จอมนักรบอหังการ - บทที่241 หลิงฟ่างหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง!2
จอมนักรบอหังการ บทที่241 หลิงฟ่างหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง!2
ไม่เคยคิดถึงเลยว่า…..
ผู้ชายข้างกายของจ้าวลี่หน้านี้ เป็นคนเป็นมวย!
ตอนนี้ เย่อู๋เทียนหันกลับเดินไปยืนข้างหน้าชุยเสี่ยวหวี่ ยืนก้มมองพูดว่า “รถบ้านของแก จอดอยู่ไหน?”
ชุยเสี่ยวหวี่สดุ้งตกใจร้องไห้จ้า
เย่เทียนพูดเสียงเยือก “ข้าถามแกว่า รถบ้านแก อยู่ที่ไหน!”
ชุยเสี่ยวหวี่ตกใจเงียบเสียงไม่กล้าร้องไห้ มองไปที่หลิงเยี่ยนโดยสัญชาติญาณ “แม่!แม่!”
หลิงเยี่ยนลุกยืนขึ้นมาแล้ว คว้าดึงเอาชุยเสี่ยวหวี่ไปไว้ข้างหลังตัว ตาจ้องเขม็งที่เย่อู๋เทยน ร้องตะโกนลั่น
“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร?ฉันจะบอกให้ วันนี้แกตายแน่!”
พูดมาถึงนี่ หลิงเยี่ยนตะคอกใส่ไปที่ชุยโจวมู่
“แกโทรไปที่หลิงฟ่างเดี๋ยวนี้ บอกให้เขามานี่!”
ชุยโจวมู่ก็ได้ลุกยืนขึ้นมาแล้ว ชี้นิ้วไปที่เย่ฮู๋เทียน กัดฟันกรอด
“แกรอเดี๋ยวเถอะ อย่าหนีนะ อย่าหนีนะมึง ไอ้หนู!”
พูดพลาง เขาก็หยิบเอาโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์ไปหาหลิงฟ่าง
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย หรี่ตามองไปที่หลิงเยี่ยน แค่นเสียงหัวเราะออกจมูกพูดว่า “เจ้าเป็นผู้หญิงในบ้านตระกูลหลิง?”
หลิงเยี่ยนพูดเสียงลั่น “ตอนนี้รู้จักคิดกลัวหรือ?สายไปแล้ว!น้องชายฉันตอนนี้ก็อยู่ในสวนนิทรรศการนานาชาตินี้แหละ แกแน่จริงนักก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ต้องขยับ!ยืนเฉย ๆ อย่าขยับ!”
หลิงเยี่ยนวางท่าโหดเอาเรื่อง ทำเอาจ้าวลี่หน้าเห็นแล้วก็หวาดหวั่น
ถึงแม้จ้าวลี่หน้ารู้อยู่ว่า เย่เทียนเก่งกาจมาก แต่ก็รู้ดีถึงบ้านตระกูลหลิงเป็นอะไร
จ้าวลี่หน้าจึงรีบเดินไปที่ข้างหน้าเย่อู๋ทียน
“เย่….. ฉีเซิงหยาง พวกเรารีบไปเถอะ พวกคนบ้านตระกูลหลิงมีมือตีนมากมาย คุณ…..คุณสองมือคงยากจะไปสู้พวกสี่ตีนนะ และก็……”
ไม่รอให้จ้าวลี่หน้าพูดจบ เย่อู๋เทียนทำท่ายักไหล่
“ให้หล่อนไปตามคนมาเถอะ!”
ชุยโจวมู่ต่อโทรศัพท์ไปถึงหลิงฟ่างได้แล้ว
“ฮัลโหล หลิงฟ่าง ข้า พี่เขยเจ้านะ!”
“รีบมาที่หน้าประตูสวนนิทรรศการด้วย ข้ากับพี่สาวของเจ้า ถูกไอ้ชาติหมาแซ่ฉีคนนึงมันตีเอา!”
