จอมนักรบอหังการ - บทที่ 416 เย่ฝูถู!แกมันสารเลว!2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 416 เย่ฝูถู!แกมันสารเลว!2
เย่ฝูถูสีหน้าตกใจ
“แก……แกรู้ที่มาของสายเลือดของฉันตั้งนานแล้ว?”
เย่อู๋เทียนมองดูศีรษะล้านของเย่ฝูถูแวบหนึ่ง พูดออกมาหนึ่งประโยคอย่างนิ่งๆ
“ทุกคนเท่าเทียมกัน!”
เย่ฝูถูตกตะลึงก่อน หลังจากนั้นดีใจอย่างมากทันที
“ไอ้เด็กบ้าอย่างแก กลับว่ามาสั่งสอนคนแก่อย่างฉันแล้ว!แต่ว่า สั่งสอนได้ถูก!สั่งสอนได้ดี!ผู้คนเท่าเทียมกัน!ฉันจะสึกเดี๋ยวนี้!สึกวันนี้เลย!”
เย่อู๋เทียนยิ้มแล้ว
“คุณออกบวชของคุณไปเถอะ”
เย่ฝูถูถอดจีวรออก โยนทิ้งลงพื้นเลย
“ตอนนั้นถ้าหากไม่ทำเพื่อพวกแกสองแม่ลูก ฉันจะออกบวชอะไรกันล่ะ!”
เวลานี้ สองพ่อลูก เดินมาถึงชั้นห้างสรรพสินค้าของตึกนี้แล้ว
พฤติกรรมของเย่ฝูถูในเวลานี้ นำมาซึ่งสายตาที่อยากรู้ไม่น้อย
เย่อู๋เทียนพูดอย่างนิ่งๆ
“ต่อไปอย่าพูดว่าคุณเป็นพ่อของฉันอย่างง่ายๆ ฉัน ทนขายหน้าคนอื่นไม่ได้! ”
เย่ฝูถูตบศีรษะล้าน กลับว่าไม่โกรธเคืองเลย
“ลูกชายโตแล้วก็ไม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อเหมือนตอนเด็กๆ!ด้วยท่าทางเช่นนี้ของลูกชายฉัน!วันนี้ คุกเข่าให้ภรรยา ก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ!อีกอย่าง ลูกชายของฉันเป็นเช่นนี้ ศัตรูตัวฉกาจที่หลบซ่อนตัวในโลกจะยังไง?ไม่กลัวแล้ว!”
เย่อู๋เทียนไม่พูด
แต่ในเวลานี้ เย่ฝูถูถามเย่อู๋เทียนประโยคหนึ่ง
“ลูกชาย ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีขายผมปลอมไหม?ไปพบแม่ของแกแบบหัวล้านเช่นนี้ฉันกลัวว่าเธอจะตีฉัน!”
เย่อู๋เทียนไม่ได้สนใจเย่ฝูถูอีก
อีกทางฝั่งหนึ่ง
ซอยหลัวฝู ในบ้านเก่า
หานจื่อเซียนและพวก ยังคงสงสัย ในการหายตัวไปอย่างกะทันหันของเย่อู๋เทียนเมื่อสักครู่นี้
ส่วนเหวินไท่จี๋ที่ถูกลายผลการฝึกตนแล้ว
อย่างกับหมาแก่ที่เสื่อมโทรม
นั่งเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น ไม่พูดไม่จา
ในเวลานี้ เฉิงโม่หนงรู้แล้ว ชายชราที่หน้าซีเผือดตรงหน้าผู้นี้ ก็คือพ่อแท้ๆของเธอ
ทันใดนั้น ความรู้สึกก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนถึงขีดสุด
และในเวลานี้ เหวินไท่จี๋ตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ สายตาที่ขุ่นมัวทั้งสองข้าง มองไปยังใบหน้าของเฉิงโม่หนง
พูดเสียงสั่นคลอน
“หนงเอ๋อร์ แกกับเย่อู๋เทียน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก!อีกอย่าง ตอนที่หานหว่านเอ๋อร์มีชีวิตอยู่ก็มองแกเป็นว่าที่ภรรยาของเย่อู๋เทียน!หากแกช่วยขอร้องแทนพ่อ!ทักษะนี้ของพ่อจะต้องฟื้นคืนกลับมาแน่นอน แก……”
จะไปคิดได้ยังไงว่าเหวินไท่จี๋ยังพูดประโคนี้ไม่จบ
เปรี๊ยะ!
