จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 114
ในตอนเย็น เจิ้งข่ายจัดการส่งนักบัญชีมา แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับโล่เฉินก็คือแต่เดิมเขาคิดว่าจะเป็นผู้ชาย แต่กลับเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเสียแทน
ให้พูดตรงๆ ก็คือเป็นผู้หญิงที่ทั้งร้อนแรงและเซ็กซี่อย่างมาก
ผมยาวสีแดงไวน์ ผิวขาวผ่อง ริมฝีปากสีแดงเพลิง รูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งเย้ายวน สวมใส่เสื้อผ้าที่เซ็กซี่อย่างยิ่ง เผยให้เห็นแผ่นหลังและร่องลึก
นี่มันนักบัญชีที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิงของเจิ้งข่ายที่ถูกส่งเข้ามาในบริษัท
ผู้หญิงคนนั้นชื่อหมี่หลาน
ในแวบแรกที่เห็นโล่เฉินรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีราศีอย่างยิ่ง ทั้งมีความสามารถในขณะเดียวกันก็มีเล่ห์เหลี่ยม
หลังลงนามในสัญญาการลงทุนแล้ว
หมี่หลานก็หัวเราะเบาๆ “เถ้าแก่โล่ จากนี้ไปฉันเองก็เป็นพนักงานในบริษัทแล้ว แต่ว่าฉันไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ ฉันทำแค่รับผิดชอบเฉพาะการดูแลใช้จ่ายที่อยู่ภายใต้เงินทุนของคุณชายเจิ้งเท่านั้น”
“เชิญคุณตามสบาย”
“เถ้าแก่โล่ อย่าเย็นชานักเลย ในเมื่อเป็นพนักงานบริษัท คุณก็ควรจะจัดการที่อยู่ให้ฉันสักหน่อยรึเปล่า?หรือว่า ให้ไปที่บ้านของคุณ?”
หมี่หลานเอ่ยเสียงหยาดเยิ้ม เอวบางแอ่นพลิ้ว
ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นปีศาจสาวชัดๆ
“นางจิ้งจอก คิดจะมาหว่านเสน่ห์ใส่พี่เขยฉัน รนหาที่ตายใช่ไหม!”
นับตั้งแต่หมี่หลานปรากฏตัว สีหน้าของหานหยู่ถิงก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกกับเธอว่า นางจิ้งจอกตัวนี้จะต้องสร้างเรื่องอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน ไม่มีทางว่าง่ายใสซื่อแน่ ตอนนี้ถึงกับเอ่ยปากว่าจะเข้าไปอยู่ที่บ้านของเธอ และจะไม่มีวันซื่อสัตย์ ตอนนี้มันไม่มีเหตุผลที่จะบอกว่าฉันอาศัยอยู่ในบ้านของเธอ มีอย่างที่ไหนกัน
“น้องสาว อย่าได้ใจร้อนนักสิ”
หมี่หลานพูดติดตลก “ถ้าจะพูดว่าหว่านเสน่ห์ ฉันว่าเสี่ยวเยว่กับซือหานคงจะมีเสน่ห์เสียยิ่งกว่า พวกเธอสวยกว่าฉันตั้งเยอะ อีกทั้งยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพี่เขยของคุณ ต่อให้เป็นผู้ชายก็ยังต้องมีความคิดเกิดขึ้น”
“เธอจะรู้อะไร พี่เซี่ยกับเสี่ยวเยว่เป็นเพื่อนของเราทั้งนั้น”
“เพื่อนเพศหญิง ไม่ใช่หญิงสาวบวกกับเซ็กส์หรือไง” หมี่หลานพูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ “ได้ยินมาว่าสาวสวยทั้งสองคนจะต่อสัญญาอีกเป็นเวลา 20 ปี จุ๊จุ๊ เถ้าแก่โล่ช่างเก่งกาจเสียจริง”
หานหยู่ถิงสีหน้าเคร่งเครียด เธอเอ่ย “เธอกำลังพูดอะไร หมายความว่ายังไง?”
“ในฐานะน้องเมีย คุณเองก็ต้องฉลาดสักหน่อย ทำไมพี่เขยของคุณถึงจับสองสาวงามได้อยู่หมัดขนาดนี้ เขามีคุณสมบัติอะไรกัน?นอกจากของเล่นด้านล่างนั้นแล้วยังจะมีอะไรได้อีก!”
หานหยู่ถิงมีหน้าถูกปกคลุมด้วยหมอก ในขณะที่ใบหน้าโล่เฉินเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ
หมี่หลานเอ่ยต่อ “เก้าในสิบ พี่เขยของคุณจะต้องมีความสัมพันธ์กับสองสาวสวยนี่แน่ พวกเธอประทับใจในความสามารถบนเตียงอันยอดเยี่ยมของพี่เขยคุณจับไว้อยู่หมัด มองดูตอนนี้ ก็คงมีแค่ความเป็นไปได้นี้เท่านั้น”
“เธอพูดเรื่องไร้สาระ”
“ ‘งั้นหรือ แต่ฉันสังเกตเห็นถึงสายตาที่สาวสวยทั้งสองมองพี่เขยของคุณ เอาเป็นว่า คุณก็จับตาดูให้ดีๆ แล้วกัน อย่าได้ให้พี่สาวของตัวเองต้องถูกสวมเขา”
หมี่หลานโบกมือจากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป ในปากพูดพึมพำ
“เฮ้อ หานหยู่ถิงน่าสงสารเสียจริงๆ ลดตัวลงไปแต่งกับขยะคนหนึ่ง ต้องอับอายมาสามปี คิดไม่ถึงสุดท้ายยังถูกสวมเขา ในฐานะผู้หญิง เธอถือได้ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเหมือนกัน!”
