จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 217 ผู้โดดเดี่ยวปรากฏตัว
บทที่ 217 ผู้โดดเดี่ยวปรากฏตัว!
บนอนุสรณ์โบราณ ราชันผู้กําแหงของทั้งสองดินแดนได้ทิ้งชื่อไว้
จากผลการต่อสู้ของราชันผู้กําแหงทั้งสองดินแดนถูกจัดอันดับไว้บนอนุสรณ์โบราณและตอนนี้ก็มีชื่อปรากฏขึ้นแล้วล่องลอยอยู่เหนือราชันผู้กําแหงทั้งหมดอย่างอิสระ
นี่เป็นความตกใจที่เงียบงัน และยังเป็นสิ่งชี้วัดความแข็งแกร่งรายชื่อของราชันผู้กําแหงจํานวนมากเรียงต่อกันมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีชื่ออยู่เหนือทุกคนและเพียงแค่ชําเลืองมองก็รู้สึกว่าภูเขาเล็กลงในทันทีเท่านี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าตัวตนของชื่อนี้”ผู้โดดเดี่ยว” เป็นราชันผู้กําแหงแห่งสองดินแดนนี้อย่างแน่นอน!
แน่นอนสิ่งที่ทําให้ราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์มากมายตื่นเต้นยิ่งกว่านั่นก็คือมีแสงนิรันดร์
เปล่งประกายระยิบระยับบนชื่อของผู้โดดเดี่ยว
เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยที่ผ่านมาชื่อของราชันผู้กําแหงผู้โดดเดี่ยว
นี้อยู่ฝั่งแดนนิรันดร์ไม่ใช่แดนทมิฬ!
“ผู้โดดเดี่ยว! ยุคสมัยนับไม่ถ้วนก่อนหน้านี้ในแดนนิรันดร์ของข้าให้กําเนิดราชันผู้กําแหงเช่นนี้จริงๆงั้นรึ?”
“อนุสรณ์โบราณนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยการมีอยู่ของราชันเซียนนิรันดร์ มันจะเป็นของปลอมได้อย่างไร?”
“ถ้ามันคือของจริง ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งมีชีวิตแดนนิรันดร์ของพวกเราไม่ได้ด้อยไปกว่าแดนทมิฬเลยแม้แต่น้อยนี่มันช่างน่าตื่นเต้นและเป็นขวัญกําลังใจที่มิอาจบรรยายได!”
ราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากราวกับว่าได้กวาดล้างความมั่นใจที่ต่ำต่อยออกไป
อนุสรณ์โบราณปรากฏขึ้นในทันใดบันทึกประวัติศาสตร์อันยาวนานของยุคสมัยอันไร้ที่สิ้นสุด
ก่อนหน้านี้ และถ้าประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้นี้เป็นจริงมันจะมีบทบาทอย่างมากในการเพิ่มขวัญกําลังใจของฝ่ายแดนนิรันดร์อย่างไม่ต้องสงสัย
และด้านแดนทมิฬ ราชันผู้กําแหงหลายคนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองในทิศทางตรงกันข้าม “ผู้โดดเดี่ยวงั้นรึ?ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย”
“ร่างหนึ่งที่ปรากฏมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และยังอยู่เหนือกว่าราชันผู้กําแหงทั้งหมดในพิภพ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย”
“อาา บางทีมันอาจจะเป็นเพียงสิ่งที่คนจากแดนนิรันดร์เหล่านี้เพ้อฝัน เพื่อที่จะเอาความน่าเชื่อถือมาไว้ที่ฝ่ายของพวกเขาเอง”
“ผู้โดดเดี่ยวอะไรกัน ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันข้าจะสังหารเขาด้วยฝ่ามือเดียว!”ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬนั้นดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าบันทึกที่ปรากฏบนอนุสรณ์โบราณนั้นเป็นความจริง
ผู้โดดเดี่ยวเป็นใคร มันก็แค่ชื่อที่ถูกจารึกไว้บนอนุสรณ์โบราณเท่านั้นใครจะสามารถพิสูจน์ได้ว่านี่เป็นเรื่องจริง?สิ่งเดียวที่พวกเขาเชื่อก็คือราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬต้องอยู่เหนือกว่าราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์!