หลิงฟ่าง ที่เป็นฝ่ายใช้โทรศัพท์ฟากตรงข้ามพอได้ยินเข้า ขมวดคิ้วย่น ตอบสวนกลับไป
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
วันก่อนหลิงฟ่างถูกเย่อู๋เทียนถล่มหมดสภาพไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่เย่อู๋เทียนสั่ง ให้แจ้งต่อคนเชื้อสายตระกูลบ้านตระกูลหลิง ให้ไปขอขมากับเย่อู๋เทียน
แต่ตรงกันข้าม หลิงฟ่างกลับไปพูดต่อหน้าพลพรรคคนในเชื้อสายตระกูลหลิง กระพือข่าวใส่ไฟ
อีกยิ่งกว่านั้นยังนำเอาหัวของหลิงซื่อจงกับหลิงซื่อเห้า ไปวางไว้ต่อหน้าพลพรรคคนในเชื้อสายตระกูลหลิง
พูดคำเดียว
คนก็คือถูกเย่อู๋เทียนฆ่า พวกคุณก็ดูกันเองว่าจะเอายังไง!
วันนี้ หลิงฟ่างที่มาปรากฎตัวที่ศูนย์นิทรรศการนานาชาตินี้ ก็คือมาประชุมกับคนในเชื้อสายตระกูลหลิง ปรึกษาหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้
จะทำยังไงถึงจะฆ่าเย่อู๋เทียนได้!
ในขณะนี้ คนในเชื้อสายตระกูลหลิง กับหลิงฟ่าง ได้ปรึกษากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว!
พรุ่งนี้ ถ้าเย่อู๋เทียนขอเพียงให้กล้ามาเจียงหนานในงานโอสถและการฝังเข็ม ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่พวกเขาไม่มีใครคิดได้ถึง
เวลาณ ขณะนี้ เย่เทียนมาแล้วในสถานที่จัดงานงานโอสถและการฝังเข็ม อยู่ที่หน้าประตูสวนนิทรรศการนานาชาติ
ตอนนี้ ชุยโจวมู่ได้ตัดสายโทรศัพท์แล้ว
จ้องหน้ามองเย่อู๋เทียนอย่างเดือดดาล
ยังคงพูดย้ำคำที่พูดเมื่อตะกี้นี้
“ไอ้หนู มึงแน่จริงอย่าหนีนะ วันนี้กูจะให้มึงรับบทเรียนที่สอนให้รู้ว่า อะไรเรียกว่าอิทธิพล! ”
พอพูดเพิ่งจะจบ ก็มีคณครูผู้หญิงในคณะจัดงานเข้าค่ายฤดูร้อนนี้วิ่งเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกันหรือคะ?”
คุณคณครูผู้หญิงเห็นชุยโจวมู่กับหลิงเยี่ยนหลิงเยี่ยนโดนทำร้าย ก็รู้สึกตื่นวุ่นวายใจทำอะไรไม่ถูก
ชุยโจวมู่กับหลิงเยี่ยนก็ไม่ตอบอะไร เพราะกลัวเสียหน้า
แต่กลับเป็นเวลาขณะนี้ เย่เทียนกระชากดึงเอากระเป๋าถือของหลิงเยี่ยนมา ล้วงเอากุญแจรถออกมา
กดลงไป
บริเวณที่ห่างไปไม่ไกลนักก็ได้มีแสงวาบเตือนขึ้นมาของรถคันหนึ่ง
ท่ามกลางสายตาของทุกคน เย่อู๋เทียนเดินก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ไปถึงข้างรถคันนั้น
โครม!
ยกขาขึ้นถีบไป
รถเก๋งคันเบ้อเร่อบะร่า ก็ได้พลิกไปเหมือนจับหงายกระดองเต่าให้พลิกคว่ำไป
บรึม!
ในบริเวณ………..
เงียบเป็นตาย!
นับดูไปได้แต่ละคน ล้วนปากอ้าตาค้าง!
ขาเดียวเนี่ยนะ
ก็ถีบรถเก๋งทั้งคันพลิกหงายไปได้?
นี่ใช่คนนะ?
ชุยโจวมู่กับหลิงเยี่ยน งงมึนจากที่เห็นชัด ๆ
ทั้งสองมองออกเลยได้ว่า
เจ้าหนุ่มคนที่เป็นเพื่อนอยู่ข้าง ๆ จ้าวลี่หน้า รู้ได้ว่าเป็นคนเป็นมวย
แต่คิดไม่ถึงว่า ฝ่ายนั้นจะเก่งกาจถึงขนาดนี้!