ตบฉาดหนึ่ง ตบเข้าไปที่หน้าแก่ๆของเหวินไท่จี๋แล้ว
คนที่ตบ ก็คือกัวจื่อจู๋
ตามมาด้วยตบไปฉาดหนึ่ง เหวินไท่จี๋โมโหทันที จ้องมองกัวจื่อจู๋อย่างกับหมาบ้า คำรามเสียงดัง
“แกไอ้ชั้นต่ำ!คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาตบฉัน!”
กัวจื่อจู๋มองไปยังเหวินไท่จี๋อย่างเยือกเย็น เพียงแค่หนึ่งประโยค
“เมื่อสามสิบปีก่อน เห็นแกเป็นสามี วันนี้ เห็นแกเป็นหัวขโมย!แกรู้ตั้งนานแล้วว่าหนงเอ๋อร์อยู่ตระกูลเฉิงแห่งตี้ตู!หลายปีมานี้ ทำไมถึงไม่ไปพบเธอ ไม่ช่วยเธอ ปล่อยให้เธอทนทุกข์ทนรับความลำบากอยู่ที่ตระกูลเฉิง? ”
เหวินไท่จี๋โมโหจนสั่นไปทั้งตัว
กัดฟันกรอดๆพร้อมพูดออกมา
“ไอ้พวกจิตใจคับแคบมองอะไรตื้นๆ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันพยายามกวาดล้างวัดอี่เซียนให้สิ้นซาก แกคิดว่าอาศัยรูปร่างของแก จะอยู่ในสายตาอันมีค่าของกูได้? แกเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของฉันเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ…… ”
พูดมาถึงตรงนี้ เหวินไท่จี๋ก็คืบคลานมาตรงหน้าของเฉิงโม่หนง จับข้อขาของเฉิงโม่หนงไว้แล้ว
เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งอย่างกับคนบ้า
“แต่ แกต่างกัน แกเป็นคนโปรดของพ่อ!ถ้าวันนี้ แกขอร้องเย่อู๋เทียน ฟื้นคืนทักษะนี้ให้พ่อ!พ่อทำให้แกหลุดพ้นจากปุถุชนธรรมดามนุษย์ได้ สิ่งที่เห็นสิ่งที่ได้ยินทั้งหมด เหนือจินตนาการ!”
เฉิงโม่หนงถูกเหวินไท่จี๋ที่อย่างกับคนบ้า ทำให้ตกใจจนถอยหลังลงไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ ในเวลานี้
ชายวัยกลางคนหัวล้าน กับเย่อู๋เทียน เดินทอดน่องมาจากนอกประตูใหญ่ของบ้านเก่า
ชายวัยกลางคนหัวล้านเห็นเหวินไท่จี๋พัวพันกับเฉิงโม่หนง พูดออกมาประโยคหนึ่งแล้ว
“ขืนเตะต้องลูกสะใภ้คนรองของฉันแม้แต่ปลายนิ้ว จะกรีดเลือดหัวของแกซะ!”
เมื่อพูดคำนี้ออกไป
ทุกคนในบ้านเก่า ต่างก็มองไปที่ประตูใหญ่ทั้งหมด
โดยเฉพาะหานจื่อเซียน ขณะที่เห็นชายวัยกลางคนหัวล้าน
น้ำตาไหลราวกับฝนตก!
ในขณะเดียวกัน โพล่งพูดออกมา
“เย่ฝูถู!แกมันสารเลว!”