จอมนักรบอหังการ - บทที่ 440 ง่วงแล้ว ค่อยคุยกันวันหลัง 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 440 ง่วงแล้ว ค่อยคุยกันวันหลัง 2
หานจื่อเซียนหยุดสักครู่ ก่อนที่จะเอ่ยปาก
“ลูกก็รู้แล้วว่าน้าเล็กของลูกยังไม่ตาย และก่อนหน้านั้น เธอเป็นแม่บุญธรรมของลูกอีกด้วย ลูกเชื่อฟังคำพูดของเธอใช่ไหม?”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า
“เชื่อฟัง”
หานจื่อเซียนมองไปที่เฉิงโม่หนง
เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น
ทันใดนั้น เฉิงโม่หนงตื่นเต้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ
ในที่สุดก็ถึงหัวข้อหลักแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่หานจื่อเซียนจะเอ่ยปากพูด
เย่อู๋เทียนเป็นคนกล่าวก่อน
“ถ้าแม่ต้องการให้ผมหย่ากับรั่วชิง ก็ลืมเรื่องนี้เสียเถอะ”
หลังจากกล่าวประโยคนี้ออกมา
มีความประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของผู้หญิงทั้งสามคนพร้อมกัน
กระทั่งหานจื่อเซียนรู้สึกขบขันอยู่พักหนึ่ง
“ลูกกำลังคิดอะไรอยู่? น้าเล็กจะให้ลูกหย่ากับรั่วชิงได้อย่างไร?”
เย่อู๋เทียนถามด้วยความสงสัย
“แล้วแม่หมายความว่าอย่างไร?”
หานจื่อเซียนบุ้ยปากไปทางเฉิงโม่หนง
“เธอ เป็นคู่หมั้นที่น้าเล็กเลือก กล่าวตามหลักแล้ว เธอเป็นหลวง ส่วนลูกกับเสิ่นรั่วชิง ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะเลยจุดที่สามารถแก้ไขได้แล้ว แต่ในนามแล้ว เสิ่นรั่วชิง….อย่างมากที่สุด ก็เป็นเพียงรองเท่านั้น”
คำพูดนี้ ถ้าไม่พูดออกมา ทุกคนจะอยู่อย่างสงบสุข
แต่เมื่อพูดออกมาแล้ว……
ไม่ว่าจะเป็นเย่อู๋เทียน เสิ่นรั่วชิง หรือเฉิงโม่หนง ทุกคนล้วนอึดอัดมาก
หานจื่อเซียนโบกมือ
“ทุกคนอย่าอึดอัด แม่เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา มีเรื่องอะไร ก็ชอบพูดออกมาตามตรง ยังไงก็ตาม เรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องพูดออกมา ให้แม่กลายเป็นคนเลว ก็ไม่เป็นไร”
เย่อู๋เทียน เสิ่นรั่วชิง และเฉิงโม่หนง ทั้งสามคนไม่พูดอะไร
หานจื่อเซียนมองเย่อู๋เทียนด้วยความเห็นอกเห็นใจ
หลังจากนั้น……
พูดร่ายยาว
“ลูก แม่ช่วยลูกวิเคราะห์เรื่องนี้นานแล้ว ผู้หญิงคนอื่น ๆ ลูกจะทำอย่างไรก็ได้ ขอเพียงแค่ลูกไม่พาพวกเธอเข้าบ้าน ก็ไม่มีปัญหาอะไร!”
“แต่ถ้าเป็นเฉิงโม่หนง ไม่ได้! อย่างแรก เธอเติบโตมากับลูก รู้ตื้นลึกหนาบาง สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอชอบลูก รักลูก และขาดลูกไม่ได้ ถ้าลูกปฏิเสธ มันไม่เหมาะสมและไร้ความรับผิดชอบ ยังไม่พูดเรื่องที่ว่าถ้าลูกปฏิเสธ ลูกจะละอายใจต่อเธอ สำหรับสิ่งที่เธอทำเพื่อลูกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แค่ทางฝั่งน้าเล็ก ลูกก็ไม่มีเหตุผลที่จะแก้ตัวกับน้าเล็กได้!”
“ตอนนี้การที่น้าเล็กจะตื่นขึ้นมา มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น อ้อ! ถ้าลูกปฏิเสธเฉิงโม่หนง แล้วลูกจะอธิบายกับน้าเล็กอย่างไร? ถึงแม้ว่าน้าเล็กจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ แล้วต่อไปเธอจะเผชิญหน้ากับเฉิงโม่หนงอย่างไร?”
“ลูกคิดว่าแม่ในฐานะที่เป็นแม่ของลูก แม่วิเคราะห์ถูกหรือเปล่า?”
“จริงสิ! ยังมีทางฝ่ายเสิ่นรั่วชิง แม่คิดแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เธอเก่งมาก ตามหลักแล้ว ถ้ามีคนมาแย่งผู้ชายกับเธอ ถ้าพูดจากมุมมองของเธอแล้ว ยังไงเธอก็ไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปอย่างแน่นอน แต่เรื่องทุกอย่างล้วนกลัวคำว่าแต่ และชิงเอ๋อร์เป็นคนที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม แล้วเธอจะไม่สามารถยอมรับผู้หญิงที่อ่อนแออย่างเฉิงโม่หนงได้อย่างไร?!”
