จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 82
บทที่ 82 การพลิกกลับครั้งใหญ่
วันรุ่งขึ้น ตอนเช้า
โล่เฉินพาหานหยู่เยนไปส่งที่ประตูบริษัท เมื่อเห็นท่าทีหนักอกหนักใจของเธอ เขาก็เอ่ยให้กำลังใจ: “พอแล้ว ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าหานหยุนเทาอาจจะคุยเรื่องโครงการนั่นล้มเหลวก็ได้”
“ล้มเหลว? เป็นไปได้ยังไงW
“อะไรก็เกิดขึ้นได้.”
หานหยู่เยนมองไปที่ดวงตาของโล่เฉินอย่างลึกซึ้ง จากนั้นจึงยิ้มออกมา “ก็ได้ งั้นฉันไปก่อน หยู่ถิง เธอเชื่อฟังให้ดีๆ ไม่อนุญาตให้ไปก่อเรื่องในบริษัท อีกทั้งห้ามไปขัดแย้งกับพี่เซี่ยเป็นอันขาด”
ในรถ หานหยู่ถิงทำท่าทางโอเคให้อย่างเฉื่อยชา
เมื่อมองโล่เฉินจากไป หานหยู่เยนก็รีบไปที่ห้องทำงานของตน เท้าเพิ่งจะก้าวเข้าประตู เลขานุการหลิวหงก็ปรากฏตัวขึ้น
“ผู้จัดการ คุณย่าหานมาถึงแล้ว กำลังจะมีประชุมเร็ว ๆ นี้ ทางที่ดีตอนนี้คุณควรไปที่ห้องประชุม ถ้าไปสาย คนเหล่านั้นจะต้องหาเรื่องอีกแน่”
“ คุณย่ามาเช้าขนาดนี้เชียว?”
หานหยู่เยนคิดถึงสิ่งที่โล่เฉินพูด เห็นทีคุณย่าจะต้องมีความคิดในการคืนตำแหน่งให้กับหานหยุนเทาแน่ รีบร้อนขนาดนี้
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงเป็นหลานคนโตสุดโปรดอยู่ดี
ผู้หญิง มันไม่เป็นที่ยอมรับขนาดนั้นเลยหรือ?
อย่างไรก็ตาม หานหยุนเทาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นคุณชายเจ้าสำราญอีกต่อไป คืนตำแหน่งรองผู้จัดการให้ ในใจของหานหยู่ถิงก็ถือว่าพอยอมรับได้อยู่บ้าง
“ฉันรู้แล้ว”
หานหยู่เยนตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนจะไปที่ห้องประชุม
คนส่วนใหญ่อยู่ที่นี่และหานหยุนเทาก็อยู่ในหมู่พวกเขา
“คุณย่า สวัสดีตอนเช้าค่ะ มีประชุมอะไรคะ?” ”
ทันทีที่หานหยู่เยนนั่งลง คุณย่าหานก็เอ่ยทันที “ในเมื่อมาถึงครบแล้ว อย่างนั้นฉันก็จะพูดตามตรง เมื่อวานอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าหยุนเทาและบริษัทซิงเฉินได้พูดคุยเกี่ยวกับโครงการใหญ่กัน สร้างประโยชน์ให้กับตระกูลของเราอย่างนับไม่ได้ คืนตำแหน่งรองผู้จัดการให้เขา ทุกคนคดว่าอย่างไร? ”
ก่อนหน้านี้ พวกเขาทุกคนล้วนคิดว่าหานหยุนเทาจะถูกไล่ออกจากตระกูล ดังนั้นเหล่าบรรดาญาติ ๆ ล้วนเข้าไปพึ่งพาครอบครัวของหานหยู่เยน มาตอนนี้หานหยุนเทาได้อยู่ต่อแถมยังคุยโครงการใหญ่มาได้
อะไรหนักอะไรเบา เห็นชัดอยู่กับตา
หลานชายคนโตยังไงก็คือหลานชายคนโต ไม่ใช่สิ่งที่หลานสาวจะเข้ามาเทียบได้ คุณย่าหานความคิดโบราณ ดังนั้นเธอจึงลำเอียงเอ็นดูหานหยุนเทาอย่างเห็นได้ชัด
“บริษัทซิงเฉินเป็นถึงอุตสาหกรรมของตระกูลจีนหลิง ถ้าหานหยุนเทาร่วมมือกับบริษัทซิงเฉิน อย่างนั้นก็เท่ากับว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลโล่ แบบนี้สำหรับตระกูลเราแล้ว แทบจะเป็นเรื่องพลิกแผ่นดิน”
“ใช่ แค่การดูแลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตระกูลโล่ ตระกูลของเราก็จะเติบโตขึ้นมาได้แล้ว แบบนี้ถือเป็นหยาดเหงื่อของหยุนเทา การคืนตำแหน่งให้ ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสม”
“พวกเราไม่ขัดข้อง”
ทุกเสียงสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ
หานหยุนเทาสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขาเอ่ยเรียบๆ “คุณลุงคุณป้าทุกท่าน ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เรื่องที่ผมถูกไล่ออกคุณย่าได้ตอบรับหยู่เยนไปแล้ว ยังไงก็ยังต้องฟังหยู่เยนเสียหน่อย?”
