จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 81
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 81 ผู้มีจิตใจดีงามล้ำเลิศหนึ่งร้อยชาติภพ
วันพระจันทร์เต็มดวง วันที่สิบแปดเดือนสิบสอง เป็นวันวิวาห์ขององค์ชายสาม ทั่วทั้งเมืองต่างฉลองเฉลิมยินดี
ในยามเช้าตรู่ ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังวังหลวงผ่านทางประตูใหญ่ ทั้งหมดล้วนต้องการชมดูความยิ่งใหญ่ตระการตาของสิ่งปลูกสร้างในวัง ชมดูว่าองค์หญิงในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไร
สำหรับชาวเมืองขอบนภาแล้ว วันนี้นับเป็นวันที่น่ายินดีอย่างแท้จริง
นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่สุดนับตั้งแต่เมืองขอบนภาถูกก่อตั้งมา ดังนั้นทุกอย่างจะต้องดีที่สุด ตามสองฟากข้างของถนนถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสีสันสวยงาม เมืองทั้งเมืองถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสีแดงมงคล
“เถ้าแก่หลิว ตื่นแต่เช้าเลยนะ วันนี้ไม่เปิดร้านหรือ?”
“ไฮ๊ ยังจะเปิดร้านไปทำไม วันนี้เป็นวันแต่งงานขององค์ชายสาม นี่สำคัญที่สุดแล้ว ไม่เปิดร้านสักวันก็ไม่ทำให้ข้าเสียหายหรอกน่า”
“ฮ่าๆ ได้ยินมาว่าที่องค์หญิงน่าตางดงามเชียวล่ะ”
“องค์ชายสามนับเป็นมังกรในมวลมนุษย์ ผู้หญิงธรรมดาๆจะต้องตาองค์ชายสามได้อย่างไร?”
……………………………………………..
เสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจ พากันวิพากษณ์วิจารณ์ว่าเจ้าสาวที่องค์ชายสามต้องตาจะงดงามขนาดไหน พยางหลินเป็นองค์ชายที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาบุตรทั้งสี่ของหยางฮง ทั้งยังได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากผู้อาวุโสสัญจรนิกายอมตะหนานเทียน ก่อนจะกลายเป็นศิษย์คนสุดท้ายของเขา
หน้าตาที่ดูโดดเด่น กับพรสวรรค์ที่โดดเด่นยิ่งกว่า เขาเข้าร่วมนิกายอมตะหนานเทียน ผ่านการฝึกฝนตรากตรำกว่าสิบปีจึงเข้าสู่ระดับบ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณ เรื่องนี้ทำให้นิกายให้ความสำคัญในการบ่มเพาะเขามาก และปัจจุบันเขาได้ลงจากเขามาเพื่อช่วยเหลือบิดา การลงมาในครั้งยังนำยุทธภัณฑ์ระดับกลางมาด้วยมากมาย จากเรื่องนี้ก็เห็นได้แล้วว่าฐานะในนิกายของเขาสำคัญเพียงใด
บุตรชายทั้งสี่ของหยางฮงประกอบด้วย หยางเปียว หยางฮั่น หยางหลิน และ หยางคุน ทั้งหมดต่างถูกส่งไปเข้าสี่สำนักใหญ่ ตราบใดที่ในหมู่พวกเขามีสักคนที่สามารถยกฐานะในสำนัก มันก็จะเป็นการช่วยเหลือการก่อตั้งอาณาจักรของหยางฮงอย่างมาก การปรากฏตัวของหยางหลินได้พิสูจน์แล้วในเรื่องนี้
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมอาณาจักรต้าหลี่จึงไม่จัดการใดๆนั้นก็เพราะว่าพวกเขากำลังตรวจสอบฐานะของตระกูลหยางในสี่สำนักใหญ่
ในขั้นตอนนี้หยางฮงยอดเยี่ยมยิ่ง เขาใช้เวลาเตรียมการนับสิบปีสำหรับการนี้ ผลของมันดูได้จากการเคลื่อนไหวที่แทบจะสมบูรณ์แบบในเวลานี้
จอมวางแผนสุดทะเยอทะยาน ผู้คิดการก่อกบฎ ขุนนางราชสำนัก เพื่อบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ทุกการเคลื่อนไหวของหยางฮงล้วนกระทำด้วยความระมัดระวังโดยแทบจะไม่มีข้อผิดพลาด อย่างไรก็ตามหยางฮงคาดไม่ถึงว่าหลังจากกลับจากเมืองชิงเหอ จู่ๆหยางหลินจะประกาศแต่งงาน อีกทั้งหญิงสาวยังเป็นศิษย์สายนอกของตระกูลเล็กๆตระกูลหนึ่ง
หยางฮงไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แต่นับตั้งแต่ที่อวิ๋นม่านมาถึงนครหลวง เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงปราณมังกรอ่อนจางสายหนึ่ง มีเพียงโอรสสวรรค์แห่งราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถมีปราณมังกร ภายใต้ความตกตะลึง หยางฮงยินดีจนเนื้อเต้น
หยางหลินตรากตรำฝึกฝนอยู่ในนิกายอมะหนานเทียนนานหลายปี ฝึกฝนจนเก่งกาจ และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือวิชาลับกลิ่นอาย ยามที่เขาพบอวิ๋นม่านครั้งแรก เขาก็ต้องตกตะลึง ภายในใจเกิดคลื่นยักษ์ถาโถมไม่หยุด เขาแทบไม่อาจเชื่อว่าในโลกจะมีผู้ที่ครอบครองพลังอันต่อต้านเจตจำนงสวรรค์อยู่
ผู้มีจิตใจดีงามล้ำเลิศหนึ่งร้อยชาติภพ
ในร้อยชาติภพก่อนหน้าของอวิ๋นม่าน นางเป็นผู้มีจิตใจดีงามจนล้ำเลิศมาตลอด และที่สำคัญที่สุด นางในชาติภพนี้ก็เป็นเช่นนั้น นางไม่กล้าต่อสู้กับมนุษย์คนอื่นๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ นางเกิดเพื่อเป็นเช่นนี้เอง ทุกครั้งที่ไตร่ตรอง ทุกครั้งที่ตัดสินใจ นางไม่อาจก้ามข้ามเส้นแบ่งนี้
ผู้มีจิตใจดีงามล้ำเลิศสิบชาติภพจะสามารถช่วยผู้บ่มเพาะขอบเขตแท้จริงหลีกเลี่ยงหายนะ และก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่า คนผู้นั้นจะกลายเป็นนักบุญที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้ และจะอยู่เหนือวัฏจักรของการเกิดใหม่ เป็นผู้ที่มีอายุขัยนับหมื่นๆชาติภพ
การค้นพบนี้ทำให้หยางหลินตกตะลึง ขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นยินดี เขารีบสอบถามตระกูลฉินเกี่ยวนางทันที ทั้งยังมอบแก่นสัตว์อสูรสามแก่นเป็นของหมั้นหมาย
แก่นสัตว์อสูรสามแก่น ฉินซานเทียนตาลุกวาวทันทีที่ได้เห็น ศิษย์สายนอกคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นแก่นสัตว์อสูรถึงสามแก่น ฉินซานเทียนตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องคิด
ที่คาดไม่ถึงคืออวิ๋นม่านกลับต่อต้าน นางยอมตายดีกว่าเชื่อฟังจนกระทั่งฉินควงนำมารดาของนางมาข่มขู่ ตอนอยู่ที่ด้านหลังผา อวิ๋นม่านรู้สึกอับจนอย่างที่สุด จนกระทั่งเมิ่งเล่ยถูกต่อยร่วงผาไป นางก็หมดสติทันที
หลังจากนั้นฉนิซานเทียนก็บีบบังคับนางเดินทางมายังเมืองขอบนภา
ผู้มีจิตใจดีงามล้ำเลิศหนึ่งร้อยชาติภพนั้นเป็นผู้ที่ท้าทายสวรรค์ ในชีวิตนี้หยางฮงทราบว่าตนไม่มีความสามารถที่จะอาจดูดซับหายนะได้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับอวิ๋นม่าน เมื่อมีนางอยู่ข้างกาย หายนะทุกประกายจะถูกปัดเป่าหายไป
แน่นอนว่าอวิ๋นม่านย่อมไม่ทราบเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อย
หากมีผู้บ่มเพาะที่มีวิชาลับกลิ่นอายทราบถึงตัวตนของอวิ๋นม่านแล้วล่ะก็ หายนะจะบังเกิด เพื่อที่จะช่วงชิงนางแล้ว สงครามครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ดังนั้นทุกขั้นตอนจึงต้องดำเนินการไปอย่างลับๆ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะพยายามปิดบังอย่างไรก็ต้องมีข่าวคราวรั่วไหลออกไป
มือสังหารทั้งสามนั้นไม่มีเป้าหมายอยู่ที่หยางหลิน แต่เป็นอวิ๋นม่าน!
