จอมนักรบอหังการ - บทที่ 375 ผ้าเช็ดมือในบ้าน ล้วนเป็นไหมทองหนอนฟ้า 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 375 ผ้าเช็ดมือในบ้าน ล้วนเป็นไหมทองหนอนฟ้า! 2
เสิ่นรั่วชิงมองดูหานตี้ซือด้วยความไม่พอใจแวบหนึ่ง และถอนหายใจเบาๆ
“คุณท่าน จริงๆเลย แค่ผ้าไม่กี่ผืน ดูท่าทางรีบร้อนของท่านสิ เดี๋ยวก่อน ฉันรินเหล้าให้สามีของฉันอยู่ ตอนที่เขากินบะหมี่ชินกับการรินเหล้าใส่ชาม แต่ฉันไม่อยากให้เขารินมากขนาดนั้น”
ฉากนี้ สบายๆเหมือนจะไม่รีบร้อนอะไร!
หานตี้ซือระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้ว
ก็เหมือนกับคนรีบร้อน เริ่มค้นตู้ไปทั่วห้องครัว!
เปิดตู้กับข้าวก่อน ข้างในก็เป็นชามและตะเกียบ
ต่อจากนั้น หานตี้ซือก็กระดกก้นเปิดหาตู้กับข้าวตู้เก็บของในห้องครัวอีกตู้
ยังไม่มีอีก
“ไหมทองหนอนฟ้าล่ะ? อยู่ไหน?”
จากนั้น หานตี้ซือได้เปิดตู้เก็บของในครัวที่เก็บหม้อเครื่องใช้แล้ว
วินาทีที่เปิดประตู
หานตี้ซือก็เหมือนกับตกตะลึง และนิ่งอยู่ที่เดิม
ก็เห็นว่า มีผ้าดำหลายผืนอยู่พอดี และแขวนไว้ข้างหม้อไฟเล็ก
นับดูแล้ว ทั้งหมดหกผืน!
หานตี้ซือสัมผัสไปที่หนึ่งในผืนหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างที่สั่นเทา
สภาพของมัน
ก็เหมือนกับคนแก่ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และกลายเป็นตกหลุมรักอีกครั้งในช่วงพ้นวัยกลางคนไปแล้ว เอื้อมมือไปแตะมือเล็กของหญิงสาวคนหนึ่ง
มีความกลัวเล็กน้อย มีความเจียมเนื้อเจียมตัวเล็กน้อย และอยากจะร้องไห้เล็กน้อย
วินาทีนี้
อารมณ์ของหานตี้ซือ ตึงเครียดเป็นอย่างมาก และก็สับสนเป็นอย่างมาก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หานตี้ซือถึงได้ถามอีกประโยคหนึ่ง
“ชิงเอ๋อร์ เมื่อกี้นี้ เมื่อกี้นี้เธอเอาของอะไรตัด ตัดไหมทองหนอนฟ้านี้ขาด?คือกรรไกรเหรอ? กรรไกรเล่มไหน?”
ในเวลานี้ อันที่จริงเสิ่นรั่วชิงได้ยกขวดใส่เครื่องดื่มออกจากห้องครัวแล้ว และไปที่ห้องรับแขก
เสิ่นรั่วชิงกำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหาร เท้าคาง และมองดูเย่อู๋เทียนที่กำลังกินบะหมี่อย่างยิ้มแหยๆ
เย่อู๋เทียนเงยหน้ามองเสิ่นรั่วชิงแวบหนึ่ง
“มองฉันทำไม?”
เสิ่นรั่วชิงพูด
“หล่อ”
เย่อู๋เทียนถามประโยคหนึ่ง
“เธอไม่กินบะหมี่เหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงพูด
“มองดูพี่กิน ฉันก็มีความสุขมากแล้ว”
เย่อู๋เทียนทานบะหมี่คำหนึ่ง มองดูเสิ่นรั่วชิงอย่างยิ้มแย้มแวบหนึ่ง และพูดประโยคหนึ่ง
“วันนี้ฉันจะกลับมาเร็วหน่อย”
เสิ่นรั่วชิงหน้าแดง กัดริมฝีปากล่าง แล้วตอบอย่างเขินอาย
“อาบน้ำรอพี่”
เย่อู๋เทียนหัวเราะหึ
“แรด”
เสิ่นรั่วชิงพูดด้วยท่าทางที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่น่าเบื่อ
“น่ารำคาญ!”
ในเวลานี้ หานตี้ซือก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่ดูตาม้าตาเรืออีก
ถือผ้าดำหกผืนไว้ในอ้อมแขน
สีหน้าก็แดงจนดูไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนอีกต่อไป
เสิ่นรั่วชิงสังเกตเห็นหานตี้ซือ กลับมามีท่าทีจริงจังในทันที และให้ความรู้สึกกับผู้คน…….
ยังคงเป็นหญิงสาวที่มีครอบครัวแล้วสามารถพบเจอกับแขกได้เข้าห้องครัวทำอาหารก็ได้
หานตี้ซือมาถึงตรงหน้าของเย่อู๋เทียนอย่างดีใจมาก วางผ้าหกผืนลงบนโต๊ะอาหาร และรายงานให้กับเย่อู๋เทียนด้วยท่าทางที่สุดยอด
“นอกเหนือจากไหมทองหนอนฟ้าเหล่านี้ ฉันยังมีการค้นพบครั้งใหญ่อีก!”
เย่อู๋เทียนถามอย่างเรียบเฉย
“การค้นพบครั้งใหญ่อะไร?”
หานตี้ซือตอบด้วยความตื่นเต้นอย่างสุดขีด
“ห้องครัว มีดทำครัว กรรไกร มีดทั้งหมด ก็เป็นอาวุธวิเศษ ซึ่งสูงกว่ากระบี่สยบชั่ว หลายระดับ!”
เย่อู๋เทียนยังคงดูเรียบเฉย
“สิ่งนี้ ผมรู้มาตั้งนานแล้ว มีดที่ผมใช้ปกติ อันที่จริงล้วนถูกดัดแปลงด้วยใบเลื่อยเล็กๆเหล่านั้นในห้องอเนกประสงค์ของบ้านผม!”
“แต่ว่า ผมเพิ่งจะรู้ในวันนี้ คฤหาสน์หลังนี้ของบ้านผม เป็นคลังสมบัติแห่งหนึ่ง!”
“แม่ผู้ให้กำเนิดของผม ก็คือผู้หญิงที่ให้กำเนิดผมออกมา และส่งมอบผมให้น้าของผมเลี้ยงดู เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยมาก!”
หานตี้ซือหายใจเข้าลึกๆ และในที่สุดก็แสดงความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจมาเป็นเวลาร้อยปีๆแล้ว
“ไปกันเถอะ เราสองคนเอามีดทำครัว ไปที่เขาว่อหลง ฟันคน!”
“ในหลายปีมานี้ ไม่สิ ร้อยปีแล้ว ฉันถูกคนกลุ่มนั้นของตระกูลหานเผ่าโบราณ!รังแกจนไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนเลย!”
“ปีนั้น น้องสาวของฉัน ก็ถูกไอ้แก่หานจื่อฉี …….”
“ทรมานจนตาย!”
“ความแค้นนี้ ฉันต้องชำระ!”