จอมนักรบอหังการ - บทที่ 347 ถลกหนังเย่อู๋เทียน1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 347 ถลกหนังเย่อู๋เทียน1
หลังจากเย่อู๋เทียนกล่าวจบ
หลิวหลินเฟยทำความเคารพอีกครั้ง
“ผู้ใต้บังคับบัญชาน้อมรับคำสั่ง!”
หลังจากกล่าวจบ หลิวหลินเฟยก็สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง เคลียร์สถานที่เร็วที่สุด
ส่วนตัวเขาไปที่ร้านขายผลไม้ใกล้ ๆ เพื่อซื้อกระเช้าผลไม้ให้เย่อู๋เทียน
เมื่อหลี่จื่อฉีเห็นภาพนี้
ตกตะลึงจนสมองว่างเปล่า
จนกระทั่งเสิ่นรั่วชิงพยุงเธอลุกขึ้นมา เธอถึงได้สติกลับมา
แต่ในระยะเวลาสั้นๆ เธอยังคงไม่สามารถยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อสักครู่ได้
เพราะการกระทำทุกอย่างของเย่อู๋เทียนเมื่อสักครู่
ทำให้คนอยากที่จะเชื่อ
โจวเซิง
แค่พูดจาดูหมิ่นเสิ่นรั่วชิงเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
ก็กลายเป็นคนพิการ?
ส่วนเฟ่ย์ล่าง
ตอนที่โจวเซิงพูดจาดูหมิ่นเสิ่นรั่วชิง เขาแค่พูดคำว่า “รวมเขาอีกคน” เท่านั้น!
ก็ถูกฆ่าตาย?
ตอนแรกหลี่จื่อฉีคิดว่า
หลังจากหน่วยสืบราชการลับมาแล้ว เย่อู๋เทียนยากที่จะหลบหนีได้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า……
หลิวหลินเฟย ที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับตี้ตู…
ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเย่อู๋เทียน?
เย่อู๋เทียน……
มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่?
จนกระทั่งหลิวหลินเฟยซื้อกระเช้าผลไม้กลับมา อารมณ์ของหลี่จื่อฉีก็ยังไม่สามารถสงบได้
ไม่อยากจะเชื่อว่า
เย่อู๋เทียน จะสามารถสั่งคนใหญ่คนโตอย่างหลิวหลินเฟยไปซื้อกระเช้าผลไม้ได้!
หลังจากหลิวหลินเฟยมอบกระเช้าผลไม้ให้เฉียนเป่ยเฉินแล้ว เย่อู๋เทียนเหลือบมองหลิวหลินเฟยด้วยสีหน้าราบเรียบ และถามว่า
“คุณรู้จักนิกายเทียนอิงมากแค่ไหน?”
หลิวหลินเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทำสัญญาลักษณ์มือเป็นการเชิญ
“เข้าไปคุยกันในรถกันเถอะ เรื่องนี้สำคัญมาก”
เย่อู๋เทียนเดินออกจากร้าน แล้วขึ้นรถฮัมเมอร์หุ้มเกราะคันหนึ่ง
สีหน้าของหลิวหลินเฟยที่ขึ้นรถตามหลังเคร่งขรึมมาก และกล่าวอย่างช้า ๆ
“เมื่อต้นเดือนนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับข่าวว่า มีทารกแรกเกิดสี่สิบเก้าคนหายไปจากโรงพยาบาลกลางตี้ตูในชั่วเวลาข้ามคืน และโจวเซิงเป็นผู้รับผิดตรวจสอบเรื่องนี้”
“หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบราชการลับตี้ตูแกะรอยตามเบาะแส พบว่ามันเกี่ยวข้องกับสมาคมเทียนอิง เพียงแต่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หลังจากสืบไปถึงสมาคมเทียนอิงแล้ว เบาะแสก็ถูกตัดขาด”
“หลังจากนั้น เรื่องนี้ทำให้ฝ่าบาทผู้สูงส่งรู้สึกตื่นตระหนก หลังจากนั้นฝ่าบาทผู้สูงก็สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชามาที่ตี้ตู และสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด!”
