จอมนักรบอหังการ - บทที่ 462 คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะถือรองเท้าให้ชิงตี้ด้วยซ้ำ 2
จอมนักรบอหังการ บทที่ 462 คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะถือรองเท้าให้ชิงตี้ด้วยซ้ำ! 2
คุณนายใหญ่ คุณนายรอง อะไรกันเนี่ย?
ไร้สาระ!
และแน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งที่เย่อู๋เทียนคิดอยู่ในใจเท่านั้น
สิ่งที่โจวซีคิดคือ…..
ดูไม่ออกว่าคู่รักคู่แค้นที่อยู่ด้านข้างคนนี้ จะไม่ใช่พระอิฐพระปูน
ข้างกายของเขานอกจากผู้หญิงที่ชื่อเสิ่นรั่วชิงแล้ว ยังมีผู้หญิงอีกคน ที่สามารถเป็นคนรู้ใจของเขาได้!
เมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ตนเองจะได้อยู่เคียงข้างเย่อู๋เทียน ก็มากขึ้นไปอีก?
เพียงแต่ ไม่นานโจวซีก็มุ่งความสนใจไปที่หวงฝู่เจิ้งฉีอีกครั้ง
หลังจากสังเกตอย่างละเอียด
อีกฝ่ายคือหวงฝู่เจิ้งฉีแห่งสำนักเจินอู่ตามที่คาดการณ์ไว้จริง ๆ!
และขณะนี้เอง หวงฝู่เจิ้งฉีก็สังเกตเห็นโจวซี
เขาตกตะลึงก่อน จากนั้นกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้หน้าคุ้นขนาดนี้? คุณหน้าเหมือนเพื่อนเก่าของผมคนหนึ่ง!”
โจวซีหัวเราะเยาะ
“ไม่ใช่แค่หน้าเหมือน แต่เป็นคนเดียวกัน!”
“เพียงแต่ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ทรงอิทธิพลของสำนักเจินอู่อย่างคุณแล้ว ฉันโจวซีไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนเก่าของคุณหรอก!”
“ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะสำนักเจินอู่ของพวกคุณสนับสนุนกัวเถาจือ เธอคงไม่สามารถแย่งตำแหน่งของฉันไปได้อย่างราบรื่นหรอก!”
ใบหน้าของหวงฝู่เจิ้งฉีกลายเป็นสีแดง
ต้องทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างโจวซีและเย่อู๋เทียนแล้ว
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เย่อู๋เทียนขับรถพาโจวซีกลับมาด้วยตนเอง หรือว่าโจวซีจะเป็นภรรยาคนที่สามของเจ้าสำนักไท่ซ่าง?
เย่อู๋เทียนไม่อยากจะสนใจหวงฝู่เจิ้งฉีอีก
เหตุผลที่ตนเองกลับมา ก็เพื่อบอกเสิ่นรั่วชิงว่าตนเองจะไปเขาเอ๋อเหมย…..
ตอนนี้ในเมื่อเสิ่นรั่วชิงไม่อยู่บ้าน ตนเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป?
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือรีบไปที่เขาเอ๋อเหมย แล้วนำหญ้าเทียนหลัวกลับมาช่วยหานหว่านเอ๋อร์แม่บุญธรรมของตนเอง!
เมื่อคิดเช่นนั้น เย่อู๋เทียนจึงกล่าวกับโจวซีเบา ๆ
“คุณรอผมอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะไปหารั่วชิงที่ไดนาสตี้NO.1ก่อน หลังจากนั้นพวกเราก็จะเดินทางไปที่เขาเอ๋อเหมย!”
หลังจากกล่าวจบ เย่อู๋เทียนขยับเท้า
แล้วจากไปทันที
โจวซีและหวงฝู่เจิ้งฉีตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม และรู้สึกสับสนวุ่นวาย
วินาทีต่อมา ไม่รู้ว่าหวงฝู่เจิ้งฉีนึกอะไรขึ้นมาได้ มีความตื่นตระหนกอยู่บนใบหน้า
เขารีบมองทิศทางที่เย่อู๋เทียนจากไปและอธิบายว่า
“เจ้าสำนักไท่ซ่าง ท่านโปรดฟังคำอธิบายของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย สำนักเจินอู่ไม่ได้ช่วยกัวเถาจือรังแกคุณนายสาม!”
หลังจากกล่าวประโยคนี้ออกมา ไม่ว่าเย่อู๋เทียนจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม
มีความแปลกประหลาดประกายผ่านใบหน้าของโจวซี!
นึกไม่ถึงว่าหวงฝู่เจิ้งฉีจะเข้าใจผิด คิดว่าตนเองเป็นภรรยาคนที่สามของเย่อู๋เทียน!
