จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 75
จ้าได้รับแต้มตกใจ +25454 จากวิหคเพลิงสวรรค์ !
เจ้าได้รับ +28974 แต้มตกใจจากกระทิงทองคํา !
“เจ้าได้รับแต้มตกใจ +24411 จากวานรแดง !
“เจ้าได้รับแต้มตกใจ +31221 จากจีต้าวช !
“เจ้าได้รับ…”
ถัดจากป่าหินอนุสรณ์โบราณ แต้มตกใจเพิ่มขึ้นอีกครั้งฉันมู่ยืนเงียบๆเฝ้าดูปฏิกิริยาของทุกคน
“จากกระต่ายหิมะ สู่ยุคของจอมจักรพรรดิอสูรที่ก้าวไปสู่จุดสูงสุด มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ในประวัติศาสตร์ของเผ่าอสูรของข้าจริงหรือ ?”
กระทิงทองคําศักดิ์สิทธิ์พึมพํากับตัวเองด้วยความตกใจ น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตกใจ
ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่รู้สึกว่าประสบการณ์ของจอมจักรพรรดิอสูรนั้นช่างเป็นตํานานเกินไป
กระต่ายหิมะที่มีสายเลือดต่ำ แต่กลับลุกขึ้นมาในโลกที่พร่างพราย ปราบศัตรูจากทุกทิศทางและในที่สุดก็ก้าวไปบนเส้นทางจักรพรรดิไปถึงยังจุดสูงสุด
หลังจากกลายเป็นจอมจักรพรรดิแล้วสายเลือดก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงสันสะท้านทั่วทั้งโลกเขาไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วตามตํานานเลือดหยดหนึ่งนั้นสามารถสังหารมังกรได้เลย ทีเดียว !
“จอมจักรพรรดิอสูรที่ไม่มีใครเทียบได้ถ้าเขาทําได้ถึงขั้นนี้ ความสามารถของเขาจะพิเศษขนาดไหนกัน ?
จีต้าวชูอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เมื่อดูคําอธิบายเกี่ยวกับชีวิตและการกระทําของจอมจักรพรรดิอสูรบนแผ่นศิลานี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏร่างหนึ่งขึ้นในใจ
มีสายเลือดและรูปแบบเช่นเดียวกัน ก้าวข้ามวิถีทั้งห้า ในที่สุดก็ขึ้นสู่จุดสูงสุดและอยู่เป็นอมตะในโลก
มีข่าวลือในหมู่มนุษย์แดนร้างตะวันออกว่าจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญเคยปรากฏตัวในแดนร้างตะวันออก !
น่าเสียดายเมื่อร่องรอยของอดีตจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญปรากฏขึ้นเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ ?
หากเปรียบเทียบกับจอมจักรพรรดิอสูร ใครอ่อนแอกว่าหรือแข็งแกร่งกว่ากัน ?
เมื่อยืนอยู่หน้าป่าอนุสรณ์ศิลา ทุกคนต่างมีอารมณ์ที่หลายหลาย
ในสายตาของจักรพรรดิอสูรทั้งสาม ต่างมีความคารวะมากขึ้น
พวกเขาไม่เคยคิดว่าในประวัติศาสตร์ของเผ่าอสูร จะมีตัวตนที่น่าพิศวงซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นตํานานที่ไม่เหมือนใครในโลกของเผ่าอสูร
“เราไปกันต่อ จะต้องมีอย่างอื่นนอกเหนือจากแผ่นศิลจารึกนี้”
เหล่าจักรพรรดิไม่ได้อยู่ที่นี่นานนักและเดินทางต่อไป
ในเวลาเดียวกันกับที่พวกเขาจากไปต่างก็ปรากฏร่องรอยของความสงสัยอยู่ในใจของทุกคน
ในป่าอนุสรณ์โบราณ มีการบันทึกว่าจอมจักรพรรดิยืนหยัดขึ้นจากความอ่อนแอและตรงไปยังจุดสูงสุด
แต่ไม่มีอะไรถูกบันทึกไว้มากนัก
ไม่มีการกล่าวถึงว่าจอมจักรพรรดิอสูรมีศัตรูที่สําคัญด้วยหรือไม่ หรือแม้แต่การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เขาเคยประสบมา
หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดสรรพวิญญาณทั้งหมดจึงสร้างวิหารโบราณของจอมจักรพรรดิอสูรเพื่อสักการะด้วย?
“ข้าคิดว่าจอมจักรพรรดิอสูรก็เหมือนจอมจักรพรรดิโบราณ ไม่สามารถต้านทานพลังของกาลเวลาได้ในที่สุดเขาก็แก่เฒ่าและอ่อนแอจนสุดท้ายก็ต้องตายด้วยวัยชรา”
ราชันบรรพบุรุษดึกดําบรรพ์เอ่ยปากคาดเดา
นี่คือความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
ในโลกอันกว้างใหญ่ มีสรรพวิญญาณทั้งหมดไม่มีใครสามารถเอาชนะตัวตนของผู้อยู่ในจุดสูงสุดสุดได้นี่เป็นกฎเหล็ก
บางที่มีเพียงกาลเวลาอันยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถเอาชนะจอมจักรพรรดิอสูรที่สามารถสร้างความประหลาดใจให้กับยุคสมัยได้
จักรพรรดิอสูรทั้งสามยังเดินทางต่อไปโดยไม่พูดอะไร
นี่เป็นเพียงการคาดเดาในใจ
เวลาก็เปรียบเหมือนกระบี่ที่กร็ดผ่านลงบนความหยิ่งผยองของสวรรค์
แม้ว่าเจ้าจะเป็นวีรบุรุษของโลกที่น่าอัศจรรย์ชั่วนิรันดร์แต่ในที่สุดแล้วเจ้าก็ไม่อาจยื้อกระบี่แห่งกาลเวลาไว้ได้ร่างกายของเจ้าจะสูญสลายวิญญาณของเจ้าจะเน่าเปื่อยและเจ้าต้องฝากร่างไว้ในโลกมนุษย์ปล่อยวางความเกลียดชังนั้นไปชั่วนิรันดร์
“จริงงั้นรึ ? ข้าไม่คิดอย่างนั้น
ตัวนหยุนเชิงพึมพําเบาๆ
เขาไม่เห็นเช่นนั้น
เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่บรรลุจุดสูงสุดด้วยร่างกายของมนุษย์นั้นแตกต่างจากจอมจักรพรรดิโบราณอื่นๆและบางที่อาจมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มากกว่า
เช่นเดียวกับจักรพรรดินีมนุษย์ที่ปรากฏตัวในแดนร้างตะวันออกก่อนหน้านี้ท้าทายสวรรค์ถึงสี่ครั้งและดูเหมือนสุดท้ายจะไม่ได้พ่ายแพ้แต่มีชีวิตอมตะในโลกมนุษย์
เช่นเดียวกับจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ จอมจักรพรรดิอสูรสร้างตัวขึ้นมาจากร่างกายที่ธรรมดาสามัญสังหารไปทุกทิศทุกทาง และในที่สุดก็ไปถึงยังจุดสุดสูงสุด
ทั้งคู่ต่างมีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์
สิ่งที่จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญทําได้ จอมจักรพรรดิอสูรก็สามารถทําได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าทุกคนจะคาดเดาในใจ แต่ก็ไม่ได้หยุดก้าวไปข้างหน้า
เพราะความจริงอาจอยู่ข้างหน้า
ทุกคนเดินไปข้างหน้า ผ่านป่าของอนุสรณ์โบราณและปืนขึ้นไปบนภูเขาสูงหลายลูกและดวงตาก็เบิกโพลงขึ้นอีกครั้ง
“อนสรณ์โบราณอีกแห่งหนึ่ง แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่นี่มีอนุสรณ์โบราณเพียงสองแห่ง !”
กระทิงทองมองไปข้างหน้า ดวงตากระจ่างสดใส และเสียงก็เบาลง
ดูเหมือนก่อนหน้านั้น ที่เป็นพื้นที่โล่ง
แต่ความแตกต่างคือมีอนุสรณ์โบราณหลายร้อยแห่งตั้งอยู่ในดินแดนเปิดโล่งนั้น
แต่ที่นี่ มีอนุสรณ์โบราณเพียงสองแห่งเท่านั้นที่ตั้งอยู่
แต่ถึงแม้ว่าจะมีเพียงสองแห่ง แต่อนุสรณ์โบราณทั้งสองแห่งที่ตั้งอยู่ที่นี่ก็มีความงดงามและสง่างามกว่าที่เคยเป็นมา
อนุสรณ์โบราณสองแห่ง สูงส่งและตั้งตะหง่านเหมือนกับภูเขาอสูรโบราณที่ตั้งอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก
โดยเฉพาะอนุสรณ์โบราณแห่งสุดท้ายนั้นเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม มีปราณอมตะที่ครอบคลุมฟ้าดินซึ่งน่าตกใจอย่างมาก !
