จอมนักรบอหังการ - บทที่394 แม่สามีพบลูกสะใภ้ หานจื่อเซียนบาดเจ็บ!
จอมนักรบอหังการ บทที่394 แม่สามีพบลูกสะใภ้ หานจื่อเซียนบาดเจ็บ!
พูดคำพูดนี้ออกมา แววตาของเย่อู๋เทียน เปลี่ยนดูหนาวเยือกดั่งมาจากนรกแดนน้ำแข็ง
ส่วนคำพูดของหานวี่เซียวนี้ฟังเข้าหูเฉิงเฟยหูไปนั้น เฉิงเฟยหู ผวาวาบตัวแข็งอยู่กับที่!
ลูกตาทั้งสองข้าง เหมือนลูกกระพรวนเลือดสองลูก แทบทะลักล้นออกมานอกเบ้าในฉับพลัน!
เฉิงเฟยหูยังไงก็คิดไม่ถึง!
หานวี่เซียวที่เขาเห็นว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้ตรงข้างหน้านี้ อยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน……
กลับเรียกตัวเองว่าบ่าว
นี่………
เย่อู๋เทียนจะน่าสะพรึงกลัวไปถึงขนาดไหน?
ก็แม้กระทั่งหานวี่เซียวที่เหมือนเซียนเทพ อยู่ต่อหน้าเขายังเรียกตัวเองเป็นบ่าว?
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว
ตัวเขาเองนี้ คืนนี้คงหนีไม่พ้นตายแน่แล้วหรือ?
แต่ในขณะที่เฉิงเฟยหูกำลังคิดเรื่องที่น่ากลัวอยู่นั้น
หานวี่เซียวที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ตัวเขานั้น คงกลัวเย่อู๋เทียนจะโกรธ
โขกหัวลงกับพื้น
ส่งเสียงเหมือนผีเปรต!
“ชิงตี้!ขอท่านชิงตี้โปรดอภัยบ่าวด้วย!”
“วิทยายุทธของบ่าวนี้ ยังไม่สมควรต้องถึงกับให้ท่านทำลายทิ้งนะครับ!”
“บ่าวขอสาบาน สาบานอย่างขอให้มีอันเป็นไปร้ายแรง!”
“ชีวิตฉันที่เหลือนี้ ได้จากท่านชิงตี้ที่เปรียบดั่งพ่อแม่ที่ให้ชีวิตใหม่!”
“แม้นท่านชิงตี้มีคำสั่ง บ่าว ให้ไปตายก็ไม่ถอย!”
“ยังมี ท่านชิงตี้โปรดดู หัวสี่หัวที่บ่าวหิ้วมานี้ ต่างก็เป็นพี่น้องสายสกุลของหานจื่อฉี!”
“พวกเขาก่อกรรมทำเข็ญมากมาย ทำร้ายชายข่มเหงหญิง โทษตายก็ยังไม่สาสม!”
“บ่าวจึงได้จัดการสังหารทิ้งหมด!”
“ฆ่าทิ้งหมด!”
โอ้พระคุณจะรู้มั้ยว่าหานวี่เซียวน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนเวลานี้
เย่อู๋เทียนเพียงแต่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
ไม่พูดไม่จา
ก็ทำให้เขาผวาเกือบตาย
เหตุเพราะว่า หานวี่เซียวรู้ดีถึงความน่ากลัวของเย่อู๋เทียน
ไม่เพียงมองหานจื่อฉีกับหานปู้กางเหมือนแค่มดปลวก!
ต่อให้กัวโพ่จวิน มาเจอกันต่อหน้ากับเขา ก็ยังต้านรับไม่ได้แม้แค่กระบวนท่าเดียว!
ถึงเวลานาทีนี้ หานวี่เซียวไม่กล้าคิดแล้วว่าเย่อู๋เทียนฝึกพลังฝีมือไปถึงขั้นไหนแล้ว!
เพียงเห็นชัดเจนที่จุดนี้ว่า
ต่อหน้าเย่อู๋เทียน ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งเชิงวิทยายุทธหน้าไหน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ไปดูเฉิงเฟยหูอีกที
ด้วยเหตุที่หานวี่เซียวกำลังลนลานลุกลี้ลุกลนจัดเอาหัวคนสี่หัวที่เขลอะไปด้วยเลือดให้เย่อู๋เทียนดู
ฉับพลันนั้นเอง…….
เฉิงเฟยหูดูเหมือนจะตกใจจนเซ่อไปแล้ว
เส้นประสาทที่ตึงเครียดจัด ทันใดนั้น ก็ขาดไป!
ถึงแม้ไม่ถึงกับช็อกตาย
แต่สภาพก็ไม่ผิดอะไรกับคนตาย
คุกเข่าอยู่กับพื้น
นิ่งทื่อไม่ขยับ
ตาแข็งทื่อไม่กะพริบ
ทื่อแข็งไปเฉย ๆ อยู่กับที่
ในสมอง……….
ว่างโล่ง…………..
เย่อู๋เทียนสังเกตุเห็นสภาพของเฉิงเฟยหู ก็เลยไม่ไปใส่ใจอีก
แต่หันมองหานวี่เซียวที่คุกเข่าโขกหัวขอให้อภัยอยู่
พูดเสียงเรียบ ๆ
“ตั้งแต่นี้ต่อไป หากไม่ได้รับคำสั่งจากฉัน คุณ ห้ามออกจากวิลล่าว่อหลงแม้แต่ก้าวเดียว!”
หานวี่เซียวได้ยินคำสั่งมาดังนี้ เหมือนได้รับอภัยโทษครั้งใหญ่
น้ำตาผู้เฒ่าไหลพราก โขกหัวถี่ยังกับตำพริกกระเทียม!
“ขอบพระคุณท่านชิงตี้!ขอบพระคุณท่านชิงตี้มากครับ!”
เย่อู๋เทียนก็ไม่ได้ใส่ใจกับหานวี่เซียวอีก หันไปมองเฉิงโม่หนง ออกเสียงเตือนเรียบ ๆ
“ไปกันเถอะ กลับไปจัดเตรียมสัมภาระ ตามฉันไป เราจะไปเขาเอ๋อเหมยกัน!”
เฉินโม่หนงมองเย่อู๋เทียนอย่างไม่แน่ใจ
ถามเสียงสั่นเครือ
“คุณแน่ใจจริง ๆ หรือ พ่อเลี้ยงของฉัน อยู่ที่เขาเอ๋อเหมย?”
เย่อู๋เทียนยกมือขึ้นลูบผมสลวยของเฉิงโม่หนง แล้วถามกลับ
“ฉันเคยโกหกเธอเมื่อไหร่หรือ?”
เฉิงโม่หนงขยับปากที่ซีดขาวจะพูด แต่ที่สุดก็ไม่มีข้อสงสัยอะไรจะถาม
เพราะ…..
อย่างที่เย่อู๋เทียนพูด
เขา แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยโกหกอะไรหล่อนเลย
ในเมื่อเขาพูด
สือหย่งยังมีชีวิตอยู่
ถ้างั้น สือหย่งก็ต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน
สำหรับค่ำคืนนี้ของเฉิงโม่หนง
ชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันลืม!
เริ่มจากถูกเฉิงเฟยหูกับเฉิงจิ้นซองพามาวิลล่าว่อหลง พวกเขาจะพาหล่อนมาขายเป็นให้เมียน้อยแก่หานจื่อฉี
พอมาถึงที่นี่กลับได้เห็น
หานจื่อฉี…….
กำลังถูก “ตาเฒ่าบ้า” กำลังใช้มีดทำครัวสับ
หลังจากนั้น……
ตาเฒ่าบ้าคนนี้ กลับเป็นอาจารย์ของเย่อู๋เทียน
และก็เมื่อตะกี้นี้เอง……
ความเกี่ยวดองที่แท้จริงของตัวเองกับบ้านตระกูลเฉิน ก็ด้วยเพราะเย่อู๋เทียน ทำให้เรื่องจริงกระจ่างชัด
ข้อสงสัยที่คอยถามตัวเองมาอยู่หลายปี
ก็ด้วยเพราะเย่อู๋เทียน ทำให้เรื่องจริงกระจ่างชัด
ตัวหล่อนเอง ถูกทิ้งไว้ชายป่าเทือกเขาเอ๋อเหมย เกือบจะถูกเสือคาบไปกิน
ในช่วงสุดวิกฤตนั้น ก็ได้ผู้ชายที่ชื่อสือหย่งมาช่วยไว้ได้ทัน
ผู้ชายคนนี้ เขายังไม่ตาย!
เขาเป็นพ่อเลี้ยงของเธอเอง!
และต่อมา
เย่อู๋เทียนยังจะพาหล่อน ไปเขาเอ๋อเหมย เพื่อหาเขา!
ทั้งหมดของเรื่องทั้งหมดนี้ วนเวียนในห้วงสำนึก
ทำให้หล่อนไม่สามารถสงบใจลงได้
แม้แต่กลับถึงบ้าน
ใจเฉินโม่หนงก็ยังไม่สงบ
สะบัดรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ออกจากขา ก้าวขาที่มีแต่ถุงน่องสีเนื้อหุ้มอยู่ ค่อย ๆ เดินไปที่โซฟาในห้องรับแขก
นั่งลงไป ก้มตัว ฟุบหน้าลง ไม่ออกเสียง
ค่อย ๆ ย่อยสลายเหตุการณ์ทั้งหมดที่พบมาในค่ำคืนนี้
เย่อู๋เทียนปรายตามองไปที่หล่อน เดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ แต่พักอยู่ครู่นิดเดียว ก็บอกว่า
“ฉันไปอาบน้ำก่อน ทั้งตัวมีแต่กลิ่นคาวเลือด”
แต่ไม่คิดเลยว่า พอพูดจบ เฉินโม่หนงกลับกอดตัวเย่อู๋เทียนไว้แน่น
ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง
“ไม่นะ!อย่าทิ้งฉันนะ!”
