จอมนักรบอหังการ - บทที่ 91 คุกเข่า นายไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
จอมนักรบอหังการ บทที่ 91 คุกเข่า? นายไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!
ทุกคนในตระกูลหวง เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของถังเลี่ย ทุกคนดวงตาเป็นประกาย
เนื่องจากถังเลี่ยเป็นคนที่ถังปู้ฝันพาตัวมา
ความแข็งแกร่งจะต้องน่ากลัวถึงขีดสุด
หากหมัดนี้กระทบที่หน้าอกของเย่อู๋เทียน จะต้องทำให้เขากระอักเลือดเป็นลิตรแน่!
วินาทีต่อมา ทุกคนในตระกูลหวงล้วนตกตะลึง
พวกเขาเห็นว่าถังเลี่ยไม่แม้แต่จะเข้าใกล้ร่างของเย่อู๋เทียนด้วยซ้ำและกลับกระเด็นลอยห่างออกไปสิบเมตร
บูม!
ร่างของเขาชนเข้ากับประตูหินอ่อนสีขาวอันงดงามของจวนทะเลหมอก
ประตูของจวนทะเลหมอก
แตกออกเหมือนใยแมงมุมทันที
จากนั้น ชายชราในชุดถัง ถังเลี่ย ก็แขวนค้างอยู่บนผนังประตูเป็นเวลาสองถึงสามวินาทีก่อนที่จะล้มลงกับพื้น
ทุบตีคนราวกับแขวนภาพประดับ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น!
ถังเลี่ยที่ล้มลงกับพื้น ไม่มีเวลาแม้แต่จะกุมหน้าอกของตนก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากอย่างแรง
แกนหลักอวัยวะภายในทั้งหมดส่งความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ราวกับว่าพวกมันถูกทำลายจนสิ้น
ถังเลี่ยกระอักเลือดออกมา จนไม่มีแม้กระทั่งเวลาจะมาตกใจ!
อีกทั้ง ในตอนนั้น
เขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเย่อู๋เทียนทำได้อย่างไร แต่กลับมาลงเอยแบบนี้ไปแล้ว
เมื่อคนในตระกูลหวงเห็นดังนั้นก็ล้วนตกตะลึงตาค้าง
และในเวลานี้เอง
บอดี้การ์ดของถังปู้ฝันที่ติดตามเขามาทั้งหมดก็หยิบปืนพกออกมาและเล็งไปที่เย่อู๋เทียน
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ตกใจสุดขีด
ต้องรู้ก่อนว่า
ถังเลี่ยเป็นหนึ่งในผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดสิบอันดับแรกของตระกูลถัง
ศิลปะการต่อสู้ของเขาได้มาถึงระดับที่หาที่เปรียบไม่ได้มานานแล้ว!
มาตอนนี้ เขาอ่อนแอขนาดนี้ได้อย่างไร?
ที่มาของคนผู้นี้ที่ทำร้ายท่านถัง เป็นอย่างไรกันแน่?
ความแข็งแกร่งของเขา…
น่ากลัวไปถึงขั้นไหนแล้ว?
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์นี้
แม้ว่ากลุ่มบอดี้การ์ดจะถือปืน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว
พวกเขารู้ว่า
ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดบางกลุ่ม
อาวุธปืน
ก็ไม่ต่างจากเศษเหล็ก!
ถังปู้ฝันกลับสงบกว่ามาก
แม้ว่าจะไม่คาดคิดอยู่บ้างว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
แต่…
แล้วยังไงกัน?
ตัวตนของถังปู้ฝันคือใคร?
ปู่ของเขาถังเจิ้งเต๋อ เป็นถึงน้องชายแท้ๆ ของผู้บัญชาปกครองชายแดนของประเทศหลง!
ตั้งแต่เล็กจนโต
มีฉากใหญ่แบบไหนบ้างที่ถังปู้ฝัน ไม่เคยเห็น?
สถานการณ์ที่ทุกคนต่างตะลึง ถังปู้ฝันก็แค่หัวเราะเบาๆ ขึ้นเท่านั้น นั่นคือทั้งหมด
เมื่อเห็นว่าถังปู้ฝันยังคงสงบมาก ทุกคนในตระกูลหวงก็แอบประหลาดใจ สมแล้วที่เป็นทายาทของตระกูลถังแห่งตี้ตู
ถึงกับยังมั่นคงได้ขนาดนี้
มองไปยังทั่วโลก จะมีใครสู้ได้?