“อย่างไรก็ตาม ด้วยร่างกายปัจจุบันของลูก เธอคนเดียว ไม่สามารถรับได้อย่างแน่นอน ตอนกลางคืนต้องมีคนช่วยแบ่งเบาภาระของเธอบ้าง! แม่เดาว่าลูกสะใภ้ สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้เช่นกัน!”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเย่อู๋เทียน เสิ่นรั่วชิง หรือเฉิงโม่หนง
สีหน้าของพวกเขาแดงจัด จนไม่สามารถแดงไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ควรพูดออกมาเหรอ?
เมื่อหานจื่อเซียนเห็นว่าพวกเขาสามคนหน้าแดง ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
“พวกคุณอย่ามองแม่ด้วยสายตาแบบนั้น สิ่งที่แม่พูดล้วนเป็นความจริง เพราะเมื่อคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เรื่องบางเรื่อง พวกคุณอายเกินกว่าที่จะพูดออกมา แต่แม่พูดเรื่องพวกนี้ได้ ไม่มีปัญหาอะไร!”
“ถ้าอยู่ภายนอก พวกคุณมีเกียรติขนาดไหน นั่นเป็นเรื่องข้างนอกของพวกคุณ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ต้องจัดการเรื่องภายในครอบครัว การสามัคคีปรองดองของครอบครัว เป็นเรื่องที่ต้องจัดการแก้ไขเป็นเรื่องแรก!”
“ทำยังไงถึงจะทำให้ครอบครัวสามัคคีปรองดอง? สามีภรรยาต้องรักกัน! หลังจากเฉิงโม่หนงแต่งงานเข้ามาแล้ว เสิ่นรั่วชิงห้ามไม่พอใจใด ๆ ถึงแม้จะไม่พอใจ ตอนนี้พูดออกมาได้ ต่อไปถ้าทะเลาะตบตีเพราะความหึงหวง มันจะทำให้ครอบครัววุ่นวาย แม่เห็นแล้วยังรู้สึกหงุดหงิด!”
ขณะนี้ คนที่อารมณ์เสียไม่ใช่หานจื่อเซียน
แต่เป็นเย่อู๋เทียน
เขานึกไม่ถึงว่า
เจ้ายมบาลชิงตี้ที่สง่าผ่าเผยอย่างเขา หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้ว กลับต้องเผชิญกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้!
อย่างไรก็ตาม……
สิ่งที่หานจื่อเซียนพูด ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
คำพูดหยาบ แต่มีเหตุผล
ถ้าหากเย่อู๋เทียนปฏิเสธเฉิงโม่หนง โดยไม่สนใจว่าเฉิงโม่หนงจะทำเรื่องอะไรออกมา
เพียงแค่ทางฝั่งหานหว่านเอ๋อร์ ก็อยากที่จะอธิบายแล้ว
แต่ปัญหาคือ…..
เย่อู๋เทียนไม่มีความรักระหว่างชายหญิงที่จะพูดกับเฉิงโม่หนง
เขาเห็นเธอเป็นพี่สาวเสมอมา
ถ้าเป็นเพราะเรื่องที่หานหว่านเอ๋อร์กำหนดให้เขาแต่งงานกับเฉิงโม่หนงตั้งแต่เมื่อก่อน แล้วเขาทำผิดต่อเสิ่นรั่วชิง……
แล้ว……
เย่อู๋เทียนไม่กล้าคิดเรื่องนี้ต่อ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถานการณ์กำลังจะถึงทางตัน เสิ่นรั่วชิงกล่าวทันทีว่า
“ง่วงแล้ว ค่อยคุยกันวันหลัง”
หลังจากกล่าวจบ เสิ่นรั่วชิงลุกขึ้นทันที แล้วเดินไปที่ห้องนอน
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นรั่วชิงไม่ปฏิเสธ ไม่เห็นด้วย และไม่แสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตาม แค่มองแวบเดียว เย่อู๋เทียนก็สามารถมองทะลุความคิดของเสิ่นรั่วชิง เธอต้องการมอบสิทธิ์ในการตัดสินใจให้ตนเอง
และขณะที่เย่อู๋เทียนกำลังจะพูดการตัดสินใจของตนเองออกมา
ทันใดนั้น เสิ่นรั่วชิงก็หันกลับมามองเฉิงโม่หนง แล้วกล่าวว่า
“คืนนี้ คุณนอนกับฉัน เพื่อคุยเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบงานที่เทียนจวิน กรุ๊ปในวันพรุ่งนี้”
การกระทำเช่นนี้ ทำให้เย่อู๋เทียนตกตะลึงทันที
หมายความว่าอย่างไร?
แต่ขณะที่เย่อู๋เทียนรู้สึกสงสัย เฉิงโม่หนงก็ลุกขึ้น และเดินไปหาเสิ่นรั่วชิงแล้ว
หลังจากผู้หญิงสองคนเดินเข้าไปในห้องนอนแล้ว หานจื่อเซียนตบแขนเย่อู๋เทียนเบา ๆ
“เจ้าโง่? นั่งเซ่ออยู่ทำไม? รีบไปอาบน้ำเร็ว แล้วคืนนี้จัดการพวกเธอสองคนซะ!”