จอมนักรบอหังการ - บทที่ 57 โลกปกคลุมด้วยการฆาตกรรม เขากำลังเคี่ยวโจ๊กให้ภรรยา
จอมนักรบอหังการ บทที่ 57 โลกปกคลุมด้วยการฆาตกรรม เขากำลังเคี่ยวโจ๊กให้ภรรยา!
ชายชราข้างนอก ก็คือผิงปู๋จิ้ว
อายุเจ็บสิบ แต่กลับให้ความรู้สึกว่าอายุมากแต่ก็ยังแข็งแรงกับคน
เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกหอจักรพรรดิเซียน
ฉายานาม ราชายา!
มาที่โรงพยาบาลกลางเมืองเจียงไห่ ก็เป็นไปตามที่ตัวของเขาบอก ส่งมอบยาให้กับเย่อู๋เทียน
ด้านหลังของเขา มีพวกชายหนุ่มในชุดสูทตามอยู่ และผู้ชายพวกนี้ยังถือกล่องบางอย่าง
ข้างในเต็มไปด้วยยาสมุนไพรจีนที่แพงที่สุดในโลก แต่ละชนิดมีราคาสูงมากแต่ขาดตลาด
เย่อู๋เทียนได้ยินเสียงของผิงปู๋จิ้ว ได้เดินออกมาจากห้องทำงานแล้ว
เฉินเหวินจิ้งก็ย่อมตามออกมาด้วย
วินาทีที่เห็นผิงปู๋จิ้ว ปากของเฉินเหวินจิ้งก็อ้าออกราวกับว่าสามารถยัดไข่เข้าไปได้
เหลือเชื่อมาก
ตาเฒ่าประหลาดของหอร้อยยาเมืองเจียงไห่ ผิงปู๋จิ้ว ไม่นึกเลยว่าจะมาส่งยาให้กับเย่อู๋เทียนด้วยตัวเอง!
นี่……
แต่วินาทีต่อมา การกระทำของผิงปู๋จิ้ว ก็ทำให้เฉินเหวินจิ้งตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก
หลังจากที่ผิงปู๋จิ้วเจอกับเย่อู๋เทียน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม คุกเข่าข้างหนึ่งด้วยท่าทางเคร่งขรึม และพูดคำนับว่า:
“ราชายา ผิงปู๋จิ้ว เข้าเฝ้าท่านเจ้าหอ!”
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ เย่อู๋เทียนไม่มีอารมณ์ที่จะพูดอะไรกับผิงปู๋จิ้วมากนัก
ยกมือขึ้น ก็บ่งบอกให้เขาลุกขึ้นมา
ต่อจากนั้น เย่อู๋เทียนเดินปล่อยอารมณ์ไปทางกล่องเหล่านั้น หลังจากที่เปิดออกมา ข้างในเป็นสมุนไพรจีนทั้งหมดที่เขาต้องการ
เย่อู๋เทียนชี้ไปที่ห้องผู้ป่วยที่เสิ่นรั่วชิงอยู่ และพูดอย่างราบเรียบว่า
“ขนวัตถุดิบยาทั้งหมดไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น”
ผิงปู๋จิ้วรับคำสั่งทันที
แต่กลับไม่คิดว่า วัตถุดิบยาเพิ่งถูกคนขนเข้ามาในห้องผู้ป่วย เย่อู๋เทียนไม่พูดอะไรเลยสักคำ ก็ปิดประตูห้อง
ผิงปู๋จิ้วนิ่งไปเล็กน้อย เบะปาก และพึมพำกับตัวเอง: “ท่านเจ้าหอ ยังเหมือนกับเมื่อเจ็ดปีก่อน เย็นชามากขนาดนั้น!”
ส่วนเฉินเหวินจิ้ง ยังคงตะลึงอยู่ที่เดิม และมองดูฉากนี้อย่างนิ่งอึ้ง
รู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่า เย่อู๋เทียน ลึกลับเกินไปแล้วจริงๆ ร่างกายของเขา ยังมีความลับเท่าไหร่กันแน่?
ภายในห้องผู้ป่วย เย่อู๋เทียนได้เริ่มจัดยาแล้ว
หลังจากจัดยาเสร็จแล้ว มาถึงข้างกายของเสิ่นรั่วชิงที่นอนอยู่บนเตียง มองดูใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยผ้าก๊อซ เย่อู๋เทียน เป็นทุกข์ดั่งใจโดนมีดกรีด!