ในเวลานี้ เย่อู๋เทียนยังไม่ได้วางสายของฝ่าบาทผู้สูงส่ง
เสียงของฝ่าบาทผู้สูงส่งดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
“อู๋เทียน เกิดอะไรขึ้นทางนั้น? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เย่อู๋เทียนตอบกลับเรียบๆ
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่พวกมดไม่มีตาก็เท่านั้น”
ฝ่าบาทผู้สูงส่งถึงค่อยโล่งใจ
เขาถอนหายใจและพูดต่อ
“ทำไม จากความหมายของนายเมื่อกี้ นายไม่เห็นด้วยที่ฉันจะรับรั่วชิงเป็นน้องสาวบุญธรรมงั้นหรือ?”
เย่อู๋เทียนอธิบาย
“นั่นเป็นสิ่งที่ดี ฉันจะไม่เห็นด้วยได้ยังไง?”
“ฉันแค่คิดว่า นายไม่จำเป็นที่จะต้องส่งของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ นอกจากนี้ นายยังส่งมันไปให้ตระกูลหวงอีกด้วย”
“นี่ยิ่งทำให้ฉันเกิดความยุ่งยากมากขึ้น”
ฝ่าบาทผู้สูงส่งตั้งคำถาม
“ทำไมล่ะ มีอะไรไม่เหมาะสมหรือเปล่า?”
“รั่วชิงสูญหายไปตอนเด็ก และเป็นตระกูลหวงที่เลี้ยงดูเธอ!”
“อย่างที่ทุกคนก็รู้ดี บุญคุณที่กำเนิดยังไม่เท่าบุญคุณเลี้ยงดู ฉันมาคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอะไร”
“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าวันมะรืนนี้ ฉันจะรับรั่วชิงเป็นน้องสาวบุญธธรมอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้ ใครก็ห้ามไม่ได้!”
เย่อู๋เทียนตอบกลับเรียบๆ
“เรื่องนี้ออกจะซับซ้อนอยู่เล็กน้อย แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็รอให้นายมาถึงวันมะรืนนี้แล้วค่อยว่ากันเถอะ ฉันวางสายก่อน”
ในระหว่างการสนทนาของเย่อู๋เทียนกับฝ่าบาทผู้สูงส่ง ถังปู้ฝันไม่ได้รบกวนเขา
พฤติกรรมดังกล่าวยิ่งน่าประทับใจขึ้นไปอีก
นี่คืออุปนิสัยที่ลูกหลานของตระกูลเศรษฐีควรมี
ส่วนสมาชิกในครอบครัวทั้งสามคนของหวงต้าไห่ ตอนนี้ได้ลงมาจากรถกระบะแล้ว
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่แค่มองฉากตรงหน้า
กลับเพียงพอที่จะทำให้คนต้องตะลึง!
นี่เพิ่งจะผ่านไปนานแค่ไหนกันเชียว?
เย่อู๋เทียนไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับใครกันแน่ ถึงได้ถูกคนถือปืนเล็งใส่มากขนาดนั้น!
ภรรยาของหวงต้าไห่ไหนเลยจะเคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน
เพียงชั่วครู่ เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
ใบหน้าของเสิ่นรั่วชิงเต็มไปด้วยความกังวล แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าเพื่อไปหาเย่อู๋เทียน
ถังปู้ฝันยังคงยิ้มให้เย่อู๋เทียน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและพยักหน้าน้อยๆ
“น่าสนใจ”
พูดไป ถังปู้ฝันก็ยื่นมือไปหาเย่อู๋เทียน
“สวัสดี ฉันชื่อถังปู้ฝัน”
“ที่นายทำเมื่อกี้ ฉันชื่นชมเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะไม่รู้ตัวตนของนาย แต่นั่นก็ไม่สำคัญ พวกเราเป็นเพื่อนกันดีไหม?”
เย่อู๋เทียนมองไปที่บอดี้การ์ดด้านหลังถังปู้ฝันและถามอย่างเย็นชา
“นายเป็นเพื่อนกับคนนี้แบบนี้เหรอ?”
ถังปู้ฝันตะลึงไปเล็กน้อยและหันไปสั่งบอดี้การ์ดหลายคน
“วางปืนลง ดูพวกนายที่ตกใจเอะอะขนาดนี้สิ น่าขายหน้า!”