ดังนั้น การจัดอันดับที่จารึกบนอนุสรณ์โบราณนี้ก็เป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น!
“บางที การจัดอันดับอื่นๆ อาจจะเป็นจริงและมีเพียงชื่อผู้โดดเดี่ยวเท่านั้นที่ผู้มาภายหลังอาจ จารึกไว้”
ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬพูดอย่างเย็นชาซึ่งดึงดูดให้คนอื่นๆ อีกหลายคนพยักหน้าใช่แล้วคําอธิบายนี้เท่านั้นที่สมเหตุสมผลที่สุด
นอกจากชื่อของผู้โดดเดี่ยวแล้วการจัดอันดับของอนุสรณ์โบราณอื่นๆ นั้นมีความสอดคล้องกับราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬเหล่านี้
บางที ผู้โดดเดี่ยวคนนี้อาจเป็นเพียงผู้ที่มาทีหลังเป็นผู้ที่โง่เขลาไม่กลัวสิ่งใด และได้จารึกชื่อตัวเองไว้บนอนุสรณ์โบราณนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต
“อ่า ช่างอวดดีเสียจริงน่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ในยุคปัจจุบัน เพราะถ้าเขาอยู่ยุคปัจจุบันข้า
จะทําให้เขาต้องตอบแทนกับสิ่งที่ทําไว้อย่างแน่นอน”
เทียนหวู่พ่นลมอย่างเย็นชาพร้อมกับทวนสวรรค์ที่อยู่ในมือของเขา และเขากําลังท้าทายราชันผู้ก่าแหงแห่งแดนนิรันดร์
แต่ทว่าในเวลานี้เองก็เกิดรอยแตกขนาดใหญ่ได้แยกออกจากกันและหลังจากนั้นก็ระเบิดออกกระดูกผลึกลอยขึ้นและกระจัดกระจายไปรอบบริเวณ
มันคือกระดูกจากยุคนับไม่ถ้วนที่ผ่านมาที่หายไปนานส่วนใหญ่ก็ผุกร่อนและถูกฝังไว้ข้างอนุสรณ์โบราณนี้
และตอนนี้ด้วยการปรากฏขึ้นของอนุสรณ์โบราณนี้มันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคนเช่นกัน!
เมื่อกระดูกเหล่านี้ปรากฏขึ้นราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในที่สุดไม่ใช่สิ่งอื่นใดเพราะเจ้าของกระดูกเหล่านี้เป็นของทางฝั่งแดนทมิฬ
ไม่ว่าจะมองไปที่รูปร่างของกระดูกเหล่านี้หรือกลิ่นอายที่มีอยู่ในนั้นซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของ
แดนทมิฬทั้งสิ้น
และหลายปีที่ผ่านมานานเช่นนี้มันยังคงทิ้งร่องรอยของตัวตนไว้ในพิภพได้เจ้าของกระดูกในอดีตเหล่านี้น่าจะเป็นตัวตนของเซียนนิรันดร์ทั้งหมด!
นอกจากนี้กระดูกเหล่านี้ยังถูกฝังไว้ข้างอนุสรณ์โบราณอีกด้วย
มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าสถานที่แห่งนี้คือสถานที่ซึ่งตัดสินศึกชี้ขาดระหว่างราชันผู้กําแหงของทั้งสองดินแดนและเจ้าของกระดูกเหล่านี้คือผู้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะ! แต่จะเป็นไปได้อย่างไร?
ความแข็งแกร่งโดยรวมของแดนทมิฬนั้นเหนือกว่าแดนนิรันดร์อย่างชัดเจน
ผลลัพธ์ของการต่อสู้ชี้ขาดคือฝั่งแดนทมิฬได้ทิ้งโครงกระดูกของราชันผู้กําแหงไว้มากมาย
ในขณะที่ด่านแดนนิรันดร์แทบไม่มีการสูญเสียเลย?
