จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 148
เฮยหนิวถ่มน้ำลาย เขาด่าอย่างโมโห “นายท่าน เราต้องจัดการตระกูลหยาง ต่อให้พวกเราต้องถูกทำลายล้างลงก็ต้องดึงตระกูลหยางลงมาฝังไปด้วยกัน”
หงเหลยถิงเอ่ย “ใจเย็นๆหน่อย สรุปนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
เป้าจื่อโยนเครื่องดื่มกระป๋องให้เฮยหนิว เฮยหนิวกระดกดื่มจนหมด จากนั้นเช็ดมุมปากและเอ่ย “นายท่าน เรื่องนี้น่าจะเริ่มขึ้นเมื่อสามวันก่อน…”
สามนาทีต่อมา
เฮยหนิวบีบกระป๋องและกัดฟันเอ่ย “นายท่าน ผมตั้งแง่ใส่ตระกูลหยาง วันต่อมาทั้งสี่ตระกูลใหญ่ทั้งสี่รวมถึงนายกเทศมนตรีก็จัดการประชุม จากนั้นก็เกิดคลื่นพายุขึ้นมา หรือนี่ยังไม่พอที่จะบอกว่าเป็นฝีมือของตระกูลหยาง!”
“ตระกูลหยาง!”
หงเหลยถิงโกรธจัด เส้นเลือดที่มือปูดโปนขึ้นมา ที่เท้าแขนเก้าอี้ถูกบีบแน่นจนเกือบหัก
เป้าจื่อเอ่ย “นายท่าน ต่อให้ตระกูลหยางจะไม่ใช่ผู้บงการ แต่คนที่จุดไฟก็ต้องเป็นพวกมันแน่ คุณรวบรวมกองกำลังใต้ดินทั้งหมดเอาไว้และถูกเรียกว่าเป็นฮ่องเต้อิทธิพลมืด รัฐบาลย่อมต้องดำเนินการอย่างแน่นอน เดิมทีการกระทำนี้อาจเกิดในหลายปีข้างหน้า แต่ตระกูลหยางจุดประกายไฟให้การดำเนินการนี้เกิดขึ้นมาเสียก่อน”
“นายพูดมีเหตุผล”
หงเหลยถิงเอ่ยเสียงเย็น “มีตัวอย่างตระกูลป๋ายในหลิงสุ่ยอยู่ รัฐบาลเมืองเจียงไม่ปล่อยให้ฉันได้เป็นใหญ่แน่ ฉันคิดมานานแล้วว่าสักวันเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้นและกำลังวางแผนอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้”
เป้าจื่อถอนหายใจ “ตระกูลหยางก็เป็นแค่ตัวแปรหนึ่งเท่านั้น”
เฮยหนิวเอ่ยอย่างไม่สบายใจ “นายท่าน นี่เป็นความผิดของผมรึเปล่ วันนั้นหากผมไม่ช่วยโล่เฉิน ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ไม่”
หงเหลยถิงโบกมือ เขาเอ่ย “นายทำถูกแล้ว โล่เฉินไม่ใช่คนธรรมดา คนรวยที่สุดของเจียงโจวคือลูกศิษย์ของเขา คนแบบนี้ไม่ใช่คนที่นายจะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ จะต้องทำดีด้วยไว้”
“นายท่าน แล้วแบบนี้พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?” เป้าจื่อถาม
“สลายตัว”
“สลายตัว?” เป้าจื่อและเฮยหนิวมองหน้ากันอย่างงงๆ
“สลายตัวไปไหน?”
