จักรพรรดิมารหวนคืน - ตอนที่ 151
บทที่ 151 เงื่อนไขของซู เย็น
ได้ยินแล้ว เฉินจิ้นคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “แม้ว่าคุณจะยกตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับฉัน ฉันก็ไม่อยาก ได้”
เย่าเก่อบ้าอะไรนั้น ในสายตาของเฉินจิ้น ก็เป็นแค่กุ้งฝอย ตัวหนึ่ง
ถ้าเปลี่ยนเป็นทายาทสืบทอดเจ้านายหอคอยดันตาหลาย แสนปีของจักรวาล ค่อยยังชั่วหน่อย
“กล้าแตะคนของฉัน กล้าคิดร้ายกับฉัน วันนี้ พวกแกจะ
ต้องตาย! ”
“กระบี่เจ็ดปีศาจ กระบี่ที่สอง ภูเขาศพทะเลเลือด!”
เฉินจิ้นฟาดดาบออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้น พลังดาบ ก็ทะยานขึ้นบนท้องฟ้า
เผชิญหน้ากับตาบนี้ของเฉินจิ้น สีหน้าของท่านอาวุโสสาม เปลี่ยนไป เขารู้สึกราวกับว่า อยู่ในสนามรบแต่โบราณ
ในนั้น นอกจากการฆ่า แล้วก็คือการฆ่า
ศพกองเป็นภูเขา เลือดไหลดั่งแม่น้ำ
ทุกดาบที่อยู่รอบตัว ดูเหมือนจะเป็นทหารที่มีการฝึกฝนขั้นสูง จ้องมองเหมือนเสือ สามารถฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ
“ดาบนี้ของเขาคือวิชาตาบอะไรกัน?”
ท่านอาวุโสสามตกใจกลัว
พลังของวิชาดาบนี้ ในชีวิตนี้ที่เขาได้เห็น
พลังเหนือโลกโดยสิ้นเชิง ทักษะดาบใดๆ
พลังดังกล่าว เหมือนกับในเทพนิยายที่เล่าลือกันยังไง
อย่างนั้น
“ทำลายมัน!”
ท่านอาวุโสสามตะโกนออกมาอีกครั้ง
เต้นรำ “อู่เก้า” ทันใดนั้น ฝุ่นที่อ่อนนุ่มบนอู่เก้าก็ถูกแยก ออก แยกออกจากกัน กลายเป็นด้ายเงินสามร้อยหกสิบห้า เส้น ลอยอยู่รอบๆตัวของท่านอาวุโสสาม
และกระบี่ที่นับไม่ถ้วนของเฉินจิ้น ปะทะกันไม่หยุด
ท้ายที่สุด ท่านอาวุโสสามประสานสองมือเข้าด้วยกัน พลังจิตในร่างกาย พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง รวบรวมไว้บน ฝ่ามือ จากนั้น เหมือนมีมังกรตัวหนึ่งที่กำลังโกรธยังไงอย่าง นั้น ยิงออกไป จากฝ่ามือของเขา รับกับพลังดาบนั้นของเฉิน
ขึ้น
ตูม!
บนท้องฟ้าเกิดส่งเสียงดังออกมา
แรงปะทะ ทำให้ท่านอาวุโสสาม ถอยหลังหนึ่งก้าว
อาจารย์ถอยหลังหนึ่งก้าว?
ฉากนี้ ทำให้หลินปิงซานตกใจ
ท่านอาวุโสสาม เป็นอาจารย์ของหลินปิ่นซาน ในใจของ เขา นอกจากเจ้าสำนัก ท่านผู้อาวุโสใหญ่และท่านอาวุโสรอง แล้ว แทบจะไม่มีคู่ต่อสู้
แม้ว่าเฉินจิ้นจะเป็นแดนเส้น ก็เป็นแค่ขนเส้นเล็กๆเท่านั้น เอง จะเป็นไปได้ยังไงที่แม้แต่อาจารย์ตัวเองก็ถอยหลังหนึ่ง
ก้าว?
