จอมนักรบอหังการ - บทที่ 444 ตอนเช้า ฉันไม่ควรยั่วคุณ 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 444 ตอนเช้า ฉันไม่ควรยั่วคุณ 2
และขณะนี้ เย่อู๋เทียนหยิบชุดทำงานผู้หญิงออกมาจากตู้เสื้อผ้าหนึ่งชุด และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณสวมชุดนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ของเทียนจวิน กรุ๊ปเถอะ แล้วผมจะไปส่งคุณ”
หลังจากนั้น เย่อู๋เทียนแกะถุงน่องใหม่ แล้วยื่นให้เสิ่นรั่วชิง
ถึงแม้เสิ่นรั่วชิงจะลังเล แต่เธอก็สวมมันอย่างว่าง่าย แต่ตอนที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
หวาดกลัว
กังวลว่าหลังจากตนเองเปลี่ยนชุดทำงานแล้ว ผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง จะอวดพลังอีกไหม!
ยังดี
เขาไม่ได้ทำขั้นต่อไป
เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงออกจากบ้านตอนบ่ายสี่โมง
ระหว่างทางไปอาคารเทียนจวิน เสิ่นรั่วชิงไม่กล้าแม้แต่จะมองเย่อู๋เทียนแวบหนึ่งด้วยซ้ำ
เพราะกลัวว่าการมองเขา จะทำให้เขาเข้าใจผิด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ เสื้อผ้าที่ตนเองสวมอยู่ตอนนี้ มีพลังทำร้ายล้างสามีไม่น้อย
ถ้าเขาต้องการจริง ๆ
ปฏิเสธ?
เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธ
มันขัดต่อคุณธรรมของผู้หญิง
รับปาก?
ยังคงเป็นประโยคนั้น
ร่างกายอ่อนแอเกินไป รับไม่ไหว!
และขณะที่เสิ่นรั่วชิงกำลังคิดเช่นนั้น เย่อู๋เทียนก็เอ่ยปาก
“หลังจากส่งคุณไปเทียนจวิน กรุ๊ปแล้ว ผมต้องไปเขาหวินหลาอีกครั้ง เพื่อช่วยผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ตอนที่ช่วยผู้หญิงคนนั้น…..ต้องปลดเสื้อผ้าของเธอ ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจ ผมจะเลือกการรักษาแบบอื่น”
นึกไม่ถึงว่าหลังจากเขากล่าวจบ เสิ่นรั่วชิงก็กล่าวต่อทันที
“ฉันไม่มีความคิดเห็น ฉันไม่มีความคิดเห็นใด ๆ!”
ใบหน้าของเย่อู๋เทียนกระตุก
“โกรธเหรอ?”
สีหน้าของเสิ่นรั่วชิงเหม่อลอย
“โกรธ? ไม่ได้โกรธ ทำไมฉันต้องโกรธด้วย?”
เย่อู๋เทียนรู้สึกสงสัย
“ผู้หญิงมักจะชอบพูดจากลับกันไม่ใช่เหรอ? บอกว่าไม่มีความคิดเห็น ต้องมีความคิดเห็นอย่างแน่นอน วางใจเถอะ ในใจของผมมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น ส่วนผู้หญิงคนอื่น ผมไม่…..”
ไม่เคยคิดเลย ยังไม่ทันที่เย่อู๋เทียนจะพูดจบ เสิ่นรั่วชิงก็ขัดจังหวะทันที
“คุณสามารถมีได้!”
สีหน้าของเย่อู๋เทียนเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
“วันนี้คุณเป็นอะไร?”
ไม่รู้ว่าเสิ่นรั่วชิงกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ เธอก็กล่าวด้วยท่าทางเหม่อลอย
“ฉัน….. ฉันเสียใจแล้ว”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้ว
“เรื่องอะไร?”
เสิ่นรั่วชิงกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ และในที่สุดเธอก็พูดความในใจออกมา
“ตอนเช้า ฉันไม่ควรยั่วคุณ!”
เย่อู๋เทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร ผมชอบแบบนั้นมาก”
“……”
ขณะนี้ เสิ่นรั่วชิงรู้สึกมีความทุกข์ที่ไม่สามารถอธิบายได้
วันเวลายังอีกยาวไกล
แล้วจะทนใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างไร!
เมื่อก่อน เขาไม่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าครั้งนี้เขาเป็นอะไร
ไม่เหมือนคน
เหมือนมังกรที่ดุดัน!
แล้ว……
แอ่งน้ำเล็ก ๆ ของตนเอง จะสามารถเลี้ยงมังกรที่ดุดันได้อย่างไร
สรุปแล้ว ระหว่างทางที่ไปสำนักงานใหญ่ของเทียนจวิน กรุ๊ป เสิ่นรั่วชิงครุ่นคิดปัญหาระหว่างตนเองกับเย่อู๋เทียนตลอด!
ต้องทำอย่างไร ถึงจะทำให้เย่อู๋เทียนกลายเป็นปกติ!
ต้องทำอย่างไร ถึงจะเพิ่มสมรรถภาพทางกายของตนเองให้สูงขึ้น!
แต่สุดท้าย เสิ่นรั่วชิงก็ได้ข้อสรุปที่เศร้า!
เมื่อแต่งงานแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องรู้จักปรับตัวอยู่กับสามีให้ได้
มิเช่นนั้น จะทำอย่างไรได้อีก?
