จอมเวทย์แห่งการเลียนแบบ (The copy mage) - ตอนที่ 75
ทั้งคู่มีท่าทางร่าเริงและยินดี ขณะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษแต่เมื่อได้มองดูใบหน้าของชาวบ้านที่มีใบหน้าแปลกๆ เนื่องจากกลิ่นเหม็นจากตัวของทั่งคู่ที่ตอนนี้มีสภาพสกปรกและเลอะเทอะ
แม้ว่าจะมีความรู้สึกยินดีที่จะฉลองและได้รับการยกย่อง แต่ทั่งคู่ก็ต้องรีบกลับไปยังสถาบันอย่างรวดเร็ว
“ในฐานะวีรบุรุษ พวกคุณจะสามารถใช้อ่างอาบน้ำของพวกเรากี่อ่างก็ได้เลยและพวกเราสามารถเตรียมอาหารที่พวกคุณต้องการได้”
หัวหน้าของหมุ่บ้านเสนอ
ทั่งคู่มีเวลาอีก 4 ชั่วโมงครึ่ง ที่จะกลับไปที่สถาบัน และหากคำนวณการนั่งรถมา 1 ชั่วโมง และมันจะนานกว่านั้นหากมีซากหมุ่ป่าด้วย แต่ทั่งคู่ก็จะมีเวลามากพอ หากทั่งคู่ขายซากของมัน ทั่งคู่ก็สามารถใช้เวลาในหมู่บ้านได้อีกชั่วโมง 1 และจะกลับทันเวลา
ไมโลมองที่เดเมียนและเห็นได้ชัดว่าเดเมียนต้องยอมรับข้อเสนอของชาวบ้าน
“ใช่ พวกเราเองก็ค่อนข้างสกปรกและหิวมาก ต้องพักสักหน่อย”
เดเมียรับข้อเสนอของชาวบ้าน
“แต่คงแค่ชั่วโมงเดียวนะ”
เดเมียนกล่าว
“เย้ ๆๆๆๆๆๆๆ ”
ไมโลส่งเสียงอย่างสนุกสนาน และคิดถึงงานเลี้ยงในหัว
ทั่งคู่อาบน้ำ 20 นาทีในหมู่บ้าน และทำความสะอาดเสื้อผ้า และเสื้อคลุมของสถาบัน หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ทั่งคู่ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านที่เตรียมอาหารไว้อย่างตื่นเต้นและหวังจะได้กินของอร่อยๆ มากมาย แม้ว่าหมู่บ้านนี้จะยากจนและไม่สามารถซื้อซากหมุป่าได้ แต่พวกเขาก็มีฝีมือในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยม
ไมโลอยากอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ตลอดไป ซึ่งเขาได้รับการปฏิบัติอย่างกับราชา แต่หลังจากกินเลี้ยงเสร็จเดเมียนได้ลากไมโลออกมาและขอบคุณชาวบ้าน และก็ไปที่รถม้า
ทั่งคู่ยัดร่างของหมุู่ป่าไว้ด้านหลังของรถม้า เพราะไม่มีที่ว่างเหลือแล้ว พวกเขาต้องนั่งข้างหน้ากับคนขับรถม้า คนขับรถม้าทึ่งในความสามารถของเด็กทั่งสองที่มีอายุน้อยกว่า อย่างไรก็ตามคนขับรถม้าก้ไม่ได้ดูถูกตัวเองและพูดคุบกับเด็กทั่งสอง
สัตว์ร้ายที่ลากรถดูคล้ายวัวกระทิงและลา มันเป็นสัตว์ร้ายที่ราคาถูกแต่ถึงจะมีราคาถูกแต่ก็มีประโยชน์มากมาย
ไม่นานนักระหว่างทางที่ทั่งคู่กลับถึงสถาบัน เดเมียนก็เริ่มฝึกฝนและทำความเข้าใจกับเปลวเพลิงทองคำมากขึ้น โดยปล่อยให้ไมโลได้พูดคุยกับคนขับรถม้า
“ปล่อยเขาไปเถอะ เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งและไม่เคยที่จะผ่อนคลายเลย”
ไมโลกล่าวกับคนขับรถม้า
