จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 77.1
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 77.1 ข้องใจหรือ?
หลังจากใช้บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง กลิ่นอายของฉินเทียนก็เพิ่มขึ้นอักโข
จิตสังหารของเขาประดุจเทพเจ้าจากยุคโบราณ สร้างความหวาดหวั่นใจต่อผู้คนโดยรอบ แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะอดทนต่อแรงกดดันได้ กระนั้นความเจ็บปวดก็ยังเผยออกทางสีหน้า
“เจ้าหนูนี่ซ่อนคมซะลึกเชียว”
“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่? หรือต้องการทำลายเวทีประลองเป็นตาย?”
“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะระดับแปดขั้นรวบรวมวิญญาณสามารถทำได้….”
………………………………….
เหล่าผู้อาวุโสเริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยสีหน้าตกใจ พวกเขาคาดคิดไม่ถึงว่าฉินเทียนจะก้าวมาถึงระดับนี้ ตอนนี้พวกเขาเริ่มเป็นกังวลแทนฉินเซี่ยงเทียนแล้ว……..
ฉินเซี่ยงเทียนขมวดคิ้วอย่างหนักใจ ‘คงไม่ใช่ว่ามันยังซ่อนความแข็งแกร่งไว้อีกหรอกกระมัง?’
‘ต้องไม่ใช่….’
‘เหล่าแหยไม่เชื่อ’
“ตาย!”
พร้อมกับเสียงคำราม ยักษ์ที่ถือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา ร่างกายของยักษ์ตนนั้นแผ่กลิ่นอายอันแข็งแกร่งออกมาพร้อมจิตสังหาร
“ค้อนพิฆาตครองฟ้า!”
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!
อากาศโดยรอบเกิดการกระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง พลังฟ้าดินพลันลดลง ยักษ์ตนนั้นสะบัดแขนของมันก่อนที่ค้อนเพลิงจะพุ่งหายเข้าไปในกลีบเมฆ มวลเมฆถูกแหวกแยกเป็นทางราวกับท้องฟ้าจะแบ่งออกเป็นสอง
การหยิบยืมพลังฟ้าดินนั้นสามารถกระทำได้เมื่อบรรลุขั้นกลั่นวิญญาณ
ฉินเทียนขบคิดขณะสัมผัสพลังที่ฉินเซี่ยงเทียนแสดงออกก่อนจะแค่นเสียง “ถึงขีดจำกัดแล้วรึ?”
“กระจอกน่า!”
“ตาย!”
เมื่อกล่าวคำว่า ‘ตาย’ พื้นดินก็สั่นสะเทือน เสียงคำรามของมังกรดังทะลวงสวรรค์ทั้งเก้า และแสนคชสารก็เหยียบย่ำกระหน่ำโลกา เปลวเพลิงสีดำอมม่วงปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของฉินเทียนก่อนจะค่อยๆหนาแน่นขึ้นจนดูน่าพรั่นพรึง
“ย้าก!…”
ฉินเซี่ยงเทียนกู่ร้อง ค้อนสงครามขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานพลันฟาดลงใส่ฉินเทียน
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของฉินเทียนกระตุก แรงกดดันอันมหาศาลได้ทาบทับลงมาบนร่างของเขา ฉินเทียนปลดปล่อยพลังปรารอีกระลอก เปลวเพลิงสีดำอมม่วงก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เป้าหมายของมันคือค้อนยักษ์ที่ทุบฟาดลงมา ในขณะเดียวกัน ฉินเทียนก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเกินสายตาจะมองทัน ฉินเทียนชกหมัดเข้าใส่ฉินเซี่ยงเทียน
หลังจากควบแน่นพลังปราณจนได้เป็นค้อนยักษ์ พลังปราณในตันเถียนของฉินเซี่ยงเทียนก็แทบหมดสิ้น ในเวลาอันสั้นไม่สามารถฟื้นฟู เมื่อได้เห็นความเร็วในการฟื้นฟูราวกับสัตว์ประหลาดของฉินเทียน ฉินเซี่ยงเทียนก็รู้สึกเย็นเยียบจับใจ ความกลัวปรากฏขึ้นในแววตา “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่เรื่องจริง! มันก็แค่ผู้บ่มเพาะระดับแปดขั้นรวบรวมวิญญาณเท่านั้น! ไม่มีทางที่พลังปราณของมันจะสูงล้ำเท่าข้า…….”
