จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 35
ตอนที่ 35 ความอัปยศที่ต้องล้างด้วยเลือด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ฉินเทียนก้าวถอยไปหลายก้าว หากแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องจ้าวเจียงหนานอย่างละเอียดเพื่อดูว่ายาเม็ดนั้นจะส่งผลต่อเขาอย่างไร
เมื่อคิดถึงยาเม็ดนั้นที่ถูกปรุงขึ้นโดยเขาแล้ว ในสถานการณ์ตอนนี้ ฉินเทียนก็หวังว่ามันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
จ้าวเจียงหนานที่กลืนเม็ดยาลงไปก็เรอออกมา มันกระพริบตาทั้งคู่และส่ายศีรษะ ทันใดนั้นสีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป กระเพาะของมันพลันส่งเสียง ‘โครก โครก’…
เหงื่อเม็ดโป้งไหลย้อยลงมาตามหน้าผาก มันหันไปมองฉินเทียนและถามว่า “มันเป็นยาอะไร?”
“ยาปลุกกำหนัด มันใช้ในการเพิ่มสมรรถภาพให้กับบุรุษ” ฉินเทียนมองดูใบหน้าที่เจ็บปวดของจ้าวเจียงหนานและจึงถามออกมา “มันเข้มข้นไปหรือ?”
ใบหน้าของจ้าวเจียงหนานเปลี่ยนเป็นซีดขาว สงครามภายในร่างกายของมันพลันปะทุขึ้น มันรู้สึกอึดอัดจนต้องส่งเสียงครวญออกมา “ห้องสุขา….สุขา…อยู่ที่ใด?”
“มารดามันเถอะ เกิดผลเสียขึ้นจริงด้วย แต่นี่ไม่เร็วไปหน่อยหรือ? มันยังให้ผลเร็วกว่ายาถ่ายอีก!”
ฉินเทียนลอบยินดีอยู่ภายใน “ครั้งหน้า ข้ายังสามารถใช้ยาถ่ายนี่กลั่นแกล้งผู้อื่นได้”
เมื่อเห็นจ้าวเจียงหนานห่อขาเข้าด้วยกันด้วยความเจ็บปวด ฉินเทียนก็รีบตอบคำ “นายน้อยจ้าว พวกเราขออภัยอย่างยิ่ง เหลาอาหารเล็กๆของเรายังไม่มีห้องสุขา”
“เจ้า….เจ้า!…”
สีหน้าของจ้าวเจียงหนานยิ่งมายิ่งเลวร้าย ตอนนี้มันทราบแล้วว่าตนถูกกลั่นแกล้ง มันไม่ใช่ยาปลุกกำหนัด หากแต่เป็นยาพิษ!
พลังปราณที่ลอบรวบรวมเอาไว้พลัันปะทุออก มันแตะงัดม้านั่งจนลอยหวือพร้อมทั้งลงมืออย่างรวดเร็ว
ฉินเทียนแค่นเสียงเย็น เขาเองก็ได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว
เขาเบี่ยงตัวหลบม้านั่งที่ลอยเข้าหา และใช้สองมือเปล่าเปลือยรับการโจมตีโดยตรง
“หาที่ตาย!”
จ้าวยี่ตวาดเสียงดัง ขณะที่มันขมวดคิ้วมุ่น พลังปราณของมันพลันระเบิดออกก่อรูปเป็นหมัดอันใหญ่โตพุ่งเข้าใส่ฉินเทียน
“พลังปราณของขั้นก่อตั้งวิญญาณช่างไม่ธรรมดาจริงๆ”
ฉินเทียนพลันเร่งความเร็วขึ้นปรับเปลี่ยนทิศทางของเขา ในชั่วพริบตา เขาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของจ้าวเจียงหนานที่อยู่เบื้องหลังจ้าวยี่ “กินนี่ไปซะ!”
ใบหน้าของจ้าวเจียงหนานกลายเป็นโง่งมขณะมองดูหมัดของฉินเทียนที่พุ่งเข้าหา
ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องการที่จะหลบหลีก หากแต่มันไม่แข็งแกร่งพอจะหลบได้ทัน ร่างกายของมันกลายเป็นแข็งทื่อ หากจะให้อธิบายสภาพของมันตอนนี้ ดุจบุรุษวัยกลางคนที่ร่วมรักกับสตรีอยู่สามวันสามคืน ตอนนี้พละกำลังภายในร่างของมันแห้งเหือดจนสิ้น ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ลำใส้ของมันคล้ายกับม้าพยศที่ห้อตะบึงไปทั่วทุกทิศขณะที่ส่งเสียง ‘โครก โครก’ ออกมา ลำใส้ของมันปั่นป่วนคล้ายถูกพลังที่มองไม่เห็นโจมตีเข้าใส่
หากว่าตอนนี้มันผ่อนคลายกล้ามเนื้อเข้าล่ะก็ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดจะพรั่งพรูออกมา
การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่เปิดโล่งและที่หน้าทางเข้าของเหลาอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มามุงด้วยความสนุกสนาน หากว่าสถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ มันยังจะมีหน้าอาศัยอยู่ในเมืองชิงเหอได้อีกหรือ?
