จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 265 ผู้กุมชะตาในฐานะไข่ให้เซียนต้นกําเนิดถือกําเนิดอีกครั้ง
- Home
- จอมบงการเทพยุทธ์
- บทที่ 265 ผู้กุมชะตาในฐานะไข่ให้เซียนต้นกําเนิดถือกําเนิดอีกครั้ง
บทที่ 265 ผู้กุมชะตาในฐานะไข่ให้เซียนต้นกําเนิดถือกําเนิดอีกครั้ง!
“เซียนต้นกําเนิดที่เป็นตัวตนอันสูงส่งยิ่งใหญ่ทําไมจึงต้องบดขยี้จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ด้วย?หรือเพียงเพราะเขาเดินทางในเส้นทางเดียวกันเช่นนั้นรึ?”
ผู้โดดเดี่ยวฉงนใจ
เซียนต้นกําเนิดที่อยู่สูงยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดเช่นนี้ทําไมจึงยังกวาดสายตาลงมามองและลงมือ
บดขยี้จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่พึ่งมาถึงเขตแดนผู้กุมชะตาด้วย?
หรือเพียงเพราะอีกฝ่ายก้าวเดินบนวิถีเดียวกันเช่นนั้นหรือ?
แต่ถึงกระนั้นแล้วทําไมกัน?
“แน่นอนว่าไม่ใช่!”
ฉินมู่ส่ายหน้าและกล่าว
“เซียนต้นกําเนิดนั้นอยู่เหนือกว่าผู้กุมชะตาเรียกได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลอันนับไม่ถ้วนทําไมจึงคิดจะลงมือกับตัวตนที่เพิ่งเลื่อนเขตแดนขึ้นเป็นผู้กุมชะตากัน?”
“ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่พึ่งจะขึ้นเป็นผู้กุมชะตาด้วยซ้ำถึงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตแดนผู้กุมชะตาก็ยังไม่คงอยู่ในสายตาแม้จะเป็นตอนที่อ่อนแอจนถึงที่สุดก็ตามไม่ใช่เพราะพวกเขาเดินในวิถีเดียวกัน
เซียนต้นกําเนิดนั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของวิถีนั้นแล้ว และการที่ผู้มาทีหลังจะเดินทางบนเส้นทางสายที่ถูกได้นั้นเป็นเรื่องยากมาก
และแน่นอนว่าตัวตนระดับนั้นต้องหวั่นกลัวว่าจะต้องสูญสิ้นอํานาจ ดังนั้นแล้วพวกเขาเองก็จะสร้างอุปสรรคอันล้ําลึกที่มีแต่เขานั้นที่จะเข้าใจทําให้ผู้ที่มาทีหลังยากจะก้าวเดินต่อไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่พึ่งมาถึงเขตแดนผู้กุมชะตานั้นไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาแม้แต่น้อย
กระทั่งผู้กุมชะตาขั้นสูงยังไม่อยู่ในสายตาพวกเขาแม้แต่น้อย
เหตุที่เซียนต้นกําเนิดนั้นจุติลงมายังพิภพนี้และใช้วิธีดังกล่าวเพื่อทําลายผู้กุมชะตา มิใช่เพราะ วิถีของผู้กุมชะตาผู้นั้น แต่เป็นเพราะเซียนต้นกําเนิดนั้นต้องการจะกลืนกินพิภพนี้! เขาต้องการจะทําลายจักรวาลนี้ เช่นเดียวกันกับพิภพเล็กๆ จํานวนนับไม่ถ้วนที่เกี่ยวข้องกับ จักรวาลแห่งนี้ ดูดซับพลังงานต้นกําเนิดของพิภพเข้าสู่ตัวของเขาเอง!
เซียนต้นกําเนิดร่วงหล่นอย่างนั้นหรือ?
แต่หากถ้าร่วงหล่นแล้ว ก็ยากที่จะกลับคืนสู่จุดเดิม
เซียนต้นกําเนิดนั้นถึงจะถูกกําจัดแต่ก็ไม่มีทางหายไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจะยังคงเหลือเศษเสี้ยวของจิตวิญญาณอยู่
หากต้องการจะกลับสู่จุดเดิมพวกเขาต้องการพลังงานอันมหาศาล
และหากต้องการจะได้พลังงานนั้น ทางเดียวคือการรักษาตัว!
เมื่อพิภพถูกทําลาย กระแสพลังต้นกําเนิดของพิภพจะถูกปลดปล่อยออกมากระแสพลังต้นกําเนิดของพิภพนั้นคือยาเพื่อรักษาเซียนต้นกําเนิด!”
