จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 135
ระหว่างทาง หานหยางขับรถ
ต่อมา คุณย่าหานเอ่ยเร่ง “อย่ามัวแต่อมพะนำ พูดมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไอ้สัตว์ร้ายโล่เฉินมันก่อเรื่องอะไร”
“คุณย่า จำได้ไหมว่าโล่เฉินก่อตั้งบริษัทขึ้นมา”
“ได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ฉันไม่สนใจ ไอ้ขยะแบบนั้นยังสามารถเปิดบริษัทได้ ได้ข่าวว่าหลิวเซียงหลันให้ทุนมันไป ช่างเป็นไอ้โง่ทั้งบ้านจริงๆ”
หานหยุนเทามุมปากกระตุก เขาพูดอย่างอึดอัด “คุณย่า ฉันเกรงว่าคุณจะต้องผิดหวังแล้ว บริษัทของโล่เฉินได้รับเงินลงทุน 15 ล้านจากเจิ้งข่าย คุณชายของตระกูลเจิ้ง”
บูม!
คุณย่าหานมีสีหน้าเย็นลงทันที และไม่สามารถพูดได้เป็นเวลานาน
“แค่ก แค่ก”
เสียงไอดังขึ้น หานหยุนเทาตบหลังคุณย่าหานเบาๆ “คุณย่า คุณย่าโปรดใจเย็นๆก่อน ช่วงนี้ถูกไอลมเย็น ร่างกายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
คุณย่าหานเช็ดปากแล้วถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “นายแน่ใจ ข่าวจริงเหรอ?”
“เจิ้งข่ายพูดเองกับปาก เขาไม่จำเป็นต้องโกหกผม”
“สมควรตาย!” ดวงตาของคุณย่าหานเป็นประกายเย็นเยียบ
หานหยุนเทาพูดอย่างกังวลใจ “คุณย่า สิ่งที่กลัวที่สุดตอนนี้คือโล่เฉินนั่นมันเป็นหมาป่าตาขาว ตระกูลหานของเราเลี้ยงดูเขา มาตอนนี้เขาพลิกตัวได้แล้ว แบบนี้เขาจะถีบส่งและบดขยี้ตระกูลหานของเราหรือไม่”
“เขากล้า!”
“คุณย่า พวกเรารับเดิมพันไม่ไหว”
ด้านหน้า หานหยางเองก็เสริมประโยคที่ร้ายกาจ “คุณย่า ผมรู้สึกมาตั้งนานแล้วว่าโล่เฉินเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่น่าใช่คนซื่อสัตย์อะไร กล้ำกลืนมาตั้งสามปี หากเป็นคนปกติทั่วไป ยิ่งใหญ่แล้วจะต้องมาแก้แค้นแน่”
ใบหน้าของคุณย่าหานเปลี่ยนไป ลมหายใจของเธอหนักหน่วงขึ้น
แขนบาง เผยให้เห็นเส้นเลือดสีน้ำเงิน
หานหยุนเทาเอ่ยต่อ “คุณย่า ตอนนี้ลงมือก็ยังทัน หากรอให้โล่เฉินปีกกล้าขาแข็งขึ้นมาก็สายเกินไปแล้ว”
“ลงมือยังไง บริษัทเป็นของเขา พวกเราจะทำอะไรได้”
“โล่เฉินยังไงก็เป็นคนตระกูลหาน บริษัทของเขาก็คือบริษัทของพวกเราตระกูลหาน บังคับให้เขาโอนบริษัทนี้มาให้คุณย่าซะ แบบนี้ก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ!”
คุณย่าหานแค่นเสียง “นายคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นหรือไง! ไอ้ขยะนั่นกว่าจะพลิกตัวขึ้นมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จะมาเชื่อฟังง่ายๆได้ยังไง” ”
“จุดแตกหักไม่ได้อยู่ในเขา แต่อยู่ที่หานหยู่เยน”
“หยู่เยน?”
หานหยุนเทาดื่มน้ำและกระแอมเอ่ย “โล่เฉินรักหานหยู่เยนอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทนรับความอัปยศอดสูมานานเป็นเวลาสามปีตลอดที่อยู่ข้างหานหยู่เยน คุณย่าออกหน้า ขอให้หานหยู่เยนเปิดปากให้โล่เฉินโอนบริษัทมา แบบนี้ก็ได้แล้ว?”
“นี่…”
คุณย่าหานคิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นในที่สุด “หยู่เยนจะฟังฉันหรือ นางหนูนั่นตอนนี้ก็ปีกกล้าขาแข็งมากแล้ว”
“ใช้การขู่ว่าจะขับไล่ออกจากตระกูล!”
ตึง
ในใจคุณย่าหานยุ่งเหยิงขึ้น เธอมองไปที่หยุนเทาอย่างแปลกใจ “นายพูดอะไรนะ!”
