จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 27
บทที่ 27 ปลอมเป็นคนที่ตามจีบ
“ปิ่นหงส์หนึ่งคู่ คู่กันชั่วนิรันดร์”
“หยกแก้สลักรูปเป็ดแมนดารินหนึ่งคู่
“ชุดไหมทองหนึ่งชุด รักใคร่ปรองดอง”
เงินสินสอด เก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นหยวน
……
เสียงออ่านรายการสินสอดในวันคล้ายวันเกิด ก็ได้ดังก้องอยู่ในหัวของหานเจี้ยนเย่และภรรยาของเขา หลิวเซียงหลันเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
“ใช่ๆ!”
เธอปกมือ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ “วันนั้นคนที่มาส่งสินสอด บอกว่าเป็นสินสอดของคนแซ่โล่ ที่แท้ก็เป็นดวงน้อยนี่เอง!”
ใบหน้าของโล่เฉิงยิ้มรับอย่างมั่นใจ จิบเหล้าแล้วกล่าว: “คุณน้าหลาน ดูที่คุณน้าพูดสิ หากไม่ใช่ผมแล้วจะเป็นใครละ”
“นายมันนี่ เล่นใหญ่ขนาดนี้ ตอนนี้ลูกสาวในตระกูลหานเพราะสินสอดต่างโต้เถียงกัน คิดไม่ถึง มันกลับตกเป็นของบ้านเรา”
หลิวเซียงหลันมีความสุขชนิดที่พูดไม่ออก สายตาที่มองโล่เฉิงยิ่งอยู่ยิ่งพอใจ
“เดิมทีจะให้หยู่ถิงไปแก่งแย่ง ในเมื่อเป็นของนายที่ให้หยู่เยน เรื่องมันก็ง่ายแล้ว”
เวลาสำคัญก็มาถึงแล้ว
สายตาของทุกคนต่างมองไปที่โล่เฉินและหานหยู่เยน หานเจี้ยนเย่ไม่กล้าออกเสียง หานหยู่ถิงตื่นเต้นในใจ แอบสังเกตท่าทีของโล่เฉิน
หลิวเซียงหลันพูดอย่างไม่อ้อมค้อม กล่าวอย่างบังคับ: “หยู่เยน สินสอดดวงน้อยก็ได้ส่งมาแล้ว ไม่สามารถที่จะคืนกลับไปได้ ไม่อย่างนั้นตระกูลหานจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คุณย่าของเธอก็ไม่มีทางที่จะคืนสินสอด ดังนั้น พวกเธอต้องหย่ากัน ยิ่งเร็วยิ่งดี!”
“เป็นไปไม่ได้!”
“ยัยหนู พูดอีกรอบซิ” หลิวเซียงหลันจ้องอย่างโกรธเคือง
บรรยากาศยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
หานหยู่เยนไม่พอใจ ก็กล่าวอย่างเย็นชา: “แม่คะ แม่เห็นหนูเป็นอะไรเหรอคะ สินค้าเหรอ? ยังมีอีก สินสอดนี้ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของคนอื่น”
โล่เฉิงตกใจ แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า
“ไม่ใช่ดวงน้อยแล้วคือใคร ลูกพูดออกมาสิว่าเป็นใคร?”
“คือ………..”
หานหยู่เยนกัดริมฝีปากแดงเอาไว้ ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง
หลิวเซียงหลันจี้ถาม “คนที่แซ่โล่ และสนใจลูกสาวตระกูลหาน ก็มีแต่ดวงน้อย ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็น! ลูกว่าใคร หรือว่าจะเป็นของคนไร้ความสามารถคนนี้”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ละ!”
