จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 402 ดาบเทพไร้เทียมทาน
ปราณดาบนับพันหมื่นสายประดุจด้ายเล็กละเอียด แผ่ออกไปรอบด้านจากร่างของหลี่มู่ ดูเหมือนไม่มีกฎเกณฑ์แต่แท้จริงกลับผนึกเฉือนตัดความว่างเปล่าทั้งหมด ปกคลุมเป็นชั้นทับซ้อนลงมาในทุกตารางนิ้วรอบตัวเทพปีศาจเพลิงดำ
“เจ้าเป็นใคร?”
เทพปีศาจเพลิงดำพยายามทุ่มแรงต่อต้าน เรือนร่างปานหินผาสีดำ ด้านในร่องคล้ายกล้ามเนื้อที่ปูดนูนขึ้นมาราวกับมีหินหลอมเหลวสีแดงฉานเป็นประกายไหลวน จนกลายเป็นตราประทับเต๋าแปลกประหลาดอันแล้วอันเล่า หมุนวนไปทั่วกาย ดูเหมือนเกราะตราประทับชั้นหนึ่ง
หลี่มู่ไม่ตอบอะไร
เขาใช้จิตดาบกระตุ้นท่าศึกราตรีแปดทิศในหกดาบวายุเมฆา เสริมให้ละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น รัดเทพปีศาจเพลิงดำเอาไว้ จากนั้นหันกายกลับมาที่ด้านหน้าเหลียงจื้อร่างมารดุจสายฟ้าแลบ หนึ่งหมัดซัดออกไป คราวนี้กลับเปลี่ยนมาใช้หมัดยุทธ์แท้แล้ว
ตูม!
อากาศระเบิดออก ถล่มลงเป็นชั้นๆ เหมือนความว่างเปล่าพังทลายก็มิปาน
เหลียงจื้อร่างมารยกมือขึ้นต้านไว้ แต่รู้สึกเพียงว่ามีพลังมหาศาลที่น่าเหลือเชื่อประหนึ่งทลายภูเขาถล่มสมุทรทะลักเข้ามา เสียงเปรี๊ยะดังลั่น ท่อนแขนร่างมารของเขาระเบิดกระจายโดยพลัน ร่างทั้งร่างม้วนกระเด็นออกไป
“เป็นไปได้อย่างไร?” เหลียงจื้อร่างมารตะโกนลั่น รู้สึกไม่อยากเชื่อ
ร่างของเขาได้รับการเสริมพลังจาก ‘น้ำพุจันทราโลหิต’ ในเบ้าตาทั้งสอง แข็งแกร่งไร้พ่าย ต่อให้เป็นขั้นเทวะก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่กลับถูกขอทานน้อยผู้นี้ซัดระเบิดได้ในหมัดเดียว?
จากนั้นร่างของหลี่มู่ยืนอยู่ที่เดิม ยกมือขึ้นมา และง้างหมัดชกไปทางหน้าผากเด็กสาวที่มีภาพ ‘ดอกบัวขาวฟ้าคราม’ ฉายอยู่เบื้องหลังอีกหมัดหนึ่ง
ฉากนี้ทำให้ยอดฝีมือพรรคกระยาจกที่กำลังส่งเสียงเอะอะอยู่รอบๆ นิ่งอึ้งไปทันที
เกิดอะไรขึ้น
ขอทานน้อยไม่ใช่ว่ากำลังโจมตีปีศาจร้ายนอกพิภพอยู่หรือ ทำไมจึงหันมาลงมือกับประมุขพรรคคนใหม่?
ที่ประหลาดยิ่งไปอีกก็คือ หมิงเยวี่ยประมุขพรรคคนใหม่ก็เหมือนตกใจจนบื้อไปแล้ว เงยหน้าขึ้นมอง ยืนแข็งอยู่ที่เดิม จ้องมองขอทานน้อยคนนั้น
“ประมุขพรรค…” หลู่ฉางฟู่ที่อยู่ห่างออกไป เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ก็ตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง
เขามองไม่ออกแล้ว ขอทานน้อยคนนั้นเป็นสหายของท่านหญิงหวนจูที่ตนพามา เดิมทีคิดว่าเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์อะไรเทือกนั้น ไม่คิดเลยว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งยอดยุทธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังลงมือกับประมุขพรรคคนใหม่อีก หรือว่าจะเป็นไส้ศึกของพรรคจันทราโลหิต? ไม่ถูกต้องสิ เมื่อครู่เขายังต่อกรเทพปีศาจเพลิงดำกับเหลียงจื้อร่างมารอยู่เลย…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ยอดฝีมือและผู้แข็งแกร่งพรรคกระยาจกซึ่งกำลังทำศึกอยู่รอบๆ เห็นประมุขพรรคคนใหม่ที่เพิ่งออกจากเตาสดๆ ร้อนๆ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมดุจคนบื้อ มองหมัดที่ซัดเหลียงจื้อร่างมารจนปลิวจะปะทะหน้าผากประมุขพรรคคนใหม่กันตาปริบๆ คิดจะเข้าไปช่วยเหลือก็ไม่ทันกาลแล้ว
กระทั่งเทพปีศาจเพลิงดำที่เพิ่งดิ้นหลุดจากจิตดาบ ‘ศึกราตรีแปดทิศ’ มาได้ ปฏิกิริยาตอบสองก็ยังติดขัดอยู่บ้าง
แต่ว่า พริบตาที่หมัดกำลังจะไปถึงหน้าผากหมิงเยวี่ย กลับเปลี่ยนเป็นงอนิ้วดีดอย่างกะทันหัน เสียงเพียะดังขึ้นมา นิ้วดีดลงกลางหน้าผากของหมิงเยวี่ย
หลี่มู่เอ่ยขึ้น “ถูกคนลักตัวไปก็ไม่รู้จักหนีกลับมา”
บนใบหน้าเล็กรูปไข่ที่ขาวผ่องงดงามของหมิงเยวี่ย นางลูบหน้าผากด้วยสีหน้ากรุ่นโกรธ กล่าวว่า “เจ็บ….” จากนั้นน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้อีก แขนสองข้างกางออก พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของหลี่มู่ และกอดเอวเขาเอาไว้แน่น ความรู้สึกเช่นนั้นราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยมือ หลี่มู่จะหายไป
“คุณชาย หมิงเยวี่ยคิดถึงพวกท่านจังเลย” นางเอ่ยเสียงสะอื้น
ทำให้โลลิน้อยซื่อบื้อที่ไม่ค่อยใช้สมองพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ เห็นได้ชัดว่านางสะเทือนใจจริงๆ
เบ้าตาของหลี่มู่ก็ชื้นขึ้นมาเล็กน้อย ลูบศีรษะของโลลิน้อยเบาๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าก็มาแล้วไม่ใช่หรือ ชิงเฟิงก็อยู่ด้วยนะ หนึ่งปีกว่าไม่เจอกัน นึกไม่ถึงว่าเด็กโง่ทึ่มอย่างเจ้าจะได้รับพลังฝึกที่สะเทือนฟ้าดินเช่นนี้ เดิมทีข้าอยากหาตัวเจ้าขอทานเฒ่าจั่วลู่อี้มาซัดให้น่วมเสียรอบหนึ่ง จากนั้นจับสุนัขสีน้ำตาลของเขาต้มหม้อไฟกินเสีย แต่ตอนนี้ในเมื่อเขาเป็นอาจารย์ของเจ้าแล้วก็ช่างมันเถิด เว้นเขาไว้สักครั้ง”
“ไม่เป็นไร คุณชายซัดตาเฒ่านั่นให้ตายไปเลย…” หมิงเยวี่ยบอกพลางเช็ดน้ำตา
