จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 297 ข้านั้นไร้พ่าย
ฉินฝาน ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้น
แต่หวงเหวินหย่วนที่เกิดอยู่ในตระกูลระดับสูงอย่างสำนักทุ่งปิดภูผาไม่มีทางไม่รู้ นี่คือชื่อขององค์ชายสองผู้ตำแหน่งสูงอำนาจมากแห่งจักรวรรดิ
องค์ชายสองถูกเจ้าคนบ้าข้างหน้านี่สังหาร
และหากพูดกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นฐานะ ตำแหน่ง หรือพลังฝึก องค์ชายสองล้วนแต่อยู่เหนือเขา เจ้าบ้านี่กล้าสังหารแม้แต่องค์ชายสอง เช่นนั้นไม่ใช่ว่า…
หวงเหวินหย่วนลนลานไปในทันที
ประโยคนี้ของหลี่มู่โจมตีจิตใจของเขาได้มากกว่าคำข่มขู่มากมายที่เขาพูดไปเสียอีก
และยิ่งเป็นคนจองหองอวดดี เป็นคนที่ไม่คิดว่าชีวิตคนอื่นสำคัญ เมื่อเผชิญหน้ากับความตายอย่างแท้จริง ก็จะยิ่งดูน่าอนาถกว่าคนทั่วไป
หน้าผากหวงเหวินหย่วนมีเหงื่อเย็นซึมชื้น รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนใบหน้าแข็งค้าง เขามองใบหน้าเย็นชาของหลี่มู่ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างติดๆ ขัดๆ “เจ้า…อย่าวู่วาม องค์ชายสองพูดได้ว่าตายเพราะสงครามภายใน จักรพรรดิยังไม่ออกจากปิดด่านฝึกตน ดังนั้นจึงยังไม่มาจัดการเจ้า แต่หากเจ้าฆ่าข้า ข้าคือคนที่ท่านปู่รักที่สุด ท่านจะต้องลงมือแก้แค้นแทนข้าแน่นอน…”
หลิวฉงที่อยู่ข้างๆ ก็เคร่งเครียดเป็นอย่างมากเช่นกัน
รองเจ้าสำนักหวงเซิ่งอี้ให้เขามาอำเภอขาวพิสุทธิ์ก็เพื่อสนับสนุนหวงเหวินหย่วน หากหวงเหวินหย่วนมาตายอยู่ที่นี่ แม้หลี่มู่จะแข็งแกร่งเกินไป แต่ถึงตอนนั้นเกรงว่าเขาก็หนีไม่พ้นความผิดเหมือนกัน ทั้งยังไม่อาจให้คำตอบได้
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ไม่กล้ายั่วยุหลี่มู่เท่าใดนัก
มารดามันสิ เจ้าขุนนางเมืองคนนี้เป็นวิปลาสจริงๆ ด้วย
“ใต้เท้าหลี่ พวกเรายังไม่ถึงขั้นปรับความเข้าใจกันไม่ได้ อย่าบุ่มบ่ามเลย” หลิวฉงเองก็ปาดเหงื่อเหมือนกัน “ท่านปล่อยคุณชายหวงก่อน พวกเรามีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน เป็นคำสั่งของราชสำนักให้คุณชายหวงมาแทนตำแหน่งขุนนางเมืองของท่าน ไม่ใช่พวกเราแย่งตำแหน่งท่านมา”
หลี่มู่มองหลิวฉง “เจ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ นี่ใช่เรื่องเป็นหรือไม่เป็นขุนนางเมืองหรือ?”
หลิวฉงนิ่งอึ้ง จากนั้นสีหน้าก็ย่ำแย่
หลี่มู่ทำไปเพื่อประชาชนชั้นต่ำที่ตายไปทั้งสิบหกคนจริงๆ ไม่ใช่หาข้ออ้าง?
หลิวฉงกลืนน้ำลายลงคอ “ข้าเข้าใจความหมายของใต้เท้าหลี่ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณชายหวง และก็ไม่มีหลักฐานแสดงชัดเจนว่าคุณชายหวงสังหารพวกเขา ข้า…”
“หลักฐาน” หลี่มู่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “ตาแก่ เจ้าคงจะแก่จนเลอะเลือนแล้วสินะ ตอนนี้ข้าพูดกับเจ้าเรื่องหลักฐานรึไง? เป็นไอ้สารเลวนี่ทำหรือเปล่า ใจเจ้ารู้ดีไม่ต้องมาทำไก๋?”
อะไรคือมาทำไก๋?