รักเขาแล้ว
รักเขา ก็ต้องพยายามยอมรับทุกอย่างที่เขาเป็นให้ได้!
และขณะเดียวกัน
ด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของเทียนจวิน กรุ๊ป
รถคาเยนน์สีดำหยุดอย่างช้า ๆ
มีชายหนุ่มนั่งอยู่ในรถสองคน
ชายหนุ่มที่เป็นคนขับรถ ไม่คู่ควรเอ่ยถึง
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลัง ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสวมชุดสูทและรองเท้าหนัง ดูเหมือนเป็นนักธุรกิจ แต่ดวงตาสดใสมาก
สิ่งสำคัญคือ ขมับของหนุ่มคนนี้โดดเด่นกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นสมาชิกของโลกยุทธจักร
เขาชื่อหนานกงเหยียน!
เป็นลูกบุญธรรมของหวงฝู่เจิ้งฉี!
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นลูกศิษย์ของกัวเถาจือแห่งวัดอี่ซียนอีกด้วย!
การมาตี้ตู
มีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น
ต้องการมาดูว่ากัวจื่อจู๋ และหลี่หานหู สามารถปราบสองแม่ลูกหานจื่อเซียนและเย่อู๋เทียนได้หรือไม่!
เพราะก่อนหน้านั้น กัวจื่อจู๋ บอกกัวเถาจือว่าเขาจะอยู่ตี้ตูสักพัก หลังจากค้นหาแผ่นหินสมบัติเจอแล้ว ค่อยกลับไป!
เรื่องนี้……
ความจริงแล้ว มันทำให้กัวเถาจือเกิดความสงสัยแล้ว
เพียงแต่ หลังจากหนานกงเหยียนได้รับมอบหมายจากกัวเถาจือแล้ว แต่เขากลับไม่ใส่ใจ
ตอนนี้ เขามาที่สำนักงานใหญ่ของเทียนจวิน กรุ๊ป เพียงเพื่อพบบุคคลหนึ่งเท่านั้น
บุคคลนี้คือหวงฝู่เหยา ลูกสาวของหวงฝู่เจิ้งฉี!
ถึงแม้ว่าหนานกงเหยียนจะเป็นลูกบุญธรรมของหวงฝู่เจิ้งฉี และเติบโตในตระกูลหวงฝู่
และ……
เขาแอบชอบหวงฝู่เหยามานานแล้ว
ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตนี้คือได้แต่งงานกับหวงฝู่เหยา
แต่น่าเสียดาย หลังจากหนานกงเหยียนเปิดเผยความในใจกับหวงฝู่เหยาแล้ว แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดที่เย็นชาของหวงฝู่เหยา
“ลูกชายที่ถูกตระกูลหนานกงทอดทิ้ง คู่ควรกับเจ้าบ้านของตระกูลหวงฝู่ในอนาคตเหรอ?”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป หนานกงเหยียนออกไปจากตระกูลหวงฝู่ แล้วไปวัดอี่ซียนที่เขาเอ๋อเหมย
หนานกงเหยียนนั่งอยู่ในรถ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านี้
กล่าวพึมพำกับตนเอง
“ตอนนั้น คุณบอกว่าผมไม่คู่ควรกับคุณ วันนี้ ผมแต่งงานกับคุณ ในฐานะรองเจ้าอาวาสแห่งวัดอี่ซียน ไม่ทำให้คุณอัดอั้นตันใจใช่ไหม? เพราะลำดับตามความอาวุโสของโลกยุทธจักรแล้ว แม้แต่หวงฝู่เจิ้งฉีพ่อของคุณ ยังต้องให้เกียรติผม!”
และขณะนี้เอง หวงฝู่เหยาเดินออกมาจากอาคารสำนักงานใหญ่ของเทียนจวิน กรุ๊ป
โดยมีเฉิงโม่หนงเดินเคียงข้าง!
ด้านหลังของพวกเธอสองคน
ล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงของเทียนจวิน กรุ๊ป!
วันนี้ และตอนนี้
หวงฝู่เหยา เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเทียนจวิน กรุ๊ป
เฉิงโม่หนง เป็นประธานของเทียนจวิน กรุ๊ป
เพียงแต่ วันนี้ทั้งสองคนจะประกาศเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือพวกเธอจะมอบอำนาจบริหารทั้งหมด ให้บุคคลหนึ่ง
ซึ่งก็คือเสิ่นรั่วชิง
ทั้งสองคนพาผู้บริหารระดับสูงและพนักงานของเทียนจวิน กรุ๊ป เดินออกมาจากอาคารอย่างอลังการ เพียงเพื่อมาต้อนรับเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงเท่านั้น!
เมื่อหนานกงเหยียนเห็นภาพนี้ เขากลับคิดว่า
ไม่ว่าจะเป็นหวงฝู่เหยา หรือคนรอบข้างและคนที่อยู่ข้างหลังเธอ…..
ล้วนเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าตนเองกลับมาแล้ว ต้องการมาต้อนรับตนเอง ถึงได้อลังการเช่นนี้!
และขณะที่หนานกงเหยียนกำลังคิดเช่นนั้น มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดด้านข้างรถที่เขานั่งอยู่อย่างช้า ๆ
คนในรถคือเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิง
ถึงแม้เย่อู๋เทียนกำลังขับรถอยู่ แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะวางมือใหญ่ของตนเองไว้บนตักของเสิ่นรั่วชิง