่
เพราะ ตอนนี้พวกเขากำลังปกป้องแผ่นหินสมบัติ ความจริงแล้ว พวกเขาทำทั้งหมดเพื่อเย่อู๋เทียน
เย่อู๋เทียน พึ่งเข้าไปท้าทายอำนาจของจางจิงหลวน
และไม่นานหลังจากที่เย่อู๋เทียนที่ออกไปไม่นาน ใต้ดินที่ยืนอยู่ราวกับถูกแผ่นดินไหว!
เห็นได้ชัดว่า……
เย่อู๋เทียน อาจจะถูกจางจิงหลวนกำจัดทิ้งไปแล้ว!
ภายใต้ข้อสันนิษฐานดังกล่าว หานตี้ซือและคนอื่นๆ จะไม่เกิดความสิ้นหวังได้อย่างไร?
เมื่อมองจางฮว่าเสวียน จางฮว่าเจินทั้งสองพี่น้อง
รวมถึงอิ่นอูหยวนและนักบู๊ชุดดำที่ถูกเย่อู๋เทียนกำจัดด้วยมือตัวเอง
ตอนนี้ทุกคน คุกเข่าอยู่ทั้งสองทางเดินของศาลาเนินสูง
เห็นได้ชัด พวกเขามอบการเคารพนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับจางจิงหลวน!
ใบหน้าของจางฮว่าเสวียน ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ เขาที่คุกเข่าอยู่ข้างล่าง เหลือบมองแผ่นหินสมบัติที่อยู่ในมือของหานตี้ซือ แล้วเริ่มหัวเราะ
“ตาแก่ เมื่อกี้ฉันบอกแล้ว ส่งแผ่นหินสมบัตินี่มาซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก!”
“ทำไมแกถึงไม่ฟังห้ะ!”
“ตอนนี้ ในที่สุดคุณหนูใหญ่ของเราก็ปรากฏตัวแล้ว ฉันคิดว่าถึงแกจะคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนยังไง มันก็สายไปแล้วล่ะ!”
เมื่อหานตี้ซือได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ซีดเผือดราวกับกระดาษ
จางฮว่าเสวียนเหลือบมองเย่ฉิงชางอีกครั้ง แล้วหัวเราะ
“แกก็ด้วย กล้าเป็นศัตรูกับตระกูลจางเผ่าโบราณของเรา ฉันจะคอยดูว่า แกไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนยังไงจริงไหม!”
เมื่อเย่ฉิงชางได้ยินคำนี้ เขาก็หรี่ตาทั้งสองข้างลงทันที
สีหน้า หม่นหมองลงมาก
ความจริงเขาคิดไม่ถึง
เย่อู๋เทียน เมื่ออยู่ต่อหน้าของจางจิงหลวน จะพ่ายแพ้ราบคาบเช่นนี้!
เดิมเขาคิดว่า เย่อู๋เทียนสามารถยับยั้งจางจิงหลวนได้ครู่หนึ่ง
หลังจากนั้น เขาจะใช้จังหวะนี้ แย่งแผ่นหินสมบัติมาไว้ในมือ แล้วหนีไปให้ไกล!
ค้นหาสถานที่ และมุ่งมั่นศึกษาเส้นทางลับบนแผ่นหินสมบัติต่อไป……
แล้วค่อยมุ่งหน้าไปยังส่วนหลังภูเขาเอ๋อเหมย!
นำแผ่นหินสมบัติ……
กลับคืนสู่เจ้าของ!
แต่ตอนนี้ดูท่า……
แผนการทุกอย่างของเขา จะพังทลายไปหมดแล้ว!
ต่อไปเขาควรทำอย่างไรดี?
ถ้าเขามอบกองกำลังทั้งหมดรวบรวม ส่งให้จางจิงหลวน
เธอ จะมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่?
แต่เมื่อเย่ฉิงชางคิดเช่นนี้ เงารูปร่างเพรียวร่างหนึ่ง ก็ค่อยๆเดินมาทางเดินหินระหว่างด้านหลังของศาลาเนินสูง
ทุกคนมอง
ทุกคนตกใจสุดขีด
เพราะร่างเพรียวนั้นไม่ใช่สตรีที่อยู่ในใจของทุกคนในที่อยู่ในงาน
แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง!
เย่อู๋เทียน!