หลิวฉงผู้เป็นดั่งเทพเซียนไม่รู้ แต่จะต้องไม่ใช่คำที่ดีอะไรแน่
เขาเกลี้ยกล่อม “ใต้เท้าหลี่ อย่าได้วู่วามไป เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบก่อนสักหน่อย หากเป็นการกระทำของคุณชายหวง…”
หลี่มู่ตัดบทเขาอีก “อะไรคือหากว่า? จิตสังหารกับกลิ่นคาวเลือดบนร่างของเจ้านี่ชัดเจนถึงขนาดนี้ มันฆ่าคนไม่เกินสองชั่วยาม ยังจะมาแก้ตัวอะไรอีก? พูดเรื่องนี้กับข้าไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยรึ?”
หลิวฉงถอนหายใจยาว ไม่พอใจหวงเหวินหย่วนเท่าไรนัก
แต่เดิมแค่รอหลี่มู่ออกจากเก็บตัว ฉวยโอกาสยามเขายังไม่ทันตั้งตัวลงมือสังหารเลยก็ได้แล้ว ทำไมต้องรั้นไปฆ่าประชาชนชั้นต่ำที่ไม่สำคัญอะไรเลยพวกนั้น ตอนนี้แหวกหญ้าให้งูตื่น หลี่มู่ได้เตรียมตัว…ถึงกระนั้น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเอ่ยโทษหวงเหวินหย่วนคนไม่ได้ความ
“จะต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่” หลายปีมานี้ หลิวฉงเคยคับแค้นใจขนาดนี้เสียที่ไหนกัน เขาพูดอย่างระมัดระวัง “ที่ใต้เท้าหลี่พูดเช่นนั้นเมื่อครู่ ข้าก็สัมผัสได้เช่นกัน ทว่าจะต้องเป็นองครักษ์หน้าบากนี่แน่ ตัวเองไม่พอใจเพราะการกระทบกระทั่งกันก่อนหน้านี้ จึงลงมือเองโดยพลการ คุณชายหวงถูกปกปิด ไม่รู้เรื่องราว…”
หวงเหวินหย่วนรีบร้อนพูดขึ้นด้วยตาเป็นประกาย “ใช่ๆๆ ใต้เท้าหลี่ เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย ข้าถูกปิดบัง มีอะไรพวกเราคุยกันดีๆ องครักษ์คนนี้ชื่อจ่านเฟย ก่อนหน้านี้เป็นโจรสลัดที่เที่ยวเข่นฆ่าผู้คนมากมาย หลังจากข้ากำราบเขาได้ ก็ให้เขาคอยติดตามข้างกายข้า ให้กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ ใครจะรู้ว่าสันดานแก้ยาก เขาทำเรื่องเช่นนี้ออกมา ข้าไม่ปล่อยเขาไว้แน่…”
หลี่มู่ถ่มน้ำลายรดหน้าเขา กล่าวกลั้วเสียงหัวเราะหยัน “คนสองคนที่เป็นถึงผู้แข็งแกร่งขั้นเหนือมนุษย์ กลับพูดจาเหลวไหลหน้าด้านๆ เพื่อที่จะมีชีวิตรอด ข้าละอายใจแทนพวกเจ้าเสียจริงๆ นี่หรือคือนักรบของทุ่งปิดภูผา? พวกเจ้าทำให้สำนักเทพต้องขายขี้หน้าแล้ว”
คิ้วขาวของหลิวฉงกระตุก เพลิงโทสะในใจลุกโหม
หวงเหวินหย่วนทั้งร้อนใจทั้งโมโห
เขาถูกด่าจนไม่เหลือชิ้นดี แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่กล้าโต้เถียง
“แต่เดิมข้าก็ไม่คิดจะพูดด้วยเหตุผลกับพวกเจ้าอยู่แล้ว แต่ในเมื่อพวกเจ้าขี้ขลาดจนถึงขั้นนี้ เช่นนั้นก็…” หลี่มู่ชี้ไปที่องครักษ์ผมขาวหน้าบากที่หมดสติไปแล้ว ก่อนจะสั่งการ “ใครก็ได้ ปลุกมันขึ้นมา”
เฝิงหยวนซิงกัดฟัน หิ้วถังน้ำเย็นมาด้วยตนเองก่อนจะสาดโครมลงไปยังองครักษ์ผมขาวหน้าบาก
เขาก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะเดินตามรอยหลี่มู่ให้ถึงที่สุดไปเสีย
“อ๊าก…” องครักษ์ผมขาวหน้าบากค่อยๆ ตื่นขึ้น ก่อนจะส่งเสียงร้องเจ็บปวด ครั้นสายตาหยุดอยู่ที่ร่างของหลี่มู่ ก็อ้าปากจะก่นด่า
หลี่มู่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “ทางที่ดีเจ้าคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยอ้าปาก”