หลี่มู่พูดไม่ออก
ตั้งแต่มาถึงโลกใบนี้ คนที่ดีต่อหลี่มู่อย่างจริงใจไม่หวังผลตอบแทนมีแค่ไม่กี่คน แน่นอนว่าในนั้นรวมถึงชิงเฟิงและหมิงเยวี่ย สองคนนี้ก็เป็นคนกลุ่มแรกที่หลี่มู่ได้พบหลังจากมายังดาวอื่น สำหรับหลี่มู่แล้ว เขาเห็นชิงเฟิงและหมิงเยวี่ยเป็นเหมือนน้องชายน้องสาวของตนเอง วันนี้ ความรู้สึกเช่นนี้สัตย์ซื่อจริงใจยิ่งกว่าความรู้สึกใดๆ
น้องสาวที่หายสาบสูญไปนาน ในที่สุดก็ตามหาจนเจอแล้ว
ห่างออกไป หวางซืออวี่ที่อยู่ใต้การคุ้มครองจากค่ายกลลวงตาของหยวนโห่ว เมื่อเห็นภาพนี้แววตาพลันซับซ้อน
เด็กน้อยที่งามดุจตุ๊กตาเครื่องเคลือบหยกคนนี้ ว่าแล้วว่าต้องเป็นคนของหลี่มู่ด้วย พลังสูงขนาดนั้น ทั้งยังมีพลังวิญญาณเหลือล้นขนาดนั้น เหมาะสมกับหลี่มู่มากจริงๆ
หลังจากความรู้สึกยินดีที่ได้พบหน้าในตอนแรกหายไป หวางซืออวี่ค่อยๆ รู้สึกถึงความห่างเหินบางอย่าง ต่อให้อยู่ข้างกายเขา ก็แต่ยังรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละโลก
หลี่มู่สูงส่งราวกับเทพเซียน ส่วนตัวเธอทำได้เพียงเงยหน้ามองชื่นชม ต่อให้หลี่มู่สามารถเปิดเส้นทางการฝึกฝนให้เธอได้จริง ตอนไหนกันที่จะไล่ตามหลี่มู่ทัน? แม้แต่โลลิน้อยที่อยู่ในอ้อมอกเขาตอนนี้ก็ไล่ตามไม่ทันกระมัง
ด้านหยวนโห่วกำลังควบคุมค่ายกลลวงตารอบกาย ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือพรรคกระยาจกหรือคนของพรรคจันทราโลหิต ก็ล้วนไม่พบตัวพวกเขา
หลังจากที่มันฝึกวิชา ‘ปาจิ่วเสวียน’ ฉบับสมบูรณ์ พลังก็รุดหน้าอย่างรวดเร็ว วิชานี้คล้ายจะเหมาะกับการฝึกของมันแต่กำเนิด ตอนนี้มันฝึกฝนการแปลงร่างได้ถึงสิบสองแบบแล้ว ทั้งยังมีวิชา ‘สาดเม็ดถั่วจำแลงทหาร’ และฤทธิ์ควบคุมค่ายกลลวงตา เมื่อวางค่ายกลลวงตาไว้รอบๆ แล้วจะไม่มีใครสามารถสัมผัสเจอพวกมันได้ และไม่อาจเข้าใกล้ได้ด้วย
ใบหน้าของชิงเฟิงกลับมีรอยยิ้มบางๆ ดีใจจากใจจริง
หลังเขาผ่านความเป็นความตายมาได้ พลังจิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้นมหาศาล และยังมี ‘วิชาก่อนกำเนิด’ ที่หลี่มู่ถ่ายทอดให้ ในตอนนี้สามารถเปิดจุดหนีหวานกงได้แล้ว พลังจิตวิญญาณมากล้นดั่งมหาสมุทร ถึงแม้จะตื่นเต้นอย่างยิ่ง แต่ภายนอกดูไปแล้วกลับสงบเยือกเย็น
ส่วนคนพรรคกระยาจกที่เหลือ รวมไปถึงสองยอดผู้อาวุโสและพวกหลู่ฉางฟู่ ต่างตะลึงงันกันไปหมดแล้ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีก?
ประมุขพรรคคนใหม่ที่เพิ่งขึ้นครองตำแหน่งหมาดๆ ทำไมเหมือนกำลังจะถูกคนเอาตัวไปแล้ว?
จั่วลู่อี้จัดการงานไม่น่าเชื่อถือดังคาด ประมุขพรรคที่แนะนำมากลับพุ่งเข้าหาอ้อมอกผู้ชายต่อหน้าธารกำนัล เป็นเช่นนี้ต่อไป น่ากลัวว่าภายภาคหน้าพรรคกระยาจกจะปรากฏผู้อยู่เบื้องหลังประมุขพรรคอีกคน
ขอทานน้อยผมสั้นคนนี้ มีที่มาอย่างไรกันแน่
ยอดฝีมือพรรคกระยาจกมากมายก็มึนงงเช่นกัน
ตูม!