แต่หลิงเยี่ยนตื่นใจส่วนตื่นใจ คิดแต่ความเก่งกาจของของหลิงฟ่าง ก็เลยกลับแสยะยิ้มออกมา
“เจ้าหนู!แกอยากโชว์ก็โชว์ไป!รอเดี๋ยวน้องชายข้ามา แล้วแกจะรู้สึก ทำไมเขาถึงบอกว่าทางสวรรค์ไม่มีทางให้เดิน จะไปนรกก็ยังไม่มีทางให้ไป!”
เย่อู๋เทียนแค่นหัวเราะเสียงฮึ
“ใช่มั้ง?”
พฤติกรรมที่ทำลงไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาของเย่อู๋เทียน ทำเอาคุณครูหญิงที่จะเข้ามาเคลียร์ปัญหา ตกใจจนไม่กล้าปริปาก
ทว่า เย่อู๋เทียนก็ยังเดินไปหาคุณครูผู้หญิง ชี้แจงกันต่อหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ชุยเสี่ยวหวี่ไปขูดรถของบ้านผม แล้ยังสบประมาทใส่แม่ของลูกสาวผม หลังจากพ่อแม่เขามารับรู้ ไม่เพียงไม่ยอมมีทีท่าจะขอโทษ กลับสบประมาทใส่หนักขึ้นไปอีก เรื่องทั้งหมด ก็เป็นแบบนี้แหละ!”
คุณครูผู้หญิงอ้าปากค้าง ยืนเซ่อพูดอะไรไม่ออกสักคำ
หลิงเยี่ยนตาเขม็งจ้องใส่เย่อู๋เทียน
“เอาเลย แกก็ว่าไปเลย รอเดี๋ยวน้องชายข้ามา ยังมีเวลาให้แกรัองไห้หรือเปล่า!”
ยังไม่ทันคิด พอพูดคำนี้จบ ภายในสวนนิทรรศการ ก็มีรถสปอร์คันหนึ่งวิ่งออกมา
หยุดจอดที่หลังประตูทางเข้า ที่ลงจากรถถ้าไม่ใช่หลิงฟ่าง แล้วจะเป็นใครได้อีก
นอกจากหลิงฟ่าง
ยังมีผู้ชายตามลงมาจากรถอีกคนหนึ่ง
คนผู้นี้ชื่อหลิงซื่อคุน
บนทำเนียบยอดฝีมือของคนเชื้อสายบ้านตระกูลหลิง ถูกวางอันดับอยู่ในระดับท้อปเท็น
หลิงฟ่างเป็นคนที่เดินเข้ามาถึงก่อน มองเห็นหน้าของหลิงเยี่ยนบวมไปอย่างดูไม่ได้ สีหน้าดำบึ้งขึ้นมาในทันที
หลิงเยี่ยนชี้ใส่ไปที่เย่อู๋เทียนอย่างเกรี้ยวกราด พูดเสียงอย่างดังว่า “ไอ้นี่แหละ หาญกล้ามาตบข้า!น้องชาย จัดมันเอาให้ตาย”
หลิงฟ่างไม่พูดอะไร มองสำรวจตัวเย่อู๋เทียนตั้งแต่หัวจรดตีน
สุดท้าย สายตาของหลิงฟ่างไปสะดุดหยุดที่นิ้วนางข้างซ้ายของเย่อู๋เทียน เห็นชัดที่แหวนแต่งงานที่สวมอยู่
ในใจก็สดุ้งวาบขึ้นมา
แหวนแต่งงานวงนั้น หลิงฟ่างได้เห็นมาเมื่อวันก่อน
นี่มันแหวนแต่งงานของเย่อู๋เทียนไม่ใช่หรือ?
ทำไมมาอยู่บนนิ้วของเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้ได้?
เย่อู๋เทียนแค่มองไปเห็นหลิงฟ่าง ก็ประมาณว่ามองทะลุไปถึงความคิดของเขาแล้ว จึงได้จงใจยกมือซ้ายสูงขึ้น ทำเป็นมองดูแหวนแต่งานของตัวเอง พูดเสียงชืด ๆ ไปว่า “แหวนแต่งงานนี้ คุณ หลายวันก่อนเหมือนกับได้เห็นนะ”
พูดคำนี้ออกไป หลิงฟ่างหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง