จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 110
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 110
บรรพชนตระกูลหยางมาแล้ว
“เป็นตาแก่ที่ตายยากจริงๆ”
“เจ้าหนูตระกูลฉินนั่นลําบากแล้ว”
” พี่จ้าว พวกเรา….”
“เหอเหอ ย่อมแน่นอน ทว่าทุกอย่างล้วนเป็นไปตามโชคชะตา ฉินเทียนสังหารคนตระกูลหยางไปมากมายถึงเพียงนั้น หากหยางซานต้องการให้เขาตายจริงๆ เกรงว่าแม้แต่พวกเราก็ป้องกันไว้ไม่ได้”
“เฮ้อ!” หลูตงไห่ถอนหายใจพลางรวบรวมพลังสวรรค์ภายในร่าง เขาหวังว่าฉันเทียนจะรอดพ้นวิกฤติในครั้งนี้ และอาจบางที่พวกเขาจะสามารถสร้างไมตรีจิตระหว่างกัน
“บรรพชนตระกูลหยาง?” ฉินเทียนแหวกซากสิ่งก่อสร้างออกมา เขารู้สึกได้เพียงว่า หลังจากใช้พลังปราณภายในร่างทั้งหมดออกมาแล้ว เขาก็ต้านทานแรงกดดันจากอีกฝ่ายได้เพียงเล็กน้อย สังหารหยางฮงตอนนี้กลายเป็นเรื่องยากแล้ว “ขั้นสวรรค์ พลังสวรรค์? นี่ก็คือความแข็งแกร่งของขึ้นสวรรค์?”
“น้องสาวมันเถอะ! ขั้นสวรรค์แข็งแกร่งไปแล้ว” ฉินเทียนสบถ ขั้นกลั่นวิญญาณย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชั้นสวรรค์โดยสิ้นเชิง ช่องว่างส่วนนี้ห่างไกลกันราวฟ้ากับเหว
เมื่อคนผู้หนึ่งบรรลุขั้นสวรรค์ได้สําเร็จ คนผู้นั้นก็จะสามารถสร้างพลังสวรรค์ ทําให้ความแข็งแกร่งพุ่งทะยานขึ้นไปเป็นอีกระดับ
พลังสวรรค์เป็นทักษะวิญญาณอันทรงพลังที่จะปลดปล่อยแรงกดดันทางวิญญาณอันไร้สิ้นสุดออกมา ไม่เพียงเท่านั้น พลังสวรรค์ยังบรรจุไว้ด้วยขุมพลังสุดแกร่งที่สามารถปลดปล่อยพลังโจมตีอันทรงพลังออกมาโดยการใช้พลังปราณ
แววตาของหยางชานเผยให้เห็นโทสะอย่างรุนแรง แรงกดดันอันไพศาลถาโถมเข้าสะกดฉินเทียน
สิ่งนี้ฉันเทียนไร้กําลังจะตอบโต้ใดๆ กลิ่นอายนักล่าของเขาอ่อนแอเกินจะต่อต้านพลังสวรรค์
“เจ้าแก่ฝีเน่า รีบไสหัวออกมา” ฉินเทียนรู้สึกปวดศีรษะราวกับสมองกําลังถูกผ่า ทั้งหัวใจและตันเถียนเกิดการสั่นอย่างไม่อาจควบคุม ตัวอ่อนปีศาจเองก็กลัวจนตัวสั่นเทิ้ม แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ฉินเทียนก็ยังด่าทอออกไปอย่างไม่กลัวเกรง
”เทียนน้อย..”
ฉินเหลียนเคร่งเครียดอย่างมากนับตั้งแต่ที่บรรพชนตระกูลหยางปรากฏตัว
จิตใจของขั้นสวรรค์นั้นแตกต่างกับมนุษย์ทั่วไป พวกเขาเพียงหวังจะไต่เต้าต่อไปยังขั้นที่สูงส่งกว่าเพื่อมีชีวิตเป็นหมื่นปี เพื่อก้าวย่างสู่ความว่างเปล่าแล้วบรรลุเป็นเซียน
โดยส่วนใหญ่แทบไม่ข้องแวะกับโลกภายนอก แต่ยามเมื่อตระกูลหยางเผชิญกับความเป็นความตาย หยางซานในที่สุดก็ตัดสินใจปรากฏตัว
ฉินเทียนยากจะหลีกหนีความตายได้อีก
ใบหน้าของฉินเหลียนเต็มไปด้วยความกังวล หยางซานเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นสวรรค์อย่างแท้จริง การจะฆ่าฉินเทียนก็ไม่ต่างอะไรกับการปั๊มด ต่อให้หนีไปเป็นพันๆลี้ก็ยากที่จะหนีรอด
“ท่านน้าไม่ต้องกังวล” ฉินเทียนก้าวเท้าออกไปอย่างยากลําบาก เขาเร่งส่งเม็ดยาเข้าปากอย่างต่อเนื่อง แก่นอสูรห้าแก่นภายในร่างเริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่งเพื่อฟื้นฟูพลังปราณ ขอเพียงพลังปราณของเขาฟื้นคืนมา ไม่ว่าหยางซานจะเก่งกาจขนาดไหน เขาก็จะสู้
มองดูหยางฮงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ความคิดฆ่าฟันก็ฉายชัดผ่านทางแววตา ฉับพลันนั้นจิตสังหารของฉันเทียนก็แผ่พุ่งออก
“โอหัง!”
