จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 94
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 94 ปีศาจเก้าสวรรค์
ในหุบเขาแห่งความชั่วร้าย
ปีศาจนับพันตนกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เป็นการแสดงความเคารพ เป็นการเฝ้ารออย่างหวาดกลัว…..
ที่กึ่งกลางของพลับพลามีบ่อโลหิตขนาดใหญ่พ่นฟองเดือดปุดๆราวภูเขาไฟ
อนุภาคสีเลือดหลั่งไหลมาจากทุกทิศ ก่อนจะไหลไปรวมกันในบ่อ
ทุกครั้งที่อนุภาคสีเลือดรวมตัวกันได้ประมาณหนึ่ง บ่อโลหิตก็จะพ่นฟองออกมามากขึ้น ที่กึ่งกลางบ่อโลหิตนั้นมีเงาร่างสิ่งมีชีวิตกำลังดิ้นรนอยู่
ไม่มีปีศาจตนใดภายในหุบเขาที่กล้าไม่แสดงความเคารพ ปีศาจที่กล้าต่อต้านจะระเบิดตัวแตกตายทันที
ทันใดนั้นลูกบอลโลหิตลูกหนึ่งก็ลอยเข้าไปในบ่อ
บ่อโลหิตนั้นสั่นไหวขณะที่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในบ่อคำรามด้วยความโกรธ “เป็นผู้ใดที่บังอาจฆ่าวิญญาณร้าย!”
ทันทีที่เสียงคำรามนั้นดังขึ้น สายฟ้าสีเลือดก็ฟาดผ่าลงมา ทุกสิ่งที่มันสัมผัสล้วนถูกทำลาย อำนาจของสายฟ้าสีเลือดนี้น่าพรั่นพรึงยิ่ง
สิ่งมีชีวิตภายในบ่อโลหิตคือปีศาจเก้าสวรรค์ หนึ่งในสิบจ้าวปีศาจแห่งบรรพกาล
หลังผ่านมาหมื่นปี ในที่สุดเขาก็เกือบจะได้ร่างแท้จริงกลับคืน จุติเป็นปีศาจเก้าสวรรค์ที่แท้จริง
ตัวเขาถูกผนึกไว้ภายในแดนปีศาจแห่งนี้ เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายอันไร้ผู้เปรียบ เขาได้อาศัยพลังอันมหาศาลสร้างวิญญาณร้ายออกมาเก้าดวง ปล่อยพวกมันออกไปสังหารสรรพสัตว์ เก็บรวบรวมแก่นโลหิตกลับมาให้เขา ความแข็งแกร่งของวิญญาณร้ายที่ส่งไปยังทวีปตะวันออกของแดนปีศาจนั้นเรียกได้ว่าไร้ผู้ต้าน กระนั้นมันกลับถูกทำลายในวันนี้ ปีศาจเก้าสวรรค์โกรธมาก ขณะปลดปล่อยประสาทสัมผัสชั่วร้ายออกไป……
ฉินเทียนที่ห่างออกไปสิบกว่าลี้พลันสีหน้าแปรเปลี่ยน เขารีบเก็บมาวมาวเข้าแหวนมิติและซ่อนกลิ่นอายด้วยกลิ่นอายนักล่า
ประสาทสัมผัสอันชั่วร้ายของปีศาจเก้าสวรรค์โถมออกประดุจคลื่น อีกทั้งความเร็วของมันยังเร็วจนต้องตกตะลึง หากไม่ใช่ฉินเทียนตื่นตัวอยู่ก่อนและรับรู้ได้ทัน มันก็คงควบคุมเขาไปแล้ว ร่างกายเขาอาจจะระเบิด หรืออาจจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของปีศาจเก้าสวรรค์
เมื่อสัมผัสชั่วร้ายพุ่งผ่านไป ฉินเทียนก็เหงื่อท่วมตัว พลังที่แฝงอยู่ภายในนั้นยิ่งใหญ่ไปแล้ว สิบหยางฮงก็เทียบไม่ได้ “หรือนี่จะเป็นพลังของปีศาจเก้าสวรรค์?”