เสาเพลิงต้นใหญ่กลุ่มหนึ่งกลายเป็นพลังชั่วร้าย พุ่งเข้ามาจะกลืนกินหลี่มู่จากด้านหลัง
การลอบจู่โจมตรงเข้ามา
“ระวัง…” ‘หมัดเทวะร้อยลี้’ กัวปู๋เอ้อร์ที่กำลังเดินกำลังภายในรักษาบาดแผลอยู่ไกลๆ ตะโกนเตือน
หลี่มู่ไม่แม้แต่จะหันหน้าไป ในใจคิดแวบหนึ่ง จิตดาบที่ซ้อนทับเป็นชั้นๆ ก็หมุนวนออกมาด้านหลัง แสงโค้งเส้นหนึ่งวาบผ่าน ตัดพลังชั่วร้ายออกเป็นสองซีกทันที
ร่างของพลังชั่วร้ายระเบิดกลายเป็นฝนเพลิงพิษเต็มท้องฟ้า เป็นจุดๆ ดวงๆ พุ่งมาทางหลี่มู่ปานอุกกาบาตล้างโลก
“เจ้าไปดูแลชิงเฟิง เรื่องที่เหลือให้ข้าจัดการเอง” หลี่มู่ยื่นมือแล้วคลายออก ส่งหมิงเยวี่ยไปยังทิศที่หยวนโห่วอยู่ จากนั้นหันตัวกลับ เปิดเนตรสวรรค์ ไล่คว้าเพลิงพิษทุกดวงไว้อย่างแม่นยำ พลังจิตวิญญาณแผ่กระจาย จิตดาบปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แสงดาบไร้รูปร่างสายแล้วสายเล่า เข้าทลายฝนเพลิงพิษที่ตกอยู่ทั่วฟ้าทีละจุดๆ เหมือนกับปลายเข็มปะทะปลายข้าวสาลีอย่างไรอย่างนั้น ไม่ผิดพลาดแม้เพียงนิด ฝนเพลิงพิษนับพันนับหมื่นไม่มีเล็ดลอดไปเลย
หลี่มู่ในตอนนี้ หลังจากตระหนักรู้บทที่หนึ่งของ ‘เต้าเต๋อจิง’ ที่วิหารเต้าเต๋อในวัดซ่อนมรรคา ก็เข้าใจจิตดาบสำเร็จในระดับต้นแล้ว พอแสดงพลังอีกครั้งช่างงดงามน่าตกใจราวทวยเทพ
แสงเพลิงเต็มท้องฟ้านั้นถูกทำลายแล้ว ก็พุ่งกลับไปรวมยังจุดเดียวกันดุจลำแสง ก่อนเปลี่ยนสภาพเป็นร่างยักษ์ของเทพปีศาจเพลิงดำอีกครั้ง ยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศ จ้องมองลงมาพลางเอ่ย “ขอทานน้อย เจ้าเป็นใครกันแน่ พรรคกระยาจกไม่มีทางมีผู้แข็งแกร่งยอดยุทธ์อย่างเจ้าได้?”
เขาสำแดงกลอภินิหารติดต่อกัน เป็นวิชาเต๋านอกพิภพทั้งสิ้น ต่อให้พบกับขั้นเทวะของโลกนี้ก็สามารถบดขยี้ได้ ก่อนหน้ายามที่สู้กับยอดผู้อาวุโสพรรคกระยาจกขั้นเทวะสองคนไม่ได้เผยออกมา ใครจะรู้ ตอนนี้พอสำแดงแล้วกลับไม่อาจทำอะไรหลี่มู่ได้ ทำให้ความตกตะลึงในใจเขาเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน
อีกด้านหนึ่ง เหลียงจื้อร่างมารส่งเสียงโหยหวนลากยาว
บนท่อนแขนเขา แสงเลือดเป็นชั้นๆ ไหลวน ทั้งหมดเป็นเลือดที่ไหลออกมาจากเบ้าตาของเขา พันอยู่รอบแขนเหมือนกับงูเลือด แขนที่ถูกตัดไปงอกใหม่อีกครั้ง จากนั้นร่างของเขาพุ่งตรงเป็นแสงเลือดเส้นยาวกลางอากาศ บีบเข้าไปหาหลี่มู่
หลี่มู่หัวเราะร่า ไม่พูดอะไรออกมา
ร่างเขาทะยานขึ้นฟ้า ยกมือขึ้นมา กลางฝ่ามือราวกับกำลังกุมดวงอาทิตย์เอาไว้ แผ่กระจายแสงสว่างแสบตา ต่อมามีแสงดาบจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป แสงดาบนับพันหมื่นดุจเส้นด้าย พุ่งไปปกคลุมทั่วทั้งเกาะยาจก!