เจอสายตาเย็นเยียบราวดาบของหลี่มู่กวาดเข้าไป ใจขององครักษ์ผมขาวหน้าบากสั่นสะท้าน คำด่าที่จะด่ากลับพูดไม่ออกสักคำ ซ้ำหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล
หลี่มู่เหยียบไปที่ขาของหวงเหวินหย่วน ฝ่ายหลังร้องอย่างบ้าคลั่งดั่งหมูถูกเชือด หลี่มู่บอก “หยุดร้องได้แล้ว…พูด พูดอย่างที่เจ้าพูดเมื่อกี้นี้อีกรอบ”
ในใจของหวงเหวินหย่วนอยากจะสับหลี่มู่ให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น แต่สถานการณ์บีบบังคับ เขาจำต้องก้มหัว
หวงเหวินหย่วนใบหน้าเหี้ยมเกรียม ก้มหน้าก้มตาพูดสิ่งที่เอ่ยไปเมื่อครู่กับองครักษ์ผมขาวหน้าบากจ่านเฟยอีกรอบ “เจ้าก็อย่าโทษข้าเลย เจ้ากล้าทำเรื่องแบบนี้เพื่อตัวเอง สังหารผู้บริสุทธิ์ โทษหนักสมควรตาย หากเจ้ายังมีมโนธรรมอยู่บ้างก็อัตวิบาตตัวเอง ใช้ความตายขอขมาเสียเถอะ”
องครักษ์ผมขาวหน้าบากแขนขาทั้งสองล้วนถูกดาบเหล็กสับจนเหวอะหวะ ทหารทั่วไปไม่ว่าจะออกแรงอีกเท่าใดก็ตัดกระดูกของผู้แข็งแกร่งขั้นฟ้าประทานที่ฝึกฝนกระดูกไม่ขาด ดังนั้นอาการบาดเจ็บเช่นนี้ดูเหมือนสาหัส แต่แท้ที่จริงแล้วขอแค่ฟื้นฟูพลังฝึกปราณแท้ฟ้าประทาน เพียงแค่ครึ่งวันก็ฟื้นตัวแล้ว
เขามองหวงเหวินหย่วนด้วยใบหน้าสีหน้าซับซ้อนพลางกัดฟันแน่น
ทำไมเขาจะไม่เข้าใจ ความหมายของหวงเหวินหย่วนคือจะให้เขาแบกความผิด รับข้อหาฆ่าคนตาย
นั่นก็เท่ากับรับโทษตายแล้ว
เขาเจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เขาเป็นทาสของสกุลหวง เป็นทหารส่วนตัว และก็เป็นทหารเดนตาย ชีวิตนี้เป็นของสกุลหวง จึงทำใจเตรียมตัวไว้ตั้งนานแล้ว
เขาแค่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเดินมาถึงก้าวสุดท้ายของทหารเดนตายเพราะเรื่องเล็กๆ เช่นการสังหารประชาชนชั้นต่ำสิบหกคนแบบนี้ ไม่ได้ตายในสงครามที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่ตายเพื่อชดใช้ชีวิตให้กับชาวบ้านชั้นต่ำ นี่มันช่าง…เจ็บใจนัก
แต่ทว่าหากหักหลังตระกูลหวง ถึงหลี่มู่จะไม่ฆ่าเขาตอนนี้ การล้างแค้นของสกุลหวงก็จะทำให้เขาตายเสียยังดีกว่าอยู่
“ใช่แล้ว คุณชายพูดถูก ข้าเห็นคุณชายถูกหยามหมิ่น ดังนั้นจึงรู้สึกไม่พอใจ แล้วลงมือฆ่าประชาชนชั้นต่ำพวกนั้นด้วยตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณชาย” องครักษ์ผมขาวหน้าบากกัดฟันพูด
เขาเก่งกล้าองอาจมาตลอดชีวิต ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ในอดีตก็เป็นโจรสลัดฆ่าคนปล้นทรัพย์จริงๆ ภายหลังถูกสกุลหวงกำราบ วันเวลาที่หรูหราก็ได้ใช้มาไม่น้อย อะไรที่ควรกินก็ได้กิน อะไรที่ควรดื่มก็ดื่ม อะไรที่ควรได้เล่นสนุกก็ได้ทำแล้วเช่นกัน ชีวิตนี้คุ้มค่าแล้ว
หวงเหวินหย่วนโล่งอก
หลิวฉงก็โล่งอกเหมือนกัน
หลี่มู่พยักหน้า “ดี ใจเด็ดจริงๆ เช่นนั้นข้าจะส่งเจ้าไปปรโลก”
พูดจบก็รับดาบเหล็กจากมือองครักษ์ข้างกายมา ผสานปราณแท้ฟ้าประทานเข้าไป เมื่อเหวี่ยงดาบไปสบายๆ หัวของจ่านเฟยก็ขาดสะบั้น วางอยู่หน้าศพชาวเมืองและองครักษ์ที่ตายไปทั้งสิบหกคน
หวงเหวินหย่วนปกปิดความเหี้ยมเกรียมในใจของตัวเองไว้อย่างระมัดระวัง “ใต้เท้าหลี่ ความจริงกระจ่างแล้ว ตอนนี้ปล่อยข้าไปได้แล้วกระมัง?”