“ยัยเด็กบ้า แกมันจงใจจะทำให้แม่อกแตกตายใช่มั้ย เรื่องนี้ก็ตามนี้แหละ ไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว” หลิวเซียงหลันสองมือกอดไว้ที่หน้าอก สีหน้าท่าทางที่ห้ามใครมาต่อต้าน
หานหยู่เยนโมโหจนขึ้นหน้า วิ่งเข้าไปในห้องนอนอย่างรีบร้อน
“พ่อครับ แม่ครับ ผมไปดูเอง”
โล่เฉินรีบตามเข้าไป
หานเจี้ยนเย่ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลาย” หัวเราะฮ่าๆ นิสัยยัยหนูก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่กี่วันก็ดีแล้ว ดวงน้อย มา พวกเรามาดื่มกัน”
“ครับคุณน้าหาน”
ช่วงบ่ายเวลาบ่ายโมง การทานข้าวก็ได้เสร็จสิ้นลง
โล่เฉิงออกจากชุมชนด้วยคำทักทายมากมายของหานเจี้ยนเย่และภรรยา ขับรถมาเซราติไปถึงบาร์เหล้าระดับไฮเอนด์ที่อยู่ในถนนเจี่ยฟ่าง
“พี่เฉิง รอพี่คนเดียวแล้ว”
เพิ่งจะเดินเข้ามา ด้านหน้าของโล่เฉิงมีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามา โจวไท่คุณชายของตระกูลโจว
“พี่ ทางโน้น ผมได้เรียกเด็กสวยๆมาหลายคนเลย”
ในมุม โล่เฉิงที่พิงอยู่โซฟา ซ้ายขาวโอบกอดผู้หญิงไว้
ภายใต้แสงไฟระยิบระยับ เขาใช้สองมือที่ใหญ่ของเขาลูบไล้บนร่างกายของหญิงสาวที่ในอ้อมแขนของเขา และรอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“อาไท่ นายพูดไม่ผิดเลย ผู้หญิงอย่างหานหยู่เยนสวยกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาก และดูเป็นผู้ใหญ่ ตอนนั้นทำไมถึงไม่สังเกตนะ? ไม่อย่างนั้นก่อนที่จะไปต่างประเทศ พี่ต้องฉีกร่างของเธออย่างแน่นอน”
โจวไท่หัวเราะแฮ่ๆ กอดสาวสวยคนหนึ่งเอาไว้ แกว่งแก้วไวน์ที่อยู่ในมือ
“หานหยู่เยนนั้นเดิมก็เป็นสาวสวยที่มีชื่อเสียงในวงสังคมเมืองเจียง แต่ถูกไอ้โล่เฉินที่ไร้ประโยชน์ฉวยโอกาส เหมือนดอกไม้งามที่ไปปักอยู่บนขี้วัว!”
พูดจบ โจวไท่เหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง “พี่ คนที่ผมพูดถึงคือโล่เฉินคนนั้น”
พี่เข้าใจ
โล่เฉิงหรี่ตาลง ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกล่าว “แม่เขาได้บอกพี่แล้ว สามปีมานี้หานหยู่เยนไม่ได้ให้ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้นแตะต้องตัว ยังเป็นเด็กน้อยซิงอยู่”
“จริงหรือเปล่าเนี่ย?” โจวไท่ตาเป็นประกาย “พี่ งั้นพี่ก็ได้พลอยเม็ดงามแล้ว รีบสวมเขาให้ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้นเลย น่าตื่นเต้นดี!”
“ไม่รีบร้อน ผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป”
โล่เฉิงท่าทางเหมือนเป็นผู้ควบคุมเกมทั้งหมด เขากดสาวสวยคนหนึ่งไว้ด้านล่าง ดื่มไวน์แดง พูดด้วยเสียงแข็ง: “ครั้งที่พี่มาเมืองเจียง หนึ่งคือเรื่องก่อตั้งองค์กรการค้าในเมืองเจียงที่กำลังจะแล้วเสร็จ สองคือเพื่องานวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีของคุณท่านเสี้ยง”
“จีนหลิงตระกูลเสี้ยง?”
“ใช่”
โจวไท่สูดลมหายใจเข้า
จีนหลิงคือเมืองเอก และตระกูลเสี้ยงก็เป็นตระกูลอันดับหนึ่งอันดับสองในจีนหลิง
คุณท่านเสี้ยงเป็นนักรบมาทั้งชีวิต มีฐานะทางสังคมที่สูง ต่อให้สมาชิกในจีนหลิงเห็นแก ก็ต้องทักทายแกอย่างมีมารยาท กราบไหว้คุณท่านเสี้ยง
“พี่เฉิง ได้ยินมาว่าตระกูลโล่กับตระกูลเสี้ยงไม่ถูกันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังจะไปอวยพรวันเกิดอีกละ?”