เย่อู๋เทียนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
“ฉันไม่ได้ไปไหน ฉันแค่เพียงจะไปอาบน้ำล้างตัว”
เฉินโม่หนงยิ่งรัดกอดแน่นขึ้น
น้ำตาร่วงพรู
“ไม่ ฉันไม่ให้เธอไปอาบน้ำ ฉันจะให้เธออยู่เป็นเพื่อนฉัน!ฉันกลัว!”
เย่อู๋เทียนจึงได้ไม่ลุกไปไหน
นึกลังเลอยู่นิดหนึ่ง ก็คงยื่นมือวางไปที่หลังของเฉินโม่หนง
พูดพร้อมลูบเบา ๆ
“มันจบไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว”
น้ำตาของเฉินโม่หนงยังไหลอยู่
“ไม่!ยังไม่ได้ผ่านไป!ฉันเป็นใครกันแน่?ฉันเป็นใครกันแน่?”
“ทำไมฉันถึงได้ถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองเอาไปทิ้ง?พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของฉันเป็นใคร?”
“ตอนนั้นฉันยังเด็กมากขนาดนั้น ทำไมถึงได้ถูกพวกเขาเอาไปทิ้งในป่าลึกนั้น พวกเขาทำไมใจดำขนาดนั้น?”
“ถ้าไม่ใช่คนหน้าบากนั้น ฉันก็ต้องตายไปแล้ว ฉันก็ต้องตายไปแล้ว ถูกไหม?”
“ฉะนั้น ฉันไม่สมควรมีชีวิตอยู่ ถูกไหม?”
นาทีนี้ เฉิงโม่หนงเหมือนคนปัญญาอ่อน พูดไม่หยุดกับเรื่องนี้ วนเวียนคิดเรื่องนี้ไม่หยุด
เย่อู๋เทียนมองเฉินโม่หนงด้วยความเจ็ปวดในใจ
อยู่กับขณะนั้น
ก็ไม่รู้จะปลอบใจผู้หญิงคนนี้ยังไงได้
ได้แต่พูดเสียงนิ่มนวลว่า
“ฉันรับปากเธอนะ ไม่เพียงแค่พาเธอไปพบสือหย่ง ฉันยังจะสืบเสาะชาติกำเนิดที่แท้จริงของเธอให้รู้แน่ชัด!แน่นอน ยังอีกทั้ง……ชาติกำเนิดของฉันเองด้วย!”
เฉินโม่หนงถึงกับอึ้ง มองหน้าเย่อู๋เทียน ถามอย่างรู้สึกกังขา
“ชาติกำเนิดของคุณ?”
เย่อู๋เทียนผงกหัว
“หานหว่านเอ๋อร์ เป็นน้าของฉัน ไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของฉัน!”
“แม่ผู้ให้กำเนิดฉัน ชื่อหานจื่อเซียน แต่มาถึงปัจจุบันตอนนี้ ฉันยังแทบจะไม่รู้เรื่องของท่านเลย!”
เฉิงโม่หนงทำสีหน้าดูพร่าเบลอไปหมด
เย่อู๋เทียนเพียงเพื่อจะเบนความสนใจของเฉินโม่หนงออกมา จึงได้แต่นำเอาเรื่องของตัวเอง เล่าให้หล่อนฟังทั้งหมด
และในเวลาขณะเดียวกันนี้
เสิ่นรั่วชิง
กำลังรอเย่อู๋เทียนกลับบ้าน
แต่รอไปรอมา รอจนกลับมานั้นไม่ใช่เย่อู๋เทียน
แต่กลับเป็น……..
ผู้หญิงในชุดคลุมยาวสีดำ
หานจื่อเซียน!
พอเสิ่นรั่วชิง
เปิดประตูใหญ่บ้านเก่าแก่นี้ออก หานจื่อเซียนในชุดคลุมยาวสีดำ ปรากฏเข้ามาในจอตา
เสิ่นรั่วชิงรู้สึกแปลกใจ ฝ่ายตรงข้ามนี้ทำไมแต่งตัวในลักษณะนี้
ถามไปโดยสัญชาตญาณ
“คุณคือ…..”
หานจื่อเซียนกลับไม่ได้ตอบ
แต่……..
อ้วก!
หลังจากกระอักเลือดออกมาสด ๆ
ก็ล้มลงกับพื้น
หานจื่อเซียน ได้รับบาดเจ็บมา!
หานจื่อเซียนมองเสิ่นรั่วชิงอย่างคนที่ลมหายใจใกล้หมด พูดเสียงแผ่วมากว่า
“ให้เทียนเอ๋อร์หนี!รีบหนี!กัวเถาจือตามหาเขา!”