หลี่มู่มองเขาอย่างตกใจ “เอ๋? ข้าบอกว่าจะปล่อยเจ้าไปเมื่อไหร่กัน?”
หวงเหวินหย่วนอึ้งงัน
หลิวฉงทั้งตกใจทั้งโมโห กล่าวว่า “ใต้เท้าหลี่ ท่านหมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดจะกลับคำพูด?”
หลี่มู่มองเขาเหมือนมองคนโง่ “กลับคำ? ตาแก่ เจ้าลองคิดให้ดีๆ สิ ก่อนหน้านี้มีประโยคไหนที่บอกว่าถ้าไอ้หงอกนี่รับผิดแล้วข้าจะฆ่ามันคนเดียว?”
“นี่…” หลิวฉงนึกย้อนอย่างละเอียด “ท่านพูดชัดๆ…”
“อ้อ พูดหรือ? งั้นช่างเถอะ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” หลี่มู่ตอบ
หลิวฉงเอ่ยอะไรไม่ออก
นี่หรือคือมีอะไรให้พูดจากันดีๆ มารดามันสิ
“เจ้าจะเอาอย่างไร?” หวงเหวินหย่วนใกล้บ้าแล้วเต็มที
เขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลี่มู่ปั่นหัวเข้าแล้ว
หลี่มู่พูดอย่างไม่สนใจว่า “จะเอาอย่างไร? แน่นอนว่าส่งเจ้าจะไปลงนรกน่ะซี คำถามโง่เง่าแบบนี้ยังถามมาอีก เจ้าโง่รึเปล่าเนี่ย?”
“เจ้า…เจ้าบ้าไปแล้วรึ ข้าเป็นหลานของรองเจ้าสำนักทุ่งปิด…” หวงเหวินหย่วนคลุ้มคลั่ง ไม่อาจเข้าใจความคิดของคนคนนี้
หลี่มู่ตอบกลับ “ข้าไม่ได้บ้า หากข้าปล่อยเจ้าไปจริงๆ ต่างหากถึงจะบ้า พวกเจ้าลองถามใจดู หากเจ้ากลับไปจะไม่คิดแก้แค้นรึ? หากจะรอให้เจ้ากลับไปแล้วแก้แค้น มิสู้จัดการเสียตอนนี้เลย ถึงอย่างไรขั้นเหนือมนุษย์ต่ำช้าหน้าด้านไม่เลือกวิธีก็เป็นภัยคุกคามอยู่หน่อยๆ…หึๆ อย่างไรเสียวันนี้ก็ล่วงเกินพวกเจ้าสุดๆ ไปแล้ว”
หวงเหวินหย่วนรีบแย้ง “ไม่ๆๆ เจ้าฟังข้าพูด…”
หลี่มู่ตอบ “ไม่ต้องพูดแล้ว ไร้สาระ…จะโทษก็ต้องโทษตัวเจ้าเอง ทีแรกทำไมไม่รู้จักพูดให้มันชัดเจน หากเจ้าพูดให้ชัดตั้งแต่แรกข้าก็คงไม่ล่วงเกินเจ้าขนาดนี้แล้ว และไม่แน่ว่าพวกเราอาจเป็นสหายกันก็ได้”
หวงเหวินหย่วนมึนงง
โทษข้า?
เจ้านี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ
หลิวฉงที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองคงเจอะเจอกับคนบ้าเข้าให้แล้ว
พูดด้วยเหตุผลไม่ได้ ข่มขู่ก็ไม่ได้ผล ใช้หลักทำนองคลองธรรมยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่
“ใต้เท้าหลี่ ไม่ว่าจะอย่างไร ท่านคิดให้ดีว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ คุณชายหวงต่อให้มีความผิดแต่ไม่ถึงกับมีโทษตาย หากท่านฆ่าเขา ทุ่งปิดภูผาทั้งหมดจะเป็นปฏิปักษ์กับท่าน ท่าน…”
“เจ้าไม่เข้าใจ” หลี่มู่พูด “พวกเจ้าเป็นตัวแทนทุ่งปิดภูผาไม่ได้ รองเจ้าสำนักก็เป็นตัวแทนทุ่งปิดภูผาไม่ได้เหมือนกัน อีกทั้งต่อให้เป็นศัตรูกับทุ่งปิดภูผา ข้าก็ไม่สนใจ” พูดถึงตรงนี้หลี่มู่ก็ยิ้มน้อยๆ เอ่ยราบเรียบว่า “เพราะในอำเภอขาวพิสุทธิ์แห่งนี้ ข้านั้นไร้พ่าย”
พูดจบ เขาตวัดดาบตัดศีรษะหวงเหวินหย่วน