พลั่ก!
หมักแรกกระทบไปยังใบหน้าของจ้าวเจียงหนานและส่งมันล้มลง จ้าวเจียงหนานกลายเป็นโกรธแค้น หากแต่ตอนนี้มันไม่อาจลงมือ มันจ้องไปยังฉินเทียนขณะที่ขบฟันแน่น มันกล่าวลอดไรฟันออกมา “ฆ่า..ฆ่า…ฆ่ามันให้ได้”
ใบหน้าของจ้าวยี่เปลี่ยนเป็นหน้าเกลียด มันคิดว่าฉินเทียนจะโจมตีแบบฉาบฉวย แต่มันไม่คิดเลยว่าฉินเทียนจะพลันเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีจ้าวเจียงหนาน
หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับจ้าวเจียงหนาน มันคงต้องมีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาณ!
โดยไม่แม้แต่จะคิด มันพลันยันขาขวาไปที่พื้น อาศัยแรงส่งพุ่งร่างกายที่แหลมคมดุจกระบี่ออกไป
ฉินเทียนเผยรอยยิ้มและไม่ได้โจมตีจ้าวเจียงหนานต่อ เขาถอยออกมาและมองไปยังร่างบนพื้นที่กำลังส่งเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาณ เขาชื่นชมตัวเองที่สามารถปรุงยาถ่ายขึ้นมา ข้านี่ช่างอัจฉริยะจริงๆเลย!
“ดูเหมือนว่าการใช้เม็ดยาในอนาคตจะต้องอ่านสรรพคุณของมันให้ดีก่อนจะกินเสียแล้ว”
จ้าวยี่พยุงร่างของจ้าวเจียงหนานขึ้นมา จิตใจของมันกลายเป็นพลุ่งพล่านปั่นป่วนและเกิดความกังวลเมื่อเห็นจ้าวเจียงหนานมีใบหน้าซีดขาว เหงื่อเย็นพลันหลั่งเต็มแผ่นหลัง ยาแบบใดกันที่มันเอาให้จ้าวเจียงหนานกิน?
จ้าวเจียงหนานเอามือกุมก้นขณะที่ใช้อีกมือชี้ไปยังฉินเทียน “ฆ่ามัน…ฆ่ามัน…ฆ่ามันให้ข้า!”
จ้าวยี่จ้องฉินเทียนเขม็ง จากนั้นจึงพลันลงมือ สองมือของมันทำท่าคว้าจับทำให้บรรยากาศรอบข้างแปรเปลี่ยนเป็นรุนแรง มันเพ่งสมาธิไปยังฝ่ามือเพื่อรวบรวมพลังก่อเป็นแสงที่คล้ายดวงตะวันขนาดย่อม….
ฉินเทียนพลันตื่นตัวขึ้นมา ขณะสาบานขึ้นในใจ “ขั้นก่อตั้งวิญญาณช่างน่าประทับใจจริงๆ ต้องเร่งมือให้ไปถึงโดยเร็ว”
“คิดหลบซ่อน? ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีที่ซุกหัว!”
ฉับพลันจ้าวยี่ได้ปลดปล่อยพลังปราณของมันออกมา อากาศโดยรอบกลายเป็นหนักอึ้ง ขณะที่เส้นผมของมันพริ้วไสว มันกำสองมือที่แนบแน่นประกบเข้าด้วยกัน เสียงกระแทกในอากาศเริ่มดังให้ได้ยิน มันพลันพุ่งเข้าหาฉินเทียนด้วยความรวดเร็วเกินบรรยาย ชั่วพริบตามันก็มาถึงตัวฉินเทียน
มือของมันคว้าจับไปยังอากาศที่เบื้องหน้า จ้าวยี่หัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา “หลบซ่อนไปเถอะ! มาดูกันว่าเจ้าจะหลบไปได้อีกสักเท่าใด?”
แรงกดทับมหาศาลได้ทำให้ฉินเทียนราวกับกำลังเดินอยู่ในน้ำ
ทุกส่วนของร่างถูกกระแทกด้วยพลังที่มองไม่เห็น หากแต่เมื่อวัดกันในด้านของความแข็งแกร่งแล้ว ฉินเทียนย่อมไม่หวั่นเกรง เขาแค่นเสียงเย็น
ทันใดนั้นเส้นเลือดที่แขนของเขาก็ปูดโปนให้เห็นอย่างเด่นชัด เสียงข้อต่อเลือนลั่นดังออกมาให้ได้ยิน
พลัง ขุมพลังมหาศาลได้ระเบิดออกมาจากจุดตันเถียนของเขา คล้ายกับภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมา
“หลบซ่อนงั้นหรือ?”
“ข้าไม่เคยคิดที่จะหลบซ่อนแต่อย่างใด….”
มีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นอย่างแผ่วเบา สีหน้าของฉินเทียนเปลี่ยนไปขณะที่ในใจเอ่อล้นไปด้วยความสุข ในที่สุดทักษะของเขาก็สามารถสร้างเสียงมังกรได้แล้ว!
ในเวลานั้นเอง ฝ่ามืออันหนักหน่วงทั้งสองพลันพุ่งเข้าใส่จ้าวยี่
จ้าวยี่ตกใจอย่างหนัก มันเผยสีหน้าที่ยากจะทำใจเชื่อออกมา มันรีบเพิ่มพลังไปที่ฝ่ามือของมันและรับการโจมตีจากฉินเทียน
เกิดแรงปะทะที่มองไม่เห็นเมื่อหมัดนภาของฉินเทียนปะทะกับฝ่ามือของจ้าวยี่
ขณะที่ทั้งสองกระแทกเข้าหากัน อากาศโดยรอบก็พลันปั่นป่วนและเริ่มมีเสียงแตกหักดังออกมาให้ได้ยิน ผู้คนที่มามุงดูเริ่มเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา
ผู้คนที่มามุงดูยิ่งมาก็ยิ่งมาก การปะทะกันของทั้งคู่ ได้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมดให้จับจ้องมองมา
แรงต้านที่มองไม่เห็นเริ่มลดลงทีละนิด แรงกระแทกจากหมัดของฉินเทียนยังคงยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เปรี้ยงงง!
จ้าวยี่ถูกกระแทกลงกับพื้น สีหน้าของมันกลายเป็นตกตะลึง
มันยันมือทั้งสองข้างไปที่พื้นเพื่อเตรียมจะโต้ตอบกลับไป แต่ฉับพลันนั้นเอง จ้าวยี่พลันรู้สึกถึงสายลมวูบหนึ่งพุ่งผ่านร่างของมัน ฉินเทียนหายตัวไปแล้ว!
เมื่อมันหันศีรษะกลับไปมอง มันก็เห็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของฉินเทียน เขาตวัดเท้าเตะไปยังก้นของจ้าวเจียงหนานอย่างทารุณ…
“อ๊ากกกก…”
จ้าวเจียงหนานส่งเสียงร้องราวกับหมูโดนเชือด มันไม่ได้เจ็บปวดจากการโดนเตะ หากแต่เป็นเพราะมันไม่สามารถอั้นทวารได้อีกต่อไป…
พรืดดด
กางเกงของมันถูกย้อมไปด้วยสีเหลือง เสียงแห่งโศกนาฏกรรมดังขึ้นขณะที่รูทวารของมันเปียกชื้น กลิ่นอันน่าสยดสยองพลันลอยฟุ้งผ่านอากาศ
ผู้คนที่มามุงดูอยู่ที่ทางเข้าเหลาอาหารพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
แววตาของจ้าวเจียงหนานกลายเป็นว่างเปล่าคล้ายวิญญาณหลุดออกจากร่าง มันพึมพำเสียงแผ่ว “ไป…ไป..กลับ…”
หากต้องทนอยู่ที่นี้ต่อไป มันขอตายเสียยังดีกว่า เสียง ‘พรืด’ พลันดังให้ได้ยินอีกครา จากนั้นการปะทุระลอกใหม่ก็คล้ายจะกำลังติดตามออกมา….
จ้าวยี่ถลึงตาจ้องมองฉินเทียนและประกาศออกมา “ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่งานชุมนุมตระกูลใหญ่!”
ฉินเทียนหัวเราะ “เจ้าควรเร่งมือเข้า ส่งนายน้อยเจ้ากลับบ้านไปเสีย ฮ่าฮ่า…..”
ความอัปยศในครั้งนี้ มีเพียงการล้างด้วยเลือดเท่านั้น
จ้าวเจียงหนานคงต้องอับอายไปทั้งตระกูลหากว่าผู้คนในตระกูลทราบเรื่องนี้!