บอดี้การ์ดจำนวนมากจึงวางปืนลง
ทันใดนั้น ถังปู้ฝันก็เห็นว่าเย่อู๋เทียนไม่มีความคิดจะจับมือกับเขา ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วดึงมือกลับ
เขาเอ่ยถาม
“สหาย นายชื่ออะไร?”
เย่อู๋เทียนดูเฉยเมยและไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามกลับ
“ถังเจิ้งเฟิง เป็นอะไรกับนายใคร?”
ถังปู้ฝันขมวดคิ้วเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้กล้าดียังไงมาเรียกชื่อลุงของเขาแบบนี้?
เขาเป็นใครกันแน่?
แต่ในเวลานี้ หวงหย่าเฟยก็ด่าเย่อู๋เทียนออกมาทันที
“เย่อู๋เทียน ท่านถัง ถังเจิ้งเฟิง เป็นถึงผู้บัญชาปกครองชายแดนแห่งประเทศหลงของพวกเราและเป็นลุงของนายน้อยถังด้วย!”
“นายกล้าดียังไงมาทำร้ายลูกน้องของนายน้อยถัง!”
เมื่อเผชิญกับเสียงโห่ร้องของหวงหย่าเฟย เย่อู๋เทียนก็ทำเพียงยิ้มเยาะและไม่พูดอะไร
ถังปู้ฝันที่ได้ยินหวงหย่าเฟยเรียกเย่อู๋เทียน
สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เย่อู๋เทียน?
ผู้ชายคนนี้ ชื่อของเขาคือเย่อู๋เทียน?
หวงหย่าเฟยสังเกตเห็นสีหน้าของถังปู้ฝัน ในใจก็แอบเยาะเย้ย
ดูเหมือนว่าถังปู้ฝันจะโกรธแล้วจริงๆ
เย่อู๋เทียน!
ไอ้สุนัขตัวนี้ ถึงกับกล้าทำร้ายถังปู้ฝันหลานชายของผู้บัญชาปกครองชายแดน!
ต่อให้มีอีกสิบชีวิต!
ก็ยังไม่เพียงพอที่จะขอขมาถังปู้ฝันด้วยซ้ำ!
ถังปู้ฝันมองไปที่หวงหย่าเฟยอย่างลนลาน เขาชี้ไปที่เย่อู๋เทียนและถามอย่างสั่นเทา “เธอเรียกเขาว่าอะไรนะ?”
หวงหย่าเฟยยิงฟันของเธอและพูดว่า “เย่อู๋เทียน เย่ที่แปลว่าใบไม้ อู๋เทียนที่แปลว่าไม่เห็นกฎเกณฑ์!”
ใครจะคิดว่า พอคำพูดนี้จบลง
ถังปู้ฝันที่สงบนิ่งมาตลอด กลับคุกเข่าลงให้เย่อู๋เทียนไปแล้ว
เขาค่อยเข้าใจแล้วว่า
ทำไมถังเลี่ยถึงโดนหมัดเดียวกระเด็น!
ที่แท้…
ชายตรงหน้า!
ก็คือเย่อู๋เทียน!
เจ้ายมบาลชิงตี้ เย่อู๋เทียน!
ถังปู้ฝันมองเย่อู๋เทียนอย่างสยองขวัญ น้ำเสียงของเขาสั่นเทาอย่างมาก
“ถัง ถังปู้ฝัน…เคา เคารพชิงตี้!”
“ไม่รู้มาก่อนว่าชิงตี้จะมาเยือน เมื่อครู่ปู้ฝันเสียมารยาทแล้ว โปรดชิงตี้…ให้อภัย!
ทุกคนล้วนตกตะลึงตาค้าง
ถังปู้ฝัน
หลานชายของผู้บัญชาปกครองชายแดน!
เป็นทายาทตัวจริงของตระกูลมหาเศรษฐี!
ทรงพลังเหนือใคร!
แต่ตอนนี้กลัวคุกเข่าให้เย่อู๋เทียน?
นอกจากนี้เขาเพิ่งเรียก เย่อู๋เทียนว่าอะไรนะ?
ชิงตี้?
อะไรกัน?
เย่อู๋เทียนมองไปที่ถังปู้ฝันอย่างเย็นชา
“นาย ไม่มีคุณสมบัติมาคุกเข่าให้ฉัน ลุกขึ้นแล้วไสหัวไป!”
ถังปู้ฝันรู้สึกเหมือนได้รับการนิรโทษกรรมทันที
“ขอบคุณ ขอบคุณชิงตี้ที่ไว้ชีวิต!”
