จอมนักรบอหังการ - บทที่250ความทระนงก่อนตายของไส้ศึกคนหนึ่ง 1
จอมนักรบอหังการ บทที่250ความทระนงก่อนตายของไส้ศึกคนหนึ่ง 1
ใครจะคิดถึงไปได้ คนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษเป็นที่สุดอย่างชุยโจวมู่ กลับเป็นคนที่ถูกส่งมาเป็นไส้ศึกในประเทศหลงจากประเทศเทียนจ้าว?
แล้วมีใครจะคิดไปถึงได้อีกว่า เหตุการณ์โดนยาพิษในโรงเรียนโรงเรียนประถมทิงเฉา เป็นปฏิบัติการของชุยโจวมู่?
แล้วมีใครจะคิดไปถึงได้อีกว่า ชุยหย่งซินที่เป็นถึงรองนายกสมาคมลายมือภาพเขียนแห่งเจียงหนาน ก็เหมือนชุยโจวมู่ เป็นไส้ศึกอีกคน?
แต่เพราะว่า คำพูดนี้ออกจากปากของเย่อู๋เทียน
ไม่มีใครสงสัย!
เพราะเขาคือเย่อู๋เทียน!
เจ้ายมบาลชิงตี้แห่งประเทศหลง เทพอารักษ์แห่งประเทศหลง เย่อู๋เทียน!
ช่วงเวลานั้นเอง ทุกคนทั้งบริเวณ ต่างก็ตกตะลึง
ต่างงงกันตาค้างมองไปที่เย่อู๋เทียน
โดยเฉพาะเหลียนซินหรู
ถึงยังไงก็คิดไม่ถึง ฉีเซิงหยางคนที่เห็นอยู่ข้างหน้านี้ กลับเป็นเย่อู๋เทียน!
แต่ไม่นานนัก เหลียนซินหรูก็ดึงสติกลับมาได้ ผู้ชายข้างหน้านี้ ก็คือเย่อู๋เทียน!
เย่อู๋เทียนยิ้มน้อย ๆ มองไปที่บรรดาผู้ปกครองที่อยู่ในบริเวณ
“เป็นยังไงครับ พวกคุณไม่อยากร่วมมือกับผม เคียงบ่าเคียงไหล่กันสู้ศึกหรือ?”
เพียงคำพูดเดียว
บรรดาผู้ปกครองที่อยู่ในบริเวณ ต่างรู้สึกเลือดพล่าน
เลือดสู้เดือดพล่าน!
ได้ร่วมเข้าฉากละครกับเจ้ายมบาลชิงตี้แห่งประเทศหลง เล่นงานไส้ศึกจากประเทศเทียนจ้าว!
เป็นเกียรติภูมิสูงส่งล้นฟ้า!
เหลียนซินหรูแสดงเจตจำนงทันทีเป็นคนแรก
“เบื้องหน้าการปกป้องประเทศ ไม่มีเรื่องเล็ก!”
“ข้าขอร่วมด้วย!”
ยิ้มบนใบหน้าของเย่อู๋เทียนเข้มข้นขึ้น
“ขอบคุณคุณครูเหลียน”
เหลียนซินหรูโกรธงอน
“ทำไมคุณไม่บอกตั้งแต่ต้นว่าคุณคือเย่อู๋เทียน!ระหว่างทางที่มาเจียงหนาน คุณยังกล้าโทรศัพท์มาบอกฉันว่า คุณไม่มาแล้ว!ตอนนี้ดีแล้วสิ พอคุณได้มา เลยได้เกิดเรื่องกันใหญ่เลย!”
เย่อู๋เทียนยิ้ม ๆ
“ไม่รู้จะทำไงได้ ตอนนี้ชื่อเสียงดังเกินไป ถึงเวลาต้องทำตัวให้สมถะ ลดตัวอยู่อย่างโลว์โปรไฟล์หน่อย”
เหลียนซินหรูงอนใส่
“นี่นะที่เรียกว่าสมถะ?”
เย่อู๋เทียนไม่พูดอะไร
เหลียนซินหรูชี้หน้าเย่อู๋เทียน พูดเสียงเคืองแกมขู่
“ให้เสร็จเรื่องก่อนค่อยหาคุณคิดบัญชี!”