อย่าว่าแต่หลินปิงซานเลย
ทุกคน ก็ยังคิดไม่ถึง หลังจากที่เฉินจิ้นฟันดาบที่สองออก มาแล้ว คิดไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
แม้แต่ท่านอาวุโสสี่ ก็ยังคิดไม่ถึง
ซู เย็น กัดริมฝีปากสีชมพู มองเข้าไปในสายตาของเฉิน จิ้น เต็มไปด้วยความตกใจ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ตลอดจนความแน่วแน่
ความแข็งแกร่งของเฉินจิ้น เหนือจินตนาการของเธอ
อีกทั้งอายุยังน้อย ตอนนี้ดูแล้ว ไม่ใช่ใช้ยากระตุ้นเพื่อที่จะเป็นแดนเสิน
มีพรสวรรค์ขนาดนี้ ถ้าหากไม่สามารถดึงเข้าเย่าเก่อได้ แล้วละก็ เฉินจิ้นนั้น จำเป็นต้องตายสถานเดียว
ถ้าไม่อย่างนั้น แม้แต่เย่าเก่อ ก็คงต้องปวดหัวที่มีคนแบบ นี้เป็นศัตรู
และคนที่มีพรสวรรค์แบบนี้ เห็นได้ชัดว่าซู เย็นยิ่งหวังที่จะ ให้ เฉินจิ้นเข้ามาอยู่ในเย่าเก่อ มาเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักเย่าเก๋อ พรสวรรค์ด้านการปรุง
ยา ถึงกับสูงกว่าเจ้าสำนักเย่าเก่อ
พรสวรรค์แห่งบูโต พรสวรรค์เช่นนี้ ยี่สิบต้นๆ ก็ได้ครึ่ง แดนเงินแล้ว
แม้ว่าจะเพิ่งเข้าสู่ครึ่งเดินเสินช่วงแรก แต่ก็น่ากลัวเช่นกัน
ซู เย็น ได้รับการปลูกฝังมายาวนานในฐานะผู้สืบทอดเย่า
เก๋อ
ถ้าไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น อนาคต เธอจะต้องเป็นเจ้าสำนัก เย่าเก๋อคนต่อไปแน่นอน
แน่นอนว่าเธอหวังที่ จะมีคนอย่างเฉินจิ้นมาอยู่เคียงบ่า เคียงไหล่ของเธอ
ดังนั้น ซู เย็นพูดทันทีว่า :
“เฉินจิ้น ก่อนหน้านี้ พวกเราล่วงเกินไว้มาก วันนี้ ฉันขอเชิญคุณเข้าร่วมเย่าเก๋อต้วยความ จริงใจ เย่าเก่อสืบทอดมาหลายพันปี ทรัพยากรที่มีให้ สำหรับผู้อาวุโสที่มีอ่านาจ เหนือจินตนาการของคุณ เพียง แต่คุณตกลง ตอนนี้ คุณสามารถกลายเป็นผู้อาวุโสคนที่ห้า ของเย่าเก่อของฉันได้ทันที ตราบใดที่คุณสามารถทำงาน ร่วมกับเย่าเก่อได้ เสียสละเพื่อเย่าเก่อ อนาคต ท่านผู้อาวุโส ใหญ่ อาจจะเป็นไปได้ก็ได้”
คำพูดเหล่านี้ ซู เย็นไม่ได้ปิดบังท่านอาวุโสสามและท่าน อาวุโสสี่เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ท่านอาวุโสสามและท่านอาวุโสสี่ได้ฟังจบ ก็ไม่ ได้โกรธแต่อย่างใด
จะพูดให้ถูกก็คือ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในเย่าเก๋อเหล่านั้น ก็ไม่ได้ดึงอ่านาจของตัวเองให้ลดลง โดยการห้ามซู เย็นแต่ อย่างใด
ถึงอย่างไร อนาคต เย่าเก่อก็ต้องส่งต่อให้กับซู เย็น หลังจากหลายสิบปีผ่านไป พวกอาวุโสเหล่านี้ ก็มีชีวิตอยู่
ได้ไม่นาน ในอนาคตก็ต้องมีคนเข้ามารับช่วงต่อ
เหมือนกับหลินปิงซาน ก็เป็นคนของเย่าเก่อ เสนอให้จัด มาอยู่ข้างกายชู เย็น เพื่อฝึกฝนให้เป็นตัวเลือกหนึ่งในผู้ อาวุโสในอนาคต
“อีกทั้งยัง ก่อนหน้านี้คุณบังคับให้ลูกหลานที่มีความ สามารถมากมายของครอบครัวที่ซ่อนอยู่ เซ็นสัญญาเงื่อนไข หนี้วิญญาณ แทบเรียกได้ว่าล่วงเกินครอบครัวที่ซ่อนอยู่ อย่างมาก อย่าว่าแต่คุณจะมาทวงหนี้ถึงที่เลย ต่อไป คุณจะ ต้องเผชิญกับครอบครัวที่ซ่อนอยู่เหล่านี้อย่างแน่นอน แดนเสิ นอันดับแข็งแกร่งของครอบครัวร่วมมือกันตามล่า แผ่นดิน กว้างใหญ่ แต่ไม่มีที่ยืนสำหรับคุณ ถ้าหากคุณยอมเข้ามาอยู่ เย่าเก่อ เย่าเก๋อก็จะออกหน้า แก้ปัญหาเหล่านี้แทนคุณ ตลอดจนรับรองว่า ครอบครัวที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ จะต้องจ่ายค่า ชดเชยกับคุณอย่างแน่นอน เป็นยังไง?
ซู เย็นคิดว่า เงื่อนไขที่เธอให้มา แสดงถึงความจริงใจ มากพอแล้ว ด้วยความเย้ายวน
แม้จะเป็นหนึ่งในทายาทของสำนักเทียนจิ หลังจากที่ฉินห มิงได้ฟังยังประหลาดใจมาก
คิดไม่ถึงว่า ซู เย็นจะให้ความสำคัญกับเฉินจิ้นมากขนาด นี้
ก็ใช่ ถึงยังไง เขากับเฉินจิ้น ความสำคัญมันเทียบกันไม่ได้ แดนเสินที่อายุน้อยแบบนี้ มีพรสวรรค์แบบนี้ คุ้มค่าที่จะ ใช้ราคาสูงในการซื้อตัว
น่าเสียดาย เขาเป็นเพียงหนึ่งในทายาทของสำนักเทียนจิ ไม่ใช่ผู้สืบทอดของสำนักเทียนจิ
ไม่ดีเท่าตำแหน่งของซู “เย็นในเข่าเก่อ เป็นไปไม่ได้ที่จะ ให้เงื่อนไขสัญญาได้ดีกว่านี้ ที่จะดึงดัวเฉินจิ้นให้มาอยู่ใน สำนักเทียนจิ
แต่เพื่อความเป็นธรรม ฉินหมิงรู้ว่า ถ้าเขาเป็นเงินจิ้น เขา จะรับข้อเสนอของซู เย็น
ถ้าไม่เกิดเหตุอะไร ในอนาคตซู เย็นจะต้องเป็นเจ้าสำนัก
คนต่อไป อย่างที่ซู เย็นพูดไว้
ด้วยความสามารถของเฉินจิ้น ถ้าหากว่าเฉินจิ้นยินยอม อนาคตจะกลายเป็นผู้อาวุโสที่อยู่ใต้คนคนเดียวอยู่บนคน เป็นหมื่นๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเป็นฉินหมิงละก็ แน่นอนว่าเขาจะต้องคิด หาวิธี จะเอาซู เย็นมาให้ได้ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของ ตัวเอง
ถ้าหากว่าเฉินจิ้นทำแบบนี้ละก็ อนาคต เจ้าสำนักเย่าเก๋อ แม้ว่าจะเป็นซู เย็น แต่ยังคงคล้อยตามเฉินจิ้นเองอีก แตก ต่างกันตรงไหน?
สายตาของทุกคน ทั้งหมดเพ่งเล็งไปที่เฉินจิ้นอีกครั้ง อยากจะรู้ว่าเฉินจิ้นจะตอบและเลือกยังไง
ในเหตุการณ์ มีเพียงหวางเม่ยอว ก่อนที่เฉินจิ้นยังไม่ตอบ นั้น ก็ได้รู้คำตอบแล้ว
เฉินจิ้น มองไปที่ซู เย็น แววตาเยาะเย้ยแวบเข้ามา : “ถ้า หากคุณยอมให้ผมเป็นเจ้านาย ยอมเป็นสาวใช้ของผม ไม่ แน่ผมอาจจะพิจารณา ให้เย่าเก่อ เป็นกำลังสนับสนุนของ ผม”
“คุณ…..”