เย่อู๋เทียนหลับตาและเงียบครู่หนึ่ง
กล่าวอย่างช้า ๆ
“หน่วยสืบราชการลับตี้ตู มีเส้นสาย”
หลิวหลินเฟยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขานึกไม่ถึงว่าเย่อู๋เทียนจะสามารถพูดตรงประเด็นได้ขนาดนี้ และพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“มีเส้นสายจริง ๆ”
เย่อู๋เทียนถาม
“ใคร?”
หลิวหลินเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“คนแรกที่น่าสงสัยคือเฟ่ย์กงเต๋อ เพราะมีชื่อของเขาอยู่ในรายชื่อสมาชิกของสมาคมเทียนอิง แล้วยังมีชื่อของเฟ่ย์ล่าง ลูกชายของเขาอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือเฟ่ย์กงเต๋อเป็นลูกศิษย์คนโปรดของถังเจิ้งเฟิง!”
หลังจากเย่อู๋เทียนได้ยินแล้ว เขาลืมตาขึ้นและยิ้มด้วยความเย็นชา
“ดูเหมือนว่าการตายของเฟ่ย์ล่าง จะไม่ใช่การฆ่าที่ผิดพลาด!”
“เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณไปแจ้งเฟ่ย์กงเต๋อว่า เฟ่ย์ล่างตายเพราะน้ำมือของผม”
“ผมจะคอยดูว่า…….การตายของเฟ่ย์ล่าง จะสามารถทำให้พวกคนเลวที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดของตี้ตู ปรากฏตัวออกมาได้หรือไม่!”
หลังจากหลิวหลินเฟยฟังจบแล้ว ดวงตาเป็นประกาย
“ผู้ใต้บังคับบัญชานึกไม่ถึงว่าชิงตี้จะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตนเอง”
เย่อู๋เทียนเหลือบมองหลิวหลินเฟย แล้วหัวเราะ
“ช่วยลดปัญหาให้คุณได้ไม่น้อยใช่ไหม?”
หลิวหลินเฟยยิ้มด้วยความขมขื่น
“ผู้ใต้บังคับบัญชา มิกล้าคิดเช่นนั้น!”
เย่อู๋เทียนยิ้มบาง ๆ
“บอกโล่ซวนหยวนว่าผมมาตี้ตูแล้ว ตอนกลางคืนให้เขาห่อเกี๊ยวให้ผมกินด้วย”
หลังจากกล่าวจบ ไม่รอให้หลิวหลินเฟยมีปฏิกิริยาใด ๆ
เย่อู๋เทียนลงจากรถ และเดินจากไปแล้ว
……
และขณะเดียวกัน
กลางป่าไผ่แห่งหนึ่ง ที่ถนนวงแหวนรอบนอกของตี้ตู
ในศาลาไม้ไผ่แห่งหนึ่ง
ชายชราคนหนึ่ง นอนหลับตาพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้
มีหญิงสาวคนหนึ่งคุกเข่านวดขาให้ชายชราอยู่ด้านข้าง
ชายชราคนนี้คือเฟ่ย์กงเต๋อ พ่อของเฟ่ย์ล่าง
ขณะนี้ บนโต๊ะที่อยู่ข้างเฟ่ย์กงเต๋อ นอกจากมีชุดน้ำชาวางอยู่ ยังมีโทรศัพท์มือถือ และจู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เฟ่ย์กงเต๋อไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
หญิงสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ยืดตัวขึ้นแล้วกดรับสาย จากนั้นนำโทรศัพท์ไปไว้ข้างหูเฟ่ย์กงเต๋อ
เสียงผู้ชายดังมาจากปลายสาย
“เฟ่ย์กงเต๋อ ลูกชายของคุณตายแล้ว เย่อู๋เทียนเป็นคนฆ่าเขา”
เฟ่ย์กงเต๋อเบิกตากว้างทันที คำรามเหมือนมังกรชราที่โกรธเกรี้ยว
“อะไรน่ะ?”