หัวใจของเขาบีบรัด ริมฝีปากของเขาแห้งผากขณะคิดขึ้นในใจ ‘ถ้านี่เป็นพลังของปีศาจเก้าสวรรค์ อย่างนั้นก็เท่ากับพาตัวมาตายชัดๆ’
สัมผัสชั่วร้ายที่แข็งแกร่งเหนือจินตนาการ นี่คงเป็นพลังของปีศาจเก้าสวรรค์ไม่ผิดแน่
ฉินเทียนยังไม่ต้องการพาตัวเองไปตาย อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ ภารกิจระดับ ‘S’ คือการสังหารจ้าวปีศาจ คิดแบบนี้ฉินเทียนก็อดด่าออกมาอีกไม่ได้ “ทำไมต้องมาตอแยคนตัวเล็กๆอย่างข้าด้วย บีบให้ข้าฆ่าวิญญาณร้าย กระตุ้นเปิดภารกิจลับ แล้วนี่อะไร? ฆ่าหนึ่งในจ้าวปีศาจจากบรรพกาล ปีศาจเก้าสวรรค์? มารดามันเถอะ ข้าเพิ่งอยู่ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณเองนะ จะเอาอะไรที่ไหนไปสู้?”
ฉินเทียนหน้าม่อยคอตก
มองดูหุบเขา ฉินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมุ่งหน้าต่อ
เมื่อสัมผัสชั่วร้ายไม่อาจตรวจพบผู้ที่แข็งแกร่งเพียงพอจะสังหารวิญญาณร้าย ปีศาจเก้าสวรรค์ก็เริ่มอาละวาดอย่างกราดเกรี้ยว เขาเงยหน้าคำราม “ไสหัวออกไปค้นหาให้ข้า!”
เหล่าปีศาจที่กำลังคุกเข่าต่างรีบลุกขึ้น พุ่งตัวจากไป
“เป็นผู้ใดที่บังอาจมาตอแยข้าในทวีปตะวันออกแห่งนี้?”
“หรือจะเป็นราชาปีศาจดุร้ายแห่งทวีปตะวันตก?”
“กล้ามาทำลายวันมงคลของข้า ไม่ให้อภัยเจ้าแน่!”
บ่มเพาะมาหลายหมื่นปี อีกไม่นานก็จะได้ร่างจริงกลับมา เมื่อมีร่างจริง ความแข็งแกร่งของเขาจะหวนคืนสู่จุดสูงสุด ถึงตอนนั้นก็จะไม่มีผู้ใดในดินปีศาจแห่งนี้ที่สามารถต่อกรกับเขา ปีศาจเก้าสวรรค์ ดินแดนแห่งนี้จะมีเขาเป็นผู้ปกครอง
ขอเพียงรวมแดนปีศาจเป็นหนึ่งได้ ใช้ธารโลหิตเซ่นสังเวย การหลุดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เมื่อวันนั้นมาถึง เขาก็จะให้เหล่าผู้บ่มเพาะที่เย่อหยิ่งและเซียนเหล่านั้นได้ลิ้มชิมรสพลังของจ้าวแห่งปีศาจ
“ฮ่าๆ……”
ปีศาจเก้าสวรรค์เงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนฟ้าดินสั่นสะเทือน
ฉินเทียนที่หลบซ่อนหลังกลุ่มหินรู้สึกกลัวแล้ว ตัวเขาไม่ถือว่าแข็งแกร่งอะไร จะสะกิดเกาให้อีกฝ่ายได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แล้วเขาจะเอาอะไรไปฆ่าอีกฝ่าย?
ในฐานะหนึ่งในสิบจ้าวปีศาจบรรพกาล ต่อให้ไม่มีร่างจริงหรือเหลือพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนก็ตาม เพียงปล่อยพลังออกมาเล็กน้อยก็ทำให้ฉินเทียนปวดหัวจนหัวระเบิดตายได้แล้ว
“ทำอย่างไรดี?” ฉินเทียนถามตัวเองพลางสงบจิตใจเฟ้นหาวิธีจัดการจ้าวปีศาจ “มันต้องมีวิธีสิ ในเมื่อระบบให้เวลามาสามวัน คงไม่ให้เอาไข่ไปกระทบกับหินหรอก ต้องใช้แผนการ…..”
“แต่วิธีไหนล่ะ?”
