จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 95
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 95 หมื่นปีศาจ จงมา!
ปีศาจเก้าสวรรค์และพวกปีศาจนั้นแตกต่างกัน
ปีศาจเก้าสวรรค์เป็นกลุ่มก้อนความคิด ไม่มีร่างจริง ด้วยพันจิตมาร และสัมผัสชั่วร้ายก็สามารถกวาดผ่านได้ทั่วทวีปตะวันออกของแดนปีศาจ แม้วิญญาณร้ายจะถูกสร้างขึ้นจากสัมผัสชั่วร้าย กระนั้นมันก็มีกายเนื้อ นอกเหนือจากการโจมตีทางวิญญาณแล้ว มันยังสามารถโจมตีมทางกายภาพ
การโจมตีทางวิญญาณของวิญญาณร้ายที่มีกายเนื้ออาจจะทำให้ฉินเทียนรู้สึกกดดัน แต่การโจมตีของปีศาจเก้าสวรรค์ที่ไม่มีร่างจริงนั้นไม่ใช่เลย ขอเพียงใช้กลิ่นอายนักล่า กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาก็ทำให้เขาเสมือนไม่มีตัวตนต่อหน้าสัมผัสชั่วร้าย ไม่ว่าพันจิตมารจะเปี่ยมอานุภาพสักเพียงใด มันก็ทำอะไรฉินเทียนไม่ได้
หลังจากผลปรากฏ จิตวิญญาณของเขาก็ลุกโชน
เมื่อพันจิตมารทำอะไรเขาไม่ได้ ฉินเทียนก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่ความโลภฉายออกทางแววตา เขามองดูปีศาจเก้าสวรรค์ที่อยู่ในพลับพลาแล้วกล่าวขึ้นว่า “ปีศาจเฒ่าเอย เจ้าดีใจเร็วไปแล้ว”
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ปีศาจเก้าสวรรค์ถามด้วยเสียงจริงจัง พลังชั่วร้ายพุ่งตรงเข้าร่างของฉินเทียน กระนั้นทุกครั้งล้วนล้มเหลว นี่ทำให้มันแตกตื่นแล้ว ในใจของมันยังตกตะลึงไม่หาย ‘กฏแห่งกลิ่นอาย ถึงกับบรรลุกฏที่สูงชั้นเพียงนั้นได้………’
“สามารถบรรลุกฏแห่งกลิ่นอายด้วยระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณ”
“เจ้าเป็นใครกันแน่? อาจารย์ของเจ้าเป็นใคร?” ปีศาจเก้าสวรรค์เอ่ยถามเสียงเย็น
ฉินเทียนเผยยิ้มบางก่อนจะเดินเข้าไปในพลับพลาด้วยฝีเท้าเนิบนาบ มองดูบ่อโลหิตแล้ว เขาก็ถ่มน้ำลายลงบ่อ “ถุ้ย….”
“ปีศาจเก้าสวรรค์มูลสุนัขอะไรกัน”
“จ้าวปีศาจบรรพกาลผู้ยิ่งใหญ่? นี่มันความอัปยศของเผ่าปีศาจชัดๆ”
“คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่อย่างโน้นอย่างนี้ ถุ้ย! อยู่ได้แค่ในบ่อ คิดว่าน่ากลัวนักเหรอ ใครยังจะไปกลัวเจ้ากันฮะ?”
“มารดามันเถอะ ทำบิดาเกือบหัวใจวายตาย ถ้าไม่ด่าเจ้าสักหน่อย ความโกรธของบิดาคงไม่ที่ระบาย” ฉินเทียนชี้หน้าด่าทอปีศาจเก้าสวรรค์อย่างโมโห ความรู้สึกที่ชี้หน้าด่าคนอื่นนี่ให้ความรู้สึกดีมากจริงๆ
ปีศาจเก้าสวรรค์เป็นหนึ่งในจ้าวแห่งเผ่าปีศาจเมื่อนานมาแล้ว เป็นหนึ่งในสิบจ้าวปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ไร้คู่เปรียบ ยังมีผู้ใดกล้าชี้หน้าด่าทอเขาแบบนี้?