วาบ
สายตาของผู้คนเปลี่ยนทิศไป
คุณย่าหานเองก็มองมาด้วยเช่นกัน เธอเอ่ยถาม “หยู่เยน เธอมีความคิดยังไง หยุนเทาสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งต่อได้หรือไม่? ”
“นี้…”
หานหยู่เยนรู้สึกลังเลอย่างยิ่ง
หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียเป็นเวลานาน เธอพยักหน้า: “คุณย่า ทุกอย่างต้องยึดตระกูลเป็นหลัก หานหยุนเทาทำเรื่องที่มีประโยชน์มากขนาดนี้ ถือเป็นการชดเชยความผิดพลาดและกลับมาดำรงตำแหน่งต่อได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตกลง”
คุณย่าหานดีใจ เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “การโหวตเป็นเอกฉันท์ อย่างนั้นนับจากวันนี้ไปหานหยุนเทากลับมาดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปอีกครั้ง หยู่เยน เธอ….”
“คุณย่าเดี๋ยวก่อนครับ” หานหยุนเทาหยุดกะทันหัน
“นายมีอะไรจะพูด? ”
หานหยุนเทาตั้งหน้าตรงและพูดอย่างจริงจัง: “คุณย่า ถ้าคืนตำแหน่งให้พบ ถอดหยู่เยนออก แบบนี้ดูเหมือนว่าคุณจะลำเอียงมากเกินไปหน่อย ในเวลานี้ หยู่เยนมีฐานะเป็นรองผู้จัดการ สามารถจัดการกิจการของบริษัทได้อย่างเป็นระเบียบ มีความสามารถที่จะนั่งตำแหน่งนี้ได้ ”
คุณย่าหานขมวดคิ้วและถามอย่างไม่เข้าใจ “นายหมายถึงอะไร?”
“เป็นการดีกว่าถ้าเราตั้งตำแหน่งรองผู้จัดการขึ้นมาสองคน ไม่จำเป็นต้องถอดหยู่เยนออก แบบนี้พวกเราทั้งสองสามารถแข่งขันกันได้ มีการแข่งขันถึงมีแรงจูงใจทำงาน อย่างนี้ตระกูลของเราก็มีแต่จะก้าวหน้า คุณย่า ไม่ทราบว่าคุณย่าจะเห็นด้วยรึเปล่า?”
คำพูดของหานหยุนเทาสร้างความประทับใจให้คุณย่าหาน สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม
เหล่าบรรดาญาติเองถอนหานใจขึ้นมาเช่นกัน
เปลี่ยนไปมากอย่างยิ่ง ใครๆ ต่างก็มองเห็น
คุณชายใหญ่คือสิงโตที่ตื่นจากการหลับใหล หานหยู่เยนตกที่นั่งลำบากแล้ว นี่คือความคิดที่เกิดขึ้นในใจของทุกคน
“ทำตามที่นายว่ามาแล้วกัน เธอสองคนล้วนเป็นรองผู้จัดการทั่วไป มีเรื่องอะไรสามารถปรึกษากันได้ ถ้าความเห็นต่างกันค่อยมาหาฉัน”
คุณย่าหานยังคงกุมอำนาจอยู่และยังดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
หลังการประชุม
หานหยู่เยนส่งข่าวถึงโล่เฉิน เธอรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ หานหยุนเทาขอให้เธออยู่ในตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปต่อก็เพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่สูงส่งของตัวเอง หรือว่ายังมีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่?