หานหยู่ถิงทุบหน้าอกและกระทืบเท้าอย่างโกรธจัด
โล่เฉินปลอบโยน “ไม่ต้องไปสนใจ นั่นเป็นผู้หญิงของเจิ้งข่าย มาที่นี่เพื่อจับผิดและสร้างความบาดหมาง ต่อไปไม่ต้องไปสนใจเธอก็พอ ”
“พี่เขย คุณไม่ได้ทำอะไรผิดกับพี่สาวของฉันแน่ๆ ใช่ไหม?” หานหยู่ถิงถามอย่างไร้เดียงสาและน่ารัก
“ไร้สาระ ความรู้สึกที่ฉันมีต่อพี่สาวเธอหนักแน่นมั่นคงเท่าฟ้าดิน ฉันจะไปทรยศเธอได้ยังไง”
หานหยู่ถิงพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่เขย ฉันรู้ว่าคุณซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียว ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการกับหมี่หลานเอง ช่วงนี้ฉันกำลังกังวลว่าจะไม่มีอะไรทำอยู่พอดี นางจิ้งจอกนั่นมาให้ฉันฝึกฝนได้ตรงเวลาพอดี”
“ฝึกฝน?”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก จากนี้ไปหากบ้านเราร่ำรวยขึ้นมา ก็จะต้องมีคุณชายตระกูลใหญ่มาสู่ขอฉันแน่ ประตูเข้าบ้านเศรษฐีกว้างใหญ่ดุจทะเล พวกเรามีความแตกต่างกันเกินไป ฉันจะต้องฝึกปรือรับมือกับการต่อสู้ในหมู่ผู้หญิงเอาไว้ล่วงหน้า ฉันถึงจะได้นั่งอยู่ในบ้านแม่สามีได้อย่างปลอดภัยในอนาคต”
โล่เฉินยกนิ้วโป้งให้และเอ่ยชื่นชม “กันไว้ดีกว่าแก้ ยอดเยี่ยม!”
……
ไห่ถังหัวฝู่
“แม่ หนูกลับมาแล้ว หนูจะเล่าให้พวกคุณ….เอ๋ พ่อแม่ พี่สาว พวกคุณเป็นอะไรไป?”
ขณะเข้าประตูมาหานหยู่ถิงตะโกนอย่างอารมณ์ดี
แต่เมื่อเห็นว่าคนทั้งสามกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ สีหน้าอมทุกข์ ความสุขก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“พวกเธอกลับมาแล้วหรือ”
หลิวเซียงหลันสีหน้าเศร้าโศกและอ้าแขนออก “ถิงถิง มา มาให้แม่กอดหน่อย”
“แม่คะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วคะเนี่ย?”
หานเจี้ยนเย่เอ่ย “ก่อนหน้านี้บริษัทซินเฉิงถูกสอบสวนไปไม่ใช่หรือไง ที่ดินทางตะวันออกของเมืองผืนนั้นก็ถูกควบคุมโดยรัฐบาลเอาไว้ ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว สัญญาของหานหยุนเทาก็มีผลบังคับใช้อีกครั้ง พี่สาวของเธออยู่ภายใต้แรงกดดันอีกครั้งแล้ว”
“หา?” หานหยู่ถิงกังวลอย่างมาก เธอรีบเข้าไปหาหานหยู่เยนและถามว่าใส่ใจ “พี่สาว หานหยุนเทาหาเรื่องพี่อีกแล้วหรือ?”
หานหยู่เยนมองไปที่โล่เฉิน เธอพยักหน้าและพูดว่า “ตั้งแต่ที่พ่อของเขาถูกไล่ออกจากตระกูล หานหยุนเทาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขาใช้วิธีแข่งขันด้วยคุณภาพกับฉันแทน”
“ในการประชุมช่วงบ่าย หานหยุนเทาตั้งเป้าหมายเอาไว้ บอกว่าภายในสามเดือน บริษัทจะต้องมีกำไรสุทธิสิบล้าน”
“เป้าหมายของสิบล้านนี้คือต้องแบ่งหกสี่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ในสามเดือน โครงการปินหูที่ฉันรับผิดชอบจะต้องมีกำไรสุทธิหก ล้าน!”