ฤทธิ์ยาชาของเสิ่นรั่วชิงยังไม่หมด แต่กลับฟื้นขึ้นมา
มองไปทางเย่อู๋เทียน เสิ่นรั่วชิง น้ำตาไหลทั้งสองข้าง และถามด้วยเสียงเบาๆ: “จูนหลิน จูนหลิน เป็นยังไงบ้าง?”
เย่อู๋เทียนพูดด้วยความเป็นห่วงว่า: “จูนหลินไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังรักษาให้เธออยู่”
เสิ่นรั่วชิงก็สะอื้นร้องไห้
แม้ว่าเธอยังไม่ได้ส่องกระจก แต่เธอรู้ว่า
เธอเสียโฉมไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเสียโฉมอย่างสมบูรณ์มากๆแบบนั้น
เธอไม่กล้านึกย้อนถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนกลางวัน โดยเฉพาะฉากที่เย่จื่อหลงถือมีด กรีดลงใบหน้าของเธอทีละครั้ง
นั่นมันเป็นฝันร้ายชัดๆ!
เธอก็ไม่กล้าจินตนาการ ทุกอย่างที่จะต้องเผชิญต่อไป
แต่มีอย่างหนึ่ง เธอสามารถมั่นใจได้อย่างแน่นอน
ทุกคนในเมืองเจียงไห่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก็จะต้องหัวเราะเยาะเย่อู๋เทียน เพราะว่าความอัปลักษณ์ของเธอ
เธอทนไม่ได้
ดังนั้น เธอเพียงแค่พูดว่า: “พี่เทียน เรา……เลิกกันเถอะ”
เธอมองดูเย่อู๋เทียน น้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่ว ไหลลงมาจากหางตา และทำให้ผ้าก๊อซเปียก
หัวใจของเย่อู๋เทียนสะเทือนอย่างรุนแรง
เขากอดเสิ่นรั่วชิงไว้ในอ้อมกอด และสัญญาอย่างนุ่มนวล
“รั่วชิง ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ฉันก็ไม่มีทางรังเกียจเธอ ไม่มีทางเสียใจไปตลอดชีวิต!”
เสิ่นรั่วชิงกัดฟันแน่น พยายามไม่ให้ร่างกายสั่นเทา
แต่กลับไม่สามารถควบคุมมันได้เลยด้วยซ้ำ
ราวกับว่าวินาทีนี้ ปมในใจของเธอนั้น ก็ได้คลี่คลายออกด้วยความอ่อนโยนของเย่อู๋เทียนในที่สุด
เสิ่นรั่วชิงไม่ได้พูดอีก และได้แต่แอบสาบานในใจ
จากนี้ไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะยืนเคียงข้างเย่อู๋เทียน
ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่คู่ควรกับเขา
ก็ต้องไล่ตาม
สักวันหนึ่ง จะต้องปกป้องเขาเหมือนอย่างที่เขาปกป้องตัวเองอย่างแน่นอน
เย่อู๋เทียนค่อยๆเช็ดน้ำตาของเสิ่นรั่วชิงอย่างอ่อนโยนมากๆ
“รั่วชิง ต่อไป ฉันต้องเปิดผ้าก๊อกของเธอออก และทายาที่ฉันจะจัดเตรียมไว้แล้ว ฉันรับรอง ภายในหนึ่งอาทิตย์ เธอจะต้องกลับหน้าเหมือนเดิม!”
แม้ว่าเสิ่นรั่วชิงจะรู้จักฐานะของเย่อู๋เทียนเมื่อเจ็ดปีก่อน แต่สำหรับเย่อู๋เทียนในตอนนี้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เมื่อได้ยินคำสัญญาแบบนี้ของเย่อู๋เทียน เธอแทบไม่อยากเชื่อเลย
เธอพูดอย่างอ่อนแอว่า: “จริงเหรอคะ?”
เย่อู๋เทียนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า: “สัญญาสิบปีมาถึงแล้ว ฉันยังจะแต่งงานกับเธออย่างเป็นทางการ ไม่มีทางหลอกเธออย่างแน่นอน”
เสิ่นรั่วชิงถึงได้ผ่อนคลายลงมา และปล่อยให้เย่อู๋เทียนเปิดผ้าก๊อกบนใบหน้าของเธอออก
ส่วน…….
