จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี - ตอนที่ 86
บทที่ 86 แปดนิ้วหูแห่งบ่อนการพนันหงซิง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่ถนนเจี่ยฟ่างถนนหงฉี
โล่เฉินและส้งเชี่ยงลงจากรถ และเห็นคลับที่มีสัญลักษณ์คำว่า ร้านสนุกเกอร์หงซิง อยู่ไกลๆ
“นั่นคือบ่อนหงซิง อาศัยร้านสนุกเกอร์หงซิงบังหน้าเอาไว้”
“ไปกันเถอะ”
ส้งเชี่ยงตามโล่เฉินไปติดๆ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความประหม่า เธอพูดด้วยความกังวลใจ: “พี่โล่ พวกเราทิ้งร่องรอยเอาไว้หน่อยดีไหม บอกตำรวจเอาไว้ก่อน ให้ตำรวจมาที่นี่ หากพวกเราตกอยู่ในอันตราย ตำรวจจะได้เข้ามาช่วยเราได้ ”
“เธอคิดว่านี่มีประโยชน์ไหม”
โล่เฉินหัวเราะอย่างไร้เสียง รู้สึกว่าส้งเชี่ยงไร้เดียงสาเกินไป
“เป็นที่รู้กันว่าที่นี่คือบ่อนการพนัน แต่ตำรวจก็ไม่ได้มาทลายมัน นี่หมายความว่ามีความเกี่ยวข้องต่อกัน ต่อให้เธอแจ้งตำรวจไปก็ไร้ประโยชน์ ก็แค่บ่อนเล็ก ๆ บ่อนหนึ่ง ในสายตาฉันไม่นับว่าเป็นอะไร”
ส้งเชี่ยงประหลาดใจขึ้นมา
เธอแอบมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของโล่เฉิน จู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ทั้งร่างเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย และอดไม่ได้ที่จะคว้าแขนเสื้อของโล่เฉินเอาไว้
ทั้งสองคนเข้าไปในร้านสนุกเกอร์หงซิงและพบกับลูกสมุนสองคนเข้ามาต้อนรับ
“มาเล่นบิลเลียด?”
“พนันเงิน”
ลูกสมุนไม่พูดพร่ำและเดินนำพวกโล่เฉินไปที่บ่อนพนันชั้นใต้ดิน
บ่อนมีขนาดไม่เล็กและมีบรรยากาศครึกครื้นอย่างยิ่ง
ปลาหรือมังกรล้วนปะปนกันไป ไม่ว่าคนประเภทไหนล้วนมี
ส้งเชี่ยงสวมหน้ากาก ดังนั้นจึงไม่ถูกคนจำได้ เมื่อเห็นว่าโล่เฉินทำการแลกชิปไปแล้วและกำลังมองหาโต๊ะ เธอก็ยิ่งกังวลมากขึ้น
สิ่งที่ง่ายที่สุดและทำกำไรได้มากที่สุดคือการพนันไฮโล การพนันประเภทนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีคนอยู่เยอะที่สุด
โล่เฉินเดินเข้าไปและโยนชิป 10,000 เหรียญลงไปอย่างส่งๆ
“พนันต่ำ”
ทันใดนั้น สายตาของสาธารณชนก็พุ่งมาทันที
เจ้ามือหัวเราะ “พี่ชาย เพิ่งมาที่บ่อนเป็นครั้งแรกใช่ไหม ผมยังไม่ทันได้ทอยลูกเต๋าเลย คุณกลับลงต่ำแล้ว การกระทำแบบนี้ผมเพิ่มเห็นเป็นครั้งแรก”
“นายยังไม่เคยเห็นขั้นเทพไง ฉันบอกว่าต่ำก็คือต่ำ”
“ดี มีไฟ”
เจ้ามือไม่พูดพร่ำและเริ่มทอยลูกเต๋าจากนั้นจึงครอบมันลงบนโต๊ะแล้วตะโกนว่า “ทุกท่านเดิมพัน ซื้อสูงซื้อต่ำ”
ในตอนนั้นเอง เจ้ามือก็มองไปที่โล่เฉิน เขายิ้มมุมปาก: “พี่ชาย มองให้ชัด”
ถ้วยลูกเต๋าเปิดออก
หนึ่งสองสาม หกต่ำ
“ต่ำ ฉันเดิมพันถูก”
โล่เฉินยักไหล่
ดวงตาของเจ้ามือส่องประกาย ท่าทางสับสนเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยยิ้ม “พี่ชายโชคดีจริงๆ ขอแสดงความยินดีๆ ยังอยากเดิมพันหรือไม่? ”
“แน่นอน”
“วางเดิมพันสูงหรือต่ำ? ”
“ก็วางอยู่ตรงนั้นไม่ใช่หรือไง วางต่ำตลอด ไม่เปลี่ยน”
ว้าว
คนรอบๆ ตะลึงตาค้างไป นี่มันเดิมพันแบบไหนกัน?