ในช่วงบ่าย ความขัดแย้งก็มาถึง
ตระกูลหานทำธุรกิจออกแบบและก่อสร้าง แต่เดิมสเกลงานไม่ใหญ่มากนัก แค่โครงการปินหูก็ทำให้คนตึงมืออยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ของหานหยุนเทาที่บอกว่ากำลังจะเริ่มออกแบบแบบบ้าน
อย่างนั้นก็จำเป็นต้องดึงนักออกแบบไปใช้
แต่ในบริษัทมีคนจำนวนเพียงแค่นี้ หานหยุนเทาดึงคนไปชุดหนึ่ง โครงการปินหูก็จะเกิดความล่าช้า หรือว่าจะต้องรับสมัครคน?
ห้องประชุมเปิดขึ้นอีกครั้ง
“คุณย่า อีกแค่เกือบเดือน ทางโครงการปินหูกำลังร้อนแรง ถ้าตอนนี้ดึงนักออกแบบไป จะส่งผลให้ทั้งโครงการไม่ราบรื่น”
“คุณย่า บริษัทซิงเฉินโทรหาผมมาสามครั้งแล้ว ให้ผมรีบออกแบบบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่ประเภทบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดวางภูมิทัศน์ของทั้งแปลง ผมเองก็รีบทำเวลาเหมือนกัน! ”
“บริษัทซิงเฉินเพิ่งจะได้ที่ดินมาได้นานเท่าไหร่กัน ที่ดินตรงนั้นยังไม่ได้ปรับหน้าดินด้วยซ้ำ ตอนนี้มารีบออกแบบบ้าน เห็นชัดว่าตั้งใจจะหาเรื่องกัน! ”
“จะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทซิงเฉินเข้ามาเมืองเจียง ต้องการทำให้ที่ตรงนั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่สุดในเมืองเจียงดังนั้นการออกแบบประเภทบ้านและการวางผังจึงมีความสำคัญสูงสุด หรือเธอคิดว่าออกแบบครั้งแรกแล้วคุณท่านอีกฝ่ายจะอนุมัติให้ได้เลยหรือไง?”
หานหยุนเทาหัวเราะ: “แก้ไปแก้มา คุณท่านอีกฝ่ายโยนไปโยนมาถ้าไม่ถึงสามเดือนก็ไม่มีทางได้อนุมัติแน่ ถึงจะอนุมัติแต่นั่นก็เป็นแค่ร่างออกแบบเท่านั้น ภายหลังยังต้องมีปรับเปลี่ยนกะทันหันอีก ดังนั้น ฉันเองก็ร้อนใจเช่นกัน ไม่ได้คิดจะหาเรื่องอะไร”
หานหยู่เยนถูกสกัดเอาไว้จนพูดไม่ออก
ในห้องประชุม บรรดาญาติและเหล่าหัวหน้าพูดคุยกัน
“ทุกคนมีความคิดอะไร สามารถแสดงออกมาได้”
หานหยุนเทาเอ่ยปาก
ทันใดนั้น ผู้คนก็เริ่มพูดคุยกันไปมา
“พวกคุณล้วนเป็นรองผู้จัดการและมีสิทธิ์ในการโยกย้ายทรัพยากรของบริษัท ทรัพยากรไม่ได้มีไว้สำหรับคนคนเดียว ดังนั้นฉันจึงสนับสนุนการดึงตัวนักออกแบบไปใช้ของหยุนเทา”
“ใช่ นี่สมเหตุสมผลมาก ไม่งั้นเราจะต้องวางเฉยโครงการของหยุนเทาหรือ?”
