จอมนักรบอหังการ - บทที่237 เปลี่ยนหน้าเป็น “ฉีเซิงหยาง” !
จอมนักรบอหังการ บทที่237 เปลี่ยนหน้าเป็น “ฉีเซิงหยาง” !
จ้าวลี่หน้าทอดสายตามองความมืดของกลางคืนนอกหน้าต่างรถ พูดเสียงแผ่ว “จะหาอะไร ไม่หา ฉีเซิงหยาง……ในตอนนั้นมายั่วฉัน…..ความจริงฉันไม่เคยมีความรู้สึกอะไรกับเขาแม้แต่น้อย แต่มาตอนอยู่มหา’ลัย เขานั่งวาดรูปอยู่ริมบึงน้ำในโรงเรียน ตอนนั้นนึกบ้ายังไงไปมองเขาเข้า หลังจากนั้นก็ไม่รู้เป็นอะไร หลงเขาเสียแล้ว!”
พูดมาถึงนี่ จ้าวลี่หน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ มองกลับมาที่เย่อู๋เทียน พูดว่า “ฉันไม่สนละ คราวนี้ถ้าฉันก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ คุณต้องรับฉีซือซือไว้เป็นลูกสาวบุญธรรม!คุณต้องดีกับหล่อน ทุกวันอาทิตย์ต้องพาเขาไปกินห่านย่างหนึ่งครั้ง!ที่ฉันพาหล่อนไปกินเมื่อครั้งที่แล้วนั้น มันตั้งครึ่งปีมาแล้ว!มันแพงมาก ฉันที่เป็นแม่คนนี้ไม่เอาไหน คงทำได้แค่นี้เอง!”
เย่อู๋เทียนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง มองพูดกับเสิ่นรั่วชิงว่า “ไปร้านกว่างเต๋อโหลว กินห่านย่างกัน”
เสิ่นรั่วชิงไม่พูดอะไร เปลี่ยนเส้นทางรถไปร้านอาหารสไตล์กวางตุ้งกว่างเต๋อโหลว
แต่ในเวลานั้นเอง ฉีซือซือกุมมือจ้าวลี่หน้าขึ้นมาบีบแน่น พูดว่า “คุณแม่ หนูไม่ชอบกินห่านย่าง ที่หนูชอบมากที่สุดต้องหมี่ราดหน้าไข่มะเขือเทศที่คุณแม่ทำ”
จ้าวลี่หน้าสะดุ้งเหมือนถูกฟ้าผ่าใส่ กลั้นใจไม่อยู่ ปล่อยน้ำตาไหลร่วงพรู แต่กลับพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “วันนี้เราไปกินห่านย่างกันก่อน หมี่ราดหน้าไข่มะเขือเทศไว้พรุ่งนี้แม่ค่อยทำให้กิน นี่เพราะคุณอาเย่ของหนูตนนี้ตอนเด็ก ๆ เคยมาแกล้งแม่ กว่าจะหาตัวเขาก็แสนยากแสนเย็น แล้วจะไม่เล่นงานให้เขาจ่ายให้หนักในมื้อนี้หรือ?”
ฉีซือซืองุนงงเต็มใบหน้า “คุณอาเย่ดูเขาใจดีออก เขาจะไปรังแกแม่ตอนเด็ก ๆ ได้ยังไงกัน?แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้หนูก็แกล้งเย่จูนหลินทุกวัน เขาอยู่ต่อหน้าหนู ยังไม่กล้าพูดเสียงดังกับหนูเลย”
เย่จูนหลินกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ตรงที่นั่งข้างตำแหน่งคนขับ พูดออกมาเนือย ๆ ว่า “ข้าก็แค่ไม่อยากไปงี่เง่าเหมือนเด็กผู้หญิงอย่างพวกแกเองแหละ!”
ไม่ทันคิดเลยว่าแค่เพียงพูดขาดคำ ฉีซือซือที่นั่งอยู่หลังที่นั่งข้างคนขับนั้นถีบใส่พนักพิงหลังของที่นั่งข้างคนขับ
ปัง!
ขาที่ถีบใส่เข้าไปของฉีซือซือนั้น ทะลุเบาะพนักพิงออกไป!
เย่จูนหลินที่นั่งอยู่ข้างหน้า………
ตัวกระเด็นพุ่งตรงเข้าชนกระจกหน้ารถ!
ที่สำคัญ เย่จูนหลินชนเข้ากับกระจกหน้ารถแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้แรงจากการถีบของฉีซือซือเมื่อครู่นั้นลดลง
ตัวทั้งตัว พาเอากระจกหน้ารถ ปลิวออกไปไกลถึงสิบกว่าเมตร
แคร๊ชชช…!
