จอมนักรบอหังการ - บทที่ 456 โจวซีสาวสวยที่มีเสน่ห์ ก้มกราบอยู่บนพื้นด้วยความเลื่อมใสศรัทธา 2
- Home
- จอมนักรบอหังการ
- บทที่ 456 โจวซีสาวสวยที่มีเสน่ห์ ก้มกราบอยู่บนพื้นด้วยความเลื่อมใสศรัทธา 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 456 โจวซีสาวสวยที่มีเสน่ห์ ก้มกราบอยู่บนพื้นด้วยความเลื่อมใสศรัทธา 2
แต่……
หลังจากความเจ็บปวดหายไป เธอรู้สึกว่า
ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหน้าผากของตนเอง หรือจุดฝังเข็มสามจุด ได้แก่จุดเฉียนเจิ้ง จุดเจี๋ยเชอ และจุดเทียนหรง ต่างเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด!
ไม่มีใครรู้ว่าชี่แท้ที่อยู่ในนั้นบริสุทธิ์แค่ไหน!
โจวซีมองเย่อู๋เทียนอีกครั้ง
ราวกับมองเทพเจ้า!
ผ่านไปสักครู่ โจวซีถึงได้พูดออกมา
“ความเจ็บปวดแบบนี้ เจ็ดปี?”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย
“ตอนนี้ไม่เจ็บปวดแล้ว”
โจวซีไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไปแล้ว น้ำตาไหลออกมา
ตอนนี้ถึงเข้าใจ
เย่อู๋เทียน ต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใด ถึงจะสามารถฝึกจนถึงระดับที่เป็นอยู่ในตอนนี้!
ไร้เทียมทาน!
ที่แท้ฝึกแบบนี้เอง!
พวกเธอไม่รู้ว่าโจวซีประสบอะไรมาบ้าง แต่เมื่อเห็นสายตาที่โจวซีมองเย่อู๋เทียนแล้ว…
พวกเธอเข้าใจอารมณ์ของโจวซีทันที
ทั้งรู้สึกปวดใจ และรู้สึกเคารพนับถือ!
และขณะนี้เอง โจวซีเช็ดน้ำตา ลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตนเอง!
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนตกใจมาก
เจ้าอาวาสโจวซี…
สามารถเดินได้แล้ว?
รักษาหายแบบนี้แล้วเหรอ?
ความจริงแล้ว ถึงแม้โจวซีจะสามารถเดินได้ แต่ขาทั้งคู่ยังคงอ่อนแรง!
ราวกับว่าขาทั้งคู่ถูกฉีดยาชา ถึงแม้จะไม่ชาทั้งหมด แต่มันเจ็บและชากว่าปกติ!
แค่สามารถลุกขึ้นเดินได้ด้วยความยากลำบากเท่านั้น!
หลังจากโจวซีสวมเสื้อผ้าเสร็จ คุกเข่าต่อหน้าเย่อู๋เทียน ภายใต้สายตาของทุกคน!
เธอก้มกราบเก้าครั้ง
“โจวซี วัดอี่เซียนแห่งเขาเอ๋อเหมย ขอบคุณที่ชิงตี้ถ่ายทอดวิชาความรู้!”
เย่อู๋เทียนยิ้มบาง ๆ
“ลุกขึ้นเถอะ ผมไม่คิดจะรับคุณเป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการ ความเจ็บปวดแค่นี้คุณยังทนไม่ได้ คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกศิษย์ของผมหรอก!”
สีหน้าของโจวซีเต็มไปด้วยความละอายใจ
“บ่าวเข้าใจ แต่การที่ท่านสามารถถ่ายทอดวิชาให้บ่าวได้ ถือเป็นบุญคุณใหญ่หลวงแล้ว!”
“ควรก้มกราบ แสดงความเคารพ!”
เย่อู๋เทียนยิ้ม
“มันคงจะดี ถ้าคุณรู้มารยาทแบบนี้ตั้งแต่แรก”
โจวซีตกตะลึงเล็กน้อย และเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของเย่อู๋เทียนทันที
ชั่วขณะหนึ่ง
ละอายใจมากยิ่งขึ้น
ตนเองอ่อนแอจนไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้ แล้วยังจะคิดฝึกวิชาหยินหยางสราญรมย์กับชิงตี้อีก?
ตอนนี้ดูเหมือนว่า……
ตนเองไม่คู่ควร!
หลังจากคิดอีกครั้ง ความหดหู่ในใจก็สลายไป!