“ฉันพูดแค่ประโยคเดียวเลยว่า บริษัทเฉิงหยู่มีแค่เพียงข่าวลือว่าอาจมีเบื้องหลังอยู่ที่เมืองหลวงจังหวัด แต่บริษัทซิงเฉินนั้นชัดเจนอย่างยิ่งว่าเป็นกิจการของตระกูลจีนหลิงโล่ คุณชายตระกูลโล่ลงแรงเองกับมือ อันไหนหนักเบา แค่มองก็รู้แล้ว”
ไม่มีใครออกหน้าให้ตนเอง หานหยู่เยนรู้สึกว่าหัวใจของคนเปลี่ยนแปลงกันเร็วมากเกินไปแล้ว
เมื่อวานอีกหน้า วันนั้นอีกหน้า
สิ่งต่างๆ ยากที่จะคาดเดา
นิ้วของคุณย่าหานกำลังเคาะอยู่บนโต๊ะ ท่าทางสง่าน่ายำเกรง
หลังจากไตร่ตรองสักครู่ เธอก็เอ่ยขึ้น “ทั้งสองโครงการล้วนต้องดำเนินการ ทุกคนพูดไม่ผิด ไม่สามารถทำให้บริษัทซิงเฉินขุ่นเคืองได้ อย่างนั้นเอาตามนี้เถอะ แบ่งนักออกแบบครึ่งหนึ่งไปให้หยุนเทา หยู่เยน ทางเธอก็ลำบากขึ้นอีกสักหน่อย ทำโอทีเพิ่มขึ้น”
“คุณย่า คนมีไม่พอจริงๆ นะคะ ไม่อย่างนั้น เรารับสมัครนักออกแบบเพิ่มอีกสักหน่อย”
“นักออกแบบธรรมดาทั่วไปไม่มีความสามารถในการทำโครงการพวกนี้ ส่วนนักออกแบบเก่าแก่ก็ราคาแพงเกินไป ตอนนี้เอาตามนี้ไปก่อน ผ่านไปอีกสักพัก เมื่อได้เงินทุนจากบริษัทซิงเฉินและบริษัทเฉิงหยู่มาค่อยคิดเรื่องพวกนี้อีกที”
หานหยู่เยนกัดริมฝีปาก แอบโอดครวญอยู่ในใจ
เมื่อมองขึ้นไป เธอก็พบว่าหานหยุนเทากำลังยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอโมโหขึ้นมา: ไอ้เวรนี่!
“เอี๊ยด”
ทันใดนั้น ประตูก็ถูกผลักเปิดออก
ผู้ช่วยวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนกจากนั้นจึงร้องลั่น “ไม่ดีแล้วไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ”
“ร้องโวยวายหาอะไรกัน มีเรื่องอะไรค่อยๆ พูด” คุณย่าหานเอ่ยเสียงเข้ม
ผู้ช่วยตบหน้าอกคน จากนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ท่านประธาน ที่ดินที่บริษัทซิงเฉินซื้อมาผืนนั้น ถูกรัฐบาลยึดคืนไปแล้ว! ”
ติ๊ก – ติ๊ก.
ห้องประชุม เหลือเพียงเสียงนาฬิกาเดินอยู่บนผนังดังขึ้น
“ฟึบ!”
หานหยุนเทากระโดดขึ้นมา ดวงตาเบิกตากว้าง เขาเอ่ย “นายว่าอะไรนะ พูดอีกทีสิ?! ”
“คุณ คุณชายใหญ่”
ผู้ช่วยก้มหน้าลงและพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “ผมไม่ได้โกหก ตอนนี้ต่างรู้กันไปทั่วทั้งเมืองเจียงแล้ว รัฐบาลบอกว่ามีการฉ้อโกงในการประมูลที่ดินผืนนั้น และสงสัยว่าบริษัทซิงเฉินติดสินบนเจ้าหน้าที่อาวุโสบางคนเพื่อให้ได้มันมา
“ไม่มีทาง! ” หานหยุนเทาตะคอกด้วยความโกรธ
“คุณชายใหญ่ ล้วนพูดกันแบบนี้ทั้งนั้น ตอนนี้ไม่ใช่แค่ที่ดินที่ถูกยึดไป คณะกรรมการพรรคของเทศบาลยังออกคำสั่งให้หน่วยงานภาครัฐและสำนักงานความมั่นคงสาธารณะจัดตั้งทีมตรวจสอบขึ้นมาและเข้าไปประจำการในบริษัทซิงเฉินเพื่อตรวจสอบอย่างจริงจัง โล่ซิงเฉินเองก็ถูกเรียกตัวไปคุยแล้ว! ”
ปึง
หานหยุนเทาล้มลงบนเก้าอี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
เป็นไปได้ยังไง?!
ทันใดนั้น เขาก็มองไปที่หานหยู่เยน ในใจเกิดคลื่นแห่งความฉงนขึ้น เป็นเธอหรือ เธอไหนเลยจะมีอำนาจมากขนาดนั้น หรือว่าบริษัทเฉิงหยู่กำลังช่วยเธออยู่?
แต่นั่นคือตระกูลจีนหลิงโล่
คุณชายตระกูลโล่
แม้แต่ผู้นำของเมืองเจียงยังต้องให้เกียรติ ทำไมถึงได้ถูกเรียกไปคุยแบบนั้น คณะกรรมการพรรคของเทศบาลพวกนั้นไม่อยากสวมเครื่องแบบกันแล้วหรือไง