จอมนักรบอหังการ - บทที่ 66 ความรู้สึกของเธอ ล้นทะลักออกมา
จอมนักรบอหังการ บทที่ 66 ความรู้สึกของเธอ ล้นทะลักออกมา !
เสียแขนทั้งสองข้าง ขาทั้งสองข้างขาด !
ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสค่อย ๆ กล้ำกราย สีหน้าของเย่จื่อหลงบูดเบี้ยวจนแทบดูไม่ได้
แต่ว่า…..
มันกลับไม่สามารถกลบเกลื่อนสีหน้าตกตะลึงและตื่นกลัวของเย่จื่อหลงได้ !
เขาคิดไม่ถึงมาก่อนเลย !
ชายที่อยู่ตรงหน้า ที่แท้ก็คือเย่อู๋เทียน !
หรือก็คือ ทุกคนต่างก็ถูกเย่อู๋เทียนหลอกมาตั้งแต่แรก !
ผู้นำประเทศแห่งสหพันธ์ระหว่างประเทศ !
ทหารแห่งสหพันธ์ระหว่างประเทศ !
ทุก ๆ คน !
ล้วนถูกเย่อู๋เทียนหลอกกันหมด !
ที่น่าตลกที่สุดก็คือ !
คนในสหพันธ์ระหว่างประเทศที่ต้องการฆ่าเย่อู๋เทียน !
ตอนนี้ ล้วนถูกเย่อู๋เทียนหลอกให้เข้าไปขุมที่สิบสามอาคารจินเม่า
เย่อู๋เทียน จะกำราบพวกเขาทุกคน….
ไม่ให้เหลือ !
บ้าไปแล้ว !
นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว !
และที่น่ากลัวที่สุด……
ไม่คาดคิดว่าเย่อู๋เทียน จะทำให้เขาเย่จื่อหลงพูดถึงถังเจิ้งเฟิงออกมา !
วิหารจอมเทพวางแผนมานานหลายปี
กว่าถังเจิ้งเฟิงขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งอัครเสนาบดีประเทศหลงได้
แต่ว่าในตอนนี้ ทุกอย่างล้วนเหลือแต่ความว่างเปล่า !
เย่จื่อหลง เบิกตากว้าง มองแววตาของเย่อู๋เทียน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น !
“เย่อู๋เทียน……”
“แก กล้าปลอมเป็นหัวหน้าสิบสองผู้พิทักษ์แห่งวิหารจอมเทพ !”
“ช่างรนหาที่ตายเหลือเกิน !”
เย่อู๋เทียนก้มมองลงมาที่เย่จื่อหลง
“หรือว่าตอนนี้นายยังคิดว่า ตาแก่ปีศาจแดงยังไม่ตายงั้นหรือ ?”
“มันตายไปตั้งเจ็ดปีแล้ว !”
“สิบสองผู้พิทักษ์รุ่นก่อน ตายกันไปหมดตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อนแล้ว !”
“ตอนนั้น ฉันเป็นคนบิดหัวพวกมันเองกับมือ !”
เย่จื่อหลงร่างกายสั่นเทา คำรามออกมาเสียงดัง
“เป็นไปไม่ได้ !”
“สิบสองผู้พิทักษ์รุ่นก่อนจะมาตายด้วยฝีมือแกได้ยังไง ?”
“เมื่อเจ็ดปีก่อน พวกเขาห่างกับพลังตันสุดขอบแค่ครึ่งส่วนเท่านั้น !”
เย่อู๋เทียนหัวเราะในลำคอ ยกเท้าขึ้นเหยียบบนท้องของเย่จื่อหลง
“ถ้าอย่างนั้นแกรู้รึเปล่า เหนือพลังตันสุดขอบขึ้นไป คือแดนอะไร ?”
“นายรู้รึเปล่า พลังตันชั้นยอด กับพลังตันขั้นสูงสุด ห่างกันแค่ไหน ?”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น เย่อู๋เทียนออกแรงที่เท้าขนาดมหึมา เหยียบทำลายลงไปยังจุดตันเถียนของเย่จื่อหลง !
เย่จื่อหลงเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส !
เย่อู๋เทียน…….
