จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 65
บทที่ 65 มาดูเอง
“สุสาน? ”
โล่เฉินรู้สึกสนอกสนใจขึ้นมา เขาเอ่ยถาม “ได้ยินน้ำเสียงของอัยการสูงสุด สุสานนี้มีอะไรผิดปกติ? ”
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ในตอนแรกชาวบ้านหลายคนรีบเข้าไปในสุสาน แต่กลับเสียชีวิตขึ้นมา เรื่องนี้สะท้านไปทั้งสถานีตำรวจ นักสืบมืออาชีพพร้อมอุปกรณ์เข้าไปเพื่อสอบสวน แต่กลับหมดสติไปเหมือนกันหมดและตกอยู่ในอาการโคม่า ตอนนี้เพิ่งเข้าใจแล้วว่า ในสุสานมีพิษชนิดหนึ่งอยู่ในนั้น”
หลินหยุนเซียวกล่าว “เหล่าตี๋ เรื่องพิษนายสืบหาแหล่งที่มาได้หรือยัง?”
ตี๋เทียนหนันส่ายหัว “ยัง พิษชนิดนี้ไร้สีไร้กลิ่น อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ต่อให้สวมหน้ากากกันพิษก็ยังถูกยาพิษจนสลบไปได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนที่ถูกยาพิษจนสลบไปล้วนอยู่โรงพยาบาลไร้หนทางรักษา ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย!”
“เหล่าตี๋ นายโง่หรือไง หมอเทพไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยหรอกหรือ” หลินหยุนเซียวหัวเราะ
“ใช่สิ!”
ตี๋เทียนหนันรู้สึกยินดี เขาพูดอย่างคาดหวัง “หมอเทพ หมอผู้มีเมตตา โปรดเหล่าสรรพสัตว์ ไม่ทราบว่าคุณจะช่วยยืนมือสหายเหล่านั้นได้หรือไม่ พวกเขายังเด็ก ในนั้นมีคนหนึ่งอายุเพียงยี่สิบปี ยังไม่ทันได้แต่งงานด้วยซ้ำ”
“เรื่องเล็กน้อย ตอนบ่ายผมจะไปโรงพยาบาลดูให้”
ตี๋เทียนหนันหยิบแก้วขึ้นมา ความกังวลระหว่างคิ้วหายไปและพูดอย่างเคร่งขรึม “หมอเทพ ผมขอดื่มให้คุณอีกแก้ว”
“สุสานนั่นอยู่ที่ไหน?”
“หมู่บ้านเหอฮัว”
โล่เฉินรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ เพียงครู่เดียวก็จำขึ้นมาได้ว่า ฉู่เฟิงที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้ บ้านเกิดของเขาอยู่ที่หมู่บ้านเหอฮัว
สิบห้านาทีหลังจากนั้น โล่เฉินก็ออกมาจากห้องส่วนตัว โดยมีเลขาจ้าวออกมาส่ง
“เลขาจ้าว หยางคางนั่นเป็นลูกพี่ลูกน้องชายคนโตของผม เขาให้ผมมาพูดเรื่องดีๆ กับคุณสักหน่อย เมื่อครู่คุณถือเสียว่าไม่ได้เกิดขึ้นเถอะ”
“ไม่มีปัญหา นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
โล่เฉินขอบคุณเขาและกลับไปที่ห้องของตัวเอง
กลุ่มของหยางคางแววตากำลังลุกเป็นไฟ พวกเขาอยากถามแต่ก็เป็นกังวล กลัวว่าเรื่องราวจะไม่ได้รับการจัดการที่ดี
โล่เฉินมองดูแล้วรู้สึกขำ เขาทิ้งคำพูดไว้ “ไม่เป็นไรแล้ว”
ฟู่!
ทั้งบ้านป้าใหญ่โล่งใจ
“พี่เขย ผมขอดื่มให้คุณ”
หยางคางยกแก้วขึ้น
ถัดมา พวกโล่เฉินก็กลายเป็นจุดสนใจ และเปลี่ยนสถานะไปอย่างรวดเร็วอย่างยิ่ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา งานเลี้ยงก็แยกย้าย
ระหว่างทางกลับบ้าน หลิวเซียงหลันหน้าแดงก่ำอารมณ์ดี “ช่างเป็นพวกขี้ประจบเสียจริง พอเห็นว่าโล่เฉินรู้จักกับอัยการสูงสุด แต่ละคนก็รีบเข้ามาประจบสอพลอ หยู่เยนถิงถิง ป้าใหญ่ของเธอแม้แต่หน้าตาก็ไม่มีแล้ว ท่าทางราวกับกินขี้ สะใจเสียจริง!”
“แม่ ทั้งหมดเป็นเครดิตของโล่เฉิน” หานหยู่เยนเอ่ยชมขึ้น
“อ้อใช่ โล่เฉินนายรู้จักกับอัยการสูงสุดได้อย่างไร? มีความสัมพันธ์ระดับนี้ทำไมไม่รู้จักใช้ประโยชน์ ให้อัยการสูงสุดใช้เส้นสายสักหน่อย ครอบครัวของเราทำอะไรก็ราบรื่นแล้ว! ”
โล่เฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ผ่านไปสักพัก เขาจึงอธิบายเหตุผลขึ้น “ไม่นับว่าเป็นอะไร ครั้งที่แล้วขณะกินข้าวกับหยู่เยน พนักงานในร้านอาหารดันล้มลม ผมตาไวมือเร็วเลยช่วยอัยการสูงสุดเอาไว้ให้หลีกเลี่ยงการถูกลวก เขาบอกว่าเขาติดหนี้ผมครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ หยู่เยนเองก็รู้”
หานหยู่เยนฉลาดอย่างยิ่ง เธอแสร้งทำเป็นรู้ตัวในทันทีทันใดและกล่าวว่า “อ่อที่แท้ผู้ชายคนนั้นก็คืออัยการสูงสุดนี่เอง ช่างบังเอิญเสียจริง”
“แบบนี้เองหรือ”
หลิวเซียงหลันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอเอ่ยอย่างโกรธ ๆ ว่า “เจ้าเด็กไม่รักดี ติดค้างน้ำใจอัยการสูงสุดครั้งหนึ่ง แต่ดันเอาไปใช้แบบนี้ อีกทั้งยังช่วยหยางคาง โง่จริง หากเอามาใช้กับพวกเราเอง ไม่แน่ว่าอาจได้โบยบินขึ้นสู่จุดสูงสุดไปแล้ว”
“โอ้ยแม่ อย่าทะเยอทะยานเกินไปหน่อยเลย คนเขาเป็นถึงอัยการสูงสุด ไม่มาเอาจริงเอาจังอะไรกับพวกเราหรอก ต่อให้ติดค้างน้ำใจก็ไม่มีทางจริงจังด้วยหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เป็นแม่เองที่ให้โล่เฉินช่วยเหลือนหยางคาง แม่ไม่ได้สะใจนักหรอกหรือ! ”
หานหยู่เยนพูดสวนขึ้น จน หลิวเซียงหลันพูดไม่ออก
หลังจากพาพ่อตาแม่ยายและน้องสะใภ้กลับไปที่ไห่ถังหัวฝู่ โล่เฉินก็ขับรถพาหานหยู่เยนไปส่งที่บริษัท จากนั้นเขาก็ติดต่อกับตี๋เทียนหนันและมาที่โรงพยาบาล
“หมอเทพ เชิญทางนี้”
ในการนำของตี๋เทียนหนันไปยังห้องคนป่วย โล่เฉินแค่มองก็รู้ถึงพิษนี้ในแวบแรก มันรุนแรงอย่างยิ่ง ในอากาศมีสารพิษจาง ๆ ซ่อนอยู่
เพียงแต่ว่าเล็กน้อยอย่างยิ่ง
หากการอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ในระยะยาว ก็อาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้เช่นกัน
“อธิบดี คุณออกไปเถอะ ผมจะรักษาเอง นอกจากนี้ คุณเรียกพยาบาลและแพทย์ที่อยู่ในห้องนี้ในช่วงไม่กี่วันมานี้ให้มารวมตัวกัน”
“เอ่อ ได้”
ตี๋เทียนหนันรู้สึกสับสน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากความ
เมื่อประตูปิดลง โล่เฉินก็เข้าได้ตรวจสอบสุขภาพของผู้ป่วยอย่างระมัดระวัง เขายิ่งรู้นึกสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เดิมเขาตั้งใจจะไปที่หมู่บ้านเหอฮัวในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว
“สุสานนั่น จะต้องมีอะไรบางอย่างแน่ นี่ไม่ใช่ยาพิษทั่วไป”
มันเป็นพิษที่รุนแรงอย่างยิ่ง
แต่ภายใต้เข็มมังกรเก้าหาง มันกลับไม่นับเป็นอะไรเลย
โล่เฉินเคลื่อนไหวทักษะมืออย่างชำนาญ หลังจากรักษาผู้ป่วยห้าคนเขาก็อ่อนแรงอยู่บ้าง นี่กินกำลังมากไป เขานั่งลงปรับลมหายใจอยู่ไม่กี่นาที ก่อนจะเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย
“หมอเทพ เป็นอย่างไรบ้าง?”
ตี๋เทียนหนันรีบเข้ามาทันทีและถามด้วยความกังวล
“ไม่เป็นไรแล้ว สารพิษถูกล้างออกแล้ว และจะตื่นในอีกหนึ่งชั่วโมง แต่ร่างกายของพวกเขายังอ่อนแอและต้องได้รับการปรับสภาพ”
“สมกับที่เป็นหมอเทพ ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”
โล่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงมองไปที่หมอและพยาบาลที่ถูกเรียกขึ้นมาไม่ไกลออกไป คนเหล่านี้ล้วนเคยเข้าไปในห้องผู้ป่วย ย่อมได้รับผลกระทบไปไม่มากก็น้อย
ถึงแม้จะไม่ถึงกับโคม่า แต่ก็ไม่ดีกับร่างกาย
เนื่องจากมันเล็กน้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องใช้เข็มมังกรเก้าหาง โล่เฉินแอบกระทืบเท้าลับๆ จากนั้นจึงใช้พลังทิพย์แบ่งออกเป็นสายผ่านพื้นดินเข้าสู่ร่างกายภายในของหมอและพยาบาล
“ไม่มีอะไรแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายเถอะ ผมกลับแล้ว”
ตี๋เทียนหนันไม่เข้าใจ เขาโบกมือให้ผู้คนแยกย้ายและเอ่ยถาม “หมอเทพ ผมไปส่งคุณ?”
