จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 161
หานหยู่ถิงซาบซึ้งอย่างมาก พี่เขยล้วนทำทุกอย่างเพื่อเธอ หากไม่ใช่เพราะมีคนอยู่เต็มไปหมด เธอจะต้องเข้าไปหอมเขาสักทีแน่
“เงื่อนไขนี้น่าจะง่ายดายอย่างยิ่ง ท่านนิ่ง คุณคิดว่าอย่างไร?” โล่เฉินถามกลับ
ท่านนิ่งไม่เข้าใจ อาศัยตัวตนของเขา ถือเป็นผู้อยู่ในจุดสูงสุดของทั้งฉู่โจว ไม่มีทางจะมาสนใจเรื่องของพวกเด็กน้อยผายลมในมหาวิทยาลัยฉู่โจวแบบนี้
เมื่อได้ฟังนิ่งจื่อซวนเอ่ยที่มาที่ไปให้รอบหนึ่ง เขาก็มีความคิดในใจ
ในเมื่อโล่เฉินไม่ต้องการให้หลานสาวของเขาติดตาม อย่างนั้นหากน้องเมียของโล่เฉินกับหลานชายของเขาลงเอยกันได้ แบบนี้ก็เกี่ยวข้องกันแล้วเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นเรื่องดีเลิศ
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา”
ท่านนิ่งตบหน้าอกของตน เขาพูดเสียงดังลั่น “แม้ว่าตระกูลนิ่งของฉันจะสู้ตระกูลซูไม่ได้ แต่เรื่องการปกป้องใครสักคนหนึ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา หากนายท่านวางใจ จากนี้ไปให้หยู่ถิงอาศัยอยู่ในตระกูลนิ่งของเราและไปกลับมหาวิทยาลัยพร้อมกับจื่อซวนและจื่อโหรว”
โล่เฉินถาม “เธอคิดว่ายังไง?”
“แบบนี้จะดีหรือ?” หานหยู่ถิงรู้สึกทึ่งเล็กน้อย
หอพักของมหาวิทยาลัยไหนเลยจะสะดวกสบายเท่ากับบ้านตระกูลนิ่ง สถานที่ใหญ่ขนาดนี้ มีคนคอยรับใช้
เธอโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยมีใครมาคอยรับใช้เลยสักครั้ง
“มีอะไรไม่ดีกัน!”
ท่านนิ่งโบกมือใหญ่ของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “หยู่ถิงหากเธอไม่รังเกียจ นับถือฉันเป็นปู่บุญธรรม เธอก็ถือว่าเป็นหลานสาวของฉัน เป็นพี่ของเสี่ยวโหรว”
“อา?” หานหยู่ถิงตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้นกัน?
แค่เพราะพี่เขยเป็นนักบู๊ ก็สามารถได้รับการเคารพมากขนาดนี้เชียวหรือ?
อันที่จริง ตอนที่เท้าของโล่เฉินเหยียบพื้นนั้น หานหยู่ถิงเองก็ตกใจไปจนสมองว่างเปล่า ควบคุมตัวเองไม่ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า หยู่ถิงอย่ากลัวตกใจไป รอให้เธอคิดได้เมื่อไหร่ สามารถมานับถือฉันเป็นปู่บุญธรรมได้ทุกเมื่อ ฉันจะจัดการสวนขนาดใหญ่ให้เธอ ที่ตรงนั้นถือเป็นถิ่นของเธอ คนในตระกูลนิ่งหากไม่ได้รับการยินยอมจากเธอก็จะไม่สามารถเข้าไปได้ เธอไม่ต้องกลัวว่าจะถูกรังแก ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราจะไปกล้ารังแกเธอได้ยังไง!”
ท่านนิ่งเหลือบมองโล่เฉินอย่างกึ่งตั้งใจและไม่ตั้งใจ
มีพี่เขยเป็นนักบู๊ฝีมือสูงขนาดนี้ ใครไปรังแกสาวน้อยของเขาเข้า คนนั้นคงต้องตาย
“ก็ดี หยู่ถิงอยู่ที่นี่กับพวกคุณแล้วกัน”
ท่านนิ่งมีความสุขมาก ส่วนนิ่งจื่อซวนก็ยิ้มไม่หุบ
“นายท่าน แล้ววิธีฝึกจิตล่ะครับ?”