ได้ยินแล้ว สีหน้าของซู เย็น จู่ๆก็ขรึมขึ้นมา
“เย็นเอ๋อ ดูแล้วไม่มีอะไรที่ต้องพูดอีกแล้ว” ทันใดนั้นท่าน อาวุโสสามก็พูดออกมา
จากนั้นก็มองไปที่เฉินจิ้นอีก พูดเสียงเข้มว่า: “ในเมื่อ เป็นเช่นนี้ งั้นนายก็มีเพียงแค่ตายสถานเดียว”
พูดเสร็จ เวลานี้ ท่านอาวุโสสี่ก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้า ยืนคู่กัน กับท่านอาวุโสสาม เตรียมที่จะลงมือพร้อมกัน กระบวนท่าเมื่อครู่นี้ แม้ว่าท่านอาวุโสสามจะถอยเพียง
ก้าวเดียวเท่านั้น
แต่ปัญหาก็ได้อธิบายชัดเจนแล้วว่า อาศัยเพียงแค่พลัง ของท่านอาวุโสสามเองนั้น ยากที่จะต่อกลอนกับเฉินจิ้นได้
สองคนยืนคู่กัน ทันใดนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เตรียมที่จะแสดงกระบวนท่าที่ดีที่สุดของตัวเอง
นั้นคือ เทียนฝู เดินทางของแต่ละคน
จากนั้นบดขยีเฉินจิ้น พากลับเข่าเก่อ
ถึงเวลานั้น มีหลายวิธี ที่จะทาให้เฉินจึ้นเปิดปาก ถ้าไม่ได้ จริงๆ แม้ว่าเฉินจิ้นจะเป็นแดนเสิน ผู้อาวุโสใหญ่ ยังสามารถ ใช้วิชาหาจิตวิญญาณกับเขาได้ ข้อมูลมากมาย ก็จะได้รู้
อย่างแน่นอน
“มังกรสเกลออกทะเล! ”
“กำลังสนามแรงโน้มถ่วง! ”
ท่านอาวุโสสามและท่านอาวุโสสี่ ตะโกนออกมาตาม
ลำดับ
ทันใดนั้น ทั่วทั้งภูเขาเขียว เมฆลมเปลี่ยนสี
นอกจากพวกเฉินจิ้นและคนอื่นๆสามคนแล้ว ภายใต้แดน เสิน ทุกคน ต่างพากันถอยออกอีกครั้ง
ถอยห่างออกจากบริเวณรอบๆนี้ ร้อยกว่าเมตร
เห็นเพียง มีผู้อาวุโสสองคนเป็นจุดศูนย์กลาง ภายใน 20 เมตร แรงโน้มถ่วงเพิ่มเป็นสองเท่า
มีหินแกะสลักเล็กน้อยในกำลังสนามแรงโน้มถ่วง ภายใน อากาศนี้ เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันหลายครั้งภายใต้พลังงานของ แรงโน้มถ่วง เกิดรอยแตกขึ้นมานับไม่ถ้วน
แม้แต่พื้นดิน ทั้งหมดจมลงไปครึ่งนิ้วจากการกดทับของอากาศ
เงินจิ้น พบกับหายนะแล้ว
สองเท้าของเขา ก็จมลงในพื้นดินเล็กน้อยทันที
“นี่ก็คือเทียนฝู เดินทางของแดนเสินเหรอ?”
หลังจากรู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้ว เฉิน
จิ้นเผยรอยยิ้มที่เหี้ยมโหดออกมาที่มุมปาก
แรงโน้มถ่วงเล็กน้อยนี้ นับประสาอะไร?
ในจักรวาล แม้จะเป็นสำนักหรือพรรคเล็กๆ ล้วนแล้วแต่มี ห้องฝึกแรงโน้มถ่วงของตัวเอง
อย่าว่าแต่เพิ่มแรงโน้มถ่วงหลายเท่าเลย แม้แต่หลายสิบ เท่า ด้วยแดนเสินทงในร่างกายของเฉินจิ้นในตอนนี้แล้ว ก็ สามารถต้านทานได้
เฉินจิ้น ถือดาบมือเดียว ยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับแต่อย่างใด
สำหรับเทียนฝู เสินทงของแดนเสินทงเหล่านี้ เฉินจิ้น ต้องการเรียนรู้อะไรบางอย่าง และสังเกตการณ์
เห็นเพียง หลังจากที่กำลังสนามแรงโน้มถ่วงปรากฏขึ้น ในอากาศ คลื่นพลังงานแปรปรวน เหมือนทะเลในอากาศยัง ใงอย่างนั้น พายุคลื่นแปรปรวน
มังกรสเกลตัวหนึ่ง จู่ๆก็โผล่ออกมาจาก กลางอากาศ
“ห้า-
เสียงคำรามของมังกร กระจายไปทุกทิศทาง จากนั้น ก็หันไปทางเฉินจิ้น กระโจนเข้ามา