“อวยพรวันเกิด? เห่อ นายคิดมากไปแล้ว”
โล่เฉิงทำหน้าดูถูก แล้วกล่าว: “คุณท่านเสี้ยงมีอาการเจ็บป่วยภายใน ช่วงนี้ตระกูลเสี้ยงในจีนหลิงมีความเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง เห็นได้ชัดว่าคุณท่านเสี้ยงน่าจะเหลือเวลาไม่นานแล้ว เมื่อคุณท่านเสี้ยงเสียชีวิต ตระกูลเสี้ยง ก็จะต้องยอมจำนนแทบเท้าของตระกูลโล่”
“วันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีนี้ ฉันจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่คุณท่านเสี้ยง”
โจวไท่วางตัวเป็น ไม่กล้าถามให้มากความ
นี่เป็นความขัดแย้งของตระกูลใหญ่ในเมืองจีนหลิง เขาที่เป็นคุณชายของตระกูลชั้นสองของเมืองเจียง อยู่ต่อหน้าคุณชายใหญ่ของจีนหลิงเขาอะไรก็ไม่ใช่
ที่เขาโชคดีที่ได้รู้จักกับโล่เฉิง ก็เพราะว่าโจวไท่ได้มอบผู้หญิงที่เป็นรักแรกพบของตัวเองให้กับโล่เฉิง
นั่นคือสาวสวยที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่เพิ่งออกมาจากชนบท ถูกโจวไท่ใช้คารมหลอกล่อมาจนได้ ยังไม่ทันได้เปิดบริสุทธิ์เลย เพื่อจะประจบเอาใจโล่เฉิง จึงได้มอบแฟนสาวออกไปอย่างโหดเหี้ยม
สำหรับผู้หญิงคนนั้นตอนนี้เป็นยังไง โจวไท่ก็ไม่รู้ ไม่กล้าพูดและไม่กล้าถาม
……
หลังจากที่ “ดวงน้อย” มาก่อกวน หลิวเซียงหลันยิ่งมองโล่เฉินก็ยิ่งขัดหูขัดตา บ่นพึมพาทั้งวัน ปากยังไม่ได้หยุดพักเลย
หลังจากที่หยู่เยนออกไปที่บริษัทแล้ว โล่เฉินก็รีบออกจากบ้านทันที
“เฮ้ย ยืนอยู่ตรงนั้นเลย!”
“หืม?”
โล่เฉิงหันหน้ากลับมา ก็เห็นว่าหานหยู่ถิงเดินตามออกมา หัวเราะถาม: “คุณน้าที่น่ารัก มีอะไรจะให้รับใช้ครับ?”
“ใครเป็นน้านาย”
หานหยู่เยนถลึงตาใส่ แล้วกล่าว: “ตอนเที่ยงบนโต๊ะอาหารแม่ให้นายหย่ากับพี่สาว ทำไมฉันรู้สึกว่าพี่ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย พี่ไม่เสียดายเหรอ?”
“ที่เธอตามออกมาก็เพื่อมาถามเรื่องนี้?”
โล่เฉิงมองไปบนท้องฟ้า อธิบายอย่างเรียบเฉย: “หากหยู่เยนอยากจะหย่าจริงๆ ฉันก็ไม่ขัดขวาง เธอมีสิทธิ์ที่จะตามหาความสุขของตัวเอง แต่ว่า……..”
“แต่ว่าอะไร?”
“หากหยู่เยนไม่เต็มใจ ใครก็ยากที่จะมาแยกพวกเราออกจากกัน ผู้ชายเจ้าสำราญคนนั้นไม่ได้ พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ ตระกูลหานยิ่งไม่ได้เด็ดขาด!”
หานหยู่ถิงอึ้งไปสักพัก ก็วิ่งไปสองสามก้าวเพื่อไปใกล้โล่เฉิน “เห่อๆ มีมาดขึ้นมาหน่อย พูดใครๆก็พูดได้ เพียงแต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับฉัน นายมากับฉัน มีเรื่องให้นายช่วย”
“อะไร?”
“ขึ้นรถ”
หานหยู่ถิงสวมแว่นกันแดด ตอนนี้เธอดูมีสไตล์มาก แถมยังขับรถบีเอ็ม540 ยังเป็นสีแดงที่สั่งทำโดยเฉพาะ ดูดีมีระดับ
หัวของโล่เฉินมึนงง
รถได้ขับออกไปจากชุมชน หานหยู่ถิงจึงได้พูดขึ้นมมา: “เพื่อนสมัยมัธยมนัดกินข้าวกัน ทุกคนต่างมีแฟน หากฉันไปคนเดียวก็ขายหน้าแย่เลย”
“แม่ง เธอจะให้ฉันปลอมเป็นแฟนเธอ? หากพี่สาวของเธอรู้ คงจะด่าเธอยับ ฉันเป็นพี่เขยเธอนะ” โล่เฉินสีหน้าแปลกประหลาด ตะโกนพูด
“หุบปาก”
หานหยู่ถิงจ้องมองเขาไปแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเย็นชา: “ข้อหนึ่ง เรื่องนี้ห้ามบอกพี่สาวฉัน ไม่งั้นนายเจอดีแน่ ข้อสอง นายไม่มีสิทธิ์มาปลอมเป็นแฟนฉัน นายแค่แสดงว่ากำลังตามจีบฉัน”
โล่เฉินลูบจมูกตัวเอง รู้สึกว่าสนุกดี แล้วถาม: “ทำไมถึงหาฉัน? ไม่มีคนจีบเธอใช่มั้ย ฉันเป็นถึงเขยที่ไร้ประโยชน์ เธอไม่กลัวคนจะรู้เข้าเหรอ”
“ผู้ชายของฉันหานหยู่ถิงต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ อย่างน้อยก็ต้องเป็นคุณชายในเมืองจีนหลิง เมืองเล็กๆอย่างเมืองเจียง พื้นที่เล็กๆแบบนี้ ไม่มีผู้ชายที่ดีๆเลย ฉันไม่ชอบ”
หานหยู่ถิงหยิ่งผยองมาก เธอนิ่งแล้วขมวดคิ้ว
“พูดอีกที นายเป็นเขยไร้ประโยชน์ที่มีชื่อเสียงจริงๆ หากถูกจับได้ก็คงอายน่าดูเลย!”
โล่เฉินยิ้มแต่ไม่พูด
แม้ว่าเขยไร้ประโยชน์คนนี้จะดัง แต่คนที่เคยเห็นเขามีไม่มาก ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ
อีกอย่าง ตระกูลหานก็แค่ตระกูลเล็กๆ นอกจากคนที่จ้องเล่นงานตระกูลหาน ใครจะมีกะจิตกะใจมาสนใจเรื่องเขยไร้ประโยชน์ละ ใช่ว่ากินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ
“ช่างเถอะ เวลาไม่ทันแล้วลองเสี่ยงดูสักตั้งละกัน หลังจากเรียนจบมัธยม พวกเขาบ้างก็ไปต่างประเทศบ้างก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยนอกเมือง ตามหลักน่าจะไม่เคยเห็นนายมาก่อน”
“แล้วแต่เธอ เธอจัดการ”
หานหยู่ถิงเห็นโล่เฉิงหรี่ตาลงเหมือนจะหลับ ก็อารมณ์ปี๊ดขึ้นมาทันที “เฮ้ย เรื่องของฉัน ใส่ใจหน่อย ต้องมีมาดคุณชาย หากถามกันขึ้นมาฉันก็บอกว่ารถบีเอ็ม540นายเป็นคนซื้อให้ฉัน”
“ก็ฉันเป็นคนให้อยู่แล้ว”
“นายบ่นอะไรเนี่ย?”
โล่เฉินทำท่าหาว พูดส่งๆ: “สถานที่นัดเจอกันอยู่ไหน หากไกลฉันของงีบสักหน่อย”
หานหยู่ถิงไม่ได้สนใจเขา
ผ่านไปเครื่องชั่วโมง รถก็มาจอดที่ถนนเจี่ยฟ่าง จอดรถตรงคลับตี้หาว
ตรงนี้เป็นถนนที่เต็มไปด้วยบาร์เหล้า คลับตี้หาวก็เป็นสถานที่มีระดับของเมืองเจียง บริการชั้นเลิศ ผู้หญิงก็สวย คนที่มาใช้บริการต่างเป็นคนที่มีฐานะทั้งนั้น
เมื่อลงจากรถ หานหยู่ถิงก็กำชับอย่างจริงจัง พยายามพูดให้มันน้อยๆ อย่าให้มีพิรุธ หากทำให้ฉันขายหน้า กลับไปฉันจะจัดการนายอย่างแน่นอน