ครั้งแรกโชคดี ก็ใช่ว่าทุกๆ ครั้งจะโชคดีไปด้วย
สมกับเป็นคนหนุ่มจริงๆ ไม่เข้าใจอะไรเอาซะเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่ชายคนนี้ช่างมีบุคลิกของตัวเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เริ่มกันเถอะ”
“เชิญ”
เมื่อถ้วยลูกเต๋าตกลง เจ้ามือก็แอบเลื่อนปุ่มในกระเป๋าอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ว่าลูกเต๋าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของโล่เฉิน
ฟิ้ว
พลังทิพย์สายหนึ่งพุ่งเข้าไปในถ้วยลูกเต๋าอย่างเงียบ ๆ
“เปิด!”
“รีบเปิดเร็วเข้า! ”
เจ้ามือยิ้มอย่างเย็นชา เขาเปิดถ้วยลูกเต๋าและพูดอย่างสะใจ “สี่หกหก สิบหกสูง”
“สูงบ้าอะไรของนาย หนึ่งสามสาม เจ็ดต่ำ”
“เจ้ามือคนนี้โง่หรือไง! ”
“ตาถั่วไปแล้ว!”
อะไรนะ?
เจ้ามือก้มลงไปมอง จากนั้นสีหน้าของเขาก็แข็งชะงัก เป็นไปได้ยังไงกัน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าฉัน…
หรือว่า ใช้งานไม่ได้แล้ว?
“อย่ามัวแต่งงอยู่เลย รีบต่อเร็วเข้า”
โล่เฉินนั่งอยู่บนโซฟาไม่ไกล ในมือถือแก้วเหล้า และตะโกนขึ้นมา
เจ้ามือกัดฟัน แล้วเปิดอีกครั้ง
แต่มันก็ยังเป็นต่ำอยู่
จากนั้น ก็ยังคงเป็นต่ำไปอีกสามครั้งติดๆ
ทันใดนั้นบรรยากาศราวกับกำลังระเบิดออก เขาเจอผีเข้าแล้วจริงๆ
ทุกครั้งที่เปิด เป็นต่ำทุกครั้ง
ไม่เคยได้ยินและไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“นายเล่นตุกติก!” เจ้ามือโกรธจัดและชี้นิ้วตะคอกใส่โล่เฉิน
เขาเป็นเจ้ามือ ต้องหาเงินให้กับบ่อน มาตอนนี้กลับเสียเงินไปมากขนาดนี้ ดูท่าเจ้านายจะต้องไล่เขาออกแน่
ทั้งบ่อนเงียบกริบ
โล่เฉินหัวเราะเยาะและเอ่ย “ฉันนั่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ต้นจนจบ จะไปตุกติกได้ยังไง นายมาใส่ร้ายคนแบบนี้ไม่ดีมั้ง”
“นาย!”