“อื้ม ฉันต้องขอชื่นชมกับความมุ่งมั่นตั่งแต่อายุยังน้อยๆ และความแข็งแกร่งของพวกคุณก็เหลือเชื่อ คุณทั่งคู่จะเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่น่าทึ่ง”
คนขับรถม้ากล่าวชมทั่งคู่
“แน่นอน”
ไมโลยืนยันอย่างเย้ยหยัน
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ช้าและสัตว์ร้ายที่ลากรถก็เริ่มเหนื่อยจากน้ำหนักตัวของซากหมูป่า ระหว่างทางทั่งหมดได้หยุดพักครึ่งทางและเดินทางต่อ ระหว่างทางหลายคนเห็นซากของหมุป่าตัวใหญ่ก็ตกใจ ขณะที่อยู่ในพื้นที่เข้าใกล้ใจกลางเมือง พวกเดเมียนก็ถูกชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาและพยุดพวกเขาอย่างกระทันหัน
“หยุด หยุด หยุดดดด”
ชายคนนั้นเรียกขณะที่พยายามจะขึ้นรถ
คนขับชะลอรถม้าและไม่ได้คิดอะไร แต่เดเมียนได้ตื่นขึ้นจากการฝึกฝน และทั้งเดเมียนและไมโลต่างหมุนเวียนพลังเื่อเตรียมพร้อมในการต่อสู้
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีพุงใหญ่ และสวมเสื้อผ้าราคาแพงจากความเร็วที่วิ่งเหมือนว่าชายคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ฝึกฝน
“คุณเป็นใคร”
เดเมียนถามเมื่อชายคนนั้นมาถึงรถม้า
ชายอ้วนหายใจไม่ทันและไม่ได้ตอบคำถามในทันที
“ฉันเป็นพ่อค้าและขายซากอสูรให้กับองค์กรต่างๆ เช่นร้านอาหารหรือสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุซึ่งอาจจะนำไปทำอย่างอื่น”
ชวนอ้วนได้ตอบขณะแสดงความเป็นพ่อค้ามืออาชีพ
จากวิธีที่ชายอ้วนได้แนะนำตัว ดูเหมือนนั้นจะเป็นความจริงและดูเหมือนว่าเขาจะไมใช่ผู้ฝึกฝน แต่เดเมียนยังคงรู้สึกสังหรใจไม่ดีเกี่ยวกับชายคนนี้
“คุณจะซื้อมันในราคาเท่าไหร่ละ”
ไมโลถามอย่างโลภ
“ฉันจะให้เหรียญวิญญาณแก่คุณ 500 เหรียญสำหรับซากนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ร้ายอันดับ 3”
ชายอ้วนเสนอ
ราคาที่เขาจะให้นั้นน่าตะลึงและเป็นเงินจำนวนมาก แต่ถึงกอย่างนั้นเดเมียนก็ยังคงรู้สึกไม่ดี
“โอนเงินมา และเราจะมอบสัตว์ร้ายให้”
เดเมียนกล่าวโดยตรง ขระที่เตรียมจะค้าขายกับชายคนนี้อย่างระมัดระวัง
“พวกคุณช่วยขับรถไปตรงนั้นได้ไหม เพื่อที่ฉันจะขนมันไปที่ภาชนะเก็บของ ของฉัน”
ชายอ้วนบอกขณะที่ชี้ไปที่ช่องว่างระหว่างต้นไม้ มันมือครึมๆ และน่าสงสัย แต่ก่อนที่เดเมียนจะปฏิเสธ ไมโลก็ได้ตอบตรลงไปแล้ว และคนขับก็มุ่งหน้าไปทางนั้น
เมื่อเข้าใกล้ เดเมียนก้ได้ดูและสังเกตดูว่าพ่อกำลังเดินไปเก็บภาชนะเก็บของจริงหรือเปล่า แต่เมื่อมองไปพ่อค้าได้วิ่งหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตามนี้เป็นกับดับ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว