จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 81
บทที่ 81 ผู้ชายเอวไม่ดี ทุกอย่างล้วนเป็นศูนย์
โล่เฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น การแสดงออกของหานหยู่ถิงผิดปกติไป
เขานึกไปถึงตนเองที่วางกล่องของขวัญไว้บนโต๊ะในตอนกลางวัน จากนั้นก็พุ่งเข้าไปห้องน้ำเสียก่อน
หรือว่า…
“มาแล้ว มาแล้ว! ”
หานหยู่ถิงเดินมาที่โต๊ะพร้อมกับกล่องของขวัญ ด้านหนึ่งรื้อมันออกส่วนอีกด้านเอ่ยพึมพำ: “ถ้าเป็นของขวัญบัดสีบัดเถลิงอะไรขึ้นมา นายเสร็จแน่”
หลิวเซียงหลันสองสามีภรรยาเองก็ยื่นหน้ามาดู ส่วนหานหยู่เยนไม่สนใจกินต่อไป
“อ๊าย!”
ทันใดนั้น หานหยู่ถิงก็อุทานออกมา
หานหยู่เยนเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “เล่นอะไรน่ะ”
“ พี่สาว นี่ …”
ใบหน้าของหลิวเซียงหลันเปลี่ยนไป จากนั้นจึงหันไปมองโล่เฉินด้วยความโกรธ “นายสมควรจะอธิบายกับฉันหน่อยรึเปล่า!”
“มันคืออะไร? ”
โล่เฉินคิดจะหยิบกล่อง แต่หานหยู่ถิงกลับปัดมือเขาออก
“ดีนี่โล่เฉิน มีคนถึงกับส่งของใช้ส่วนตัวแบบนี้มาให้นาย ยังกล้าบอกอีกว่าตนเองกับอีกฝ่ายไม่มีอะไรต่อกัน ต้องเป็นชู้กันแน่ๆ ”
“ให้ฉันดู”
หานหยู่เยนคว้ากล่องของขวัญไป หลังจากดู สีหน้าก็นิ่งอึ้งไปเช่นกัน
โล่เฉินสีหน้างงงวยและชะโงกหน้าไปดู จากนั้นทั้งตัวก็นิ่งงันไปราวกับไก่ตาแตก
เขาเห็นเพียง
ภายในกล่องมีชุดชั้นในสีชมพูวางอยู่อย่างสงบเรียบร้อย
เกิดอะไรขึ้น?
“ยังมีจดหมายอีกหนึ่งฉบับ”
หานหยู่ถิงเปิดออก หลังจากมองดูก็ตะโกนว่า “จริงๆ ด้วย นายนอกใจพี่สาว”
“ หยู่ถิง บนนั้นเขียนว่าอะไร” หลิวเซียงหลันถามด้วยเสียงทุ้ม
“แม่ หนูจะอ่านให้พวกคุณฟัง”
หานหยู่ถิงกระแอมในลำคอและเริ่มอ่านขึ้น:
พี่โล่ ได้พบคุณในคืนนั้น คุณพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของชีวิตและอุดมคติกับฉัน ฉันมีความสุขมาก คุณชอบชุดชั้นในของฉันไม่ใช่หรือ ฉันให้คุณ พี่จำไว้ว่าอย่าลืมโทรกลับมาหาฉัน ครั้งหน้าฉันจะให้เสื้อผ้าส่วนตัวที่แนบสนิทเสียยิ่งกว่านี้ ลายเซ็น: หลิน
“แม่ คุณดู นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำกันหรือไง!”
หานหยู่ถิงตบจดหมายลงบนโต๊ะ สองมือเท้าสะเอว ราวกับแม่เสียตัวหนึ่ง เธอถลึงตาต้องโล่เฉิน “เกี่ยวกับเรื่องราวของชีวิตและอุดมคติ ไปคุยกันที่ไหนกัน โรงแรมหรือไง? แถมยังไปชอบเสื้อผ้าแนบเนื้อของคนอื่นอีก นายมันไอ้โรคจิตแถมยังหน้าไม่อาย!”
ใบหน้าของโล่เฉินเป็นสีดำ
หลินชิงอี๋ไม่มีทางไร้มารยาทขนาดนี้ เห็นชัดว่า น้องเมียของตนเปลี่ยนของขวัญไปแล้ว
“แม่ แม่ดูสิดูเหมือนว่าบรานี่จะยังไม่ได้ซักด้วยซ้ำ มันถูกใส่มาแล้ว น่าขยะแขยงจริงๆ ไอ้โรคจิต แม่จะต้องสั่งสอนมันนะ!”
ใบหน้าของหลิวเซียงหลันมืดมน ในขณะที่หานเจี้ยนเย่ขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา
หานหยู่เยนมองไปที่บราตัวนั้น จากนั้นจึงมองไปที่จดหมายและสุดท้ายก็เหลือบไปที่หานหยู่ถิง เธอกุมขมับ สีหน้าอ่อนใจ
“ลายเซ็นเป็นหลิน ไม่ใช่เซี่ย นี่หมายความว่านอกจากเซี่ยซือหานเมียน้อยนั่นแล้ว ยังมีเมียน้อยคนอื่นอีก คิดไม่ถึงเลยว่านายจะกล้าขนาดนี้ วันนี้ ถ้านายไม่ยอมรับออกมาดีๆ ฉันจะต้องรอดูนายไสหัวออกจากบ้านให้ได้! ”
“พอได้แล้ว! ”
ทันใดนั้น หานหยู่เยนก็เอ่ยเสียงเย็น
หานหยู่ถิงตกใจจนขวัญกระเจิง เธอเอ่ยเสียงอ่อน “พี่สาว พี่อย่าเพิ่งโกรธ ไอ้สารเลวคนนี้ให้แม่สั่งสอน! ”
“ฉันหมายความว่าเธอก่อเรื่องพอแล้วหรือยัง!”
“หา? ” ดวงตาของหานหยู่ถิงร้อนตัวขึ้นมาเล็กน้อย และพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ: “พี่ พี่เป็นอะไรเนี่ย มาด่าฉันทำไม”
“ ทำไมด่าเธอ ในใจเธอรู้ดีไม่ใช่หรือไง โตขนาดนี้แล้วยังเล่นสนุกกับเรื่องแบบนี้ มองดูลายมือบนกระดาษนั้น ไม่ใช่ลายมือเธอหรือยังไง!”
หลิวเซียงหลันหนังตากระตุก เมื่อมองดูดีๆ อีกครั้ง สีหน้าก็แปลกไปขึ้นมา
หานหยู่ถิงกระวนกระวายใจ เธอแอบกำมือเงียบๆ และทำปากมุ่ย “พี่ พี่ดูผิดไปแล้ว จะเป็นลายมือของฉันได้ยังไง! ”
“แล้วบรานั่นล่ะ เธอกล้าพูดรึเปล่าว่าไม่ใช่ของเธอ?”
“ไม่ใช่ของฉัน.”
หานหยู่เยนแค่นเสียง: “เมื่อวานฉันเก็บเสื้อผ้า ฉันยังจำบรานี่ได้แม่นดี ไซส์นี้ ไม่ใช่ของเธอแล้วจะเป็นของใคร จะต้องให้ฉันไปคุ้ยตู้เธอออกมาตอนนี้แล้วดูไหมว่ามีบราสีชมพูอยู่รึเปล่า”
“ ฉัน ฉัน …”
“เช้าจรดค่ำ ไม่รู้จักทำเรื่องเป็นการเป็นงาน เธออายุยี่สิบแล้ว เป็นสาวเป็นแส้แล้ว ทำไมถึงยังได้ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ คิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่หรือยังไง!”
หานหยู่ถิงดวงตาแดงก่ำ
จากนั้น น้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงมา
เมื่อเห็นดังนี้ หลิวเซียงหลันก็รีบเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ “เอาเถอะเอาเถอะ ก็แค่เรื่องล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ลูกรัก ไม่ร้องไม่ร้อง”
“พอได้แล้ว มานั่งกินข้าวกันเถอะ”
เมื่อเห็นหานหยู่ถิงร้องไห้ หานหยู่เยนเองก็ขี้เกียจจะไปตำหนิ
โล่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “หยู่ถิง พี่เขยไม่โทษเธอ ฉันรู้ ว่าเธอหวังดีกับพี่สาวของเธอ แต่ฉันขอยืนยันอีกครั้ง ฉันไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อพี่สาวของเธอ ฉันรักแค่พี่สาวของเธอคนเดียวเท่านั้นตลอดไป! ”
หานหยู่เยนรู้สึกอายอยู่บ้าง เธอก้มหน้าก้มตากินข้าว
หานหยู่ถิงปาดน้ำตา ท่าทางยังคงดื้อดึงอย่างยิ่ง “ฉันมักรู้สึกว่านายน่าสงสัย แต่แค่ไม่มีหลักฐาน”
“อย่ามัวแต่มานั่งระแวงอยู่เลย ถ้าทั้งวันเธอไม่มีอะไรทำก็ไปที่บริษัท ตามเซี่ยซือหานไปไลฟ์สตรีมด้วยกันเลย เธอหน้าตาดีขนาดนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะดังได้เหมือนกัน”
ดวงตาของหลิวเซียงหลันสว่างขึ้น เธอตัดสินใจ
“หยู่ถิง ทำตามที่โล่เฉินบอก พรุ่งนี้ลูกไปที่บริษัทด้วย”
“ แม่ ทำไมตอนนี้แม่ถึงได้ฟังโล่เฉินแล้ว?”