“คุณย่า ไม่มีทางเลือกแล้ว มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้หานหยู่เยนตกใจและเชื่อฟังขึ้นมาได้ พวกเราไม่ได้อยากเห็นเธอถูกขับไล่จริงๆสักหน่อย”
เขาพบว่าคุณย่าหานลังเล
หานหยุนเทากำหมัดแน่นและพูดอย่างเย็นชา “คุณย่า คุณคิดให้ดีๆ โล่เฉินพลิกฟื้นขึ้นมาได้ ข้อแรกก็คือการแก้แค้นแน่ และคนๆนั้นก็คือคุณแน่นอน!”
“ใช่ คุณย่า บริษัทของไอ้ขยะนั่นเราจะต้องได้มันมา คุณต่างหากที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลหาน บริษัทนั่นก็ควรเป็นของคุณ” หานหยางกล่อง
“คุณย่า ไม่ต้องลังเลแล้ว รีบตัดสินใจเถอะ!”
คุณย่าหานหลับตาลง ใบหน้าชรากระตุกเป็นครั้งคราว
บรรยากาศในรถ กดดันถึงขีดสุด
จนถึงจุดหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะเกิดการตัดสินใจแล้ว
คุณย่าหานลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอระเบิดประกายและเอ่ยเสียงเข้ม “ยังไม่สายเกินไปที่จะทำตอนนี้ ไปบอกหานหยู่เยนให้มาที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน”
“ดี”
……
เมื่อหานหยุนเทาจากไป หานหยู่เยนก็โทรหาโล่เฉิน
สองคนคุยกันอยู่พักหนึ่งเป็นเรื่องทั่วๆไปไม่ได้ซับซ้อนอะไร
แต่นี่ต่างหากที่แปลก
“เอ่อ โทรศัพท์ของหานหยุนเทา”
หานหยู่เยนรีบรับอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้พูด อีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นด้วยความหมายที่ลึกซึ้งว่า “หานหยู่เยน ตอนนี้รีบมาที่บ้านเก่าแก่ของตระกูลหานฉันมาที่บ้านของบรรพบุรุษ คุณย่ามีเรื่องจะฝากฝังเธอ จำไว้ เรื่องนี่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของตระกูลหาน จะต้องเก็บเป็นความลับเด็ดขาด เธอมาแค่คนเดียว ห้ามบอกใครทั้งนั้น”
“ได้ได้ได้ ฉันจะรีบไป”
หานหยู่เยนไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
บ้านเก่าแก่ของตระกูลหาน ห้องโถงบรรพบุรุษ
“คุณย่า”
หานหยู่เยนกังวลในใจ นี่มันคือเรื่องอะไร ถึงกับต้องพูดกันในห้องโถงบรรพบุรุษ ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?
หรือว่าโล่เฉินพาหายนะมาแล้วจริงหรือ?
หรือหานหยุนเทากำลังเล่นลูกไม้ จงใจโยนหายนะให้คนอื่น!
“นั่งลงเถอะ”
คุณย่าหานเอ่ยปากเรียบๆ เธอมองไปที่หานหยุนเทา “หยุนเทา นายพูด”
“ดี”
หานหยุนเทาลุกขึ้น ก่อนอื่นเขาสักการบูชาบรรพบุรุษสามครั้ง จากนั้นจึงมองที่หานหยู่เยนด้วยสายตาที่คมกริบ
“นายกำลังทำอะไร?”
“หานหยู่เยน เธอรู้เรื่องความผิดของตนเองรึเปล่า!”
“หา? ฉัน ฉันมีความผิดอะไร?” หานหยู่เยนไหนเลยจะทนนั่งต่อได้ เธอรีบลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนก จากนั้นจึงกำเสื้อที่หน้าอกแน่น ตัวสั่นเล็กน้อยโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลหานศักดิ์สิทธิ์เกินไป
กล้าทำตัวป่าเถื่อนต่อหน้าบรรพบุรุษ
ฉันมีความผิดจริงหรือ?
ผิดพลาดตรงไหน? และจะมีบทลงโทษอย่างไร?
โล่เฉิน ฉันกลัว
ในขณะนี้ หานหยู่เยนอยากจะให้โล่เฉินยืนเคียงข้างเธออย่างยิ่ง
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่เธอไม่สามารถห่างจากโล่เฉินได้ ในใจของเธอ โล่เฉินดูเหมือนจะเป็นหัวใจ มีเขาอยู่เธอไม่กลัวเลยสักนิด
“คุณย่า ฉันทำอะไรผิด ฉันอุทิศตัวให้กับตระกูล ทุ่มเทให้กับบริษัท ทำงานอย่างหนัก ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นนะ จะต้องเป็นหานหยุนเทาที่ใส่ร้ายฉันอีกแล้วแน่”
หานหยู่เยนร้องไห้ด้วยความกลัว เธอคุกเข่าลงแล้วพูดว่า “คุณย่า ได้โปรดคุณช่วยตรวจสอบ คุณห้ามลำเอียง ฉันเองก็เป็นหลานของคุณ”
“อืม ไม่ต้องร้องแล้ว”
คุณย่าหานหันไปถลึงตาใส่หานหยุนเทา เธอเอ่ยดุ “อย่ามัวแต่พูดพร่ำ เอ่ยเข้าเรื่อง”
“ก็ได้ครับ”
หานหยุนเทาหัวเราะคิกคัก จากนั้นจึงพูดเรื่องของบริษัทโล่เฉินอีกครั้ง
ในที่สุด เขาก็เอ่ยคำแนะนำขึ้นมา
“บริษัทจะอยู่ในมือของโล่เฉินไม่ได้เป็นอันขาด แบบนั้นสำหรับตระกูลหานแล้วมันคือระเบิดเวลาลูกหนึ่ง และมีแนวโน้มอย่างยิ่งที่จะทำลายตระกูลหานลง”
“ฉันรู้ว่าโล่เฉินรักเธอมาก สมควรจะฟังคำพูดของเธอ ดังนั้น เธอไปให้โล่เฉินโอนบริษัทมาให้คุณย่าซะ”
“ที่ฉันพูดเธอเข้าใจไหม?”