ไม่ใช่แค่ทำลายแขนและขาทั้งสองข้างของเขา แต่ยังเหยียบทำลายจุดตันเถียนของเขาด้วย !
ความน่ากลัวกำลังเยื้องกรายเข้ามา !
เย่จื่อหลงรับรู้ได้เพียง กระแสลมปราณในร่างกายของตนราวกับกำลังถูกมีดนับพันเชือดเฉือน !
ขณะเดียวกัน เส้นเลือดทั้งร่างถูกราดด้วยน้ำปรอท !
ความเจ็บปวดนี้ ยิ่งกว่าความเจ็บปวดจากแขนขาขาดหลายสิบเท่า
แต่ถึงอย่างนั้น ภายใต้การกระทำของเย่อู๋เทียนนี้ เย่จื่อหลงยังคงได้สติอยู่
ซึ่งนั่นก็คือ เย่จื่อหลง เหมือนกำลังตกอยู่ในนรกทั้งเป็น !
เขาได้รับการพิพากษาจากนายยมบาล !
ในวินาทีนั้น เย่จื่อหลงราวกับกำลังพบเจอกับการลงโทษที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก
ดวงตาเบิกกว้างมอง รับรู้ได้ถึงเส้นลมปราณในร่างกายแข็งราวกับเหล็กเส้น อ่อนนุ่มราวกับเส้นหมี่ !
เขา !
เย่จื่อหลง !
มีวรยุทธ์ถึงพลังตันชั้นยอด !
ไม่คาดคิดว่าจะถูกเย่อู๋เทียน ทำร้ายได้อย่างทารุณขนาดนี้
พลังทั้งหมดภายในร่างกายของเขา สลายหายไปจนหมดสิ้น !
กลายเป็นคนไร้ความสามารถคนหนึ่ง !
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าว่าแต่เป็นการยากที่จะเข้าสู่เส้นทางนักบู๊เลย แค่ให้ยืนขึ้น หรือแค่ใช้ชีวิตในยามปกติก็เป็นปัญหาแล้ว !
นี่ยังทรมานยิ่งกว่าการฆ่าเขาให้ตายเป็นร้อยเท่า !
เย่อู๋เทียนมองเย่จื่อหลงอย่างเย็นชา ไม่ใจอ่อนเลยแม้แต่นิดเดียว กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็นว่า
“แกไม่สมควร มาแตะต้องภรรยาและลูกของฉัน !”
เย่จื่อหลงได้ยินคำพูดนั้น ราวกับได้ยินเสียงจากนรก
อั่ก !
เลือดสีดำกระอักออกมาจากปาก
ร่างกายล้มลงพื้น
ช่างน่าเวทนายิ่งนัก !
ในวินาทีนี้ เรี่ยวแรงที่จะให้เย่จื่อหลงพูดออกมาสักคำก็ไม่เหลือแล้ว
ใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ
น้ำเสียงอันเยือกเย็นของเย่อู๋เทียนดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันเคยบอกไปแล้ว ฉันจะไม่ให้แกตาย แต่จะให้แกใช้ชีวิตต่อไป ต่อให้แขนขาดไปทั้งสองข้าง ก็ไม่มีวันเข้าใจความโกรธแค้นของฉันได้หรอก !”
“ตั้งแต่วันนี้ไป แกจะกลายเป็นมดที่ไร้แขนขา แม้แต่แรงจะฆ่าตัวตายก็ไม่มี !”
“นี่คือสภาพที่แกมาทำร้ายภรรยาและลูกของฉัน !”
ดวงตาของเย่จื่อหลงเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า
อ้าปากกว้าง !
แต่กลับไม่มีเสียงร้องออกมา !
ยอดฝีมือนับร้อยที่อยู่บนตึกโดยรอบมองเห็นฉากนี้เข้า ต่างก็เงียบสนิท
พลังตันชั้นยอด……
ต่อหน้าท่านเจ้าหอเย่อู๋เทียน…..
ราวกับปลาที่อยู่บนเขียง ที่รอการถูกเชือด !
หอจักรพรรดิเซียน……
ท่านเจ้าหอ เย่อู๋เทียน !
ประเทศหลง…..