วิชาที่น่าทึ่งเช่นนี้…
เกรงว่าชิงตี้คงถ่ายทอดให้ตนเองเพียงคนเดียวเท่านั้น?
มิฉะนั้น คนทั่วโลกยุทธจักร ใครจะสามารถทนความเจ็บปวดเช่นนี้ได้?
เมื่อคิดเช่นนั้น โจวซีรู้สึกภูมิใจในตนเองเล็กน้อย แต่เธอยังคงแกล้งถามเย่อู๋เทียน
“เกรงว่าคงไม่มีใครในโลกนี้ ที่สามารถทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ได้? เมื่อคิดแล้ว สำหรับชิงตี้แล้ว บ่าวสำคัญพอสมควร!”
เย่อู๋เทียนกล่าว
“ผมมีศิษย์รักอยู่คนหนึ่ง ที่ทนทุกข์ทรมานแบบนี้มายี่สิบปี!”
สีหน้าของโจวซีเปลี่ยนไปมาก
“เป็นไปได้ยังไง! ในโลกนี้ นอกจากท่านแล้ว ใครจะสามารถทนความเจ็บปวดเช่นนี้ได้อีก?”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย
“มิเช่นนั้น ผมจะพูดว่าเป็นศิษย์รักได้อย่างไร คุณไม่เข้าใจหรอก”
โจวซีถามด้วยความตกใจ
“ใคร?”
เย่อู๋เทียนไม่ตอบ แต่กล่าวประโยคหนึ่ง
“จนถึงตอนนี้แล้ว คุณยังไม่ได้บอกผมว่าหญ้าเทียนหลัวอยู่ที่ไหน!”
โจวซีตกตะลึงเล็กน้อย และยิ้มด้วยความขมขื่น
“ส่วนหลังภูเขาเอ๋อเหมย”
เย่อู๋เทียนยิ้ม
“ผมรู้ว่ามันอยู่ที่ส่วนหลังภูเขาเอ๋อเหมย แต่เส้นทางของเขาเอ๋อเหมยนั้นคดเคี้ยว เพียงแค่ส่วนหลังภูเขาก็เป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตรแล้ว มันยากที่จะหาหญ้าเทียนหลัวเจอ! ผมต้องการทราบตำแหน่งที่หญ้าเทียนหลัวเติบโตอย่างแน่ชัด!”
โจวซีถอนหายใจ
“ชิงตี้ ใช่ว่าบ่าวไม่อยากพูด เพียงแต่ถ้าไปเก็บตอนนี้ เกรงว่าจะนำปัญหาที่ไม่จำเป็นมาสู่ชิงตี้!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ โจวซีถามด้วยน้ำเสียงปรึกษาหารือ
“ชิงตี้ เอาแบบนี้ดีไหม? หลังจากผ่านไปสองเดือน บ่าวจะพาท่านไปที่ส่วนหลังภูเขาเอ๋อเหมย ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาได้มากมาย!”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สิ่งที่คุณกังวลคือพิธีรับศิษย์ของวัดอี่เซียน?”
โจวซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง มีความกังวลอยู่ในสายตา แต่ยังคงพยักหน้าและตอบ
“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”
“ถ้าตอนนี้บ่าวพาท่านไปที่นั่น กัวเถาจือจะต้องฆ่าบ่าวในข้อหาก่อกบฏต่อวัดอี่เซียนอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น จะทำให้ท่านจะเดือดร้อนด้วย!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ โจวซีกล่าวเสริมอีกประโยค
“บ่าวไม่กังวลว่าท่านจะกลัวกัวเถาจือ แต่…..กล่าวตามหลักแล้ว ท่านไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักใหญ่สิบอันดับแรกของโลกยุทธจักร ถ้าท่านเข้ามาแทรกแซงเรื่องของโลกยุทธจักร เกรงว่ามันจะทำให้ทุกคนรู้สึกโกรธแค้น!”
มีความแปลกประหลาดประกายผ่านใบหน้าของเย่อู๋เทียน และถามเบา ๆ
“สำนักเจินอู่ เป็นหนึ่งในสิบสำนักใหญ่ของโลกยุทธจักรไหม?”
โจวซียิ้มด้วยความขมขื่น
“สำนักเจินอู่…..เป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งในสิบอันดับของโลกยุทธจักร!”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าเช่นนั้น คุณกังวลโดยไม่จำเป็นแล้ว ตอนนี้ผมเป็น…เจ้าสำนักไท่ซ่างของสำนักเจินอู่!”