จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 31

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

การต่อสู้ของจูเลียและฟินน์ นั้นสั้นมากและหลังจากที่ จูเลียสร้างดาบสองเล่มขึ้นมาจากน้ำเธอพุ่งเข้าหาเขาฟินน์ที่หวาดกลัวก็ยอมแพ้ เพราะไม่ต้องการได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการแข่งขัน

ความเป็นจริงที่ยากที่อีวานพยายามสอนนักเรียนใหม่ของเขาผ่านการแข่งขันว่าโลกแห่งการฝึกฝนนั้นโหดร้ายและมีเพียงผู้แข็งแกร่งและตั้งใจเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จในขณะที่คนอื่น ๆ อาจจะตายหรือทดถอยและถูกมองว่าเป็นขยะ

แม้ในฐานะครูเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่นักเรียนมีต่อกัน เช่นเดเมียนและเทรเวอร์เพราะเขารู้ว่ามันจะส่งเสริมการเติบโตของพวกเขา แต่เขาจะเข้ามาแทรกแซงก่อนที่จะมีใครเสียชีวิต

ในขณะเดียวกัน เดเมียนยังคงไม่สนใจที่ว่า เทรเวอร์ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วและออกจากการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับเทรเวอร์ได้ในการแข่งขันครั้งนี้

“รอบต่อไป – โคล vs ออร์แลนโด”

อีวานประกาศ

โคลแม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งและดุร้าย แต่ก็ใจดีและอ่อนโยนมากและยังมีอดีตที่เจ็บปวด

เขาเกิดมาในฐานะลูกชายของผู้อาวุโสในครอบครัวนักวิชาการที่ร่ำรวยในเมืองอื่น แต่เมื่อเทียบกับลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาไม่ฉลาดเท่าพี่น้องคนอื่นๆ

ในการศึกษาโดยครอบครัวที่เป็นวิชาการและความรู้เป็นจุดมุ่งหมายหลักซึ่งแตกต่างจากครอบครัวที่เล็งเฉพาะการฝึกฝนและพวกเขาสามารถรักษาสถานะของตนได้แม้จะอ่อนแอกว่า แต่ด้วยคุณค่าของความรู้

วรรณกรรมบทกวีที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการแกะสลักอักษรรูนคือสิ่งที่ครอบครัวนักวิชาการให้ความสำคัญกับครอบครัวของแม็กซ์

โดยเฉพาะแม่ของแม็กซ์เสียชีวิตจากการให้กำเนิดเขาและเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทำให้พ่อของเขาเกลียดชังเขาอย่างเห็นได้ชัดและด้วยความอ่อนแอของแม็กซ์ในกิจกรรมทางวิชาการเขาจึงถูกทุบตีและถูกทารุณกรรม

แม็กซ์เป็นชื่อที่พ่อของเขาตั้งให้ แต่โคลเป็นชื่อที่แม่ต้ังให้เขาและเป็นชื่อที่เขาเลือกที่จะใช้และเกลียดการถูกเรียกว่าแม็กซ์

เขาถูกมัดติดกับต้นไม้ในขณะที่ญาติของเขาขว้างก้อนหินใส่เขาและความโกรธแค้นทั้งหมดที่เขามี ต่อวิธีที่เขาได้รับการปฏิบัติก็ถูกปลดปล่อยและหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของเขา

เจตจำนงอันทรงพลังของเขาที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้กลายเป็นจิตวิญญาณ

ความปรารถนาของเขาที่ต้องการได้รับการปกป้องและการถูกทำร้ายมาตลอดหลายปีได้ก่อตัวเป็นจิตวิญญาณที่ทำให้เขาสามารถทำให้ภายนอกของเขาแข็งแกร่งขึ้น

เขาไม่แน่ใจว่าความสามารถของเขาคืออะไรกันแน่ แต่รู้ว่ามันจะทำให้ผิวและร่างกายของเขาแข็งขึ้นและมีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้

เด็กชายที่ถูกครอบครัวเรียกว่าขยะตลอดเวลาและไร้ค่าพบว่าเขามีพรสวรรค์ในบางสิ่งที่มีค่ามากกว่าการเป็นนักวิชาการ

การเป็นผู้ฝึกฝน

เขาจึงได้หนีออกมาจากบ้านและด้วยการที่อยู่ในตระกูลร่ำรวยทำให้เขาพอมีเงินอยู่เล็กน้อย บวกกับการขโมยเงินของพ่อมาทำให้เขาสามารถมาถึงเมืองอาเรียภายในไม่กี่วัน

เมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสถาบันอเคเกรียที่มีความยุติธรรม ที่พวกเขาจัดสรรทรัพยากรและฝึกฝนนักเรียนของพวกเขา

โคลใช้เงินเกือบหมดไปกับการเดินทางและเช่าห้องในโรงแรมแห่งหนึ่งเขารอสองสามวันเพื่อเข้าสถาบันจากนั้นโคลก็กลายเป็นนักเรียนของสถาบันอเคเกรีย

โคล อดไม่ได้ที่จะมีนิสัยสงบหลังจากเติบโตมาในครอบครัวนักวิชาการและยังอยากฝากความประทับใจไว้ในโอกาสครั้งที่สองในชีวิต แต่ทันทีที่เขาเปิดใช้งานจิตวิญญาณของเขาท่าทางของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างประหลาด