“พรุ่งนี้ฉันจะให้นาย”
“ได้ได้ได้ อย่างนั้นไม่รบกวนนายท่านแล้ว จื่อซวน พานายท่านและหยู่ถิงไปทางทิศตะวันตก สวนใหญ่ที่สุดที่นั่นให้หยู่ถิง สั่งการลงไป จากนี้ไปให้ปฏิบัติกับหยู่ถิงเสมือนกับที่ปฏิบัติกับจื่อโหรว เธอเป็นคุณหนูของตระกูลนิ่ง ใครกล้าวางอำนาจใส่ ไม่ละเว้นทั้งนั้น”
นิ่งจื่อซวนพยักหน้าและกล่าวด้วยความเคารพ “นายท่าน เชิญทางนี้”
สวนกว้างมากอย่างยิ่ง ราวๆหนึ่งร้อยตารางเมตร และในนั้นมีสวนดอกไม้ของตัวเอง
บ้านเป็นแบบโบราณ มีคนใช้สองคนคอยดูแล
“นายท่าน หยู่ถิง รีบพักผ่อน ผมไปก่อน”
“ได้”
เมื่อเธอมาถึงห้องห้องหน้ามุข หานหยู่ถิงมีความสุขอย่างยิ่ง
“พี่เขย ฉันถึงกับได้เข้ามาอาศัยอยู่ในตระกูลใหญ่ อีกทั้งท่านนิ่งก็ยังต้องการให้ฉันนับถือเขาเป็นปู่บุญธรรม หากเล่าให้ที่ตระกูลหานฟัง พวกญาติที่เย่อหยิ่งเหล่านั้นคงจะเป็นบ้าไปแน่”
โล่เฉินเทชาลงถ้วยหนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เธอมีความสุขก็ดี”
หานหยู่ถิงสงบลง เธอนั่งตรงข้ามโล่เฉินและถามด้วยความสงสัย “พี่เขย อะไรคือนักบู๊? อะไรคือวิธีฝึกจิต? พี่เขย คุณเป็นสัตว์ประหลาดหรือ แค่เท้าเดียวก็ทำลายพื้นหินสีเขียวจนแตกกระจายได้!”
“หยู่ถิง ของพวกนี้อยู่ไกลจากตัวเธอมากนัก อธิบายไปเธอก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่า เธอรู้แค่ว่าพี่เขยของเธอแข็งแกร่งมากก็พอ”
หานหยู่ถิงเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอ มือทั้งสองกอดอก เธอแค่นเสียง “พี่เขย ฉันรู้แล้ว ที่พี่สาวยอมรับคุณได้ ก็เป็นเพราะว่าพี่รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นไอ้ขยะจริงๆ แต่เป็นผู้แข็งแกร่งต่างหากใช่ไหม”
“เอ่อ…. จะว่าแบบนั้นก็ได้”
“คนนิสัยไม่ดี ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ ปิดบังฉันทำไม!” หานหยู่ถิงตาแดงก่ำ ท่าทางเสียใจอย่างมาก
โล่เฉินพูดไม่ออก เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “พี่เขยมีปัญหาของตัวเองอยู่”
“พี่เขย ในเมื่อคุณแข็งแกร่งมากขนาดนี้ แค่แสดงฝีมือนิดๆหน่อยๆก็สามารถทำให้ตระกูลนิ่งล้มลงได้ อย่างนั้นทำไมพี่ถึงไม่ช่วยพี่สาวล่ะ อาศัยความสามารถของคุณ จะต้องสามารถทำให้ตระกูลหานลุกขึ้นมาได้ในชั่วข้ามคืน! ยังมี ทำไมพี่เขยถึงต้องปกปิดตัวเอง ทำไมต้องแบกรับความอัปยศมากมายขนาดนั้น ฉันไม่เข้าใจ?”
ดวงตาโตของหานหยู่ถิงเป็นประกาย
เมื่อคิดถึงสามปีที่ผ่านมา โล่เฉินต้องได้รับความเย็นชาและอัปยศอดสู ดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าว กำลังจะร้องไห้ออกมา
“หยู่ถิง พี่เขยบอกไปแล้ว ว่าฉันมีปัญหาของตนเองอยู่”
“มีปัญหาอะไร?”