ฉินเทียนออกจะแปลกแยกไปแล้ว
ตอนที่เขาอยู่ในระดับห้าขั้นรวบรวมวิญญาณ พลังปราณของเขาก็เทียบเท่าระดับแปดขั้นรวบรวมวิญญาณแล้ว และในเวลานี้ เมื่อเขาอยู่บรรลุระดับแปดขั้นรวบรวมวิญญาณ พลังปราณของเขาก็เทียบได้กับผู้บ่มเพาะระดับหนึ่งขั้นกลั่นวิญญาณ
นอกจากนี้ยังมีแก่นอีกสองแก่นที่หมุนวนคอยเติมพลังปราณอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในกายของเขาอีก ตราบที่พวกมันยังคงอยู่ ฉินเทียนก็แทบจะมีพลังปราณให้ใช้ไม่หมดสิ้น
นี่ก็คือสิ่งที่เขาอาศัยพึ่งพา เป็นสิ่งที่เขาจะใช้สังหารฉินเซี่ยงเทียน!
เปลวเพลิงสีดำอมม่วงสามารถต้านทานค้อนเพลิงไว้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งขนาดของค้อนเพลิงยังยิ่งมายิ่งเล็กลง อานุภาพของมันก็ถดถอยไปพร้อมกัน
“เป็นไร พลังปราณหมดก๊อกแล้ว?”
เสียงถากถางของฉินเทียนเปรียบประดุจลูกระเบิดหล่นลงกลางใจ ถึงตอนนี้ ฉินเซี่ยงเทียนรู้สึกสิ้นหวังแล้ว
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าไฉนฉินเทียนถึงสามารถแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
เขาพลันรู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นยอมฟังฉินซานเทียนจนปล่อยฉินเทียนให้รอดชีวิตมาได้
ยักษ์ที่อยู่ด้านหลังของฉินเซี่ยงเทียนเริ่มสูญเสียพละกำลังจะต้านทาน ในขณะที่เปลวเพลิงสีดำอมม่วงยังคงลุกโชนเจิดจ้า นี่ราวกับภายในตันเถียนของฉินเทียนนั้นเป็นมหาสมุทรพลังปราณ
ฉินเซี่ยงเทียนไม่เต็มใจที่จะพ่ายแพ้ เขาอุตส่าห์หาแก่นสัตว์อสูรมาได้อย่างยากลำบากเพื่อใช้มันในการทะลวงผ่านมาถึงขั้นกลั่นวิญญาณในเวลาครึ่งเดือน คิดไม่ถึงว่ากระทั่งผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเทียน…..
“ไม่เต็มใจ?”
“สำนึกเสียใจ?”
“ไปตายซะ!”
ฉินเทียนฟันกระบี่ลงตัดขั้วหัวใจของฉินเซี่ยงเทียน……
พรูด!
หยาดโลหิตสาดกระเซ็น ฉับพลันเกราะปีศาจโลหิตสงครามก็เปล่งประกายแสงสีแดงสดและดูดซับโลหิต และแก่นโลหิตของฉินเซี่ยงเทียนเข้าไป แก่นโลหิตของผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณนับเป็นยาชูกำลังชั้นดีสำหรับมัน
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ‘ฉินเทียน’ ที่สังหารฉินเซี่ยงเทียนได้สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100000 หน่วย ค่าพลังปราณ 50000 จุด ค่าการรอดชีวิต 1000…….”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ‘ฉินเทียน’ ที่สามารถเลื่อนระดับสู่ระดับเก้าขั้นรวบรวมวิญญาณ……”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ‘ฉินเทียน’ สำหรับการได้รับแก่นระดับห้า……”
เมื่อได้ยินข้อความจากระบบ ฉินเทียนก็ตกตะลึง ‘มารดามันเถอะ บอสที่เป็นมนุษย์ไม่ให้รางวัลดุไปหน่อยเรอะ? ค่าประสบการณ์หนึ่งแสน ค่าพลังปราณห้าหมื่น?’