รถ หยุดลงทันที
คนที่อยู่ในรถ รวมทั้งเย่อู๋เทียน ต่างตะลึงกันตาค้างปากอ้า
ฉีซือซือก็ตะลึงงงกับแรงถีบของตัวเองเมื่อครู่นี้
มันเป็นไปได้ยังไง?
จ้าวลี่หน้าผู้เป็นแม่ของฉีซือซือเอง ก็ยังคิดไม่ถึง มันเกิดแบบนี้ขึ้นได้ยังไง!
ก่อนหน้านี้ฉีซือซือก็ได้โดนสารพิษในโรงเรียน
ตามหลักแล้ว ฉีซือซือหลังจากโดนสารพิษ ร่างกายน่าจะอ่อนแอทรุดโทรมจึงจะใช่
ตอนนี้ ถีบทีเดียว ก็เล่นพาคนกระเด็นลอยไปได้?
และคนนั้น……
ยังเป็นลูกชายของเย่อู๋เทียน?
นี่…….
เป็นไปได้ยังไง!
ลูกสาวของตัวเอง ทำไมมีแรงพลังมหาศาลขนาดนี้?
เย่อู๋เทียนคืนสติกลับมาได้ก่อนเพื่อน แต่กลับไม่เห็นมีความห่วงใยในความปลอดภัยของเย่จูนหลิน แต่กลับมองไปที่ฉีซือซือ ถามว่า “เมื่อวานนี้ตอนที่หนูออกจากโรงพยาบาล มีคุณปู่แก่ ๆ คนหนึ่งที่ชื่อว่าผิงปู๋จิ้ว เอาของที่เหมือนท้อฟฟี่มาให้หนูหรือเปล่า?”
ฉีซือซือตอบไปอย่างงง ๆ “ให้นะมีให้ แต่หนูไม่กิน และก็ทิ้งไปแล้ว เพราะคุณแม่หนูห้ามไม่ให้หนูกินของที่คนอื่นให้มา”
“……”
เย่อู๋เทียนก็จึงได้เข้าใจ
พลังของฉีซือซือ ไม่ได้ถูกกักกดไว้
ตอนนี้ฉีซือซือ……..
ถ้าหล่อนต้องการ จะสามารถฆ่านักบู๊ในระดับพลังตันคนไหนก็ได้ในฉับพลัน!
เย่อู๋เทียนแค่นหัวเราะเสียงเศร้า
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเพราะตัวเองคิดไม่รอบคอบ!
และขณะนั้นเอง มีรถสปอร์ตคันหนึ่งพุ่งเข้ามาบนทางข้างหน้าในทันใด ตรงเข้ามาบดทับผ่านไปบนตัวของเย่จูนหลิน!
“โอ๊ะ!”
จ้าวลี่หน้าเห็นชัดในภาพเหตุการณ์นั้น สีหน้าซีดเผือด กรีดร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ
แต่ในนาทีนั้นเอง………
ก็ได้เห็น เย่จูนหลินคลานลุกขึ้นในทันที ชี้ไปที่รถคันที่เหยียบข้ามตัวเขาไปตะโกนด่าไปว่า “ไม่มีตาหรือไง?ไม่เห็นลูกของนายแกนอนอยู่ข้างหน้าแกนี่หรือ?”
พูดจบ เย่จูนหลินลุกลี้ลุกลนกวาดมองซ้ายมองขวา ไปหาโทรศัพท์มือถือของเขา
จ้าวลี่หน้าตาค้างเซ่อมองดูเหตุการณ์ที่เกิดข้างหน้านั้น
ในสมองโปร่งกลวง!
จ้าวลี่หน้าเกิดสงสัยอย่างรุนแรง นี่อาการป่วยของตัวเองเข้าขั้นโคม่า ขนาดเกิดประสาทหลอนแล้ว
ลูกสาวตัวเราเอง แค่ขาข้างเดียว ก็ถีบเอาเย่จูนหลินกระเด็นออกนอกรถไป
ตามมาติด ๆ ก็มีรถสปอร์ตคันหนึ่ง เหยียบทับตัวของเย่จูนหลินข้ามไป
หลังจากนั้น เย่จูนหลินก็ยืนขึ้นมาเฉยแล้วเดินหาโทรศัพท์มือถือของเขา?
ที่สุดสำคัญคือ เย่จูนหลินเพิ่งกระเด็นลอยออกไปนอกรถแล้ว
เย่อู๋เทียนกับเสิ่นรั่วชิงที่เป็นพ่อแม่ สีหน้าไม่ได้มีอาการห่วงกังวลเลยแม้แต่น้อยนิด!
เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์หรือ?
ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ!
ขณะนั้น เย่อู๋เทียนโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ ตะโกนเรียกเย่จูนหลินไปว่า “รีบกลัมาขึ้นรถ นี่มันเวลาเท่าไหร่แล้ว ยังมัวจะห่วงกับเครื่องโทรศัพท์ของเธออยู่อีก!”
เย่จูนหลินได้เจอโทรศัพท์แล้ว แต่เครื่องโทรศัพท์พังเสียหายหมด กลับมาถึงในรถแล้ว มองหน้าฉีซือซืออย่างเคียดแค้น พูดว่า “ฉีซือซือ คอยดูเถอะแก!”
ฉีซือซือปลิ้นตาหลอกใส่ สะบัดเสียงเชอะออกไป
มาถึงตอนนี้ จ้าวลี่หน้าปล่อยโฮออกมา
“ดูท่า โรคของฉันเข้าขั้นโคม่าแล้วเป็นแน่แล้ว!ฉันมีเกิดภาพหลอนในสภาพเป็นจริงแล้ว!”
เย่อู๋เทียนมองจ้าวลี่หน้าผ่าน ๆ เอ่ยปากพูดขึ้นมาเนิบ ๆ
“นี่ไม่ใช่ภาพหลอน”
จ้าวลี่หน้าปล่อยโฮลั่น
“นี่ไม่ใช่ภาพหลอนแล้วจะเป็นอะไร?ลูกสาวฉันขนาดไก่ยังไม่เคยฆ่า ตะกี้นี้แค่ขาเดียวก็ถีบลูกของคุณกระเด็นลอยไป ในสภาพความเป็นจริง จะเกิดขึ้นได้หรือ?”
“ฉันคงจะเข้าขั้นโคม่าแล้ว นี่ต้องเป็นภาพหลอน!”
“อาการฉันกำเริบรุนแรงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เตรียมชุดหน้าหนาวให้ลูกสาวของฉันเลย!”
“นี่ไม่ใช่ภาพหลอน”
เย่อู๋เทียนเกาหน้าผาก
ไม่รู้จะอธิบายให้ยังไงจ้าวลี่หน้าดี
และพอดีในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเย่อู๋เทียนก็ดังขึ้น
พอมองดู ก็เห็นเป็นของเหลียนซินหรู โทรฯ.เข้ามา
เย่อู๋เทียนเห็นแล้วก็ปวดหัว รับขึ้นฟัง ถามไปว่า “คุณครูเหลียน มีอะไรครับ?”
เหลียนซินหรูพูดว่า “คืออย่างนี้ พรุ่งนี้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายฤดูร้อน สถานที่คือสวนนิทรรศการนานาชาติแห่งเจียงหนาน คุณเป็นคุณพ่อของเย่จูนหลิน ถึงเวลาต้องมาเข้าร่วมงานให้ได้นะคะ”
เย่อู๋เทียนอึ้งเงียบไปหลายวินาที พูดว่า “ได้ครับ มาแน่ครับ”
เหลียนซินหรูหัวเราะแล้วพูดว่า “ดีคะ งั้นแค่นี้นะคะ”
พอเย่อู๋เทียนปิดโทรศัพท์ เสิ่นรั่วชิงที่อยู่ข้าง ๆ หงุดหงิดขึ้นมานิดหนึ่ง พูดว่า “ตอนนี้คุณกลายเป็นคนดังในกลุ่มผู้ปกครองแล้ว ถ้าคุณไปปรากฏตัวต่อหน้าพวกผู้ปกครองของนักเรียนพวกนั้น คงจะยุ่งยากมากนะ”
เย่อู๋เทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย จู่ ๆ ก็หยิบเอาโทรศัพท์ของจ้าวลี่หน้าขึ้นมาเปิดดู มองไปที่รูปของนักผจญเพลิงบนจอภาพ แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ ผมจะไปเข้าร่วมงานในนามของฉีเซิงหยาง ทั้งนี้ทั้งนั้น งานโอสถและการฝังเข็ม ก็จะจัดที่สวนนิทรรศการนานาชาติแห่งเจียงหนานในวันมะรืน หลบไม่พ้นอยู่แล้ว!”
พูดจบ เย่อู๋เทียน เปลี่ยนหน้าเป็นฉีเซิงหยาง
และในทันทีที่เขาเปลี่ยนหน้าไปเป็นฉีเซิงหยาง จ้าวลี่หน้าที่อยู่ข้าง ๆ อาการเปลี่ยนสงบลงในทันที