เย่ชิงตี้ !
ดินแดนแห่ง…..
นายยมบาลเย่ !
ฉายานามและชื่อเสียงที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน !
ในโลกใบนี้ มีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะรู้ ว่าแท้จริงแล้วมันหมายถึงอะไร !
เย่อู๋เทียน !
ทั่วทั้งใต้หล้า ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้
ในโลกใบนี้ ฉันคือผู้ทรงเกียรติแต่เพียงผู้เดียว !
นั่นก็คือ นายยมบาลชิงตี้ เย่อู๋เทียน !
ณ ที่แห่งนี้ ยังมีอีกคนหนึ่งที่กำลังเฝ้ามองฉากนี้อยู่
ชุดสีขาวราวกับหิมะ
โล่หวาง
ก่อนหน้านี้ เธอคิดว่า การที่เย่จื่อหลงปรากฏตัวขึ้น คือหายนะต่อเมืองเจียงไห่ !
สำหรับทุกคนที่อยู่ในประเทศหลง !
รวมถึงสามีของนาง !
ล้วนคิดว่านี่คือหายนะที่เกินจะคาดคิด !
เพราะว่าการที่เย่จื่อหลงปรากฏตัวขึ้น ถือเป็นการตัดแขนข้างหนึ่งของเฉาหยางจ้าน !
ลูกคลื่นแห่งอำนาจ !
ราวกับปีศาจที่มาเยือนโลกมนุษย์ !
จากนั้น โล่หวางจึงรีบไปรายงานให้กับแผนผังร้อยแม่ทัพให้รับทราบทันที !
นางคิดว่าลำพังกรมทหารเจียงไห่ ต่อให้ใช้กำลังทหารทั้งหมด ก็ไม่สามารถต่อกรกับเย่จื่อหลงได้ !
ตอนนี้……
เหล่าแผนผังร้อยแม่ทัพทั้งหมดกำลังเคลื่อนพลมา
โล่หวางกลับไปยังที่มั่นก่อน โดยคิดเอาไว้ว่า ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย !
แต่ไม่คาดคิด ว่าเมื่อสักครู่นี้…….
ผู้นำเหล่าสิบสองผู้พิทักษ์แห่งวิหารจอมเทพจะปรากฏตัวขึ้น !
สิ้นหวังแล้ว !
สิ้นหวังแล้วจริง ๆ !
แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ตัดสินใจแล้ว !
ต้องต่อสู้ !
ต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย !
ทว่าภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า กลับทำให้นางต้องรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง
ผู้นำของเหล่าสิบสองผู้พิทักษ์แห่งวิหารเทพ ปีศาจแดง !
กลับเป็นเย่อู๋เทียนที่ปลอมตัวมา !
อีกทั้ง ต่อหน้าเย่อู๋เทียนนั้น
เย่จื่อหลง…….
สภาพที่แม้แต่มดตัวหนึ่งก็ไม่เหมือน
ขณะนั้น โล่หวางมองแววตาของเย่อู๋เทียนด้วยความศรัทธาอันบ้าคลั่ง !
ในใต้หล้านี้ ไม่มีใครอีกแล้ว
ที่สามารถทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นได้เท่านี้
ทำให้ใจของนางเต้นโครมคราม
ตนนั้นเป็นดั่งไข่มุกในมือของฝ่าบาทในประเทศ….
แววตาของโล่หวางนั้น มีแต่ความทะนงตน !
แต่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน นางกลับยินยอมที่จะเป็นแค่ตัวประกอบคนหนึ่ง !
นี่คือสิ่งที่โล่หวางหวังให้เป็นความจริง
เพราะก่อนหน้านี้ นางเคยหวังลม ๆ แล้ง ๆ อยากจะเป็นภรรยาของเย่อู๋เทียน
แต่ในตอนนี้ โล่หวางเพิ่งจะตระหนักได้
ว่าตนเองไม่คู่ควรกับเขาเลย !
ไม่ใช่แค่นางไม่คู่ควรกับเขาเท่านั้น กระทั่งทั้งในใต้หล้า ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหน ล้วนไม่คู่ควร !