กลับมาหน้าเหมือนเดิม?
เสิ่นรั่วชิงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ยังเลือกที่จะเชื่อเย่อู๋เทียน
ต่อให้สุดท้ายหน้าจะไม่เหมือนเดิม……
น่าเกลียดมาก แล้วยังไง?
ขอแค่เขาไม่รังเกียจตัวเอง ตัวเองก็เต็มใจทำทุกอย่าง ถึงแม้ว่าจะต้องทนทุกข์จากสายตาที่เยือกเย็นที่เฉียบแหลมที่สุดในโลก
ในชั่วพริบตา หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่เสิ่นรั่วชิงมีความสุขที่สุดในชีวิต
แม้ว่าเธอกับเย่อู๋เทียนจะแยกจากกันเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว แต่ในสัปดาห์นี้ กลับเหมือนว่าจะหวนคืนสู่ตอนนั้น
การดูแลของเย่อู๋เทียนที่มีต่อเธอ เอาใจไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
อยู่เคียงข้างเธอทุกวัน เธอตื่น ก็พูดคุยกับเธอ เธอเหนื่อย ก็กล่อมเธอนอนหลับ
ตราบใดที่เธอตื่นขึ้นมา ต้องเห็นใบหน้าอ่อนโยนของเย่อู๋เทียน
และสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นข้างนอก
แวดวงอันดับต้นๆของโลก ปกคลุมไปด้วยหมอกควันแห่งการสังหาร และยังคงอยู่เป็นเวลานานไม่หายไป
จนถึงวันนี้ มีคนถูกฆ่าไปแล้วสามสิบเจ็ดคน
ทั้งหมดเป็นบุคคลที่มีอำนาจและผู้อิทธิพลยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของโลกโดยไม่มีข้อยกเว้น
นอกจากบุคคลเหล่านี้แล้ว ยังมีมหาอำนาจของโลกบางคนด้วย…….
แม้จะซ่อนตัวอยู่สุดขอบฟ้า ก็หนีความตายไม่พ้น!
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
ความหวาดกลัวต่อความตาย ยังคงแผ่ซ่านไปทั่วทุกมุมของแวดวงชั้นนำของโลก
การเข่นฆ่า กลับไม่มีทีท่าจะหยุด!
ทั่วทั้งโลก สั่นสะเทือนกับมัน!
ทุกประเทศทั่วโลก คลั่งไคล้ข่าวที่บุคคลที่มีอำนาจและผู้อิทธิพลคนไหนตายโหงทุกวัน!
เพราะโดยไม่มีข้อยกเว้น หลังจากที่คนเหล่านี้เสียชีวิต บ้านของพวกเขา ไม่ค้นพบหลักฐานที่ต่อต้านกับประเทศหลง ก็ค้นพบสมบัติของชาติที่สูญหายของประเทศหลง!
ดังนั้น หัวหอกของทั่วโลก จึงชี้ไปที่ประเทศหลงทั้งหมด!
ชั่วขณะหนึ่ง ประเทศหลง ก็ยืนอยู่ในการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมที่โหดร้าย!
เรื่องนี้ แม้แต่ฝ่าบาทผู้สูงส่งของประเทศหลง ก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากความคิดเห็นของสาธารณชนได้ ต้องมาที่เมืองเจียงไห่ด้วยตัวเอง และหาเย่อู๋เทียน
สีหน้าของชายชราเคร่งขรึม แต่กลับถามเย่อู๋เทียนประโยคเดียว
“ฆ่าพอหรือยัง?”
เย่อู๋เทียนตอบแค่ประโยคเดียว
“ฉันกำลังเคี่ยวโจ๊กให้ภรรยาของฉัน เรื่องนี้ รอตอนที่จัดการงานประชุมสุดอำนาจ ค่อยพูด”
ชายชราถอนหายใจอย่างหนักๆ
“อู๋เทียน นายทำแบบนี้ จะเกิดเรื่องใหญ่ได้ สันติภาพคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในทุกสิ่ง! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็เอาสิ่งที่ยึดไป คืนกลับมาหมดแล้ว!”
เย่อู๋เทียนตักโจ๊กช้อนหนึ่ง ชินคำหนึ่ง ใบหน้าก็มีรอยยิ้มจางๆ
“ไปเอาน้ำตาลมาให้ฉัน ภรรยาของฉัน ชอบกินโจ๊กหวาน”