โจวซีกลอกตา ราวกับสุนัขจิ้งจอก แอบอ้างบารมีของเย่อู๋เทียน โดยกล่าวกับหวงฝู่เจิ้งฉีว่า
“สำหรับชิงตี้แล้ว ฉันเป็นเหมือนหยางกุ้ยเฟยที่อยู่เคียงข้างจักรพรรดิถังเสวียนจง คุณรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงไม่กลับมาเป็นเวลาหกวันหกคืน? ช่วงเวลาหกวันหกคืนนี้ พวกเราสองคน…พลอดรักอยู่ด้วยกันตลอด!”
ใบหน้าของหวงฝู่เจิ้งฉีกระตุก
นึกไม่ถึงว่าเจ้าสำนักไท่ซ่างจะรักโจวซีมากเช่นนี้…….
คุณนายใหญ่ไม่ดีเหรอ?
นึกไม่ถึงว่าเจ้าสำนักไท่ซ่าง จะหลงใหลผู้หญิงอย่างโจวซีได้!
ดูเหมือนว่าแม้แต่วีรบุรุษอย่างเจ้าสำนักไท่ซ่าง ก็ยังหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า ดอกไม้บ้านหอมสู้ดอกไม้ป่าไม่ได้!
ไม่รู้ว่าการที่ตนเองติดตามผู้ชายแบบนั้น
ติดตามถูก หรือติดตามผิด
ถ้าเย่อู๋เทียนเป็นเพียงผู้ชายที่ชอบสะสมผู้หญิงสวย ๆ ถ้าเช่นนั้นตนเองต้องคิดพิจารณาใหม่แล้ว…….
เพียงแต่ เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดูเหมือนหวงฝู่เจิ้งฉีจะตระหนักถึงอะไรบางอย่างทันที
เขาอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจโจวซีอีกครั้ง
ผิดปกติ!
ผู้หญิงคนนี้ผิดปกติ!
เมื่อโจวซีเห็นหวงฝู่เจิ้งฉีมองตนเองแปลก ๆ และไม่พูดอะไร เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข และคิดว่าหวงฝู่เจิ้งฉีเชื่อคำพูดของตนเอง ดังนั้นเธอจึงกล่าวด้วยความเย็นชาว่า
“หวงฝู่เจิ้งฉี ฉันจะบอกคุณตามตรง ตอนนี้ขอเพียงแค่ฉันบอกชิงตี้ว่าคุณเป็นคนเลว คุณยังคิดที่จะเป็นพ่อครัวอยู่ข้างกายเขา? มันเป็นแค่ความฝันของคนโง่เท่านั้น!”
สีหน้าของหวงฝู่เจิ้งฉียิ่งแปลกมากขึ้น และถามกลับ
“แล้ว…คุณต้องการอะไร?”
โจวซียิ้มด้วยความสุข
“คืนนี้ฉันกับชิงตี้จะไปเขาเอ๋อเหมย คุณเดินทางล่วงหน้าไปก่อน แล้วช่วยชิงตี้กับฉันกำจัดกัวเถาจือก่อน!”
หวงฝู่เจิ้งฉีเลิกคิ้วแล้วหัวเราะ
“ในโลกใบนี้ นอกจากชิงตี้แล้ว ใครจะสามารถต่อสู้กับกัวเถาจือได้? คุณประเมินผมสูงเกินไปแล้ว!”
โจวซีขมวดคิ้วเล็กน้อย และกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำไม? ช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิทยายุทธของกัวเถาจือพัฒนาไปอีกขั้นแล้วเหรอ”
หวงฝู่เจิ้งฉีหัวเราะเสียงดัง
“พัฒนาไปอีกขั้น? ฮ่า ๆ เท่าที่ผมรู้ เมื่อสามปีที่แล้ว เธอบรรลุสู่แดนสิบแล้ว!”
“ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังก่อตั้งพันธมิตรบู๊ร่วมกับกองกำลังนักบู๊บนเกาะหนานโป๋อีกด้วย ตอนนี้เธอเป็นผู้นำพันธมิตรบู๊!”
“แม้แต่พ่อของผม อาจจะตายอยู่ในน้ำมือของเธอ!”
“มิเช่นนั้น คุณคิดว่าทำไมผมถึงได้เคารพนับถือเย่อู๋เทียนเป็นเจ้าสำนักไท่ซ่างของสำนักเจินอู่ได้? นอกจากเขามีความสามารถที่จะเป็นเจ้าสำนักไท่ซ่างของสำนักเจินอู่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เพราะมีเพียงเขาเท่านั้น ที่สามารถทำให้สำนักเจินอู่กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งได้!”
หลังจากโจวซีได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธออดที่จะครุ่นคิดไม่ได้
“หมายความว่าอย่างไร? ความหมายของคุณคือ กัวเถาจือได้รวบรวมโลกยุทธจักรไปครึ่งค่อนประเทศแล้ว”