เพราะความรู้สึกของเขาที่มีต่อโล่หวาง ไม่คล้ายกับคน ๆ หนึ่ง
แต่เป็น……
เทพนาย !
ในตอนนี้ !
เย่จื่อหลง
สุดท้ายก็ทนความเจ็บปวดตามทุกรูขุมขนทั่วร่างไม่ไหว
เป็นลมหมดสติไป !
เย่อู่เทียนไม่แม้แต่จะมองเขา หันกลับไป สายตาเหลือบไปเห็นใบหน้าของโล่หวาง
สีหน้าอันเย็นชาก็ฉายแววความอ่อนโยน
แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความสงสัย
พูดอย่างราบเรียบออกมาว่า
“หวางเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ให้จ้านหยางบอกเธอหรือ ว่าให้เธอไปปกป้องความปลอดภัยคนของรั่วชิงน่ะ ? แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?”
โล่หวางไหล่กระตุก
ในใจเต็มไปด้วยความสับสน มีเรื่องทุกข์ทรมานที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ภายในจิตใต้สำนึก จู่ ๆ ก็มีภาพของเสิ่นรั่วชิงแวบเข้ามา
โล่หวาง สีหน้าราบเรียบ
เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออก !
เสิ่นรั่วชิง นอกจากหน้าตาดี และเพื่อคลอดลูกชายให้แก่เย่อู๋เทียนแล้ว ทำไมถึงไปอยู่ในใจของเย่อู๋เทียนได้ มีตำแหน่งอะไรสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ ?
เสิ่นรั่วชิง คู่ควรงั้นหรือ ?
สุดท้ายแล้วโล่หวางก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
ในสายตาของเธอนั้น มีเพียงแค่เย่อู๋เทียนคนเดียว
ในความคิดของนาง แม้แต่พ่อแม่ ก็ไม่ได้สำคัญเท่าเย่อู๋เทียน
ไม่อย่างนั้น ตอนที่เธอตั้งมั่นอยู่ทางตอนเหนือตั้งเจ็ดปี คงไม่เพียงแค่ได้ยินว่าเย่อู๋เทียนกลับมาแล้ว จะรีบมายังเจียงไห่เพื่อพบเขาทันทีหรอก !
ความรู้สึกนี้ ไม่ว่าใครก็ดูออก !
โล่หวางนั้นแอบชอบเย่อู๋เทียนมาตั้งนานแล้ว !
สถานะของเธอ ความภาคภูมิใจของเธอ
จะมายอมอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าได้ยังไง……
ให้ไปปกป้องความปลอดภัยคนของเสิ่นรั่วชิง ?
จนกระทั่งตอนนี้…….
โล่หวางยังคงคิดที่จะดื้อรั้น
เสิ่นรั่วชิง ไม่คู่ควรกับเย่อู๋เทียน !
แม้ว่า เสิ่นรั่วชิงจะคลอดลูกชายให้เย่อู๋เทียนก็ตาม !
แน่นอนว่าโล่หวางไม่มีทางเป็นศัตรูกับเสิ่นรั่วชิง เพียงแต่คิดว่า จะให้เธอปกป้องเสิ่นรั่วชิงงั้นหรือ ?
เธอไม่ยอมลดตัวลงไปทำอย่างนั้นแน่นอน !
โล่หวางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ น้ำเสียงสั่นเทา
“ฉันส่งคนไปปกป้องแล้วล่ะ”
พูดแค่นี้ โล่หยางก็รวบรวมความกล้า พูดต่อไปอีกหนึ่งคำว่า
“นายอยากให้ฉันปกป้องนาง ในใจของฉัน ไม่รู้สึกสบายใจ”
เย่อู๋เทียนค่อย ๆ ขมวดคิ้ว
“ทำไมหรือ ?”
“เธอเป็นศิษย์น้องของฉัน การปกป้องซือเนี๊ย ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ควรทำหรอกหรือ ?”
ซือเนี๊ย ?
ขณะนั้นโล่หวางก็รู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
มองไปยังเย่อู๋เทียนไม่กะพริบตา
ริมฝีปากค่อยๆ แดงขึ้น…..
ความรู้สึกของเธอ ล้นทะลักออกมาแล้ว !