หงเหลยถิงเยาะเย้ย “อันที่จริง ฉันมีแผนจะเคลื่อนพลเข้าสู่จีนหลิงมาตั้งนานแล้ว แต่เดิมคิดว่าจะรออีกสักปีสองปีให้เข้าที่เข้าทาง ตอนนี้ได้แต่ต้องเดินหน้าแล้วก่อนที่คาดไว้แล้ว”
“เคลื่อนพลเข้าจีนหลิง!” เป้าจื่อและเฮยหนิวตกใจ
จีนหลิงเป็นเมืองประจำมณฑล และเป็นมหานครในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน นอกจากตำแหน่งของเมืองที่ไม่ธรรมดาแล้ว เมืองนี้ยังมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับสอง เป็นรองแค่สี่เมืองชั้นที่หนึ่งเท่านั้น
ในตำแหน่งด้านยุทธศาสตร์ กองบัญชาการเขตทหารของซีหนันก็ตั้งอยู่ในจินหลิง
กล่าวได้ว่า จีนหลิงเป็นถ้ำเสือรังมังกร เป็นที่คนใหญ่คนโตผู้มีอิทธิพลรวมตัวกันอยู่
การก้าวเข้าสู่จีนหลิง นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
“นายท่าน เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ จีนหลิงไม่ใช่เมืองเจียง นั่นเป็นถึงมหานคร มีคนใหญ่คนโตมากเกินไป ทำไมพวกเราไม่ยอมถอยแล้วลดลงมาเป็นการเข้าสู่ฉู่โจวแทน” เป้าจื่อเสนอ
เฮยหนิวเห็นด้วย เขาเอ่ย “นายท่าน พี่เป้าพูดถูก ฉู่โจวแข็งแกร่งกว่าเมืองเจียง เป็นรองแค่จีนหลิง พวกเราสามารถหยั่งรากในเมืองฉู่โจวก่อนได้ ให้ฉู่โจวเป็นฐานก่อนกระโดดเข้าสู่จีนหลิงในภายหลัง ”
“นายคุณคิดว่าพวกเรามีเวลานั้นหรือไง?”
หงเหลยถิงส่ายหัว ถอนหายใจเอ่ย “ทั้งสี่ตระกูลใหญ่และรัฐบาลในเมื่อต้องการกวาดล้างพวกเรา อย่างนั้นก็ต้องคิดถึงทางถอยหนีของพวกเราเอาไว้แล้ว โดยทั่วไปแล้ว พวกเรามีทางอยู่สองทาง”
“เดินไปข้างหน้า เคลื่อนพลเข้าไปในฉู่โจว ถอยหนี เข้าสู่หลิงสุ่ย”
“ฉันแน่ใจได้เลยว่ารัฐบาลเมืองเจียง ต้องติดต่อกับทางฉู่โจวและหลิงสุ่ยเอาไว้แล้ว ไม่ว่าพวกเราจะไปที่ฉู่โจวหรือหลิงสุ่ย นี่ล้วนเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองทั้งสิ้น ทางเดียวที่เหลืออยู่ คือการเดิมพันและเข้าสู่จีนหลิง!”
เป้าจื่อและเฮยหนิวเงียบไป
หงเหลยถิงจู่ๆก็หัวเราะอย่างกะทันหัน “พวกนายลืมอะไรไปอย่างหนึ่งหรือเปล่า? ในจีนหลิงมี:yellow”ตระกูลบิ๊กแมคอย่างตระกูลเสี้ยงอยู่อีกตระกูลหนึ่ง”
“ตระกูลเสี้ยง? อ่าใช่!” ดวงตาของเป้าจื่อเป็นประกาย
“ในตอนนั้นท่านสามเสี้ยงตระกูลเสี้ยง เสี้ยงจื้อสงเป็นคนช่วยฉันขึ้นมา ถึงแม้ว่าช่วงนี้ฉันจะพยายามแยกตัวออกมาจากเขาไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนรู้จักเก่าแก่ หากฉันไปร้องขอเขา เสี้ยงจื้อสงจะต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ พวกเราสามารถยืนหยัดในจีนหลิงได้ไม่ยาก”
เฮยหนิวลอบถอนหายใจ เขายกนิ้วโป้งขึ้น “นายท่าน ยังคงเป็นคุณที่สุดยอด นับถือนับถือ”
