จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 276 การต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน
บทที่ 276 การต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน!
อ้านาจวิถีแห่งฟ้าดิน!
กระบี่โบราณที่ปรากฏตัวจากความโกลาหลในความว่างเปล่าถูกล้อมรอบด้วยกระแสพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุดซึ่งก่อตัวขึ้นจากการควบแน่นของสวรรค์เหล่านี้!
พูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือนี่คือตัวแทนของอํานาจสูงสุดแห่งฟ้าดิน เมื่อถือกระบี่นี้วิถีแห่งฟ้าดินจะครอบงําพิภพจํานวนหลายพันล้านราวกับเม็ดทรายในแม่น้ำนิรันดร์ จักรวาลอันยิ่งใหญ่จํานวนนับไม่ถ้วนยิ่งใหญ่เหนือใครและไม่มีใครเทียบได้!
เมื่อผู้โดดเดี่ยวถือตัวอ่อนกระบี่โบราณซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอํานาจแห่งฟ้าดินในความว่าง
เปล่า ภาพมากมายก็ปรากฏขึ้นเทพเจ้าปีศาจและวิญญาณทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นรอบๆทั่วสิบทิศทางทั่วทั้งดินแดนรกร้างทั้งแปดโค้งคํานับให้กับผู้โดดเดี่ยวราวกับสรรเสริญจอมจักรพรรดิสูงสุด!
สรรเสริญเป็นอย่างมาก!
เมื่อสิ่งนี้ปรากฏขึ้น วิถีแห่งเต๋าก็แผดเสียงคํารามออกมา วิถีอันเปี่ยมไปด้วยแสงทองนับพันวิถีก็ตกลงมาจากฟากฟ้าฝั่งตะวันออกมีมังกรสีเขียวคดเคี้ยวอยู่บนท้องฟ้าฝั่งตะวันตกมีกรงเล็บเสือขาวที่ทะลวงท้องฟ้าทางทิศใต้มีเพลิงจากหงส์แดงพวยพุ่งขึ้นตรงไปยังเก้าสวรรค์ตัวตนนี้สัมผัสถึงโอกาสแห่งชัยชนะ
สวรรค์และโชคที่ไม่มีที่สิ้นสุด ก่อตัวเป็นวิถีแห่งสวรรค์เก้าสีซึ่งปรากฏออกมาเหนือศีรษะของผู้โดดเดี่ยว
โชคที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ กลายเป็นมังกรล้อมรอบท้องฟ้า
วิถีที่ก่อตัวขึ้นค่อยๆ หมุนไป ราวกับว่ามันเป็นศูนย์กลางของสวรรค์
และภายใต้ร่มเงาที่อยู่เหนือศีรษะนั้น ผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสูงสุดผู้ซึ่งยืนหยัดด้วยอํานาจวิถีแห่งฟ้าดิน ก็กลายเป็นผู้ปกครองสวรรค์อันไร้ที่สิ้นสุดเช่นเม็ดทรายในแม่น้ำนิรันดร์เป็นตัวตนของสิ่งมีชีวิตสูงสุด!
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดทั้งที่เป็นผู้ที่ได้มาโดยกําเนิด และผู้ที่ได้รับมาภายหลังจะต้องแสดงความเคารพต่อเขาพร้อมกับห้อมล้อมเป็นข้าบริพารเพื่อสําแดงอํานาจอันยิ่งใหญ่! นี่เป็นอำนาจวิถีแห่งฟ้าดิน!
สวรรค์ทั้งมวลสรรพชีวิตทุกหมู่เหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งที่อยู่อย่างสงบสุขหรือโหดเหี้ยมต่างมอบอํานาจของตนเองไปยังมือของผู้โดดเดี่ยว!
อาจกล่าวได้ว่าในเวลานี้ผู้โดดเดี่ยวเปรียบเสมือนวิถีแห่งฟ้าดินไม่เพียงแต่ครอบครองพลังของผู้กุมชะตาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของวิถีแห่งฟ้าดินนี้อีกด้วย!