จิตดาบแปรเป็นปราณ ปราณฟาดฟันสามพันลี้
เมื่อปราณดาบก่อรูปร่าง พลานุภาพลดต่ำลง แต่ขอบเขตการสังหารจะกว้างกว่า พริบตาก็ปกคลุมเกือบทั้งเกาะยาจกแล้ว
ยอดฝีมือ สัตวป่า และสัตว์ร้ายใต้น้ำของพรรคจันทราโลหิตถูกแสงดาบคล้ายเส้นด้ายเหล่านี้กวาดผ่าน ร่างกายค้างแข็งโดยพลัน ผู้แข็งแกร่งพรรคจันทราโลหิตที่กำลังเข่นฆ่าสังหารแข็งทื่อเป็นเสาเข็มท่อนไม้ในทันใด ทำเอาบรรดายอดฝีมือพรรคกระยาจกที่กำลังต่อสู้ตกใจระคนสงสัยนัก
ถัดมา จิตดาบระเบิดออก
ยอดฝีมือ ผู้แข็งแกร่ง สัตว์ป่า สัตว์ร้ายใต้น้ำทั้งหมดของพรรคจันทราโลหิต บนร่างมีเส้นเลือดปรากฏขึ้นหลายเส้น ก่อนที่ร่างกายจะกลายเป็นก้อนเนื้อเล็กใหญ่ที่ถูกหั่นออกอย่างไม่มีกฎเกณฑ์ ร่วงลงมาเป็นกองเศษเนื้อ…
ถึงแม้สภาพของคนสัตว์พวกนี้จะแปลกประหลาด ตัดแขนขาก็ยังไม่รู้สึกเจ็บปวดเสมือนเป็นหุ่นเชิด เมื่อร่างกายถูกสับละเอียดจนเป็นเช่นนี้ ก็ยังมีสัตว์ร้ายใต้น้ำบางส่วนยังไม่ตาย ร่างกายต่อสู้ดิ้นรน ทว่าไม่มีพลังสังหารอีกต่อไปแล้ว
ฉากนี้ช่างน่าอัศจรรย์ใจ ช่างแปลกพิลึก
เพียงชั่วกระบวนท่าเดียว คนและสัตว์ของพรรคจันทราโลหิตแทบทั้งหมดบนเกาะขอทานใกล้พ่ายแพ้ย่อยยับเต็มที เรียกว่าปาฏิหาริย์โดยแท้
คนของพรรคกระยาจกที่เดิมทีเกือบพ่ายแพ้ยับเยิน บาดเจ็บล้มตายสาหัส หลังจากตกตะลึงแล้วก็กู่ก้องยินดีขึ้นมา รู้สึกว่ารอดชีวิตหลังพบเจอหายนะ ส่วนหลู่ฉางฟู่ หลี่อวิ๋นเทาที่ถูกเขาช่วยออกมา และยอดผู้อาวุโสสองคนก็ฮึกเหิมขึ้นมาก...
วิชาดาบเพลงดาบเช่นนี้นับเป็นปาฏิหาริย์โดยแท้ ทำให้คนยากจะจินตนาการถึง ยากจะเชื่อได้
ใต้ฟ้ายามนี้ก็มีขั้นเทวะหลายคนที่มีชื่อเสียงด้านวิชาดาบ แต่ไม่มีใครครอบครองวิชาดาบสังหารหมู่ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้แน่ กระบวนท่านี้งดงามน่าตกใจเกินไปแล้ว ประหนึ่งไม่ใช่อภินิหารของโลกใบนี้
เทพปีศาจเพลิงดำและเหลียงจื้อร่างมารล้อมหลี่มู่หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง
“แมลงชั้นต่ำ เจ้ากล้าทำลายงานใหญ่ของทะเลโลหิตข้า”
เทพปีศาจเพลิงดำขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เขาเป็นถึงทัพหน้าของ ‘ทะเลโลหิต’ ขั้วอำนาจใหญ่นอกพิภพ ลงทุนลงแรงไปมากมายกว่าจะลงมาเยือนโลกนี้ได้ ใจคิดสร้างผลงานใหญ่ คืนนี้จัดการพรรคกระยาจกเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ผลลัพธ์คือตอนนี้จะถูกคนทำลายแล้ว ความพยายามก่อนหน้านี้สูญเปล่าหมด
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” เลือดในเบ้าตาของเหลียงจื้อร่างมารทะลักออกมาดั่งน้ำพุ “หรือว่าเจ้าก็เป็นผู้ฝึกตนจากทะเลดาราที่ลงมายังโลกนี้?”
หลี่มู่ยิ้มเล็กน้อย “ขอจงมีแต่ความสุขความเจริญ ข้านักพรตจางซานเฟิง ยินดีที่ได้พบมนุษย์ต่างดาวทั้งสอง…”
ใครจะรู้ว่าเขายังไม่ทันพูดจบ เทพปีศาจเพลิงดำก็เอ่ยปาก “เจ้าคือหลี่มู่? ไท่ไป๋หลี่มู่?”
หลี่มู่นิ่งอึ้ง
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมไม่เปิดไพ่ตามธรรมเนียม ข้าบอกชื่อปลอมไปนะ ทำไมถูกมองออกเสียแล้ว?
……………………………………….