“ไม่ต้อง ผมมีรถ ไปก่อนครับท่านอธิบดี หากมีโอกาสไว้พบกันใหม่”
โล่เฉินรีบออกจากโรงพยาบาลและขับรถมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านเหอฮัว
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง
รถ BMW คันหนึ่งปรากฏตัวบนถนนในหมู่บ้านเหอฮัว ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านจำนวนมาก
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ยากจนภายใต้เมืองเจียง ถนนหนทางยังไม่ได้รับการพัฒนา อย่าว่าแต่รถ BMW ในปกติแค่รถยนต์คันหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องแปลกแล้ว
รถถูกจอดไว้บนพื้นหญ้า โล่เฉินเพิ่งลงจากรถก็ได้ยินเสียงร้องดังแจ้วขึ้นมาจากด้านหลังเขา “สวัสดีพี่ชาย คุณต้องการซื้อดอกไม้ไหม? หนึ่งเหรียญสิบดอก ดอกไม้สวยมากๆ เลย”
โล่เฉินหันไปมอง ก่อนจะเห็นเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในวัยสิบสามสิบสี่คนหนึ่ง
หญิงสาวไว้ผมหางม้า ใบหน้าของเธอยังคงประดับไว้ด้วยความไร้เดียงสาและอ่อนโยน ดวงตาทั้งสองข้างสุกสกาวบริสุทธิ์ แต่มือเล็กๆ กลับมีรอยแผลมากมาย
“ดอกไม้ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนเก็บหรือ?”
“ใช่” เด็กสาวตอบ
“เธอชื่ออะไร? ”
“หมู่ตัน”
โล่เฉินถาม “ทำไมมือถึงได้มีรอยแผลมากมายขนาดนี้?”
หมู่ตันมองไปที่มือเล็ก ๆ ของตน เธอหัวเราะฮ่า ๆ “เก็บดอกไม้แล้วถูกหนามแทงเข้าให้ พี่ชาย คุณจะซื้อดอกไม้ไหม หนึ่งเหรียญสิบห้าดอก หนูให้คุณเพิ่มอีกห้าดอก เป็นไงคะ?”
“ดอกไม้ทั้งหมดนี้ฉันเอา”
โล่เฉินหยิบถุงในมือของโบตั๋นและวางใส่ในรถ จากนั้นจึงหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนจากกระเป๋าและยัดเข้าไปในมือของเธอ ของ
“ไม่ต้องทอนแล้ว”
“หา? ”
หมู่ตันตกตะลึงจนตอบสนองไม่ทันอยู่บ้าง
เงินหนึ่งร้อยหยวน สำหรับเธอนี่มันมากเกินไป สำหรับเธอแล้วนี่คือเงินที่นับไม่ถ้วน
“หมู่ตัน พี่ชายถามหน่อย ในหมูบ้านนี้มีการขุดสุสานใช่ไหม?”
“ใช่ อยู่ด้านหลังภูเขา”
หมู่ตันกำเงินหนึ่งร้อยหยวนแน่นและถามว่า “พี่ชาย คุณอยากไปหรือ หนูนำทางให้คุณได้ หนูเก็บดอกไม้มาจากแถวๆ สุสาน”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
เมื่อครู่โล่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง ดอกไม้นี้สีสันสดใสเกินไป ราวกับภาพวาด ไม่คล้ายกับความเป็นจริงอยู่บ้าง
เติบโตข้างสุสาน อย่างนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
“เธอนำทางไป ถึงที่นั่นแล้วจะให้เธออีกร้อยนึง”
“ไม่ต้องไม่ต้อง พี่ชายคุณให้มาเยอะมากแล้ว แม่จะต้องดีใจมากแน่ คุณตามหนูมา หนูจะนำคุณไป”
หมู่ตันเดินนำด้านหน้า
ระหว่างทาง เธอกระซิบบอกไม่หยุด “พี่ชาย สุสานนั้นแปลกมากๆ คุณจะต้องระวังหน่อย มีคนในหมู่บ้านหลายคนตายไป ตำรวจเองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ชาวบ้านต่างบอกว่ามีผีอยู่ในสุสาน ตอนนี้หลังภูเขาเป็นที่ต้องห้าม ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าเข้าไป! ”
“วางใจเถอะ ฉันรู้จักตัวเองดี”
“พี่ชาย หนูจะบอกความลับให้อย่างหนึ่ง”
“อะไร? ”
หมู่ตันหันหลังกลับและเดินถอยหลังมาจากนั้นจึงกระซิบอย่างมีลับลมคมใน “หนูเห็นพี่สาวคนสวยเดินเข้าไปในสุสาน พี่สาวที่สวยมากๆ”