พลังอันยิ่งใหญ่ของวิถีแห่งฟ้าดินนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังของผู้กุมชะตามิฉะนั้นผู้กุมชะตา
จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงําาจะไม่ถูกกําราบโดยเขาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปีและตอนนี้อํานาจของสวรรค์ทั้งหมดมอบให้กับผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสูงสุดการซ้อนทับ
ของอําานาจทั้งสองนั้นไม่ง่ายเหมือนกับหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง
อาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้พลังการต่อสู้ของผู้โดดเดี่ยวได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดจนถึงระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้
แม้แต่ตอนที่เขามองไปยังตราประทับโบราณอันชั่วร้ายในอากาศที่ดูเหมือนจะซ่อนวิถีของ
เซียนต้นกําเนิดก็ยังไม่มีความกลัวใดๆปรากฏขึ้นในใจของเขา!
“อานาจวิถีแห่งฟ้าดิน …….”
ผู้กุมชะตาจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงํามองไปยังตัวอ่อนกระบี่โบราณที่ผู้โดดเดี่ยวถืออยู่ในมือและดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
อํานาจวิถีแห่งฟ้าดินนี้คือสิ่งที่เขาวางแผนมาเป็นเวลาหลายพันล้านปีนั่นคือสิ่งที่เขาไม่เคยหยุดนิ่งตั้งแต่เริ่มต้น
แต่ตอนนี้ มันถูกมอบให้ผู้โดดเดี่ยวโดยวิถีแห่งฟ้าดินแล้ว และผู้โดดเดี่ยวก็ไม่ได้ใช้ความพยายามกับมันมากนัก
ผลลัพธ์นี้ ท่าให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก!
การครอบครองอ่านาจวิถีแห่งฟ้าดินของพิภพนี้หมายความว่าสามารถใช้อํานาจในนามของฟ้าดินได้
นอกจากนี้ยังหมายความว่าหากในตอนนี้ผู้โดดเดี่ยวต้องการผนวกวิถีแห่งฟ้าดินในพิภพนี้เปลี่ยนฟ้าดินให้กลายเป็นร่างของเขา วิถีแห่งเต๋าจะไม่มีการต่อต้านแม้แต่น้อย
กล่าวคือ ตราบใดที่ผู้โดดเดี่ยวคิดเขาก็จะสามารถกลืนกินวิถีแห่งฟ้าดินนี้ได้ในตอนนี้และก้าว
กระโดดจากเขตแดนปัจจุบันไปยังเขตแดนที่แข็งแกร่งกว่าได้สําเร็จ!
หรือแม้กระทั่งสามารถหวังที่จะสํารวจเขตแดนที่สูงขึ้นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเขตแดนสูงสุดแห่งเซียนต้นกําเนิด!
โชคแบบนี้ เป็นอะไรที่หาไม่ได้แน่นอน
หากเขาเปลี่ยนเป็นผู้กุมชะตาผู้คนจะต้องตื่นเต้นไปกับมัน!
“หากกลืนกินอ่านาจวิถีแห่งฟ้าดินนี้เจ้าจะเป็นหนึ่งในฟ้าดินอย่างแท้จริง”
น้ำเสียงของผู้กุมชะตาจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงํานั้นแหบแห้งราวกับถูกทําลายความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญกับความสับสนนี้สีหน้าของผู้กุมชะตาจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงําาดูเศร้าหมอง แต่แววตาของผู้โดดเดี่ยวยังคงใสราวกับน้ำแม้ว่าเขาจะได้รับพลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
“ข้าก็คือขา ขาเพียงแสวงหาวิธีการของข้าเองและไม่ได้ยืมพลังภายนอกส่วนพลังของฟ้าดิน
นะรึ? ไม่ว่าอย่างไรมันเทียบไม่ได้กับวิถีและความแข็งแกร่งของข้า!”