ระบบจะไม่ปล่อยภารกิจที่ไม่มีวันทำสำเร็จออกมาแน่นอน คิดถึงภารกิจของคังเทียนจี๋ที่อยู่ระดับ ‘SSS’ แล้ว ตอนนั้นระบบยังไม่จำกัดเวลาเลย ฉินเทียนย่อมมีเวลาเพียงพอให้เพิ่มระดับและจบภารกิจนั้น
มาครั้งนี้ระบบกลับให้เวลาเพียงสามวัน มันจะต้องมีหนทางอยู่เป็นแน่
“แต่วิธีนั้นมันคืออะไร?” ฉินเทียนขมวดคิ้วขณะเฝ้าสังเกตปีศาจเก้าสวรรค์และคิดหาทางซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่ยอมปล่อยให้มีสิ่งใดหลุดรอดไปได้แม้เป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ตอนที่รับรู้ได้ถึงสัมผัสชั่วร้าย เขาก็ใช้กลิ่นอายนักล่าหลบซ่อนจากมัน เป็นไปได้หรือไม่ว่า หากเขาปกปิดกลิ่นอายไว้ เจ้าปีศาจนั่นก็จะไม่สามารถโจมตีเขาได้? เจ้านั่นไม่มีร่างจริง ดังนั้นจึงใช้การโจมตีทางวิญญาณได้เท่านั้น? กลิ่นอายนักล่าของเขาจะใช้สู้กับมันได้หรือไม่?
“ไม่ลองไม่รู้”
มองดูบ่อโลหิตที่อยู่กลางพลับพลา ฉินเทียนก็คำราม “บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง!”
ภายใต้ผลของบ้าคลั่ง กลิ่นอายนักล่าก็เพิ่มพลังขึ้นสี่เท่า
“มาดูกัน” แววตาของฉินเทียนเปลี่ยนเป็นจริงจังขณะพุ่งตัวออกไป สัตว์อสูรที่อยู่โดยรอบเมื่อสัมผัสได้ถึงศัตรูก็วิ่งไล่ตาม
ภายในบ่อโลหิต ปีศาจเก้าสวรรค์หัวเราะอย่างชั่วร้าย “มนุษย์?”
“กลับกล้าเข้ามายังแดนปีศาจ…..”
“เป็นพวกมนุษย์โสโครกที่ผนึกพวกเราไว้หมื่นกว่าปี….”
“เพียงมนุษย์ชั้นต่ำที่อยู่ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณก็กล้าล่วงลึกเข้ามาในแดนปีศาจ หรือไม่เห็นพวกเราเผ่าพันธุ์ปีศาจอยู่ในสายตา?” ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จิตสังหารพรั่งพรู พลังชั่วร้ายแผ่พุ่งออกจนพลับพลาสั่นสะเทือน
“พันจิตมาร….”
“ฆ่า!”
พันจิตมารเป็นสิ่งที่ก่อตัวขึ้นจากพลังงานชั่วร้าย อานุภาพของมันสะเทือนเลือนลั่น เป็นหนึ่งในวิชาอันไร้ผู้ต้านของเผ่าปีศาจ
ฉินเทียนกัดฟันกรอดและตัดสินใจตระเตรียมถอยหนี เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าการโจมตีทางวิญญาณของพลังงานชั่วร้ายไม่สามารถทะลุผ่านกลิ่นอายนักล่าของเขา
เงียบ เงียบงันราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
เคล็ดมังกรฟ้าเก็บซ่อนตัวไม่ขยับ ปล่อยให้พลังงานชั่วร้ายกวาดผ่านร่าง ฉินเทียนตอนนี้คล้ายเป็นเพียงร่างกลวงเปล่า ไม่มีวิญญาณให้โจมตี
พันจิตมารที่ทรงมีอานุภาพสั่นเทือนเลือนลั่นทะลุผ่านร่างกายของเขาไป
ฉินเทียนหลับตาแน่น เกิดเป็นความสงบอยู่ภายใน เป็นวินาทีเดียวกับที่พันจิตมารกวาดผ่านร่างของเขาไป
“ไม่ตาย?” ฉินเทียนหัวเราะขณะมองไปยังปีศาจเก้าสวรรค์ด้วยตาเป็นประกาย
โจมตีทางวิญญาณไม่ได้ผล?
“ฮ่าๆ…..ฮ่าๆๆๆ……..จุ๊จุ๊ ปีศาจเก้าสวรรค์เอย พันจิตมารผายลมอะไรของเจ้า ฮ่าๆ…………” ฉินเทียนดีใจแทบบ้าคลั่ง “ภารกิจระดับ S บิดาเจ้ามาแล้ว…..”