“ขอโทษด้วย ไม่สามารถบอกเธอได้ ถ้าเธอรู้มากเกินไปก็ไม่ดีกับตัวเธอเอง เอาเป็นว่า เธอแค่รู้ไว้ว่า พี่เขยของเธอรักครอบครัวนี้อย่างยิ่ง และจะปกป้องครอบครัวของพวกเธอทั้งหมด เข้าใจไหม”
หานหยู่ถิงเช็ดดวงตาของเธอและพยักหน้าพร้อมเสียงสะอื้น ท่าทางว่าง่ายอย่างยิ่ง
“พี่เขย ฉันเข้าใจ ฉันจะเชื่อฟัง ไม่ถาม พี่เขย คุณต้องเจอปัญหาใหญ่มากแน่ๆ ถึงต้องทนรับความอัปยศอดสูมาเป็นเวลาสามปีแบบนี้”
“ใช่ ใหญ่มาก”
“พี่เขย พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน หากคุณรู้สึกเหนื่อย คุณสามารถบอกพี่สาวและฉันได้ คุณปกป้องครอบครัวนี้ และครอบครัวนี้ก็คือบ้านของคุณเช่นกัน”
ในใจของโล่เฉินรู้สึกถึงความอบอุ่น เขาลูบหัวเล็กๆ ของหานหยู่ถิงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ว่าง่ายดีมาก รีบพักผ่อนเถอะ”
หลังจากออกจากห้องหน้ามุข โล่เฉินก็โทรหาหานหยู่เยน บอกว่าเขาจะอยู่เที่ยวเล่นในฉู่โจวอีกสองวันค่อยกลับไป แน่นอนว่าย่อมได้รับการอนุญาตจากเธอกลับมา
……
คฤหาสน์ตระกูลนิ่ง ในเรือนฝั่งด้านหลัง
“คุณปู่ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คิดว่าโหรวโหรวเป็นอะไร สินค้าหรือ!” ในที่สุดนิ่งจื่อซวนก็บ่นขึ้นมา
“แกไม่เข้าใจ”
“ผมไม่เข้าใจยังไง” นิ่งจื่อซวนเอ่ย “นักบู๊นั้นทรงพลังจริงๆ แต่เขาไม่ใช่คนของสำนักอะไร ก็แค่ผู้ฝึกฝนทั่วๆไปเท่านั้น คนคนเดียว ต่อให้แข็งแกร่งจนก่อให้เกิดคลื่นมากมาย แต่โลกนี้ก็ไม่ใช่โลกของนักบู๊”
ท่านนิ่งเอ่ยแค่นเสียงอย่างเย็นชา “โล่เฉินต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่ ฉันเคยไปเมืองหลวง เคยเจอปรมาจารย์นักบู๊ผู้อยู่สูงส่ง แกรูหรือเปล่า โล่เฉินนั้นมีกลิ่นอายบางอย่างที่อยู่เหนือยิ่งกว่าปรมาจารย์นักบู๊เสียอีก”
“บุคลิกนิสัยแบบนี้เป็นคนเก็บตัวอย่างยิ่ง อีกทั้งยังหาตัวจับยากมาก เป็นฉันที่สายตาเฉียบแหลม ถึงได้มองออก”
“คุณปู่ ความหมายของคุณก็คือ โล่เฉินอาจเป็นปรมาจารย์นักบู๊งั้นหรือ?” นิ่งจื่อซวนตกตะลึง หากเขาเป็นปรมาจารย์นักบู๊ อย่างนั้นก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
ผู้อยู่ในจุดสูงสุดแบบนี้ แม้แต่ในเมืองหลวงก็ถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่
การต้องการผู้หญิงคนหนึ่ง ก็แค่เรื่องง่ายๆ
“ไม่แน่ชัด แต่แกควรรู้ว่า คนที่เป็นนักบู๊ยอดฝีมือตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ อาจารย์ของเขาเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์จะต้องเป็นปรมาจารย์นักบู๊แน่!”
