จอมนักรบอหังการ - บทที่ 368 ราวกับเทพเจ้ามองดูมด 1
จอมนักรบอหังการ บทที่ 368 ราวกับเทพเจ้ามองดูมด 1
เมื่อซูชิงหลวนได้ยินเช่นนั้น ทำให้จิตใจของเธอสงบลง
อย่างไรก็ตาม ซูชิงหลวนไม่สามารถทนกับความทรมานจากอาการบาดเจ็บสาหัสในร่างกายได้อีกต่อไป
นกหวีดขอความช่วยเหลือค่อย ๆ ตกลงมาจากปากขาวซีดของเธอ ดวงตาของเธอค่อย ๆ ปิดลง
และขณะนี้ เย่อู๋เทียนใช้นิ้วชี้ไปที่ระหว่างคิ้วของเธอ
และกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นอนเถอะ เมื่อตื่นแล้ว ก็จะไม่เจ็บปวดอีก”
หลังจากนั้น ปลายนิ้วของเย่อู๋เทียนเป็นประกาย เขาถ่ายทอดชี่แท้ที่ลึกลับเข้าไปในร่างกายของซูชิงหลวน
และขณะเดียวกัน
มีเชือกป่านเส้นหนึ่งตกลงมาจากด้านบน
เป็นเชือกป่านที่เสิ่นรั่วชิงโยนลงมา
เสิ่นรั่วชิงเรียกอยู่บนปากบ่อ
“ที่รัก?”
เย่อู๋เทียนเงยหน้าขึ้น รวบรวมพลังแล้วส่งเสียงออกไป
“อีกสิบนาที คุณค่อยดึงซูชิงหลวนขึ้นไป ตอนนี้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ผมต้องรักษาเธอก่อน!”
เมื่อเสิ่นรั่วชิงที่อยู่ปากบ่อได้ยิน เธอตอบกลับทันที
“ค่ะ คุณระวังตัวด้วยน่ะ”
สิบนาทีต่อมา เย่อู๋เทียนรักษาอาการบาดเจ็บของซูชิงหลวนเสร็จแล้ว
แต่เย่อู๋เทียนไม่ได้ขึ้นไปทันที
หลังจากพันเชือกป่านรอบข้อมือของซูชิงหลวนแล้ว เขากล่าวกับเสิ่นรั่วชิงที่อยู่ปากบ่อ
“คุณดึงชิงหลวนขึ้นไปก่อน ผมรู้สึกว่าที่ก้นบ่อมีบางอย่างผิดปกติ ผมจะดำน้ำลงไปสำรวจก่อน”
ความจริงแล้ว
เมื่อสักครู่ตอนที่เย่อู๋เทียนกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของซูชิงหลวน
เดิมทีการรักษาอาการบาดเจ็บของซูชิงหลวน ต้องแลกด้วยชี่แท้ในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม เย่อู๋เทียนรู้สึกว่า
ขณะที่เขารักษาซูชิงหลวน ดูเหมือนจะมีปราณจิตจาง ๆ ผุดขึ้นมาจากน้ำ
ปราณจิตนั้น เหมือนพวกปลาเล็ก ๆ ที่สัมผัสถึงเหยื่อที่อยู่บนผิวน้ำ ล้วนพุ่งเข้ามาที่ร่างกายของเย่อู๋เทียน
ถึงแม้ว่าเย่อู๋เทียนจะสูญเสียชี่แท้ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บของซูชิงหลวน
แต่สุดท้าย เย่อู๋เทียนรู้สึกว่าไม่เพียงแค่ชี่แท้ในร่างกายของตนเองไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย!
มันคืออะไรกันแน่?
หรือว่าก้นบ่อจะมีหินแก่นม่วงอยู่จริง ๆ?
เมื่อคิดเช่นนั้น
หลังจากเย่อู๋เทียนส่งซูชิงหลวนขึ้นไปแล้ว เขาก็ดำลงไปในน้ำทันที
ใต้น้ำมืดไร้แสง
เมื่อเย่อู๋เทียนยิ่งดำลึกลงไป ปราณจิตที่ถูกดึงดูดมาอยู่รอบตัว ยิ่งหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
ความรู้สึกนี้ เหมือนเดินตามลำพังในสายหมอก
จากตอนแรกเป็นหมอกบาง ๆ ค่อย ๆ กลายเป็นหมอกหนาปกคลุมไปรอบตัว!
ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกเช่นนี้ หนาแน่นยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ!
เย่อู๋เทียนไม่รู้ว่าตนเองดำลงไปใต้น้ำลึกแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางไปถึงก้นบ่อ!
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าปราณจิตรอบ ๆ ที่คล้ายกับหมอกหนาทึบ เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก
ถึงแม้เย่อู๋เทียนจะใช้พลังแก่นม่วง เพื่อเปิดเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดแล้ว แต่ก็ยากที่จะดูดซับปราณจิตเหล่านี้ได้หมด!
กระทั่งตอนสุดท้าย
เย่อู๋เทียนจำเป็นต้องกระจายเข็มชี่ทั้งหมดที่อยู่ในเส้นลมปราณของตนเอง และดูดซับปราณจิตที่อยู่รอบตัวเขาให้ได้มากที่สุด แต่สุดท้าย…
มีประโยคหนึ่งปรากฏอยู่ในสมอง
ไม่มีวันดูดซับหมด!
เย่อู๋เทียนสำรวจอยู่ในน้ำที่มืดมิด
ขณะที่สำรวจ
ก็ดูดซับปราณจิตที่อยู่รอบ ๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก่อนที่ร่างของเย่อู๋เทียนจะหยุดนิ่งอยู่ในความมืด!
แต่ก็ยังไปไม่ถึงก้นบ่อ!
ตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของเย่อู๋เทียน…..
จะไม่สามารถรับปราณจิตได้อีกต่อไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนั้น
เย่อู๋เทียนทำได้เพียงยอมแพ้
และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เย่อู๋เทียนถึงได้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ
ขณะเดียวกัน
ฝนตกหนักไปทั่วตี้ตู
หลังจากเย่อู๋เทียนขึ้นมาจากบ่อน้ำแล้ว เขายืนอยู่บนพื้น
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านั้น ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผมสีขาวที่ขมับเปลี่ยนเป็นสีดำ
ความสูงของเย่อู๋เทียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ขณะนี้ เสิ่นรั่วชิงกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งหินที่อยู่ข้างโต๊ะหินที่อยู่ในศาลา
เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของเย่อู๋เทียนแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในภวังค์
“ที่รัก คุณ……”
เย่อู๋เทียนถามด้วยความสงสัย
“ทำไมเหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงแทบรอไม่ไหวที่จะเดินไปอยู่ตรงหน้าเย่อู๋เทียน และใช้มือแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความสูงของตนเองกับเย่อู๋เทียน
เมื่อก่อน เสิ่นรั่วชิงสูงถึงตรงจมูกของเย่อู๋เทียน
ตอนนี้ เสิ่นรั่วชิงกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเย่อู๋เทียน หน้าผากของเธออยู่ในระดับเดียวกับคอของเย่อู๋เทียนเท่านั้น
เย่อู๋เทียนถึงได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง
แสดงสีหน้าสงสัย
อดไม่ได้ที่จะหันไปมองบ่อน้ำอีกครั้ง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เสิ่นรั่วชิงมองตามสายตาของเย่อู๋เทียนไปที่บ่อน้ำ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า
“สถานการณ์ที่ก้นบ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่อู๋เทียนส่ายศีรษะ
“ไม่รู้ เพราะผมสำรวจไม่ถึงก้นบ่อ”