หลิวเซียงหลันกลอกตา ด้านหนึ่งทานอาหารด้านหนึ่งเอ่ย “ดูคำพูดคำจาลูกสิ ขอแค่ทำเรื่องมีประโยชน์กับครอบครัวก็ถือว่าถูกต้องแล้ว ถ้าลูกดังขึ้นมาแบบนั้นก็สามารถหาเงินให้ครอบครัวได้ ลูกไม่ได้ชอบวิลล่าหรือ รอให้พวกเรามีเงิน ก็จะซื้อวิลล่าได้ ซื้อปอร์เช่และเฟอร์รารีได้ ”
หานหยู่ถิงนิ่งคิดและรู้สึกว่าสมเหตุสมผล
เธอมองไปที่โล่เฉินและพูดว่า “อย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะลองไปที่บริษัทดู แต่ว่าฉันไม่มีความสามารถอะไรเลยนะ”
“รูปร่างหน้าตาของเธอก็คือกุญแจทอง แม้ว่าเธอจะไลฟ์นอนหลับก็ยังไม่มีปัญหา”
“ฉันไม่อยากเจอเซี่ยซือหาน”
โล่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “มีห้องอีกตั้งหลายห้องไม่ใช่หรือ พวกนั้นจัดการตกแต่งหมดแล้ว เธอเลือกเอาตามสบายสักห้อง แต่ฉันต้องเตือนเธอเอาไว้ก่อนนะ อย่าได้ไปทะเลาะกับเซี่ยซือหาน เธอเป็นต้นไม้เงินของเรา”
“ใช่ หยู่ถิงลูกอย่าได้ก่อปัญหาเชียวนะ”
“แม่ หนูรู้แล้ว”
ในที่สุดเรื่องก็ถือว่าจบลง
ในตอนกลางคืน ขณะกำลังนอนหลับ หานหยู่เยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“คุณว่าหยู่ถิงมีรูขนาดใหญ่อยู่ที่สมองจริงๆ รึเปล่า บราของตัวเองแท้ๆ แต่กลับไม่ระวังเลยสักนิด”
โล่เฉินอันที่จริงชอบหานหยู่ถิงไม่น้อย เขาเอ่ยยิ้มๆ “เด็กคนนั้นน่ารักจริงๆ ใสซื่อมาก นิสัยไม่เลว”
“ขอแค่สภาพที่บ้านดี ไม่ขาดแคลนอะไร ถึงสามารถทำให้หยู่ถิงยังคงมีนิสัยดั้งเดิมต่อไป เติบโตขึ้นอย่างไร้เดียงสา ดังนั้นฉันจึงต้องขยัน ไม่มีทางแพ้ให้กับหานหยุนเทาได้เป็นอันขาด”
“มีผมอยู่ คุณไม่แพ้แน่”
หานหยู่เยนรู้สึกอบอุ่นในใจอย่างยิ่ง เธอพลิกตัว
เป็นเวลาสามปีแล้ว โล่เฉินนอนอยู่ที่พื้น ส่วนเธอนอนบนเตียง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอหันหลังให้โล่เฉินเสมอ
ตอนนี้ เธอกำลังหันไปเผชิญหน้ากับเขา
การเคลื่อนไหวนี้อยู่ในสายตาของโล่เฉิน สำหรับสายตาคนอื่นอาจไม่มีนัยสำคัญใดๆ แต่สำหรับหานหยู่เยน นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
ก้าวความสัมพันธ์ที่เพิ่มไปอีกขั้น
โล่เฉินดีใจอย่างมาก ในใจรู้สึกมีความสุข
“หยู่เยน”
“เกิดอะไรขึ้น? ”
“พื้นมันเย็น เมื่อไหร่ผมจะไปนอนบนนั้นได้”
หานหยู่เยนหรี่ตาลง ดวงตาฉายแววหยอกล้อจาง “เดือนกันยายน เป็นช่วงหน้าร้อนพอดี อากาศเย็นๆ ไม่ดีหรอกหรือ”
“ไม่ ผมเอวไม่ดี ทนเย็นไม่ได้ อย่างที่ว่ากันว่า เอวผู้ชายไม่ดีก็เท่ากับทุกอย่างเป็นศูนย์ ดังนั้นควรดูแลมันให้ดี ในอนาคตอิริยาบถอีกหลายๆ ประเภทยังต้องอาศัยกำลังเอวอยู่นะ”
“อะไรกัน ท่าทางการนอนยังต้องอาศัยกำลังจากเอวด้วยหรือ?”
หานหยู่เยนยังงงงวย เธอเกาะอยู่ขอบเตียง ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน
ใบหน้าเล็ก ๆ แสนบอบบางที่มีสีขาวปนแดงดูแล้วน่าดึงดูดเป็นพิเศษ
แต่เมื่อเธอพบรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของโล่เฉินถึงค่อยเข้าใจขึ้นมา ในสมองเกิดภาพท่าทางระหว่างชายหญิงขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ
ทันใดนั้น สีหน้าของเธอก็แดงก่ำ
“ลามก!”
หานหยู่เยนเขวี้ยงหมอนลงมา จากนั้นจึงหันหลังให้เขาอีกครั้ง “อยากขึ้นมานอนข้างบน แตะต้องฉัน ฝันไปเถอะ รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกก่อน