“อย่างนั้นพวกเราจะไปที่จีนหลิงเมื่อไหร่? นายท่าน คุณต้องติดต่อกับท่านสามเสี้ยงล่วงหน้าหรือไม่”
“ไม่ต้องรีบร้อน”
หงเหลยถิงสงบสติอารมณ์ ท่าทางราวกับเป็นผู้ควบคุมเกม
เขาเอ่ยเสียงขรึม “รัฐบาลและทั้งสี่ตระกูลอยากจะจัดการกับฉันคงไม่ง่ายขนาดนั้น ฉันหงเหลยถิงจะว่ายังไงก็เป็นถึงฮ่องเต้อิทธิพลมืดของเมืองเจียง ยังไม่ทันสู้ก็หนีไปก่อนแบบนั้น หากเรื่องแพร่ออกไป คงไม่พ้นถูกคนหัวเราะเยาะ ฉันไปจีนหลิง ก็ไม่มีหน้าจะไปสู้ใครได้”
เป้าจื่อเดือดลมเดือดพล่าน
เฮยหนิวชกเข้าใส่กำแพง เขาตะโกนลั่น “นายท่าน ให้พวกมันเห็นหน่อยว่าเราแข็งแกร่งขนาดนไหน ทำไมเราไม่ลงมือกับตระกูลหยางก่อน ผมล่ะแทบอยากจะถลกหนังหยางเซียวแล้ว”
“เป้าจื่อ ทุน สิ่งนี้ไม่สามารถสูญหายได้ พวกเราหากต้องไปตั้งตัวที่จีนหลิง จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก การรวบรวมทุนทั้งหมดจากธุรกิจให้นายเป็นคนจัดการนำออกจากเมืองเจียง”
หงเหลยถิงกำชับ “นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เงินหมดแล้ว สองมือก็ว่างเปล่า พี่น้องเบื้องล่างก็จะสลายตัวไป หากเข้าไปในจีนหลิงอย่างตัวเปล่า แบบนั้นก็เป็นแค่เรื่องน่าหัวเราะเยาะแล้ว”
“นายท่าน คุณวางใจ เรื่องนี้จะต้องสำเร็จ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
เป้าจื่อรีบออกไป
“นายท่าน ผมล่ะ ให้ผมทำอะไร?”
“สร้างความสับสนขึ้นมา ดึงดูดความสนใจ แต่ก็ต้องรู้จักยั้งมือ อย่าก่อเรื่องให้ใหญ่โตเกินไป” หงเหลยถิงคิด ก่อนจะเอ่ย “คิดหาวิธีที่จะจับหยางเซียวมาหาฉัน”
เฮยหนิวหัวเราะดัง “นายท่าน ผมรอคำนี้จากคุณอยู่ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ในห้องแปรเปลี่ยนเป็นเงียบลง
หงเหลยถิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะโทรหาเสี้ยงจื้อสง
…
เมืองเจียง ถนนเจี่ยฟ่าง
เสียงไซเรนดังขึ้น รถตำรวจหลายสิบคันปรากฏขึ้นราวกับเสือร้าย
ตำรวจรีบเข้าไปในคลับบันเทิงตระกูลจี
“พวกคุณกำลังทำอะไร…”
“ตำรวจ ทุกคนนั่งลงอย่าขยับ ให้ความร่วมมือซะ ย้ำอีกครั้ง พวกเราเป็นตำรวจ ทุกคนอย่าตื่นตระหนก อยู่นิ่งๆอย่าเคลื่อนไหว ให้ความร่วมมือ”
ผู้รับผิดชอบคลับปรากฏตัวขึ้น เขาถาม “สหาย นี่มันอะไรน่ะ พวกเราเป็นแค่คลับธรรมดา…”
“มีคนรายงานความเกี่ยวข้องกับอิทธิพลมืด เรื่องนี้ยังคงสอบสวนอยู่ ได้โปรดมากับเราด้วย”
“เดี๋ยวก่อนสหาย ฉันขอโทร…”
“ไปโทรที่สำนักงานตำรวจเถอะ”
ผู้นำระดับสูงของคลับหลายคนถูกนำตัวออกไป แขกก็แยกย้ายกันออกไป มีเพียงทีมสอบสวนที่อยู่ในคลับเพื่อรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับอิทธิพลมืด
พวกนี้ ล้วนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกัน.