หานหยุนเทาคุกเข่าลง จากนั้นจึงจ้องหานหยู่เยนอย่างแน่นิ่ง ท่าทางบีบบังคับ
หานหยู่เยนยังคงงุนงง
ลงทุน 15 ล้าน?
ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าห้าล้านหรือ เจิ้งข่ายลงทุนเพิ่มอีก 10 ล้านแล้ว?
โล่เฉินเก่งมากจริงๆ
“เฮ้ คำพูดของฉันเธอได้ยินแล้วหรือยัง!”
“เอ่อ…”
หานหยู่เยนได้สติกลับมา เธอหันมองไปที่คุณย่าหานและพูดอย่างหนักแน่น “คุณย่า ฉันรับรองได้ว่า โล่เฉินไม่มีความคิดที่เลวร้าย ต่อให้บริษัทเติบโตแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาแก้แค้นตระกูลหาน แต่ยังจะช่วยตระกูลหานให้ลุกขึ้นอีกด้วย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไร้สาระ!”
หานหยุนเทาหัวเราะลั่น เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “เธอเป็นนางฟ้าหรือไง เธอมองคนออกหรือไง โล่เฉินอดกลั้นมาสามปีแล้ว นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงว่าจิตใจของเขานั้นลึกล้ำมาก เธอตอบฉันมาหน่อย คนทั่วไปที่ไหนจะทนได้ถึงสามปีโดยไม่พังทลายลง?”
“ฉัน…”
“ดังนั้นจึงบอกได้ว่า โล่เฉินจะต้องมีความผิดปกติในใจแย่ หากเขาเติบโตขึ้นมา เขาจะต้องแก้แค้นตระกูลหานอย่างไม่ต้องสงสัย”
หานหยู่เยนคิดจะโต้เถียง แต่หานหยุนเทากลับไม่ให้โอกาสเขา
“หานหยู่เยน เธออย่าเห็นแก่ตัวนักเลย เธอถึงกับกล้าเอาความเป็นตายของตระกูลหานมาเดิมพันกับนิสัยของโล่เฉินหรือไง? ในใจของเธอยังมีตระกูลหานอยู่รึเปล่า”
“เธอทำตัวแบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกหลานของตระกูลหาน”
“สมควรถูกไล่ออกจากตระกูล!”
ในขณะนั้น หานหยู่เยนหน้าซีดขาว
ในที่สุดคุณย่าหานก็เปิดปากพูด เธอถอนหายใจ “หยู่เยน นี่คือความหมายของฉัน บริษัทโอนมาแล้ว กำไรส่วนหนึ่งแบ่งให้ตระกูลอีกส่วนหนึ่งให้พวกเธอ ส่วนคนอื่นๆในตระกูลหานจะไม่มาเอาเงินของเธอไป”
“คุณย่า ได้โปรดเชื่อฉัน โล่เฉินเขาเป็นคนดีมากๆจริงๆ”
“หยู่เยนเอ่ย นี่ไม่ใช่ปัญหาว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ ย่าจะต้องคิดแทนตระกูลหาน หากตระกูลหานที่อยู่ในมือฉันเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นฉันตายไปก็ตายตาไม่หลับ ฉันจะหน้าไปเจอคุณปู่ของเธอได้ยังไง”
หานหยู่เยนรู้สึกตกใจอย่างมาก
หานหยุนเทาเอ่ย “กฎตระกูลเธอสมควรรู้ดี ตระกูลกำลังตกอยู่ในอันตราย การขับไล่เธอออกจากตระกูลไป พวกเราไม่ได้บีบคั้นเธอ พวกเราแค่อธิบายข้อเท็จจริงง่ายๆ ”
“คุณย่าเองก็บอกแล้ว จะไม่มีใครมาใช้เงินของเธอ นี่ก็แค่ทำเพื่อความสบายใจเท่านั้น เธอจะต้องคิดแทนคุณย่าและตระกูลด้วย”
“เธอควรจะรู้ว่าควรเลือกอะไร จะเลือกถูกขับไล่ออกจากตระกูล เป็นคนไร้ตระกูลไร้บ้าน หรือแค่ให้โล่เฉินโอนย้ายบริษัทและเป็นขุนนางประจำตระกูล?”