ทุกคนรีบวิ่งไปข้างหน้าและมองไปที่อนุสรณ์โบราณ
บนอนุสรณ์โบราณชิ้นแรก ไม่มีอะไรอื่นนอกจากรูปภาพของจอมจักรพรรดิที่ถูกบันทึกไว้
ในภาพ วิหารโบราณที่งดงามตั้งตระหง่านล่องลอยอยู่ระหว่างฟ้าดินนั้นคือวังของจอมจักรพรรดอสูร !
และหน้าวังจอมจักรพรรดิอสูร มีร่างสามร่างยืนนิ่งอยู่ !
เมื่อมองดูทั้งสามร่าง ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิทั้งสามของเผ่าอสูร ราชันโบราณทั้งหกหรือต้าวชและตัวนหยุนเชิงล้วนมีสีหน้าที่เหลือเชื่อ !
เหมือนจะเห็นบางสิ่งที่เหลือเชื่อ !
ร่างแรก มีผมปลิวไสวและเสื้อคลุมยาวรูปร่างเพรียวบาง หน้ากากทองสัมฤทธิ์ติดอยู่บนใบหน้าของนางปกปิดใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบได้แต่ก็ไม่สามารถปกปิดรูปลักษณ์อันวิจิตรงดงามของนางได้ลมหายใจอันน่าอัศจรรย์แห่งยุคสมัย
ร่างที่สอง มีผมสีดําดุจน้ำตก มีความสง่าผ่าเผย และมีความภาคภูมิใจที่สามารถสั่นคลอนสามภพมีระฆังสีเหลืองทองลึกลับแขวนอยู่เหนือหัว และพลังงานสีเหลืองทองลึกลับแผ่ลงมาปกคลุมทุกสิ่ง
ร่างที่สาม ด้วยรูปลักษณ์ที่กล้าหาญเช่นกัน ยืนสูงและหยิ่งผยอง ยืนเอามือไขว้หลัง มีกระถาง โบราณปรากฏขึ้นบนศีรษะของเขา ดวงประทีปนับร้อยล้านดวงหมุนเวียนอยู่ และในขณะเดียวกัน ดวงปราณนับหมื่นก็ร่วงหล่นลงมา
เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ เหมือนกับจอมจักรพรรดิ์จากสวรรค์ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถก่า ราบศัตรูทั้งหมดในโลกได้ !
“จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ จอมจักรพรรดิคนแรก !”
หลังจากที่ได้เห็นร่างทั้งสามบนอนุสรณ์โบราณ ในที่สุดจตาวชก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญและจอมจักรพรรดิอู่จื่อผู้ยิ่งใหญ่ สองอดีตผู้สูงสุดยอดฝีมือของ เผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาเพิ่งปรากฏตัวในแดนร้างตะวันออกตาวชจะไม่รู้เกี่ยวกับพวกเขาได้อย่างไร ?
ไม่เพียงแต่จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญและจอมจักรพรรดิอู่จื่อ แต่ยังมียอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุ ษย์อีกคนหนึ่งที่มีกระถางขนาดใหญ่อยู่บนหัว และพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน !
ผู้ก้าวเข้าสู่ระดับสูงสุดในอดีต ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์รวมตัวกันที่หน้าวังของจอมจักรพ รรดิอสูร พวกเขามาเพราะเหตุใด ? !
จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ จอมจักรพรรดิอู่จื่อและชายอีกคนหนึ่งที่ประดุจจอมจักรพรรดิ สวรรค์
ในภาพวาดโบราณบนศิลานี้ พวกเขาทําลายตํานานและอาศัยอยู่ในโลกเดียวกัน !
นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หรือเป็นการประดิษฐ์ของคนรุ่นหลัง ?
ถ้าเป็นจริง ผลลัพธ์ก็ช่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าจะจินตนาการได้ !