เมื่ออวิ๋นม่านตาย ปราณมังกรในนครหลวงแห่งนี้ก็จะสลายไป ปราศจากปราณมังกรแล้ว ไม่ว่าหยางฮงจะเป็นผู้ที่ท้าทายสวรรค์เพียงใด การก่อการของเขาย่อมไม่มีวันสำเร็จ
ฉินเทียนแฝงตัวในเงามืด คอยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหว รวมถึงกลิ่นอายของมือสังหารทั้งสาม ไม่มีแม้ชั่วขณะที่ผ่อนคลาย
เสียงกลองและฆ้องดังขึ้นควบคู่ไปกับเสียงประทัด แตรหลายร้อยอันถูกเป่าอย่างพร้อมเพรียง…..
ทั่วจัตุรัสเต็มไปด้วยฝูงชน ทว่ากลับไม่มีเสียงพูดคุยใดๆดังออกมา ไม่มีผู้ใดเอ่ยปากขณะที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยการปรากฏตัวของหยางหลิน
ประตูถูกเปิด หยางฮงเดินออกมาด้วยกลิ่นอายทรงอำนาจ บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มน้อยๆประดับอยู่ หยางฮงในเวลาสวมใส่ชุดคลุมมังกร
เมื่อหยางฮงก้าวออกมา ทุกคนในลานจัตุรัสก็คุกเข่าคำนับพลางแซ่ซ้องสรรเสริญ เมื่อนั่งอยู่บนบัลลังก์พลางรับการคารวะจากมวลชนนับไม่ถ้วน ความปลื้มปิติก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ตรากตรำเตรียมการอยู่หลายปี ในที่สุดเขาก็ได้ในสิ่งที่ปรารถนา เมืองทั้งเจ็ดทางตะวันตกเฉียงเหนือล้วนอยู่ในการปกครองของเขา และในอนาคตจะกลายเป็นเจ็ดสิบเมือง หรืออาจกระทั่งเจ็ดร้อยเมือง เขาจะสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่าอาณาจักรต้าหลี่
หยางฮงโบกมือขวาเป็นสัญญาณให้ชาวเมืองลุกขึ้นได้
ที่อีกด้านหนึ่ง หยางหลินกำลังประคองอวิ๋นม่าน…….
ฉินเทียนขมวดคิ้วเมื่อได้เห็นสีหน้าแข็งทื่อราวกับตอไม้ของอวิ๋นม่าน โทสะเริ่มคุกรุ่นอยู่ภายใน หลังจากสะกดอดกลั้นอย่างหนัก ฉินเทียนก็สงบใจลง อย่างไรก็ตามแม้จถูกสะกดระงับอยู่ แต่ยามที่มันถูกปลดปล่อยออกมา แน่นอนว่ามันจะต้องรุนแรงอย่างที่สุด
ที่ด้านขวาของลานจัสตุรัส ฉินซานเทียนเผยรอยยิ้มขณะมองไปยังอวิ๋นม่าน “คิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์สายนอกคนหนึ่งจะสามารถนำพาผลประโยชน์ยิ่งใหญ่มาได้ถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่ได้รับตำแหน่งขุนนางคนสำคัญ ข้ายังได้เกี่ยวโยงกับตระกูลหยางด้วย ในภายหน้ายังจะมีผู้ใดในเมืองชิงเหอกล้าต่อต้านข้าอีก”
ยิ่งคิดรอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งฉีกกว้าง
เกี่ยวกับสัญญาที่ให้ไว้กับฉินเทียนนั้น ฉินซานเทียนได้ลืมเลือนไปแล้วเรียบร้อย
ในความคิดของเขา ฉินเทียนเวลานี้คงกลายเป็นอาหารในท้องของสัตว์อสูรไปแล้ว เขายังจะรอดออกจากเทือกเขาคุนหลุนได้หรือ?
ยามที่ฉินเทียนตัดสินใจเข้าสู่เทือกเขาคุนหลุน เขาก็ได้ตัดสินแล้วว่าฉินเทียนย่อมมีไปแต่ไม่มีหวนกลับ…….
แต่เขาไม่ทราบเลยว่าในมุมมืดหนึ่งของลานจัสตุรัส ดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ แววตาของเขาเย็นชาขณะที่หัวใจเต้นกระหน่ำรัว ‘คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกลายมาเป็นบอสเช่นกัน……..’