“ในทางกลับกัน ในกระเป๋านายต่างหากที่ดูเหมือนจะมีของเล่นอะไรอยู่ เอาออกมาให้ทุกคนได้ดูสักหน่อยไหม”
เจ้ามือสีหน้ามืดลงทันที ใบหน้าของเขาลุกลี้ลุกลน
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีชายร่างใหญ่อารมณ์ร้อนคนหนึ่งพุ่งเข้าไปแล้วกดเจ้ามือลงไปกับโต๊ะ จากนั้นจึงดึงปุ่มกดในกระเป๋าออกมา
ทันทีที่กดลงไป ลูกเต๋าก็เคลื่อนที่
“ดีนี่ นายต่างหากที่ขี้โกง ไม่น่าล่ะเมื่อกี้ฉันถึงได้แพ้มาตลอด ไอ้เวรเอ้ย”
ชายร่างใหญ่เตะเจ้ามือจนกระเด็นออกไป
เมื่อโซนด้านอื่นๆ เห็นฉากนี้เข้า ก็มีคนใจกล้าลงมือและล้วนหาอุปกรณ์เจอเช่นกัน
ในพริบตา ฝูงชนก็โกรธแค้น
“ทุกคนเงียบเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้น น้ำเสียงดุดันก็ดังขึ้นมา
กลุ่มชนหันกลับไปดูและเห็นชายร่างสูงกำยำคนหนึ่ง ท่าทางดุดันกำลังสาวเท้าเข้ามาพร้อมกับลูกสมุนกลุ่มหนึ่ง
ชายหนุ่มสวมเสื้อกั๊กสีดำ ในมือถือไปป์ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเนื้อ
“เขาก็คือเจ้าของบ่อน ใคร ๆ ต่างก็เรียกเขาว่าเหล่ากุ่ย” ส้งเชี่ยงกอดแขนของโล่เฉินเอาไว้และกระซิบบอก
“ไอ้หน้าไหนมันกล้ามาสร้างปัญหาในบ่อนของกูวะ ไม่อยากอยู่ต่อแล้วหรือไง”
ไม่มีใครกล้าส่งเสียง
ชื่อเสียงของเหล่ากุ่ยยังคงโด่งดังบนท้องถนน อีกทั้งเขายังมีคนใหญ่คนโตหนุนหลัง ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องนอกเสียจากคิดรนหาที่ตาย
อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังขึ้นอย่างไม่รู้สถานการณ์
“โอ้ เก่งใช้ได้นี่! ”
โล่เฉินลุกขึ้น สองมือสอดเข้าในกระเป๋ากางเกงและเดินเข้าไปหาช้าๆ “บ่อนของคนอื่น ต่อให้มีกลโกงก็มีแค่หนึ่งสองอันเท่านั้น นายกลับเก่งดี ทุกๆ ที่ล้วนมีอุปกรณ์โกงเอาไว้ ใจกล้าไม่เลว! ”
“ไอ้หนุ่ม นายอยากตายหรือไง?”
“แน่นอนว่าไม่อยากตาย” โล่เฉินส่งสัญญาณให้ส้งเชี่ยงถอดหน้ากาก จากนั้นจึงเอ่ยต่อ “หญิงสาวคนนี้ นายคงรู้จักสินะ”
เหล่ากุ่ยดวงตาเป็นประกาย “เชี่ยงเชี่ยง เธอมาได้ยังไง บอกฉันล่วงหน้าสิ ฉันจะได้ให้คนไปต้อนรับอย่างดี”
“คุณไปให้พ้น”
ส้งเชี่ยงหดตัวเข้าไปใกล้โล่เฉินและจับแขนของเขาไว้แน่น
การเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้สีหน้าของเหล่ากุ่ยเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมา เขาเอ่ยถาม “นายรู้ว่าฉันสนใจเชี่ยงเชี่ยง แล้วยังกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันแบบนี้อีก จุดประสงค์คืออะไร? เอาอะไรมามั่นใจ?”
“จุดประสงค์คือเพื่อคืนเงิน”
โล่เฉินมองไปที่โต๊ะและเอ่ย “ฉันชนะมาประมาณ 100,000 ส้งหลงเป็นหนี้นาย 50000 ฉันคืนให้นายสองเท่า หนี้พนันลบล้างไปแล้ว จากนี้ไปอย่าได้ไปหาเรื่องตระกูลส้งอีก ส่วนความมั่นใจมาจากตัวฉันเอง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหล่ากุ่ยหัวเราะ “ลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ เจ้าหนุ่ม ฉันนับถือในความใจกล้าของนาย เพียงแต่….”
“จะลงมือ?”