เสียงราวกับเสียงฟ้าผ่า
ทำให้นกที่อยู่รอบ ๆ ป่าไผ่ ตกใจจนบินหนีไป
ส่วนสีหน้าของหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ยังคงปกติเหมือนเดิม
ราวกับว่าโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไร ที่สามารถทำให้หญิงสาวคนนี้รู้สึกประหลาดใจได้
ตอนนี้ คนที่ปลายสายกล่าวย้ำประโยคเมื่อสักครู่อีกครั้ง
“ลูกชายของคุณตายแล้ว เย่อู๋เทียนเป็นคนฆ่าเขา”
คนที่พูดคือหลิวหลินเฟย!
เพียงแต่เฟ่ย์กงเต๋อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือหลิวหลินเฟย
“คุณเป็นใคร?”
เฟ่ย์กงเต๋อถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หลิวหลินเฟยตอบกลับ
“ผมเป็นใครมันไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือคืนนี้เย่อู๋เทียนจะไปที่สมาคมเทียนอิง!”
หลังจากกล่าวจบ หลิวหลินเฟยก็วางสาย
หลังจากได้ยินเสียงวางสาย เฟ่ย์กงเต๋อก็ลุกขึ้นทันที
สีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นสักพัก เขาก็โทรไปที่หมายเลขหนึ่ง
หลังจากอีกฝ่ายรับสาย
เขากล่าวว่า
“ช่วยผมฆ่าคนคนหนึ่ง”
เสียงของผู้ชายคนนั้นดังมาจากปลายสาย
“ใคร?”
เฟ่ย์กงเต๋อกล่าวด้วยความเย็นชา
“เย่อู๋เทียน คืนนี้เขาจะไปที่สมาคมเทียนอิง!”
หลังจากผู้ชายที่อยู่ปลายสายได้ยินแล้ว เขาเงียบสักพัก แล้วตอบว่า
“ตกลง”
เฟ่ย์กงเต๋อหยุดชั่วครู่ แล้วกล่าวว่า
“เมื่อถึงเวลาแล้ว ผมจะไปด้วย ผมจะต้องเห็นด้วยตาตนเองว่าเย่อู๋เทียนถูกถลกหนัง ผมจะต้องเห็นด้วยตาตนเองว่าเขาตายแล้ว!”
ผู้ชายที่ปลายสายตอบ
“ตกลง”
หลังจากนั้น เฟ่ย์กงเต๋อก็วางสาย
……
ขณะเดียวกัน
ณ.เขตเมืองโบราณของตี้ตู ในห้องนอนของเรือนสี่ประสานหลังหนึ่ง
ก่อนหน้านั้นตอนอยู่ที่เจียงหนาน หานเฟิ่งเฉาถูกเสิ่นรั่วชิงตบหน้าจนลูกตาถลนออกมาจากเบ้า กำลังนอนอยู่บนเตียง
ตอนนี้สำหรับหานเฟิ่งเฉาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นรั่วชิงหรือเย่อู๋เทียน ล้วนน่าสะพรึงกลัวมาก!
ตอนนี้แค่นึกถึงหน้าตาของสองคนนี้…….
หานเฟิ่งเฉาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว!
และขณะนี้เอง หานเฟิ่งแตวน้องชายของหานเฟิ่งเฉา วิ่งเข้ามาในห้องนอน
หานเฟิ่งแตวถือโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ
เขาเป็นผู้ชายที่รับสายของเฟ่ย์กงเต๋อเมื่อสักครู่
ขณะนี้ สีหน้าของหานเฟิ่งแตวเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก วิ่งมาที่เตียงและกล่าวกับหานเฟิ่งเฉาว่า
“พี่! เย่อู๋เทียนมาตี้ตูแล้ว!”
หลังจากกล่าวจบ หานเฟิ่งเฉาลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที
สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
“อะไรน่ะ? คุณพูดว่าอะไรนะ?”
หานเฟิ่งแตวอธิบายด้วยน้ำเสียงสั่น
“เย่อู๋เทียนมาตี้ตูแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีความขัดแย้งกับเฟ่ย์กงเต๋อ เมื่อสักครู่เฟ่ย์กงเต๋อโทรมาหาผม ขอให้ผมไปฆ่าเย่อู๋เทียนที่สมาคมเทียนอิง เพราะคืนนี้เย่อู๋เทียนจะไปที่สมาคมเทียนอิง!”