จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 16
“รีบไปกันเถอะ”
ไมโลกล่าวขณะที่เขาลากเดเมียนที่กำลังงึนงง
“อ่าใช่ ขอโทษที ฉันแค่กำลังคิดอะไรบางอย่าง”
เขาพึมพำเขินอายขณะที่วิ่งตามเด็ก ๆ ที่เหลือที่เดินตามชายหนุ่มรูปหล่อเข้าไปในสถาบันการศึกษา
เด็กกว่า 50 คนกำลังเดินตามชายคนนี้อย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน แต่ก็ยังมีการแสดงออกทางการแข่งขันและวิเคราะห์ทุกคนรอบตัวว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม
เดเมียนจะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มีคนมองมาที่เขา แต่เขารู้สึกสบายใจเล็กน้อยเมื่ออยู่กับไมโล
“ ทำไมทุกคนที่นี่ยังดูถูกและเย่อหยิ่งด้วยนะ แสดงว่าสถาบันที่นี้ก็ยังไม่ได้ดีอย่างที่เขาว่าจริงๆใช่ไหม”
เดเมียนกระซิบข้างหูของไมโล
ไมโลมองเข้าไปในดวงตาสีเหลืองของเด็กชายตัวเล็กที่อายุเท่ากับเขา แต่ก็ยังไร้เดียงสาและต่อต้านสังคม แต่สงสารเขาจึงเข้ามาเป็นเพื่อนให้กับเขา
อย่างไรก็ตามเขายังสามารถมองเห็นในดวงตาสีเหลืองนั้น ว่าไม่มีความกลัวแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตามซึ่งทำให้ไมโลสงสัยมาก ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน
“ฟังนะเดเมียน โลกนี้ไม่มีสิ่งใดจะยุติธรรม ทุกคนไม่ได้เกิดมาเหมือนกันและถึงแม้ว่าสถาบันแห่งนี้จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นนักสู้หรือนักเวทย์ในสถาบัน แต่ทุกคนก็ยังเป็นตัวของตัวเอง และต่างคนก็มีนิสัยใจคอที่ต่างกัน”
ไมโลกระซิบกลับ
เมื่อมองไปที่เด็กชายตัวอ้วนข้างๆเขา ที่ยิ้มอย่างเป็นมิตรบ่งบอกว่าเขาจะคอยช่วยเหลือเดเมียน เดเมียนจึงยอมรับไมโลเป็นเพื่อนคนแรกของเขาและสาบานว่าเขาจะช่วยเหลือไมโล หากเขาต้องการความช่วยเหลือ
“ ขอบคุณนะไมโล”
เดเมียนกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจ
“เรียกฉันแค่อ้วนก้พอ และไม่ต้องกังวลน้องชาย เราจะคอยอยู่ด้วยกัน”
ไมโลตอบพลางยกนิ้วให้เขา
“ ครับ พี่อ้วน”
เดเมียนกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างหลังจากสัมผัสได้ถึงมิตรภาพเป็นครั้งแรก
“เข้าแถว แล้วพวกคุณแต่ละคนจะยืนอยู่บนเวทีจากนั้น เราจะประกาศชื่อของคุณและเมื่ได้ยินชื่อของตนเองให้ทำการแสดงพลังของตัวเองออกมา
และทุกคนในที่นี่จะเป็นนักเรียนที่อยู่ระดับชั้นเดียวกัน และเข้าเรียนพร้อมกัน แต่ความสำเร็จของคุณจะไม่ได้อยู่ที่สถาบัน หรือในห้องเรียน แต่อยุ่ที่ตัวของพวกคุณเอง”
ชายคนนั้นประกาศ
“ ฉันเป็นที่ปรึกษาในระดับชั้นของพวกคุณ ชื่อ อีวาน วูดส์”
เขากล่าว
เมื่อเข้าสู่คิว เดเมียน และ ไมโล ไม่ได้เร่งรีบอะไรและยืนอยู่ในคิวสุดท้าย
พวกเขาทั้งหมดขึ้นไปบนเวทีทีละคนและกล่าวนามของตนเองออกมาพร้อมแสดงพลังของพวกเขา
พลังจิตวิญญาณไม่ค่อยถูกปลุกขึ้นในประเทศโกเบซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลดั้งเดิมทั้ง 21 ตระกูลจึงสามารถรักษาอำนาจไว้ได้เป็นเวลานาน
ในฐานะที่เป็นการผสมผสานระหว่างเจตจำนงวิญญาณ ความสามารถและบุคลิกภาพของคุณ พลังจิตวิญญาณ ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเฉพาะสำหรับตัวเองไม่เหมือนตระกูลใหญ่และไม่มีใครโดดเด่นกว่าเดเมียน นอกเหนือจากสามคนซึ่ง อุทสึสึบอกให้เขาจับตาดู
จูเลีย วาเลนไทน์ มีต้นกำเนิดที่เดเมียนไม่รู้จัก แต่จากแววตาและการแสดงออกทางสีหน้าของเธอเธอคงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากซึ่งขัดต่อธรรมชาติที่สวยงามของเธอ สิ่งที่โดดเด่นสำหรับเดเมียนคือพลังของเธอที่ทำให้เธอสามารถสร้างอาวุธจากน้ำได้
มาทิล ด้าเดล ดูร่าเริง น่ารักและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่จากสายตาของเธอเดเมียนสามารถเห็นได้ว่าเธอแข็งแกร่งและต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ ความสามารถของเธอดูเหมือนจะช่วยขยายเสียงของเธอและทำให้เธอสามารถส่งเสียงที่ดังมากได้อย่างง่ายดาย