บรรดาผู้ปกครองส่วนมาก ต่างก็ไม่รู้ว่าเย่อู๋เทียนเคยเป็นเพื่อนนักเรียนกับเหลียนซินหรูมาก่อน
ตอนนี้เห็นเหลียนซินหรูแสดงท่าทางแบบนี้กับเย่อู๋เทียน
ต่างก็รู้สึกเครียดกัน!
เย่อู๋เทียนตบมือสองสามที สุดท้ายพูดกับทุกคนว่า
“เอาละ ต่อไปนี้ พวกเราผ่อนคลายกันหน่อยนะ คิดว่าทุกอย่างที่ผ่านไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเฉพาะต่อหน้าชุยโจวมู่ เขาคงยังเป็นเถ้าแก่ใหญ่ เขา ยังเป็นสุภาพบุรุษ!”
ฝูงคนอยากร้องไห้อย่างไม่ต้องมีน้ำตา
ในสภาพตอนนี้ จะให้ทุกคนทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจะได้ยังไง?
เย่อู๋เทียนมองฉู่เหวินเต้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สั่งไปว่า
“ไปจัดการศพชุยหย่งซินให้สักหน่อย”
ฉู่เหวินเต้ายิ้มหน้าเศร้า
“อาจารย์ลุง ผม ผมเป็นนักศึกษา ผมอยู่สายปัญญาชน!”
เย่เทียนถลึงตาใส่ฉู่เหวินเต้า
“เอาอะไรไร้สาระมาพูดให้มาก!”
ฉู่เหวินเต้าเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ภาพที่เห็น พาให้บรรดาผู้ปกครองทั้งหลาย รู้สึกสะท้านใจขึ้นมาอีกครั้ง
ถึงยังไงก็คิดไม่ถึง
ฉู่เหวินเต้า มีอาจารย์ลุงแบบนี้มาได้ยังไง!
มิน่าเล่า แม้กระทั่งตำแหน่งนายกสมาคมลายมือภาพเขียนแห่งเจียงหนานยังไม่อยู่ในสายตา
สายสัมพันธ์ทะลุฟ้าเลยนะนี่!
ไปถึงระดับไม่มองเอาเลยกับตำแหน่งใด ๆ ที่มีในวงการศิลปะวัฒนธรรม
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น กิจกรรมเข้าค่ายฤดูร้อนประกาศเริ่มต้นเป็นทางการ
วาระที่หนึ่งตามหมายกำหนดการ แน่นอนว่าเป็นการนำเด็ก ๆ เข้าไปในสวนพฤกษชาติของสวนนิทรรศการนานาชาติวาดภาพธรรมชาติ
สวนพฤกษชาติถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่งในสวนนิทรรศการ แต่ก็ยังต้องนั่งรถบัสใหญ่ไปกัน
สวนนิทรรศการนานาชาติ กินพื้นที่กว้างใหญ่มาก เหมือนกับสวนสาธารณะระดับชาติทีเดียว
พื้นที่โดยรวม สามารถเทียบเคียงได้ขนาดเขตเมืองเลยทีเดียว
ถ้าไม่เช่นนั้น ก็คงไม่ใช้ “นานาชาติ” มาใช้กับสถานที่แห่งนี้
ณ ที่นี้ ไม่ต้องออกนอกประเทศ ก็สามารถทัศนาได้ถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของแต่ละประเทศในโลก
รถบัสใหญ่นี้ชุยโจวมู่ได้สั่งคนให้ขับมาจากบริษัทโดยตรง
ทั้งหมดมีสามคัน
จึงเห็นได้ว่า ถ้าสถานะของชุยโจวมู่ไม่ได้โผล่หลุดพ้นน้ำเป็นตอผุดให้เห็น เขาที่อยู่ในสายตาของเหล่าบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายนั้น ก็คือภาพของคนใจบุญมาก ๆ!
ใครจะไปคิดได้ว่า คนใจบุญมากสุด ๆ คนนี้ จะเป็นมารร้ายที่ฆ่าคนมาเป็นเบือ?
ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเป็นไส้ศึกจากประเทศเทียนจ้างที่แฝงซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนประเทศหลง
ด้วยประเด็นสาเหตุเบื้องต้น ผู้ปกครองที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันกับชุยโจวมู่ ย่อมปิดบังไม่อยู่ในความรู้สึกแค้นที่มีอยู่ในใจต่อชุยโจวมู่!
ขณะนี้ เย่อู๋เทียนก็ได้นั่งอยู่ข้าง ๆ ชุยโจวมู่
ชุยโจวมู่ก็มีความรู้สึกอยู่ บรรยากาศในรถดูเหมือนไม่สู้ดีเลย
ส่วนที่จะว่าไม่ดีตรงไหน……..
ชุยโจวมู่ก็มีที่มีอย่างพูดไม่ออก
ที่นั่งของเหลียนซินหรู อยู่ที่นั่งข้างหน้าของชุยโจวมู่ที่หนึ่ง
ชุยโจวมู่นั่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จู่ ๆ ก็ถามเหลียนซินหรูขึ้นมาว่า “คุณครูใหญ่ครับ ทำไมผมยังไม่เห็นท่านชุยเลย เมื่อตะกี้ยังอยู่เลย ทำไมตอนนี้ไม่เห็นแล้วหละ?”
เหลียนซินหรูตั้งสติมั่น ตอบไปอย่างกำกวมขอไปทีว่า “เห็นว่ามีงานด่วน ออกไปก่อนแล้ว”
ชุยโจวมู่ข้องใจอยู่บนใบหน้า
เหลียนซินหรูจึงได้พูดต่อไปว่า “ได้ข่าวว่าฉู่เหวินเต้าจะมางานเข้าค่ายฤดูร้อนครั้งนี้ ท่านชุย คงจะไปรับฉู่เหวินเต้ามัง”
ชุยโจวมู่สะดุดใจขึ้นมา พูดเสียงหัวเราะว่า “คุณฉู่ เป็นอาจารย์ของท่านชุย ท่านชุย……เป็นลุงใหญ่ของผม ท่านรู้ใช่มั้ย?ลุงใหญ่ของผมมักจะพูดกับผมเสมอว่า ท่านนับถือคุณฉู่มากเลย!”
เหลียนซินหรูพูดว่า “วัฒนธรรมประเทศหลง ลึกล้ำกว้างไพศาล คุณฉู่เหวินเต้าเป็นผู้รอบรู้มาก การที่ท่านชุยนับถือท่าน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”
ชุยโจวมู่หัวเราะ ไม่คุยในสาระเรื่องนี้มาก ล้วงเอาแว่นว่ายน้ำออกมาในทันทีนั้น ยื่นส่งให้เย่อู๋เทียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พูดอย่างดูจริงใจมากว่า “คุณฉีครับ นี่เป็นแว่นว่ายน้ำที่ผมสั่งเพื่อนที่เมืองนอกซื้อให้ ท่านลองใส่ดู?ใส่แว่นว่ายน้ำอันนี้ ต่อให้ลงไปว่ายในบึงน้ำไหลธรรมชาติ ก็ยังจะมองวิวใต้บึงอย่างงามสวยใสแจ๋ว!”
เย่อู๋เทียนรับมา ทั้งยังเปิดกล่องต่อหน้าชุยโจวมู่ แล้วก็หยิบออกมาทดลองใส่
“ไม่เลวเลย”
เย่อู๋เทียนแค่นหัวเราะออกมานิด
ชุยโจวมู่เห็นแล้ว ยิ้มบนใบหน้าก็ดูเข้มข้นขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันนั้น เย่อู๋เทียนก็ถามกลับไปว่า “คุณเอาแว่นของคุณให้ผม แล้วคุณใช้อะไรหละ?”
ชุยโจวมู่ก็ได้หยิบออกมาอีกอันหนึ่ง พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “ผมยังมีอีกอันหนึ่ง”
เย่อู๋เทียนถอดแว่นที่ลองใส่เมื่อสักครู่นั้นออกมา มองแว่นอีกอันในมือของชุยโจวมู่ ถามว่า “ผมขอดูแว่นของคุณหน่อยได้ไหม?ทำด้วยวัสดุอะไรนั่น?”