จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 2
บทที่ 2 เปลี่ยนแปลงเพื่อคุณคนเดียว
“หงชาง ทำให้คุณลำบากแล้ว” โล่เฉินเปรยขึ้นเบาๆ
“ไม่ลำบากใจ ไม่ลำบากใจ”
เวลานี้ ต่อให้มีคำพร่ำบ่นมากแค่ไหนก็จะหายไปกินหมอกควัน ฟ่านหงชางจึงสะอึกสะอื้น แล้วพูดในเชิงร้องขอ “อาจารย์ เราเจอกันหน่อยได้ไหมครับ? ”
“ได้สิ คุณนัดมาได้เลย”
“งั้นก็ในตึกซิงหยุน นั่นเป็นกิจการของผม อาจารย์ ผมไปรับอาจารย์ไหม? ”
โล่เฉินปฏิเสธกลับ “ไม่ต้อง ฐานะของคุณชัดเจนเกินไป ฉันไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ทุกอย่างให้เรียบง่าย ไม่ต้องโอ่อ่าอลังการ เข้าใจไหม? ”
“ลูกศิษย์เข้าใจแล้วครับ”
…….
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ในโรงแรมส่วนตัวที่หรูที่สุดของเมืองเจียง ตึกซึงหยุน
นอกห้องเหมาร้านอาหารนภาเบอร์หนึ่ง
มีพนักงานบริการที่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งถามผู้ชายชุดสูทที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้น “ผู้จัดการคะ ผู้เฒ่าเมื่อกี้คือใครคะ ดูสง่าผ่าเผยเลย”
ผู้เฒ่า?
ผู้จัดการตึกซิงหยุนรู้สึกตกใจมากจนหน้าซีด แล้วขึงตาอย่างแรง พร้อมพูดด้วยเสียงต่ำ “ยัยหนู เธอเงียบๆ ที นั่นเป็นเจ้าของของตึกซิงหยุนของพวกเราแน่ะ เป็นเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในเจียงโจว คุณท่านฟ่านหงชาง”
ผู้หญิงคนนั้นจึงอ้าปากเล็กๆ ในใหญ่ ใบหน้าเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ
ต่อให้เธอจะไม่เข้าใจอย่างอื่น ทว่า “เศรษฐีร่ำรวยที่สุดในเจียงโจว” ประโยคนี้ ก็การแสดงทุกอย่างออกมาแล้ว
นึกไม่ถึง ผู้เฒ่าคนนั้นมีฐานะที่สูงส่งขนาดนี้
แต่ว่า……
สาวน้อยคิดไม่ออก เธอก็ไม่กล้าถาม
เมื่อกี้เธอส่งชา จังหวะที่ออกมาแล้วปิดประตู ก็เห็นผู้เฒ่าที่ร่ำรวยที่สุดคุกเข่าตรงหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างชัดเจน!
“เป็นผู้ฝึกอมตะ ผมจะเปลี่ยนแปลงได้ยังไง”
ใช่ โล่เฉินคือผู้ฝึกอมตะ
มีอายุที่อมตะ และได้ผ่านอายุห้าพันปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงวันนี้ น้ำขึ้นน้ำลง ทุกอย่างโล่เฉินเห็นมากับตา
เขาได้ผ่านมาทุกอย่าง
สมัยโบราณเกิดการโยกย้ายตำแหน่ง สมัยปัจจุบันทำสงครามนิวเคลียร์ เบื้องหลังนี้ต่างก็มีเงาของเขาอยู่
เขาเคยเป็นผู้ชายที่อยู่จุดสูงสุดในผืนดินกว้างใหญ่”
อย่างไรก็ตาม
การเป็นผู้ฝึกอมตะก็ไม่ใช่มีความมั่นคงของตลอดชีวิต ทุกๆ หนึ่งพันปีก็จะต้องเผชิญพิบัติอมตะ
และตอนที่พิบัติอมตะมาถึง โล่เฉินก็ตะกลายเป็นคนธรรมดา