“ทําลายพิภพและใช้กระแสพลังต้นกําเนิดของพิภพเป็นยารักษาอย่างนั้นรึ?”
ผู้โดดเดี่ยวสั่นสะท้าน
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว แล้วสิ่งมีชีวิตจํานวนมหาศาลที่ต้องตกตายไปพร้อมกับการทําลายล้างพิภพจํานวนนับไม่ถ้วนเหล่านั้นจะมีมากมายเท่าไหร่?
หลายพันล้านล้าน?
“หากเป็นเช่นนั้นแล้ว หรือว่าจุดประสงค์ของเซียนต้นกําเนิดก็คือการให้ผู้กุมชะตาผู้นี้เป็นผู้ทําลายพิภพที่เขาอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“ทําไมเขาจึงไม่ลงมือเองและต้องสร้างปัญหามากมายเพียงนี้?”
ผู้โดดเดี่ยวงุนงง
จากที่จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีกล่าวแม้ว่าเซียนต้นกําเนิดจะอยู่ในจุดต่ำสุดแต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังไร้ที่สิ้นสุด
ด้วยเลือดเพียงหยดเดียวเขาก็สามารถทําให้จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ผู้นี้เกือบสูญสิ้นและเขาเองก็เกือบจะป้องกันเอาไว้ไม่ได้
แต่หากเป็นเช่นนั้นแล้วทําไมเขาจึงต้องสร้างเรื่องยุ่งยากมากเพียงนี้และไม่ลงมือเอง? เกรงว่าแค่ชั่วนึกคิดทั้งสวรรค์และโลกใบนี้ กระทั่งผู้กุมชะตาที่แข็งแกร่งก็ยังต้องสูญสลายหายไป“นั่นก็เพราะ การทําลายพิภพนั้นผู้ลงมือต้องแบกรับกรรมที่ตามมาฉินมู่กล่าวช้าๆ
“การที่เซียนต้นกําเนิดจะกลับไปสู่จุดเดิมได้นั้นเกรงว่าจํานวนพิภพที่ต้องถูกทําลายนั้นคงมีจํานวนมหาศาลนับไม่ถ้วน
และการทําลายพิภพเหล่านี้นั้นหมายความว่าต้องทําลายสิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่บนโลกเหล่านี้ด้วยคิด!
และด้วยเหตุนี้กรรมที่ตามมาจึงจะมากยิ่งกระทั่งเซียนต้นกําเนิดก็มิกล้าจะทําเช่นนั้นแบบสิ้น
ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่ลงมือเองแต่หยดเลือดลงใส่ผู้แข็งแกร่งของพิภพนี้และยึดครองร่างของเขาทําลายพิภพใบนี้ และให้เขารับกรรมแทน!
นี่คือวิธีของเซียนต้นกําเนิด!”
แต่สุดท้ายแล้วจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ของพิภพแห่งนี้นั้นเป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรมและนั่นคือเหตุผลว่าทําไมเขาจึงตัดครึ่งร่างของตน
การตัดร่างของตัวเองนั้นไม่ใช่สิ่งใดอื่นนอกจากการดิ้นรนเขาคาดหวังว่าในอนาคตจะหาวิธีหลุดพ้นจากหยดเลือดสีดํานี้ได้และสร้างร่างขึ้นมาใหม่อีกครา
แต่ช่างน่าเศร้า หากอีกฝ่ายเป็นผู้กุมชะตาเขาก็คงจะพอยังดิ้นรนได้ แต่สิ่งที่เขาเผชิญนั้นคือเซียนต้นก๋าเนิด
วิธีของเซียนต้นกําเนิดนั้นไม่ใช่อะไรที่ผู้กุมชะตาจะจินตนาการออกได้แม้ว่าเขาจะสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของปัจจุบันและอนาคตได้ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่เขาจะเข้าใจได้
นี่คือจุดจบของเขา เขาไม่มีทางรอดมาตั้งแต่เริ่มแล้ว”
ฉินมู่ในร่างของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีถอนหายใจ
“เวลาของเขาใกล้จะหมดแล้วแม้ว่าจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์คนนี้จะตัดชิ้นส่วนของร่างออกไปแต่ส่วนที่เหลือของเขาก็ยังคงติดเชื้ออยู่
คงใช้เวลาไม่นานกว่าที่เขาจะถูกกลืนกินโดยสมบูรณ์
และในตอนนั้น เขตปิดกั้นที่เขาสร้างขึ้นมาก็จะไร้ความหมาย และพิภพจํานวนมากมายที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลแห่งนี้จะถูกทําลายโดยเซียนนิรันดร์”