ผลลัพธ์นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราชันผู้กําแหงของแดนทมิฬหลายๆ คนไม่อาจยอมรับได้
หรือไม่ก็พวกเขาไม่ต้องการเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
“ถ้าผู้โดดเดี่ยวคือเรื่องจริงทั้งหมดนี้ก็สมเหตุสมผล…..”
ในตอนนี้ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัวอย่างกระทันหันเมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายได้หมด
ผู้โดดเดี่ยวเป็นความจริง เขาอยู่เหนือราชันผู้กําแหงมากมายแห่งแดนทมิฬ และเขาสามารถเอาชนะราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬได้มากมายและเหลือทิ้งไว้เพียงกระดูก
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายได้ว่าทําไมสถานที่แห่งนี้ถึงเปี่ยมไปด้วยซากศพของราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬ แต่มีซากศพของฝั่งแดนนิรันดร์น้อยมาก
“ไร้สาระ! ข้าไม่เชื่อหรอก จะเป็นไปได้อย่างไรที่แดนนิรันดร์จะมีราชันผู้กําแหงเช่นนี้? ทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จ!”
เทียนหวู่พูดอย่างโกรธจัดในมือที่ถือทวนสวรรค์ชี้ไปตามแนวนอนและโบกไปที่อนุสรณ์
โบราณ
เขากําลังจะทําลายอนุสรณ์โบราณนี้!และยุติการสนทนาที่ไร้ความหมายเหล่านี้!
ทางด้านแดนนิรันดร์ คิ้วของราชันเฉียนยกขึ้นเล็กน้อยและกําลังจะเคลื่อนไหวเพื่อหยุดมันแต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นอะไรบางอย่าง และมีความประหลาดใจเล็กน้อยฉายขึ้นในแววตา
ของเขา จากนั้นเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวของเขาทันที
เพราะอนุสรณ์โบราณดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการกระทําของจอมจักรพรรดิสวรรค์และมันก็เปล่งประกายแสงออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงตัวอักษรที่ถูกจารึกไว้บนนั้น ก็ยิ่งเปล่งแสงด้วยสีสันสดใสที่ไม่มีใครเทียบได้! พร้อมแสงที่เปล่งประกายก็มีตัวอักษรนูนออกมาจากเบื้องหลังด้วย!
“ชื่อที่แท้จริงปรากฏ…..”
ทางฝั่งแดนทมิฬ กระทิงทองที่เห็นสถานการณ์ สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนเป็นครั้งแรกราชันเซียนนิรันดร์มีอยู่จริงผู้ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าเหลือเชื่อทุกประการและชื่อของพวกเขาก็เป็นที่รู้จักไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตามแล้ว
และตอนนี้ มีเพียงชื่อที่จารึกไว้บนอนุสรณ์โบราณเท่านั้นและไม่มีใครรู้ว่ามีมานานแค่ไหน
แต่ตอนนี้ ชื่อนี้เปล่งประกายราวกับว่ามันกําลังสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตสูงสุดในยมโลกและมันก็สร้างความตกตะลึงได้อีกครั้ง
มันแปลกอย่างไม่น่าเชื่อ!
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้โดดเดี่ยวนั้นยังไม่ตาย?!
เมื่อสิ่งนี้ผุดขึ้นในความคิดของกระทิงทอง
ในทันใดนั้น ชื่อของผู้โดดเดี่ยวก็เปล่งประกายแสงสีสันสดใสที่ไม่มีใครเทียบได้ออกมา
ทันทีหลังจากนั้น แสงสว่างจ้าก็หายไป
ร่างที่แข็งแกร่งในชุดเสื้อคลุมสีขาวราวกับหิมะก็ปรากฏตัวขึ้นในสนามรบ!
คิ้วของเขาขมวดจนเกิดรอยย่นดวงตากระจ่างไสวราวกับดวงดาว และผมสีดํายาวเลยบ่าทึ่
ปล่อยไว้ด้านหลังอย่างสบายๆนั่นคือผู้โดดเดี่ยว!