‘สุดยอด โครตเจ๋ง!’
เมื่อฉินเซี่ยงเทียนตาย พลังปราณที่ร่อยหรอของฉินเทียนก็ถูกเติมทันที นอกจากนี้ยังได้ค่าประสบการณ์มาอีกหนึ่งหมื่น
“ยังมีแก่นระดับห้าอีก” มองดูแก่นที่หมุนติ้วอยู่ในหน้าต่างระบบ เขาก็ยิ้มออก “ดูเหมือนฉินเซี่ยงเทียนจะเพิ่งกลืนลงไปได้ไม่นาน โชคดีจริงๆที่มาเร็ว หากความแข็งแกร่งของมันมั่นคงกว่านี้ การฆ่าก็คงยากกว่าเดิม”
เมื่อคิดถึงค้อนยักษ์ที่ใช้พลังปราณควบแน่นขึ้นมา ฉินเทียนก็ปาดเหงื่อ มันสามารถดึงพลังฟ้าดินออกมาใช้ หากไม่ใช่เพราะพลังปราณของฉินเซี่ยงเทียนหมดเกลี้ยงซะก่อนก็คงยากจะบอกแล้วว่าผู้ใดแพ้ผู้ใดชนะ
“แบบนี้คงต้องรีบทะลวงไปขั้นกลั่นวิญญารเร็วๆแล้ว เฮ้อ”
ฉินเทียนถอนหายใจยาว ความโกรธภายในกายคล้ายถูกสลัดทิ้งไป เมื่อมองไปยังร่างที่แห้งกรัง ฉินเทียนก็ยิ้ม “ฉินคุนเอยฉินคุน ข้าส่งบิดาเจ้าไปหาเจ้าแล้วนะ”
ติ๊ง!
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ‘ฉินเทียน’ ที่ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมชุดเกราะปีศาจโลหิตสงคราม……..”
“หลอมรวมสำเร็จ?” ฉินเทียนขมวดคิ้วและรีบเปิดหน้าต่างระบบ เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของมัน ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงครามในเวลานี้มีสีแดงเข้มแล้ว แววตาของฉินเทียนเป็นประกาย “มันเติบโตโดยการกินแก่นของผู้อื่นจริงๆ อัศจรรย์นัก!”
หลังจากเรียกพลังปราณกลับมา ฉินเทียนก็เตะศพฉินเซี่ยงเทียนทิ้ง สายตาของเขากวดามองไปยังเหล่าผู้อาวุโส “ฉินควงอยู่ที่ใด?”
กลุ่มผู้อาวุโสชะงักก่อนที่ความโกรธจะปรากฏบนสีหน้า หลังจากฆ่าฉินเซี่ยงเทียนเสร็จแล้ว เขาก็คิดฆ่าฉินควงต่อหรือ?
“จองหองนัก!”
“นี่มันมากไปแล้ว!”
“ไม่เห็นพวกเราเหล่าผู้อาวุโสอยู่ในสายตาเลยรึอย่างไร?”
………………………………..
พวกผู้อาวุโสเริ่มกล่าวตำหนิติเตียน กระนั้นกลับไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปด่าทอฉินเทียนแม้สักราย
บนเวทีประลองเป็นตาย ชีวิตของผู้ประลองขึ้นอยู่กับฟ้าลิขิต ไม่ว่าฉินเทียนจะทำผิดใหญ่โตเพียงใดก็ไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์ไปว่าร้ายเขา
และฉินเทียนก็ไม่เคยเห็นพวกเขาอยู่ในสายตา สาเหตุที่ตระกูลกลายเป็นเช่นนี้ก็ล้วนเป็นเพราะผู้อาวุโสโง่เขลากลุ่มนี้เอง
“ข้องใจหรือ?”
“งั้นก็ขึ้นมานี่!”
ฉินเทียนยิ้มเยาะ เหล่าผู้อาวุโสรีบปิดปากเงียบทันควัน ทั้งหมดต่างก้มหน้าไม่กล้าสบตาฉินเทียน
“ฉินควงอยู่รึเปล่า? ออกมารับความตายซะดีๆ!……”
เสียงของเขาดังไปทั่วตระกูลฉิน……