นอกจากหน้าตาไม่แก่แล้ว พลังของเขาจะหายไปจนหมด อัศจรรย์ก็จะดับไป สภาพร่างกายจะอ่อนแอไปกว่าคนธรรมดาเยอะ ใครก็สามารถฆ่าเขาได้
และพิบัตินี้ ต้องเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปสิบปีเต็ม
สิบปีก่อน โล่เฉินเจอกับพิบัติ และไม่สามารถไม่ละทิ้งทุกอย่างได้ จากนั้น เขาหนีมาถึงเมืองเจียง แล้วแต่งเข้าไปในตระกูลหาน
เพื่อที่จะไม่เปิดเผยตัวเอง สิบปีนี้เขาทนให้คนเหยียดหยามและแบกรับภาระหนัก ไม่กล้าทำให้รู้จักกันไปทั่ว แม้กระทั่งยังไม่กล้าติดต่อกับลูกศิษย์ที่จงรักภักดีที่สุด
มีชีวิตแย่กว่าหมา
และที่โชคดีคือ เขาได้ผ่านมันมาแล้ว ฟ้าหลังฝนได้เห็นสายรุ้ง
สามวันก่อนพิบัติอมตะผ่านไปแล้ว ทีแรกโล่เฉินคิดว่าจะเฉยๆ กับมัน รอให้ความสามารถฟื้นฟูกลับมาถึงจุดสูงสุดแล้วค่อยไปเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับมา
วันนี้ เขาสนใจมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว
เพราะว่าหานหยู่ยาน
“อาจารย์ครับ ท่านกับลูกศิษย์ติดต่อกันคือฟื้นฟูความสามารถกลับมาหมดแล้วหรอครับ จะกลับไปหลวงไหมครับ ล้างผลาญทุกหลังคาเรือน? ”
ตระกูลฟ่านรับใช้โล่เฉินมาตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน จงรักภักดี จนสืบทอดมาถึงฟ่านหงชางมา214รุ่นแล้ว
โล่เฉินผายมือ “กลับไปเมืองหลวงยังเร็วเกินไปแล้ว ต้องการเวลา ครั้งนี้ตามนายมา จริงๆ แล้วก็เพื่อเรื่องส่วนตัว”
“อาจารย์ครับ เรื่องของท่านก็คือเรื่องของผม”
“นายไปสืบหาหน่อยได้ไหม พ่อตาฉันชนคนตาย แต่ว่าคนๆ นั้นรนหาที่ตายเพื่อเรียกเงิน นายคิดหาวิธีไปไกล่เกลี่ยหน่อย” โล่เฉินพูดขึ้น
“อาจารย์วางใจเถอะครับ ผมจะไปจัดการให้ดี”
ฟ่านหงชางไม่สนใจเลย คนที่เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงโจว จึงควบคุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เรื่องเล็กพวกนี้ก็แค่สั่งไปประโยคเดียว
เขาจึงเปลี่ยนประเด็นคุยทันที แล้วรู้สึกโมโหอย่างมาก “อาจารย์ครับ ตามผมมาเถอะ ทำไมถึงต้องไปเป็นเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหานให้ตัวเองไปเจอเรื่องน่าสมเพชล่ะ แค่อาจารย์บอกหนึ่งคำ ผมสามารถล้างผลาญตระกูลหานทันที เพื่อที่จะระบายความโกรธเพื่ออาจารย์”
“ไม่ต้องหรอก ตอนนั้นฉันเร่ร่อนมาถึงเมืองเจียง ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย คือคุณท่านตระกูลหานช่วยฉันไว้ อีกอย่างยังรู้ฐานะจริงของฉัน ต่อให้เป็นตายยังไงก็จะให้ฉันแต่งเข้าให้ได้”