ถูกมนุษย์ที่ต่ำยิ่งกว่าปรสิตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ชี้หน้าด่าทอ ปีศาจเก้าสวรรค์ก็โกรธจนตัวสั่น เขาคันไม้คันมืออยากจะฉีกปากไอ้เวรตะไลนี่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่แค่นั้นมันยังไม่พอ มันยังไม่พอจะดับโทสะที่พลุ่งพล่านแม้สักเสี้ยว
คงมีเพียงฉินเทียนเท่านั้นที่กล้าชี้หน้าด่าทอจ้าวแห่งปีศาจบรรพกาลเช่นนี้
เมื่อความโกรธของฉินเทียนเจือจางลง เขาก็แสยะยิ้มเย็นก่อนเดินวางท่าไปรอบบ่อ จู่ๆก็เอ่ยปากถามว่า “เจ้ามีเลือดเท่าไร?”
“อืม มาดูกัน”
“พลังมังกรพิสุทธิ์ ปราณไร้ลักษณ์!”
ฉินเทียนแค่นเสียง พลังงานมหาศาลแผ่พุ่งจากร่าง จากนั้นจึงโจมตีออกโดยไม่ลังเล……
————————————————-
ปีศาจเก้าสวรรค์: หนึ่งในจ้าวปีศาจแห่งบรรพกาล
ระดับ: ???
พลังชีวิต: 1,000,000
ค่าประสบการณ์: 1,000,000
ทักษะ: พลังเก้าสวรรค์, พันจิตมาร
เพิ่มเติม: ปีศาจเก้าสวรรค์เกิดขึ้นจากความรู้สึกด้านลบ ทุกการโจมตีเป็นการโจมตีทางวิญญาณ
————————————————-
เมื่อโจมตีออกไป แถบพลังชีวิตก็ปรากฏเหนือบ่อโลหิต และหน้าต่างสถานะของปีศาจเก้าสวรรค์ก็แสดงขึ้นมา ฉินเทียนตกตะลึง “หนึ่งล้านหน่วย เลือดเยอะจริงๆ….”
พลังมังกรคชสารพุ่งปะทะใส่ร่างปีศาจเก้าสวรรค์ พลังชีวิตลดลงไปสิบกว่าหน่วย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เขาจะฆ่ามันได้? ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้อัตโนมัติ ไม่ต้องพูดถึงว่าปีศาจเก้าสวรรค์จะตายหรือไม่ตาย ตัวเขาคงเหนื่อยตายก่อนไปแล้ว
“โจมตีแบบนี้ไม่ได้ผล”
ฉินเทียนรีบถอยไปอยู่ด้านข้าง ไม่โจมตีต่อ ไม่ต้องพูดถึงสภาพจิตใจ เพียงพลังปราณของเขาก็แบกรับไม่ไหวแล้ว กฏแห่งกลิ่นอายใช้พลังปราณมหาศาลในการคงสภาพ ต้องคิดหาวิธีอื่น
พลังชีวิตหนึ่งล้าน นี่มันโครตบอสชัดๆ!
ด้วยระดับพลังโจมตีในปัจจุบันของฉินเทียน สามวันคงฆ่ามันไม่ได้แน่ หากเขาฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ในสามวัน ระบบก็จะถือว่าเขาทำภารกิจล้มเหลว ผลลัพธ์ที่รอเขาอยู่ก็คือต้องติดแหง่กอยู่ที่นี่ตลอดไป
“มันต้องมีหนทาง มันต้องหนทางสิน่า…..” ฉินเทียนขมวดคิ้วพลางพึมพำซ้ำไปซ้ำมา
“ด้วยระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณของเจ้า ต่อให้บรรลุกฏที่ทรงพลัง ความแข็งแกร่งของเจ้าก็ยังต่ำไป การโจมตีของเจ้ายังเกาให้ข้าไม่หายคันด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ…….” ปีศาจเก้าสวรรค์หัวเราะเยาะ ตอนแรกเขาก็แอบเหงื่อแตกตอนฉินเทียนโจมตีออกมา แต่ตอนปะทะก็ทำให้รู้ว่าเขากังวลไปโดยใช่เหตุแล้ว
ปีศาจเก้าสวรรค์ต้องการเวลาอีกเพียงสามวัน ในสามวัน แก่นโลหิตจะถูกรวบรวมจนครบ เขาจะหลอมสร้างร่างจริงขึ้นมาและรับเอาพลังที่เป็นของเขากลับมา ถึงตอนนั้น สิ่งแรกที่จะกระทำก็คือโยนเจ้ามนุษย์ต่ำต้อยนี่เข้าสู่ความสิ้นหวังตลอดกาล
คิดได้ดังนั้น ปีศาจเก้าสวรรค์ก็หัวเราะอย่างย่ามใจ
“หัวเราะหาบิดาเจ้าเหรอ!” ฉินเทียนถลึงตามองก่อนจะปรี่เข้าไปใกล้บ่อโลหิต สายตาจับจ้องไปยังเสาศิลาทั้งสี่
เสาที่สูงเสียดฟ้าทั้งสี่ล้วนมีสัญลักษณ์แปลกๆสลักไว้ ดูคล้ายเป็นค่ายกลผนึกอะไรสักอย่าง และยังเหมือนจะมีอย่างอื่นอีกด้วย มีสัญลักษณ์แปลกๆถูกสลักอยู่รอบพลับพลา ฉินเทียนขบคิดก่อนจะหันไปมองดูบ่อโลหิตแวบหนึ่ง ในหูได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่เป็นระยะ…….
