จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 297 หลายร้อยล้านเผ่าพันธุ์มนุษย์สักการะจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี
- Home
- จอมบงการเทพยุทธ์
- บทที่ 297 หลายร้อยล้านเผ่าพันธุ์มนุษย์สักการะจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี
บทที่ 297 หลายร้อยล้านเผ่าพันธุ์มนุษย์สักการะจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
ในตอนต้นของยุคดึกดําบรรพ์จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีเสด็จลงมามาจากเก้าสวรรค์เพื่อถ่ายทอด
วิถีให้เผ่าพันธุ์มนุษย์และปกป้องความรุ่งเรืองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มนุษยชาติก็ได้ประสบกับความเจริญรุ่งเรือง
ฉินมู่ก้าวเดินไปจนถึงจุดสิ้นสุดประวัติศาสตร์ของหมื่นฟ้าหมื่นเขตแดนนี้หลังจากที่ทิ้งร่องรอยของตนเองไว้ที่จุดเริ่มต้นของต้นยุค
แม้น้ำสายกาลเวลาที่กว้างใหญ่ไพศาลทอดยาวไปเป็นเวลานับอนันต์ ก็เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นในทันใด
ในช่วงเริ่มต้นของยุคโบราณในพิภพที่มีการคงอยู่ของผู้กุมชะตานี้ เขาได้ทิ้งรอยประทับและร่องรอยของตัวเองไว้นี่คือสิ่งที่ผู้กุมชะตาทั้งหมดในทะเลแห่งความโกลาหลจะทําบางทีพวกเขาอาจได้พิสูจน์เส้นทางที่ถูกต้องหลังจากผ่านความสับสนวุ่นวายนับพันล้านปี
ตั้งแต่การกําาเนิดของพิภพ
แต่ตราบใดที่ยังมีสิ่งมีชีวิตที่บรรลุผู้กุมชะตา เขาก็จะสามารถติดตามร่องรอยของตัวเองกลับไปที่จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ ตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่กําเนิดฟ้าดิน!
นี่เป็นกฎที่แพร่หลายอยู่ในจักรวาลที่ยังไม่มีอยู่จริง
อย่ายั่วยุตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดของจักรวาลอย่างไม่ใส่ใจ
เพราะแม้ว่าตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดอาจจะไม่แข็งแกร่งแต่คนที่แข็งแกร่งจริงๆ จะต้องเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล
และตอนนี้สิ่งที่ฉินมู่ทําก็คือการสร้างเอกลักษณ์ของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีในพิภพนี้ ทําให้ตัวตนของเขาสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!
“ในตอนต้นของต้นยุค ใครกันที่สั่งสอนผู้คนจนเกิดปัญญา?!”
“เป็นจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี และเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้เริ่มสักการะเขา”
“คัมภีร์หลักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ สุริยันจันทรา หนึ่งอ่อนหนึ่งแข็ง? หยินหยางรวมกันและพิภพก็ได้เรียกขานจอมจักรพรรดิ”
พิภพนี้ที่ได้รับการเลื่อนเขตแดนเป็นราชันเซียนนิรันดร์”
“ผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ รวบรวมคัมภีร์โบราณสุริยันจันทราทั้งสองเล่มเก็บตัวฝึกวิชาประสบความสําเร็จในเขตแดนก้าวข้ามไปสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์และกลายเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งคนแรกในพิภพที่บรรลุเขตแดนจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์”
“ผู้โดดเดี่ยวผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่าคัมภีร์หลักสุริยันจันทราทั้งสองของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีความ
ลึกลับไร้ที่สุดแม้กระทั่งเขาเองก็สามารถตระหนักได้เพียงส่วนหนึ่งของมันเท่านั้นถ้าเขาสามารถตระหนักในคัมภีร์ได้อย่างสมบูรณ์เขาจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้”
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี ผู้นําของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้สร้างตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์””เก้าพิภพสิบแปดชั้นทุกเขตแดนทุกอายุขัย หลายร้อยล้านเผ่าพันธุ์มนุษย์สักการะจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!!”
“คัมภีร์จันทราและคัมภีร์สุริยันถูกกล่าวขานว่าเป็นเหตุให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเผ่าพันธุ์อื่นกับเผ่าพันธุ์มนุษย์… …”
เมื่อฉินมู่ทิ้งรอยประทับของตัวเองไว้บนจุดสิ้นสุดของเวลาในแดนสวรรค์หมื่นพิภพนี้แล้วเวลา
อันยาวนานหลังจากนั้นก็เริ่มผันผวนและประวัติที่สอดคล้องกันก็เริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน!