หลังจากผู้โดดเดี่ยวพูดจบเขาก็ยกตัวอ่อนกระบี่โบราณที่อยู่ในมือขึ้นเล็กน้อยและฟาดฟันไป
ที่ตราประทับโบราณอันชั่วร้ายซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอํานาจวิถีแห่งฟ้าดินที่เสียหายจากผู้กุม
ชะตาจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงํา!
อีก
ด้วยกระบี่เดียวฟ้าดินก็ถูกพลิกคว่ำและทุกสิ่งก็เงียบสงัด
เมื่อกระบี่นั้นตกลงมา ก็เหมือนจุดเริ่มต้นของฟ้าดินกําราบไปทั่วทั้งสวรรค์และพิภพซ้ำแล้วซ้ำ
และเมื่อสวรรค์และพิภพถูกทําลายจนพินาศก็วาบวับไปด้วยแสงแห่งความหวังสุดท้ายก่อนที่จะกลับคืนสู่ความโกลาหล
เมื่อกระบี่ตกลงมา ร่างจําแลงของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ปรากฏขึ้นน้อมศีรษะลงท่ามกลางความว่างเปล่าสรรเสริญให้กับพลังสูงสุดของกระบี่นี้
แม้แต่แม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ทอดยาวมิติเวลาในทุกยุคทุกสมัย ต่างก็หยุดนิ่งราวกับว่ามันถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์
แสงกระจ่างของกระบี่สาดแสงกระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ทุกมิติเวลาไร้ซึ่งจุดบอดปรากฏในทุกพิภพทุกยุคสมัยและทุกมุมของมิติเวลา
มันสะกัดกั้นมิติเวลาทั้งหมดตัวแปรทั้งหมดได้กลับมามีความสมบูรณ์
กระบี่โจมตีตราประทับโบราณแตกหัก!
‘สรรเสริญวิถีแห่งฟ้าดินสูงสุด!!’
‘สรรเสริญผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสูงสุด!!’
‘สรรเสริญพลังแห่งสวรรค์ อํานาจวิถีแห่งฟ้าดิน!’
ในความว่างเปล่า หมื่นวิถีสั่นคลอนใช้วิถีแห่งสวรรค์เพื่อเปล่งเสียงวิถีสูงสุดที่แผ่ขยายไปทั่วสวรรค์และยุคสมัยดังก้องในหูของสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนับพันล้านชีวิตราวกับจํานวนเม็ดทรายในแม่นํ้านิรันดร์
“บูม!”
ในตอนที่ตราประทับโบราณอันมืดมิดกระทบเข้ากับกระบี่โบราณที่อยู่ในมือของผู้โดดเดี่ยววิถี
แห่งฟ้าดินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอํานาจของกระบี่ ก็เกิดการระเบิดที่เป็นเหมือนกับการสร้างและการทําลายพิภพครอบคลุมทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์และกลายเป็นสีอันวิจิตรตระการตาสุดท้ายของ
พิภพนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างสูญเสียความแวววาว
มิติเวลาหยุดชะงักทุกสรรพชีวิตสูญเสียความรู้สึกทั้งหมด ในตอนนี้ฟ้าดินดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
มีเพียงพลังแห่งการทําลายล้างเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์
ผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสูงสุดเผชิญหน้ากับจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดครอบงําด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้ทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรู้ว่าผู้กุมชะตาคืออะไร
ฟ้าดิน มิติเวลาทั้งหมดเป็นเช่นไร สิ่งมีชีวิตทั่วไปได้ประจักษ์ในวันนี้!
การขับเคี่ยวระหว่างผู้แข็งแกร่งและตัวตนโดยกําเนิดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตอื่นๆจะสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้
คงไม่ต้องพูดถึงการมีส่วนร่วม แม้แต่การเป็นพยานก็ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!