พูดจบ ถังปู้ฝันก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทันที
ความตื่นตระหนกรุนแรงถึงขีดสุด จนไม่แม้แต่จะสนใจบอดี้การ์ดที่เขาพามา รวมถึงถังเลี่ยซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส
แค่ได้ยินคำว่าเย่อู๋เทียน ถังปู้ฝันก็ตกใจแทบตายแล้ว
ในช่วงเวลานั้น
ถังเจิ้งเฟิง ลุงของเขา
แม้แต่ทุกคนในตระกูลถัง ก็ยังอยู่ภายใต้การสอบสวนของกองทัพ
ว่ากันว่า นั่นเป็นเพียงเพราะคำพูดของเย่อู๋เทียน
ที่สงสัยว่าถังเจิ้งเฟิงเป็นคนทำให้ที่อยู่ของเย่อู๋เทียนรั่วไหลออกไปเมื่อเจ็ดปีก่อน!
ถังปู้ฝันเองก็ยังทนต่อการสอบสวนซ้ำๆ ของกองทัพไม่ไหว ดังนั้นเขาถึงต้องการมาที่เจียงไห่สักสองสามวัน
แต่คาดไม่ถึงว่า…
เย่อู๋เทียนจะอยู่ที่เจียงไห่!
ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับโดนตนไปหาเรื่องเข้าอีก!
ทันทีที่ถังปู้ฝันเหยียบขึ้นไปบนรถ เสียงของเฮลิคอปเตอร์ก็ดังขึ้นมาในอากาศ
หลังจากเฮลิคอปเตอร์ลงจอด
เฉียนจิ้งคุนก็ลงมาจากด้านบนอย่างเร่งรีบ
เมื่อเขามาถึงเย่อู๋เทียนก็คำนับอีกฝ่ายทันที
“จิ้งคุน ต้องขออภัยคุณเย่!”
“ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณและภรรยาของคุณมาที่จวนทะเลหมอก!”
“คุณเย่ อย่าได้โกรธเลย!”
“ทั้งหมดเป็นความผิดของจิ้งคุน!”
หวงเจี้ยนเย่และคนอื่นๆ ถึงค่อยเข้าใจแล้วว่า ราคาเริ่มต้นของวิลล่าที่หนึ่งพันล้านหยวนนั้นก็คือจวนทะเลหมอก
และเจ้าของที่แท้จริงก็คือ
เย่อู๋เทียน!
ในเวลานี้ ทุกคนต่างเงียบเป็นเป่าสาก
นั่นเพราะ สีหน้าของเย่อู๋เทียนนั้นไม่ได้ดูอารมณ์ดีเท่าไหร่จริงๆ
เดิมทีการพาพ่อตาแม่ยายมาดูบ้าน สมควรจะเป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุขมาก
ตอนนี้ดูเหมือนว่า…
จะเป็นเรื่องที่ทำให้คนไม่พอใจอย่างยิ่งแล้ว
เย่อู๋เทียนเหลือบไปที่เฉียนจิ้งคุนและหวงหย่าเฟย
เขาสั่งเฉียนจิ้งคุนอย่างไม่สบอารมณ์
“นำไข่มุกสีเขียวในมือของหวงหย่าเฟยมา”
เฉียนจิ้งคุนตกตะลึงไปเล็กน้อย
แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาก็เข้าไปคว้าไข่มุกสีเขียวจากมือของหวงหย่าเฟยทันทีและมอบให้เย่อู๋เทียน
ดวงตาของ หวงหย่าเฟย เบิกกว้าง
“เย่อู๋เทียน นายรู้ไหมว่ามันเป็นของใคร!”
“ฉันจะแต่งงานกับตระกูลโล่แห่งตี้ตูแล้ว นี่คือสินสอดที่ตระกูลโล่แห่งตี้ตู มอบให้กับตระกูลหวง!”
เย่อู๋เทียนหัวเราะ
“สินสอดที่ตระกูลโล่ให้ตระกูลหวงของพวกเธอ?”
“ได้ ถ้าเธอมีคุณสมบัตินั้น วันมะรืนนี้ ที่โรงแรมว่างไห่ เธอมารับมันไปเอง!”
“แต่ถ้าเธอไม่กล้าไป อย่างนั้นเธอและปู่ของเธอ รวมถึงครอบครัวของเธอทั้งหมดจงไสหัวไปออกจากเจียงไห่ซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกเธออีก!”