หานหยู่ถิงมีอาการชาที่หนังศีรษะ เธอตะโกน “นี่จะเป็นไปได้อย่างไร”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้” หานหยู่เยนยิ้มขมขื่น “โครงการปินหูใหญ่มากก็จริง แต่มันก็เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่เป็นรูปร่างด้วยซ้ำ ตอนนี้หากคิดจะทำเงิน ก็เท่ากับเอาเกวียนไปวางก่อนม้าชัดๆ ”
“พี่สาว อย่าบอกนะ ว่าคุณย่าตกลง”
หานหยู่เยนถอนหายใจและพยักหน้า
หานหยู่ถิงยิ่งลนลาน เธอถามขึ้นอีก “พี่สาว ถ้าพี่ทำตามเป้าไม่ได้ ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง?”
โล่เฉินเงี่ยหูฟัง
นั่นแหละคือประเด็น
หานหยู่ถิงยิ้มขมขื่นขึ้นอีกครั้งแล้วตอบกลับ” หากทำตามเป้าไม่สำเร็จ แสดงว่าความสามารถของไม่เพียงพอ จะต้องแบ่งโครงการครึ่งหนึ่งให้กับหานหยุนเทา”
“ผายลม!”
หลิวเซียงหลันตะโกนด่า “เขามันไอ้ขยะ คุณชายเจ้าสำราญ แม้แต่แรงตดยังไม่มี ถ้าโครงการตกไปอยู่ในมือเขาไม่เท่ากับพังลงหรอกหรือ คุณแม่นับวันยิ่งเลอะเลือนขึ้นเรื่อยๆ ตระกูลหานกำลังจะตั้งตัวได้ขึ้นมาเพราะอยู่ในมือของหยู่เยนแท้ๆ แต่กลับต้องให้หานหยุนเทาสอดเท้าเข้ามายุ่งให้ได้”
“เซียงหลัน บางทีหานหยุนเทาเองก็อาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าได้เหมือนกัน” หานเจี้ยนเย่เอ่ย
“คุณสมองหมูไปแล้วหรือ!”
หลิวเซียงหลันโมโหจนลมจับและเอ่ยตำหนิอย่างโกรธเคือง “บริษัทซินเฉิงเป็นของคุณชายตระกูลโล่ หานหยุนเทาร่วมมือกับเขาก็เพียงเพื่อต้องการหาเรื่องหยู่เยนไม่ใช่หรือไง คุณคิดว่าถ้าหานหยุนเทาทำตามเป้าไม่ได้!แต่เผลอๆ ไอ้คุณชายโล่นั้นคงให้เงินกับเขาสี่ล้านหยวนโดยตรงเสียด้วยซ้ำ”
“นี่…” หานเจี้ยนเย่เองก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน
หานหยู่เยนมองไปที โล่เฉิน เธอลุกขึ้นและพูดว่า “พ่อแม่ ฉันกลับไปที่ห้องพักผ่อนแล้ว”
“ไปเถอะไปเถอะ หยู่เยน อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป พวกเราเชื่อในตัวเธอ หานหยุนเทาไอ้ขยะเปล่าประโยชน์นั่นไม่ควรค่าให้เธอมาลำบากใจ”
ในห้องนั่งเล่น หลิวเซียงหลันและหานเจี้ยนเย่ทะเลาะกันอีกครั้ง
“คุณมันไร้ประโยชน์ ไปคุยกับแม่ของคุณสิ”
“พูดว่าอะไรนะ?”
“หานเจี้ยนกั๋วก็ถูกไล่ออกจากตระกูลไปแล้ว ตอนนี้คุณเป็นลูกชายคนเดียวของเธอ คุณกลัวอะไรกัน ตอนนี้เป็นโอกาสของคุณที่จะได้ก้าวขึ้นตำแหน่ง”
“ก้าวขึ้นตำแหน่งอะไรกัน ที่รัก”
“คุณมันหัวทื่อจริงๆ ฉันโมโหจะบ้าตายแล้ว คุณถูกหานเจี้ยนกั๋วกดเอาไว้มาตลอดชีวิต คุณคุกเข่าไว้นานเกินไปแล้ว ลุกขึ้นไม่ได้แล้วใช่ไหม คุณเป็นถึงคุณชายรองตระกูลหาน ตอนนี้สถานะเป็นรองก็แค่คุณย่าหานเท่านั้น คุณช่วยแข็งแกร่งขึ้นอีกสักนิดได้ไหม!”
“สามี อย่ามัวแต่ทำตัวขี้ขลาดอีกเลย เห็นแก่ครอบครัวนี้ คุณควรเข้มแข็งหน่อย!”
……
ในขณะที่คู่สามีภรรยาสูงอายุกำลังทะเลาะกัน หานหยู่ถิงที่อยู่ด้านหนึ่งก็ปลอบโยนพวกเขา
โล่เฉินมาที่ห้องอย่างเงียบๆ และพบว่าหานหยู่เยนปูที่นอนบนพื้นให้เขาแล้วเรียบร้อยและกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนพื้น
“ทำไม วันนี้คุณจะมานอนกับผมที่พื้นแล้ว?”
“พูดไปเรื่อย”
หานหยู่เยนเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอ ท่าทางแฝงความขี้เล่นเล็กน้อย เธอหันหน้ามาและถามขึ้นว่า “เฮ้ ตาทึ่ม วันมะรืนนี้คุณว่างไหม?”