เสียงคํารามดังก้องประดุจฟ้าร้อง เงาหนึ่งวูบผ่านและปราฏตัวขึ้นที่ด้านบนสุดของพระราชวัง สายตาของคนผู้นั้นจ้องมองฉันเทียนอย่างหยามเหยียด ที่หว่างคิ้วของเขาแฝงไว้ด้วยความสงบ ขณะที่ร่างทั้งร่างคล้ายหลอมกลืนไปกับฟ้าดิน
คนผู้นี้คือ หยางซาน ระดับสามขั้นสวรรค์
ฉินเทียนพลันรู้สึกตัวหนักอึ้งกว่าปกติกว่าร้อยเท่า การก้าวเดินออกไปทุกก้าวล้วนสิ้นเปลืองพลังกายอย่างมหาศาล เม็ดเหงื่อไหลย้อยเต็มหน้าผาก แต่ในใจก็ยังก่นด่าไม่หยุด “บิดามันเถอะ”
” ปะทุให้กับบิดา…”
ใบหน้าที่เดิมเต็มไปด้วยเลือดฝาดพลันเปลี่ยนปั้นขาวซีด เส้นเลือกเริ่มปูดโปนจนมองเห็นชัดดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
” ย๊าก……”
ฉินเทียนกู่ร้อง เขารวบรวมปราณสร้างเป็นกระบี่ปราณขึ้นมาก่อนจะพุ่งตัวแทงกระบี่ไปทางหยางฮงอย่างยากลําบาก…
“ไม่ประมาณตน” หยางซานแค่นเสียงพลางปลดปล่อยจิตสังหารออกมา นิ้วของเขาขยับเคลื่อนไหว อากาศผันผวนขึ้นวูบ กระบี่ปราณของฉันเทียนพลันสลายไป
สําหรับหยางซานแล้ว อาวุธพลังปราณของขั้นกลั่นวิญญาณก็ไม่นับเป็นอย่างไร
หยางซานขยับนิ้วอีกหน ร่างของฉันเทียนก็ชะงักไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้อีก ”มารดามันเถอะ เจ้าเฒ่าบัดซบเอ๊ย!”
บอสที่ส่องประกายระยิบระยับซึ่งหลงเหลือพลังชีวิตอันน้อยนิดอยู่ห่างออกไปไม่มาก อีกเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถปลิดปลงลง แต่จู่ๆก็ถูกผู้อื่นขัดขวางเอาไว้ ความรู้สึกย่อมย่ำแย่ยิ่งกว่ากลืนแมลงวันเข้าไป ฉินเทียนพยายามรวบรวมพละกําลังขัดขืน หากแต่พลังที่สะกดร่างของเขาเอาไว้กลับไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย
บอส โครตบอสที่ส่องประกาย ของที่ตกออกมาย่อมดีเกินจินตนาการ กระทั่งว่าอาจจะมีสมบัติระดับอมตะอยู่ด้วย
“สวรรค์ ทําไมต้องกลั่นแกล้งแบบนี้?” ฉินเทียนทอดถอนใจก่อนที่สายตาจะหันไปจ้องหยางฮงและคํารามออกมา “เจ้าเฒ่าลมสุนัข ไปตายซะ บิดาจะสงเคราะห์เจ้าเอง”
คชสารชําระล้างถูกเปิดใช้งานขึ้นอีกครั้ง
กลิ่นอายของฉันเทียนเปลี่ยนแปรไปพร้อมกับความหงุดหงิดที่พุ่งทะลุฟ้า
หยางซานแค่นเสียงและขยับนิ้วอีกครั้ง พลังที่ฉันเทียนพยายามรวบรวมอยู่ก็พลันอันตธานหายไป “ตาย…”
เมื่อกล่าวคําว่า “ตาย” ออกมา ร่างของหยางซานก็หายไปไม่หลงเหลือกลิ่นอายใดๆ
วินาทีถัดมา แรงกดดันที่สูงใหญ่ราวขุนเขาก็กดทับลง
ฉินเทียนย่อมไม่ยอมถอดใจ ความขุ่นแค้นที่หยางซานสร้างไว้ทําให้เขาโมโหอย่างที่สุดแล้ว พลังมหาศาลที่อยู่ภายในพลันปะทุออกเกิดเป็นเงาโลหิตนับหมื่นทั่วท้องฟ้า จากนั้นเงาโลหิตทั้งหมดก็พุ่งไปยังจุดที่หยางซานหายไป แม้ว่ากลิ่นอายนักล่าของเขาจะจับสัมผัสถึงการดํารงอยู่ของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“ระเบิดให้กับบิดา!”
เงาโลหิตจํานวนหนึ่งหมื่นเงา นี่คือขีดจํากัดสูงสุดของปีศาจสวรรค์ขั้นที่หนึ่งแล้ว
“เคล็ดวิชาปีศาจ เหอะ” หยางซานแค่นเสียง พลังสวรรค์แผ่พุ่งออกดูดกลืนเงาโลหิตทั้งหมดและเปลี่ยนพวกมันกลายเป็นฝุ่นผง
เงาโลหิตทั้งหนึ่งหมื่นร่างถูกกําจัดจนหมดสิ้น
ฉินเทียนพลันรู้สึกสิ้นหวัง พลังคชสารชําระล้างทําหน้าที่ปกป้องจิตใจและรากฐานชีวิต ขณะที่จุดตันเถียนพลันมีเสียงมังกรฟ้าและคชสารดึกดําบรรพดังออกมา
“เปรี้ยง!”
หยางซานตบฝ่ามือออกไปอย่างไม่ใส่ใจ หากแต่พลังที่แฝงอยู่ในนั้นราวกับกักเก็บไว้ด้วยพลังฟ้าดินทั้งมวล เมื่อฝ่ามือกระทบลงบนอก อกของฉันเทียนก็ส่งเสียงแตกหักอย่างรุนแรง ร่างของเขาลอยละลิ่วไปกระแทกกับกําแพงเมืองอย่างรุนแรง
กําแพงเมืองพังครืนลงมาทั้งแถบ
“เทียนน้อย!” ฉินเหลียนกรีดร้องพลางรีบไปยังจุดที่ฉินเทียนตกลงไป ดวงตารื้นไปด้วยน้ำตาอย่างเจ็บปวดใจ
“ฉินเทียน!” ในเวลาเดียวกัน อวินม่านก็กรีดร้อง ทันใดนั้นเสื้อผ้าของนางก็โปร่งพอง สายลมพัดกระหน่ำขึ้นรอบกาย ผนึกของไปสือซานชิ้นพลันพังทลาย และขุมพลังอันมหาศาลก็หลั่งไหลออกจนสั่นสะเทือนไปทั่วสวรรรค์ทั้งเก้า
ผู้มีจิตใจดีงามหนึ่งร้อยชาติภพ พลังแห่งโชคชะตาที่สั่งสมมาร้อยชาติพลันปะทุออกมาอย่างบ้าคลัง
ได้เห็นฉินเทียนลอยกระเด็นดุจว่าวขาดสายปาน อวิ๋นม่านก็เจ็บปวดอย่างที่สุดจนไม่อาจควบคุมพลังภายในร่าง
นางก้าวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง พลังที่สั่นสะเทือนฟ้าดินก็ถูกรวบรวมมา สายตาอันเกรี้ยวกราดของนางจับจ้องไปที่หยางซานก่อนจะตะโกนออกมา “ไปตายซะ!”
หยางซานพลันเคลื่อนไหว ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างเดือดดาล หากแต่ตัวเขากลับสะเทือนใจไม่น้อย “ผนึกร้อยภพพังทลายแล้ว พลังแห่งโชคชะตาอันไร้ประมาณ นี่เกรงว่า…”
หัวใจของเขาบีบรัด จิตใจปั่นปวนยุ่งเหยิง
อวิ๋นม่านกู่ร้อง แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร พลังอันมหาศาลได้ผลักหยางซานจนถอยร่นไปนับร้อยก้าว แม้จะมีพลังสวรรค์ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ หากแต่สายลมที่กระหน่ำเข้ามาก็ทําให้เข้าใบหน้าของเขาเจ็บแปลบราวกับถูกมีดกรีด ในใจหยางซานรู้สึกหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ “ช่างเป็นพลังที่ยากจะจินตนาการนัก”
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หยางซานรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ
พร้อมกับพลังไปสือซานชิ้นที่ปะทุ อปืนม่านก็พุ่งร่างออกไป