“ใช่!” นิ่งจื่อซวนเปิดหูเปิดตาขึ้นมาทันใด
นิ่งจื่อโหรวในที่สุดก็พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าสีแดง “คุณปู่ หนูคิดว่าตัวเองชอบพี่โล่เฉินเข้าแล้ว”
ท่านนิ่งหัวเราะเบาๆ “โหรวโหรวมีสายตาไม่เลว แต่น่าเสียดาย เขามีภรรยาแล้ว อีกทั้งยังดูเหมือนจะรักเธออย่างสุดซึ้ง”
“ไม่เป็นไร ฉันจะพยายาม”
“เรื่องของความรู้สึกพวกนี้ฉันจะไม่ถาม หากเธอมีวิธีที่จะมัดหัวใจของโล่เฉินได้จริงๆ อย่างนั้นก็ถือเป็นความสามารถของเธอ ตระกูลนิ่งเองก็ได้ติดปีกไปกับเธอด้วย อ้อใช่ จำไว้ว่าจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหานหยู่ถิง จื่อซวนแกก็พยายามเข้า ดีที่สุดคือลงเอยกับหานหยู่ถิงให้ได้”
นิ่งจื่อซวนหัวเราะร่า “เก๋งจีนที่ใกล้น้ำมักได้จันทร์ก่อน ตอนนี้หยู่ถิงอาศัยอยู่ในบ้านของเรา นานวันก่อความผูกพัน เธอจะต้องเป็นคนของผมอย่างแน่นอน”
“อ้อใช่คุณปู่ หยู่ถิงเป็นเพียงคุณหนูจากตระกูลชั้นสาม ไม่เคยมีความสุขกับความรุ่งโรจน์มั่งคั่งมาก่อน ดังนั้นผมตัดสินใจจะมอบทรัพยากรครึ่งหนึ่งโอนให้กับเธอ”
“เงิน รถยนต์หรู แบรนด์ดังทุกประเภท รวมถึงสิทธิพิเศษทุกแบบ ผมคิดว่าหยู่ถิงจะต้องเกิดความประทับใจให้ในไม่ช้า”
ท่านนิ่งพูดอย่างไม่สนใจ “ตามใจแก เงินทองล้วนเป็นของนอกกาย บนโลกใบนี้ ยังต้องการพลังที่แข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้นก็ต้องมีทั้งอำนาจทหารและการเมือง แต่น่าเสียดายที่ตระกูลนิ่งของเราไม่มี ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เหลือแค่วิถีบู๊แล้วเท่านั้น”
“หากมีปรมาจารย์เป็นหลักให้กับตระกูล รัฐบาลก็ยังต้องยำเกรงถึงสามส่วน หากไม่มีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง จุดจบก็คือตระกูลป๋ายแห่งหลิงสุ่ย”
“ต่อให้มีทรัพย์สมบัติมากเท่าไหร่แล้วอย่างไรกัน แค่ชั่วข้ามคืนถูกทำลายล้างไป ทั้งสามชั่วโคตร ตายเรียบ พวกเราตระกูลนิ่งไม่เทียบกับตระกูลซู พวกเขามีผู้สนับสนุนอยู่ในเมืองหลวง ตระกูลโม่เองก็เป็นพี่น้องกับตระกูลซู จื่อซวน แกต้องขยันแล้ว!”
นิ่งจื่อซวนรู้สึกกดดันราวกับแบกภูเขาไท่ซาน เขาประสานกำปั้นและพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณปู่ รอให้พี่โล่มอบวิธีฝึกจิตมา ผมจะเปลี่ยนไปให้ความสำคัญเรื่องการฝึกฝน”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”
“ยังไงก็ตาม คุณปู่ คำเชิญงานเลี้ยงที่จัดโดยตระกูลซูในคืนพรุ่งนี้มาถึงแล้ว คุณจะเข้าร่วมหรือไม่?”
ท่านนิ่งขมวดคิ้วลึก ท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก
นิ่งจื่อซวนกล่าวต่อ “ได้ยินมาว่ามีคุณชายจากเมืองหลวงมาด้วยคนหนึ่ง แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นใคร แต่อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นคุณชายของตระกูลชั้นสองในเมืองหลวงแน่”
“หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน รัฐบาลได้จัดสรรเงินจำนวนสูงถึงหกพันล้านให้กับโครงการในเขตเมืองหลัก จุดประสงค์ของตระกูลซู คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการให้ตระกูลใหญ่ในฉู่โจวได้เห็น ว่าพวกเขามีเส้นสายอยู่ในเมืองหลวง และให้แต่ละตระกูลยอมแพ้ในการแข่งขันซะ”
“โครงการในเมืองหลักนั้น ยังไม่ต้องรวมการจัดสรรเงินจากรัฐบาล เพียงแค่กำไรอย่างเดียวก็หลายหมื่นล้านแล้ว หากตระกูลชั้นสองได้มันไปก็สามารถกระโดดเป็นตระกูลชั้นหนึ่งได้ หากตระกูลซูได้มันไป อย่างนั้นช่องว่างของพวกเขาก็จะยิ่งกว้างใหญ่ขึ้น หากพวกเราคิดจะไล่ตามก็คงยากราวกับฟ้าดิน”