ในขณะนี้ ทุกคนในงาน ต่างพากันเบิกตากว้าง โดยไม่มีข้อยกเว้น!
เย่อู๋เทียน?
เป็นเย่อู๋เทียนได้อย่างไร?
ควรเป็นจางจิงหลวนไม่ใช่หรอ?
โดยเฉพาะจางฮว่าเสวียน จางฮว่าเจินสองพี่น้อง
หลังจากที่เห็นชัดว่าเป็นเย่อู๋เทียน ใบหน้าของทั้งสองพี่น้อง เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ไม่อยากจะเชื่อ
เย่อู๋เทียน ยังคงสามารถเดินออกมาจากทางเดินหินนั่นได้
อีกทั้งท่าทางของเขา
เห็นได้ชัดว่า……
ไม่มีร่องรอยบาดเจ้บ็!
เป็นไปได้ยังไง?
ในเวลานี้เอง กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังของเย่อู๋เทียน ค่อยๆปรากฏตัวขึ้น
คนที่เดินอยู่ด้านหลังคนแรกของเย่อู๋เทียน
เสิ่นรั่วชิง!
ถัดไปด้านหลัง
เห้อเหลียนหวันจี และเทียนหลงเอ๋อร์
นอกจากนั้น ยังมีผู้หญิงสวมชุดคลุมสีเหลืองทอง บนหัวสวมมงกุฎสีม่วงทอง เดินอยู่ด้านหลังสุด
จางจิงหลวน!
ทุกคนที่อยู่ในงานที่เห็นฉากนี้ ราวกับลืมหายใจไปเลย
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
“เย่อู๋เทียน แก……”
จางฮว่าเสวียนโพล่งออกไป แต่พูดไม่จบประโยค
ร่างกายของจางฮว่าเสวียน ก็กระโดดปลิวออกไป หลังจากเท้าแตะพื้น ในปากก็มีของเหลวสีแดงพุ่งออกมา
คนที่ทำให้จางฮว่าเสวียนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ไม่ใช่จางจิงหลวนจะเป็นใครได้อีก?
ทุกคนเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างชัดเจน
จางจิงหลวน สะบัดแขนเสื้อกลางอากาศให้กับจางฮว่าเสวียน!
จางฮว่าเสวียนที่เดิมคุกเข่าอยู่ที่พื้น เข่าทั้งสองยกขึ้นจากพื้น แล้วปลิวกระเด็นออกไป!
ไม่รอให้ผู้คนได้รู้สึกตัว
จางจิงหลวนก็พูดกับจางฮว่าเสวียนที่ตกลงกับพื้นหนึ่งคำ
“ชื่อของเจ้านายฉันเป็นชื่อต้องห้าม แกที่เป็นทาสหมารับใช้คนหนึ่งมีสิทธิ์เรียกอย่างงั้นหรอ?”
ปึ้ง!
เมื่อสิ้นเสียง ทั่วทั้งก็แตกฮือ!
เจ้านาย?
เจ้านาย?
ตระกูลจางเผ่าโบราณ จางจิงหลวน เรียกเย่อู๋เทียนว่าเจ้านาย?
มีมันอะไรกัน?
ในเวลานี้เอง เย่อู๋เทียน ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงกลางของศาลาเนินสูง
พูดให้ถูกต้องคือ ยืนอยู่ตรงหน้าของหานตี้ซือ
หานตี้ซือเห็นเย่อู๋เทียน แล้วก็มองไปยังจางจิงหลวนที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด อย่างพูดอะไรไม่ออก
เย่อู๋เทียนยื่นมือไปหยิบแผ่นหินสมบัติจากมือของหานตี้ซือมา
แล้วมองสำรวจดูแผ่นหินสมบัติอย่างละเอียด
หลังจากนั้น……
ค่อยๆพูดกับหานตี้ซือว่า
“ก่อนหน้านี้ ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ให้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เรื่องอื่นๆ รอผมมาก็พอ”
หานตี้ซืออ้าปากพะงาบๆ แล้วหยุดพูดไป
แต่เมื่อเย่เฉียนหลง เย่หวงเย และหลงรั่วหานทั้งสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของหานตี้ซือ
ตอนนี้พวกเขา ทำสีหน้าป้าปากตาค้างพูดอะไรไม่ออก
ด้วยความงงงวย
เรื่องนี้ ทำไมถึงกลับตาลปัตรเช่นนี้