เมืองเจียง อาคารแห่งหนึ่ง
บริษัทเหลยเสิน ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดเกือบ 2 พันล้านในเมืองเจียง
จู่ๆ บริษัทก็ถูกตัดขาดจากเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
จากนั้นก็ตามมาด้วยตำรวจ ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทล้วนตกอยู่ภายใต้การควบคุม
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ ตำรวจจะมาจับคนมั่วซั่วก็ได้หรือไง ยังมีกฎหมายกันอยู่รึเปล่า ฉันจะฟ้องพวกนาย กดขี่ประชาชน ”
ผู้จัดการทั่วไป หยูเหว่ยตะโกนลั่น
ในเวลานี้ ตำรวจหญิงคนหนึ่งเดินออกมาและแสดงเอกสารหัวแดง เธอพูดอย่างจริงจัง “บริษัทเหลยเสินถูกแจ้งความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในอิทธิพลมืด มีข้อสงสัยว่าอาจจะฉ้อโกงทางการเงิน ฟอกเงินและข้อกล่าวหาอื่น ๆ นี่คือเอกสารการสอบสวนที่ออกโดย:yellow”สำนักงานความมั่นคงสาธารณะและสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะ พวกเราใช้สิทธิตามกฎหมาย”
“ผายลม ทุกคนล้วนถูกใส่ร้าย พวกแกมันไอ้สารเลว” หยูเหว่ยร้องลั่น แต่ลึกลงไปในดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ตำรวจหญิงยื่นเอกสารออกมาอีกชุด และเอ่ยเสียงเย็น “หยูเหว่ยผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเหลยเสิน รองผู้จัดการหงซานผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลหงกาง และอื่นๆอีกแปดคนต้องสงสัยว่ามีการทำร้ายผู้คนโดยเจตนา ล่วงละเมิดสตรี ล่วงละเมิด…รวมแล้วทั้งสิ้น 10 ข้อหา มีหลักฐานแน่ชัดในการจับกุมตามกฎหมาย”
ตูม
ในตอนนี้ หยูเหว่ย หงซาน และคนอื่นๆหน้าซีดและเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น
“จบแล้ว จบแล้ว จบสิ้นแล้ว” หยูเหว่ยพึมพำราวกับกำลังฝัน
“ออกไปจากที่นี่!”
ทันใดนั้น หงซานและหงกางก็หยิบมีดออกมา สีหน้าดุร้าย
“ลุงของฉันคือหงเหลยถิง กล้าจับฉันเท่ากับรนหาที่ตาย ไปให้พ้นทางฉัน ไม่งั้นฉันจะเล่นงานพวกแกทั้งครอบครัว”
…
ฉากการจับกุมแบบนี้ ตอนนี้กำลังปรากฏขึ้นในสี่สิบห้าอุตสาหกรรม บริษัท และคลับน้อยใหญ่ในเมืองเจียง
ชาวเมืองตกตะลึงและสั่นสะท้าน
นี่กำลังจะเกิดขึ้นจริง!
นั่นคือหงเหลยถิงเชียวนะ ฮ่องเต้แห่งอิทธิพลมืด จู่ๆกลับมาพ่ายแพ้อย่างกะทันหัน อุตสาหกรรมทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุม
นี่มันอำนาจแบบไหนกัน!
ในเวลานี้ ตระกูลต่างๆในเมืองเจียงกำลังเกิดความเกรงกลัวต่อสี่ตระกูลชั้นหนึ่งขึ้นอีกครั้ง จนถึงขั้นหวาดกลัวอย่างรุนแรง
ข่าวเล็กข่าวน้อยถูกปล่อยออกมาว่า
ปฏิบัติการพายุในครั้งนี้ เป็นสี่ตระกูลใหญ่ที่เสนอขึ้นมา ในการประชุมรัฐบาลไม่ได้เต็มใจที่จะดำเนินการ เนื่องจากมีเรื่องเกี่ยวข้องมากเกินไป
แต่ท้ายที่สุด ภายใต้แรงกดดันของทั้งสี่ตระกูล รัฐบาลก็ได้แต่ยอมรับ
ยอดเยี่ยม
แต่ละตระกูลล้วนต้องสั่นสะเทือน
ทั้งวันนี้ เป็นวันที่พิเศษ ทั่วทั้งเมืองเจียงไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการฆ่าฟัน
ตกดื่น สองทุ่ม
ไห่ถังหัวฝู่ ณ ระเบียงบนชั้นสูง
โล่เฉินมองไปที่แสงจันทร์ ได้รับสายโทรศัพท์จากฟ่านหงชาง
“อาจารย์ มีข่าวแล้ว ผมได้รับคำยืนยันจากคณะกรรมการพรรคเทศบาลเมืองเจียง หงเหลยถิงน่าจะแพ้แน่แล้ว ไม่มีที่ว่างให้พลิกกลับ และไม่อาจหนีออกจากเมืองเจียงได้”
“อืม ฉันรู้แล้ว”
โล่เฉินยิ้มอย่างขมขื่น เขาถอนหายใจอีกครั้ง ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ยังอยู่บนถิ่นที่มีเจ้าของ….เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก
คนที่แข็งแกร่งขนาดเขา ก็ยังต้องหวาดกลัว
นับประสาอะไรกับหงเหลยถิง ความพ่ายแพ้ถือเป็นเรื่องแน่นอน