“ไม่ไม่ไม่ เชี่ยงเชี่ยงก็อยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากทำให้เธอตกใจ นายเล่นพนันเป็นใช่ไหม อย่างนั้นก็ดีเลย มาพนันกันอีกสักครั้ง ไม่นับเงินที่นายชนะไปเมื่อกี้”
โล่เฉินกลอกตาและเบ้ปาก “นายบอกว่าไม่นับก็ไม่นับได้หรือไง ฉันอาศัยความสามารถของตัวเองชนะมา ทำไมถึงไม่นับ! ”
“เป็นเพราะกลโกง เจ้ามือเมื่อกี้เล่นตุกติก จงใจให้นายชนะ ดังนั้นจึงไม่นับ มีปัญหาอะไรไหม! ”
เหล่ากุ่ยสีหน้าอึมครึม น้ำเสียงแฝงด้วยความข่มขู่แกมบังคับ
โล่เฉินแบมือ หมดแรงจะไปเถียง “ฉันนับถือแล้วจริงๆ ไม่นับก็ไม่นับ แต่เงินหนึ่งหมื่นของฉันอย่ามาทำเนียนเอาไป ฉันยังต้องการเงินทุนมาเดิมพันอยู่”
“ได้”
เหล่ากุ่ยโบกมือ จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงเข้ามา
ชายคนนี้ไว้หนวด ตาตี่แต่ดวงตากลับคมกริบอย่างยิ่ง เขาเอ่ยเรียบ ๆ “กระผม แปดนิ้วหู”
“อะไรนะ แปดนิ้วหู”
“นั่นเป็นถึงเซียนพนันตัวยงเชียวนา ทักษะร้อยเล่ห์พันกล ได้ยินมาว่าอาศัยอยู่กับบ่อนพนันมานานเป็นสิบๆ ปีเคยพ่ายแพ้แค่สองครั้งและถูกตัดนิ้วออกไปสองนิ้ว ดังนั้นจึงมีชื่อเรียกว่าแปดนิ้วหู!”
“จบแล้วจบแล้ว เซียนพนันแบบนี้ลงมือ เจ้าเด็กหนุ่มนั่นต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”
มีเสียงพูดคุยกันมากมาย
คนกลุ่มหนึ่งส่ายหัวและถอนหายใจ และสิ่งที่น่าเสียดายไปยิ่งกว่านั้นคือสาวน้อยหน้าตางดงามอย่างส้งเชี่ยง
อีกเดี๋ยว คงต้องถูกเหล่ากุ่ยเอาไปปู้ยี่ปู้ยำแน่
“ถ้านายเอาชนะหูปาได้ หนี้ของส้งหลงถือว่าลบล้างไป ฉันจะปล่อยพวกนายไป จากนี้ไปจะไม่ไปหาเรื่องตระกูลส้งอีก แต่ถ้านายแพ้ละก็….”
เหล่ากุ่ยยิ้มอย่างชั่วร้าย “นายจะต้องตัดมือสองข้างแล้วไสหัวออกไปจากบ่อนซะ ส่วนเชี่ยงเชี่ยงย่อมต้องอยู่ต่อที่นี่”
“พี่โล่ พวกเราโทรหาตำรวจกันเถอะ” ส้งเชี่ยงหน้าซีด เธอคิดว่าที่เมื่อครู่ชนะก็แค่โชคดีเท่านั้น
ตอนนี้มีนักพนันมือเซียนปรากฏตัวขึ้นแบบนี้ โล่เฉินไม่มีความหวังเลยสักนิด
“ไม่เป็นไร วางใจเถอะ”
โล่เฉินเอ่ยปลอบขึ้นประโยคหนึ่งและถามในพริบตาว่า “เดิมพันอะไร?”
“เล่นไฮโลออกจะน่าเบื่อ พวกเรามาเดาแต้มกันดีกว่า”
“ฉันได้ทั้งนั้น”
พรึบพรึบพรึบ
ฝูงชนกระจายออกไป เหลือเพียงโล่เฉินและแปดนิ้วหูยืนอยู่ที่ปลายทั้งสองข้างของโต๊ะ
“นายสามารถตรวจสอบถ้วยลูกเต๋าและลูกเต๋าก่อนได้”
“ไม่จำเป็น เริ่มเถอะ”
แปดนิ้วหูเห็นท่าทางเฉยเมยของโล่เฉิน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เพื่อความยุติธรรม ให้คนนอกเป็นผู้ทอยลูกเต๋า เป็นไง?”
“นายไม่เขย่าเอง?”
คราวนี้ถึงเวลาที่โล่เฉินจะต้องประหลาดใจบ้างแล้ว
เขาเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอขึ้นมา
หากไม่เขย่าถ้วยลูกเต๋าด้วยตัวเองแต่ยังสามารถเล่นตุกติกได้ แปดนิ้วหูนี่ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้าง
“คุณส้ง คุณมาทอยเถอะ” แปดนิ้วหูเอ่ยเรียบ ๆ
“หา? ฉัน?”
ส้งเชี่ยงเป็นบื้อไป ทำอะไรไม่ถูก
โล่เฉินตบไหล่เธอเบาๆ และเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไร แค่ทอยลูกเต๋าเท่านั้น ทำไปเถอะ ไม่ต้องกังวล”
“อย่างนั้น อย่างนั้นก็ได้