แก่นโลหิตที่ถูกเก็บรวบรวมลอยเข้ามาจากทุกทิศทาง ฉินเทียนยกยิ้มมุมปาก เขารวบรวมพลังปราณก่อนจะชกไปที่เสาศิลาต้นหนึ่ง…….
ตูม……….
เสาศิลาสั่นสะเทือน สัญลักษณ์ที่ถูกสลักไว้บนตัวเสาเริ่มบิดเบี้ยวคล้ายกับเจ็บปวด
“เจ้าจะทำอะไร?” ปีศาจเก้าสวรรค์พลันคำราม ศีรษะที่ลอยพ้นบ่อพยายามดิ้นรนและโจมตีออกไป
“ฮ่าๆ…………….”
ฉินเทียนยิ้มแล้ว “กลัวเป็นแล้ว? ก่อนหน้ายังหัวเราะอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? หัวเราะต่อสิ แล้วคอยดูว่าบิดาจะจัดการเจ้าอย่างไร….”
ฉินเทียนต่อยออกอีกหมัดจนเสาศิลาสั่นอีกครั้ง สัญลักษณ์แปลกๆเริ่มบิดเบี้ยว บางส่วนกระทั่งจางลง เศษหินร่วงจากเสาศิลา ปีศาจเก้าสวรรค์ที่ร้อนใจรีบปล่อยพลังเก้าสวรรค์และพันจิตมารออกมา…..
ความพิโรธ!
เป็นความพิโรธที่ราวกับถูกแตะเกล็ดย้อน
ยิ่งปีศาจเก้าสวรรค์เกรี้ยวกราด ฉินเทียนก็ยิ่งมั่นใจว่ามาถูกทาง บางทีการทำลายพลับพลาและปล่อยให้โลหิตในบ่อไหลออกไปอาจจะทำให้อีกฝ่ายตายก็ได้
ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของฉินเทียน ที่เขาโจมตีเสาศิลาก็เพื่อจะดูปฏิริยาของปีศาจเก้าสวรรค์
เผ่าปีศาจล้วนมีอารมณ์ที่รุนแรง และปีศาจเก้าสวรรค์ยังอารมณ์รุนแรงยิ่งกว่า การกระทำของฉินเทียนทำให้มันเดือดดาลถึงขีดสุด จิตสังหารครอบคลุมไปทั่วหุบเขา แต่นั่นไม่มีผลต่อฉินเทียนแม้แต่น้อย
ครืน…………..
เสาศิลาส่งเสียงแตกหัก สัญลักษณ์บนเสาเริ่มจางหาย ทุกครั้งที่ถูกโจมตี บ่อโลหิตก็จะสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจควบคุม คล้ายกับต้องการจะสังหารปีศาจที่อยู่กลางบ่อ
“ไอ้เดรัจฉาน! ราชันย์ผู้นี้จะให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ข้าต้องเผชิญ…..”
ปีศาจเก้าสวรรค์ปลดปล่อยสัมผัสชั่วร้ายออกไปพลางคำราม “หมื่นปีศาจ จงมา!”