เขารักษาชื่อที่พ่อตั้งให้ แต่ยังใช้ชื่อที่แม่ตั้งให้เขา เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะผู้ฝึกฝนชื่อแม็กซ์ โคลโดยทิ้งนามสกุลของครอบครัวนักวิชาการที่เขาเกิดมา

เมื่อก้าวขึ้นสู่เวทีเด็กชายวัย 10 ขวบซึ่งมีร่างกายเทียบได้กับผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ โคลเผชิญหน้ากับออร์แลนโด

“เริ่มได้”

ทันทีที่โคลและออร์แลนโดได้ยินเสียงประกาศทั้งคู่ก็เปิดใช้งานจิตวิญญาณของพวกเขา

ผิวของโคลเริ่มเปลี่ยนไปมีสีเงาดั่งโลหะและไม่เพียงแค่เปลี่ยนสีเท่านั้นมันยังแขผ้งแกร่งขึ้น และยังมีพลังเพิ่มขึ้นในขณะที่ออร์แลนโดเปิดใช้งานจิตวิญญาณเสริมของเขาซึ่งอ่อนแอกว่า

“ไม่เพียง แต่จิตวิญญาณของเขาจะแข็งแกร่ง แต่มันยังช่วยเสริมสร้างร่างกายของเขาและเพิ่มความตั้งใจในการต่อสู้ของเขาด้วย ฉันสงสัยว่าจิตวิญญาณเป็นแบบไหน”

อีวานพึมพำกับตัวเองพลางสังเกตการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของโคล

ทันใดนั้นการแสดงออกที่สงบของโคลได้กลายเป็นความตื่นเต้นที่ค่อนข้างบ้าคลั่ง เมื่อเขาพุ่งเข้าหาออร์แลนโด

ความแต่งต่างของขนาดตัวระหว่าง โคลและออร์แลนโดนั้นไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่ออร์แลนโดกลับหวาดกลัวร่างสีเงินที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

“ฉัน … ฉันยอมแพ้”

ออร์แลนโดกล่าวขณะที่เห็นความสามารถของเพื่อนคนอื่นๆ ของโคลและเขาเองก็ไม่อยากเจ็บตัวมากนัก

แต่มันสายเกินไป โคลที่ได้รับพลังจากจิตวิญญาณของเขาไม่สามารถระงับความต้องการที่จะต่อสู้และยิงหมัดอันทรงพลังไปที่ใบหน้าของออร์แลนโด

ในขณะที่กำลังต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของออร์แลนโด อีวานก็ปรากฏตัวขึ้นและรับหมัดของโคลด้วยมือเปล่าอย่างเรียบเฉย

แต่โคลก็ยังไม่สามารถสงบลงได้ในขณะที่เขาคำรามและยิงกำปั้นอีกข้างของเขาไปที่อีวาน

แทนที่จะจับกำปั้น อีวานดูเหมือนจะหายตัวไปและโผล่ออกมาข้างหลังของโคล และได้สับลงไปที่คอของโคลทำให้เขาสลบลงไป

“รอบที่ 6 เสร็จสิ้น – ผู้ชนะแม็กซ์ โคล”

อีวานประกาศพร้อมกับอุ้มโคลขึ้นบนบ่า

จู่ๆ โคลก็ดิ้นลงจากบ่าของอีวาน และได้รีบลงไปคุกเข่าต่อหน้าเขา

“ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้”

โคลขอโทษในขณะที่กลัวว่าจะถูกไล่ออกจากสถาบันเพราะทำร้ายอาจารย์

อีวานตกใจมาก เขาไม่ได้ใช้พลังมากนัก แต่เขาใช้พลังมากเกินพอที่จะทำให้โคลหมดสติไป แต่โคลก็ยังคงมีสติและกระโดดออกจากอ้อมแขนของเขาได้

“ฉันเข้าใจไม่จำเป็นต้องกังวลคุณจะไม่มีปัญหาใด ๆ “

อีวานให้ความมั่นใจหลังจากฟื้นคืนความสงบจากความตกใจที่โคลมอบให้เขา

โคลลุกขึ้นยืนและลนลานออกจากเวทีพร้อมกับออร์แลนโดที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกขุ่นเคืองใด ๆ

โคลกลับไปสู่การแสดงออกที่สงบตามปกติ แต่ก็ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับจิตวิญญาณของเขาและวิธีการจัดการขณะนั่งเอนหลังบนเก้าอี้

แต่โซ่ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะด้วยการประกาศอย่างกะทันหัน

“รอบรองชนะเลิศได้เริ่มขึ้นแล้วโดย 4 คนที่อาจเข้ารอบสุดท้ายคือ เดเมียน มาทิลด้า จูเลียและโคล”

อีวานประกาศ

กลุ่มเพื่อนที่มีชะตากรรมต่างกัน ก็เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายที่เป็นไปได้นอกเหนือจากไมโลซึ่งทุกคนสังเกตเห็นและจดบันทึกกลุ่มเพื่อนที่เป็นตัวเด่นในปีนี้และอาจเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งในอนาคต

“การแข่งขันรอบรองชนะเลิศนัดแรก – เดเมียน vs มาทิลด้า”