ฟ่านหงชางทำสีหน้าเปลี่ยนไป แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “คนของตระกูลหานรู้ฐานะของท่าน งั้นก็ยิ่งเก็บไว้ไม่ได้! ”
“ไม่ แค่คุณนายหานรู้เท่านั้น หลังจากที่ฉันแต่งเข้าตระกูลหานมาสามเดือน คุณท่านก็ป่วย แล้วก็ได้นำความลับนี้จากไปด้วย ฉันถือว่าติดค้างชีวิตครึ่งชีวิตกับตระกูลหาน นายไม่ต้องไปเอาเรื่อง อีกอย่าง……”
พูดถึงตรงนี้ โล่เฉินเผยยิ้มอ่อนโยนตรงมุมปากออกมา “ฉันอยู่ในตระกูลหานยังมีของที่ต้องคอยปกป้อง ไม่สามารถจากไปชั่วคราว! ”
“ได้ครับอาจารย์ มีอะไรที่ต้องการก็บอกผมได้หมดทุกอย่างเลย”
“นายกลับเตือนฉันแล้ว” โล่เฉินแค่นเสียงเรียบ “อาจารย์แม่ของนายอยู่กับฉันมาสามปี ตอนนั้นแม้แต่งานแต่งที่เหมาะสมยังไม่มี สามปีมานี้ฉันไม่ได้ส่งของขวัญอะไรให้เธอเลย นายช่วยจัดการหน่อยเถอะ”
ฟ่านหงชางยิ้มพูดขึ้น “ไม่มีปัญหาครับ ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง”
“ฉันไปแล้วนะครับ”
โล่เฉินลุกขึ้น แล้วกำชับขึ้น “จำไว้ ฐานะของฉันห้ามเปิดเผยออกมาเด็ดขาด ตามความสามารถในตอนนี้ของฉัน ถูกสังเกตเห็นต้องตายแน่นอน ไม่มีอะไรก็อย่าติดต่อฉัน มีเรื่องฉันถึงจะตามหานาย”
“ลูกศิษย์จดจำไว้แล้วครับ อำลากท่านอาจารย์”
ฟ่านหงชางทำมือคารวะ แล้วโค้งลำตัวต่ำน้อมคำนับ
…….
แอบออกจากตึกซึงหยุน แล้วกลับบ้าน
หานเจี้ยนเย่ได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว ตำรวจส่งกลับมาด้วยตัวเอง แล้วส่งหัวหน้ามาขอโทษถึงบ้าน
และยังบอกว่าครอบครัวที่ต้องการเรียกเงินถูกลงโทษแล้ว ช่างถึงอกถึงใจจริงๆ
โล่เฉินแอบยิ้มขึ้น ลูกศิษย์คนนี้ของตัวเองทำงานได้ว่องไวจริงๆ
“เจี้ยนเย่ ทำให้ฉันตกใจแทบแย่ คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องระวังตัวหน่อย” หลิวเซียนหลันจึงได้ลูบจับทั้งเรือนร่างของหานเจี้ยนเย่ กลัวว่าจะถูกคนกระทืบตี และมีอะไรที่ขาดหายไป
หานหยู่เยนเช็ดน้ำชา สุดท้ายก็รู้สึกอุ่นใจ
“ที่รัก ทำไมจู่ๆ ตำรวจถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ แม่เป็นคนออกหน้าออกตาหรอ? ” หานเจี้ยนเย่ถามด้วยความสงสัย
หลิวเซียงหลันขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันไปขอแม่ เธอไร้เยื่อใยมาก ไม่ให้เงินหนึ่งล้านอยู่แล้ว แล้วจะเป็นเธอได้ยังไง”
“นี่คุณผิดไปแล้ว ยังไงผมก็เป็นลูกชายของเธอ”
หานเจี้ยนเย่มองออกทุกอย่าง แล้ววิเคราะห์ “หนึ่งล้านสำหรับตระกูลหานไม่ใช่จำนวนเล็กๆ สาเหตุที่ไม่ให้ กลับไม่ใช่เพราะว่าเสียดายเงิน แต่ต้องเกี่ยวข้องกับแม่ คุณดูสิ ไม่ใช่ว่าผมได้ออกมาแล้วหรอ”
หานหยู่เยนก็รู้สึกอัดอั้นใจ พอได้ยินคำพูดนี้ จึงรู้สึกดีใจมาก