และสุดท้ายก็คือ แม็กซ์ โคล ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอกของเขามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีอารมณ์สงบ ความสามารถของเขาแม้จะเรียบง่าย แต่ก็หายากและทรงพลังมากและทำให้เขาสามารถทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้าได้ ซึ่งมีประโยชน์มากในการต่อสู้
“นายไปก่อนเลย ฉันอยากได้รับความสนใจจากสาว ๆที่น่ารัก ๆ ในชั้นเรียนเป็นคนสุดท้าย”
ไมโลพูดในขณะที่เขาผลักเดเมียนไปข้างหน้าและขยิบตาให้เขา
เดเมียนเดินไปข้างหน้าอย่างประหม่า และปีนขึ้นบันไดและยืนอยู่บนเวที
“ ฉันชื่อเดเมียน”
เขาประกาศชื่อของตนเองออกมา
[อุทสึสึ เปิดใช้พลังเพลิงแม็กเวลล์]
เขาสื่อสารผ่านจิต
{เดเมียน นายไม่สามารถใช้พลังที่คัดลอกมาจากคนอื่นได้เลย นายต้องนำคัมภีร์เวทย์ออกมาก่อน }
อุทสึสึกล่าว
[อ่อ โอเค งั้นจัดการทีนะ ]
เดเมียนบอกอุทสึสึ
และทันทีที่พลังถูกเปิดใช้เขาได้รับรู้ทันทีจากที่ที่รู้สึกถึงความร้องที่เผาไหม้อยู่ในตัว
เดเมียนสร้างลูกบอลไฟขนาดเล็กในมือของเขาจากนั้นเขาก็ดับมันลง และเดินลงจากเวที
“อืมน่าสนใจ ฉันดูเหมือนจะจำเปลวไฟนั้นได้”
ชายคนนั้นพึมพำ
ครอบครัวแม็กซ์เวลล์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของเปลวไฟที่ลุกไหม้เป็นสีแดงซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของตระกูลและแม้ว่าจะมีพลังเพลิงอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ พลังเพลิงของแม็กเวลล์ก็เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดตัวหนึ่ง
เดเมียนไม่ต้องการได้ที่จะรับความสนใจ แต่ตัวแทนชั้นเรียนและสมาชิกที่แข็งแกร่งและฉลาดในชั้นเรียนได้จับตาดูเขา
เดเมียนลนลานลงจากเวทีและยืนใกล้กับฝูงชนของนักเรียนใหม่และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าเพื่อนใหม่ของเขามีความสามารถแบบไหน
ไมโลเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างภาคภูมิใจและในขณะที่เขายืนอยู่กลางเวทีเขาก็ยิ้มแก้มปริเมื่อมองไปที่สาว ๆ ทุกคน
ด้วยพลังงานที่หนาทึบในอากาศแม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่นักสู้หรือนักเวทย์ก็ยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งและพัฒนาได้เร็วกว่ามากดังนั้นเมื่ออายุ 10 ขวบส่วนใหญ่จะพัฒนาเกือบเต็มที่แล้วซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมพลังจิตวิญญาณถึงตื่น
“ฉันคือไมโลกรีน”
เขาประกาศด้วยความยินดีขณะที่เขาขยิบตาให้จูเลีย
เดเมียนเบิกตากว้างเท่าที่พวกเขาสามารถจ้องมองไปที่ไมโลรอให้เขาใช้พลังของเขา
หลังของไมโลดูเหมือนจะเคลื่อนไหวและทันใดนั้นปีกสีขาวขนาดใหญ่สองปีกก็งอกออกมาจากหลังของเขาและเริ่มกระพือปีก
ไมโลที่บินอยู่กลางอากาศมีรอยยิ้มทะเล้นและบินลงไปที่ด้านข้างของจูเลียก่อนจะหุบปีกลง
“ คุณชอบไหม ที่รัก”
ไมโลถาม
ไมโลทำท่าทีเหมือนจะดูถูกเล็กน้อย ในขณะที่เขาพูดแต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าร่างกายเขาแบกรับภาระหนักมากในขณะที่ใช้พลัง ดูร่างกายเขาดูเหนื่อยล้าอย่างมากในขณะที่ใช้พลังเสร็จ
“เป็นพลังที่น่าสนใจนะ แต่เธอไม่ควยพูดจาอย่างนั้น ที่นี่เราจะให้เกียรติผู้อื่นเสมอ”
ตัวแทนชั้นเรียนเตือน .
“หลังจากนี้เป็นจะมีการแข่งขันเล็ก ๆ ที่มีการให้รางวัล 5 อันดับแรกและได้เปรียบในชั้นเรียนการแข่งขันนี้ถือเป็นประเพณีสำหรับนักเรียนของสถาบันที่ได้รับการปลุกพลังมาก่อนแล้ว และเป็นเรื่องสนุกที่จะได้ชมการแข่งขันนี้ และนักเรียนทุกคนสามารถเข้าชมได้ คนรอบข้างของพวกคุณที่สามารถเข้าชมได้เช่นกัน”
ตัวแทนชั้นเรียนกล่าวขึ้น
“ตามฉันไปที่เวที”