เสียงของแต่ละช่วงเวลาดังขึ้นเหนือแม่น้ำสายยาวแห่งประวัติศาสตร์
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ไม่มีความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย ล้วนเป็นความจริงที่ได้วิวัฒนาการไปตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานแลได้พัฒนาขึ้นในจิตใจของสิ่งมีชีวิต
ทั้งหมด
และด้วยการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์อันยาวนานในทุกแห่งหนในแดนนิรันดร์รวมไปถึงหมื่นฟ้าดินล้วนเกิดการเปลี่ยนไป
ในความคิดของสิ่งมีชีวิตบางตัวตน ก็มีความทรงจําทางประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นในทันใดในความทรงจําของพวกเขามีตํานานที่สืบทอดมาอย่างยาวนานไม่สามารถอธิบายได้ว่านํานานเหล่านี้มีความเก่าแก่เพียงใดแต่พวกเขาได้รับการถ่ายทอดด้วยวาจาจากปากสูปากจากรุ่นสู่รุ่น
ตามตํานานเล่าว่าที่จุดเริ่มต้นของต้นยุคมีสิ่งมีชีวิตสูงสุดในชื่อจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีได้เทศนาสั่งสอนเผ่าพันธุ์มนุษย์ …
ความทรงจําเหล่านี้ปรากฏขึ้นในจิตใจของสิ่งมีชีวิตนับร้อยล้านแต่ไม่มีใครสงสัยหรือประหลาดใจแต่อย่างใด
เพราะนั่นคือประวัติศาสตร์ที่แท้จริงไม่มีความเท็จเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากเป็นประวัติศาสตร์ที่แท้จริงจะมีใครสงสัยได้อย่างไร
นอกจากความทรงจําพิเศษเหล่านี้ในจิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดแล้วซากอารยะธรรมโบราณก็เริ่มปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า
สิ่งเหล่านี้เป็นวัดโบราณที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ใช้สักการะจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีซึ่งถูกฝังอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของกาลเวลาซึ่งก็ได้ปรากฏเปิดเผยต่อนพิภพมนุษย์อีกครั้งโดยสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ มนุษย์นับร้อยล้านในฟ้าดิน
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี อวยพรเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้า!”
“สุริยันจันทราคัมภีร์หลักสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์!”
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!”
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต่างพากันไปสักการะวัดโบราณของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี
เพียงแต่ว่าภายในวัดเหล่านี้มีเพียงด้านหลังที่ไม่แยแสและสูงส่งประดุจดังวิถีแห่งสรวงสวรรค์เพลิดเพลินกับการสักการะจากทุกสรรพชีวิตว่ากันว่าในช่วงต้นของยุคแรกยามเมื่อจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีมาถึงครั้งนั้นมีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องการแกะสลักใบหน้าของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีเพื่อให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สักการะจากรุ่นสู่รุ่น
แต่ทันทีที่เขาต้องการแกะสลักใบหน้าที่แกะสลักจะถูกพลังที่มองไม่เห็นลบไป
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์หวาดหวั่นและรับรู้ความหมายทุกอย่าง
เขตแดนของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีนั้นสูงไกลเกินไปเหนือโลกสามัญโลกไม่สามารถที่จะมองเห็นตัวตนนั้นเพราะว่าใบหน้าของสวรรค์นั้นไม่ปรากฏดังนั้นผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงทําได้แค่แกะสลักด้านหลังที่ไม่แยแสและสูงส่งดั่งวิถี
แห่งฟ้าสําหรับให้เผ่าพันธุ์มนุษย์หลายร้อยล้านเพลิดเพลินไปกับการสักการะของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตลอดไป
ทะเลแห่งความโกลาหลสงบลงอีกครั้ง
ฉินมู่ยืนอยู่อย่างเงียบๆ จิตใจของเขาเคลื่อนไหว เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในฟ้าดินในมุมมองที่สมบูรณ์
“ตัวตนของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีนี้ถือได้ว่ามั่นคงอย่างแท้จริง”
ฉินมู่หัวเราะห์
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะสามารถใช้พลังของระบบสร้างประวัติศาสตร์ แต่ไม่ว่าอย่างไรนั่นก็เป็น ภาพลวงตา แตกต่างไปจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ประวัติศาสตร์ที่เขาสร้างขึ้น เป็นความจริงและเป็นความจริงอย่างสมบูรณ์!
หากเขาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เกิดสิ่งนั้นขึ้นจริงๆ
ประวัติศาสตร์ อยู่ในมือของเขา สามารถปรับปรุงได้อีกทุกเวลา!