“แม่ เรามองคุณย่าผิดไป คุณย่าเป็นคนที่รักหน้ารักตาที่สุด ตอนนั้นมีญาติอยู่เยอะขนาดนั้น จะตกลงได้ยังไง ต้องเพราะว่าแอบใช้เส้นสาย ไม่งั้นพ่อก็ไม่ได้กลับบ้านเร็วขนาดนี้หรอก”
“ใช่ๆๆ ฉันเองที่เหลวไหล! ”
หลิวเซียวหลันรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความเร่งรีบ “เร็ว วันนี้เป็นวันเกิดของแม่ ก่อนหน้านี้ฉันโวยวายขนาดนั้น แม่ต้องโกรธแน่ๆ เวลาก็ยังไม่สาย งานเลี้ยงวันเกิดยังจัดอยู่ เรารีบไปขอโทษเถอะ”
โล่เฉินแค่ยิ้มไม่พูดตลอดมา
เขาไม่ได้ตามไปขอโทษที่บ้านเก่าแก่ หานหยู่เยนทั้งสามจากไป โล่เฉินก็เริ่มทำสมาธิเพื่อปรับร่างกาย และอยากจะกลับมีความพลังให้เร็วที่สุด
และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงตะโกนร้องไห้จึงทำให้เขาตื่นตระหนก
“หย่า หย่าเดี๋ยวนี้ ให้หยู่เยนกับไอ้สวะหย่ากัน”
แม่ยายเป็นอะไรไปอีก?
โล่เฉินแอบขมวดคิ้ว แล้วเงี่ยหูฟังตรงข้างประตู
“ที่รัก คุณรู้ว่าแม่รักหน้ารักตาที่สุด สามปีก่อนโล่เฉินแต่งเข้าตระกูลทำให้กลายเป็นเรื่องตลกของตระกูลหานของเรา นี่ไม่ง่ายเลยที่จะผ่านมาสามปี เมืองเจียงเริ่มลืมเรื่องนี้ ตอนนี้หย่า ไม่ใช่ว่ากำลังจะผลักตระกูลหานไปเจอกับปัญญาอีกหรอ! ”
“นี่ก็ไอ้สวะน่าสมเพช ฉันตาบอดที่แต่งงานกับคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณไม่มีความสามารถ สามปีก่อนคุณท่านจะเอาไอ้สวะโล่เฉินยัดเยียดให้เราได้ยังไง”
“คนอื่นนึกว่าฉันเป็นภรรยาตระกูลชั้นสูง ใครจะรู้ในความทุกข์ยากของฉัน หลายปีขนาดนี้แล้ว ไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่ดีไม่ว่า แล้วยังต้องอดทนกับการข่มเหง คนอื่นๆ ของตระกูลหานอาศัยอยู่ในวิลล่าชั้นดี ขับเบนซ์และบีเอ็ม พวกเราล่ะ…….”
“อยู่ในบ้านจัดสรรที่เก่าแก่ตอนปี 90 บ้านขยะนี้เดี๋ยวก็มีน้ำรั่ว เพราะว่าคุณ แม้แต่ครอบครัวตระกูลฉันยังดูถูกฉัน ไม่ไปมาหาสู่กับฉัน! ”
“ฉันทำไมถึงต้องมีชีวิตที่ลำบากแบบนี้ ช่างโชคร้ายถึงแปดชาติจริงๆ ”
…….
ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของแม่ยาย โล่เฉินยิ้มอย่างขมขื่น
และกำลังถามว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูก็ถูกเปิดออกทันที หานหยู่เยนจึงรีบผลักโล่เฉินกลับมา แล้วปิดประตู
“คุณอย่าออกไปเลย แม่กำลังเครียดอยู่”
“เกิดเรื่องอะไร? ”
หายหยู่เยนทำสีหน้าที่แปลกพิลึก แล้วพูดขึ้น “เมื่อไม่นานมานี้ มีคนส่งสินสอดมาที่บ้านเก่าแก่ ทั้งตระกูลหานจึงแตกตื่นกันขึ้นมา แม่รู้สึกว่าฉันแต่งงานแล้ว ไม่ได้โอกาสได้แย่งชิง ดังนั้นจึงได้โมโห”