จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1003 ปฏิกิริยา
คนที่นายท่านหลินถามถึง ก็คือหลินตงหัวผู้ซึ่งเป็นพ่อของหลินหยุน
หลินตงถิงตอบ“ทางด้านตงหัวน่าจะยังไม่ได้ข่าว เนื่องจากเขาอยู่ในชนบท ข่าวถูกปิดกั้น”
“สำหรับด้านน้องสะใภ้ อาจจะปิดไม่อยู่แล้ว จากอิทธิพลของชางฉองกรุ๊ป หลินหยุนไม่อยู่แล้ว จะต้องทำให้คนจำนวนมากอิจฉาตาร้อนอย่างแน่นอน”
“หกตระกูลสุดยอดในเมืองหลวง ไม่มีทางปล่อยชางฉองกรุ๊ปไปแน่”
“คุณพ่อครับ ต่อไปเราต้องลดกำลังพลลง พยายามรักษาตระกูลหลินใช่ไหมครับ”
ทุกคนต่างพากันมองไปที่นายท่านหลิน ผู้อาวุโสทั้งสี่ของตระกูลหลินก็มองมาที่หลินซื่อเฉิงเช่นกัน
ตอนที่หลินหยุนยังมีชีวิตอยู่นั้น ตระกูลหลินเป็นเหมือนมังกรในป่าใหญ่ ไม่มีใครกล้าแตะต้อง
ทุกคนในตระกูลหลินคิดถึงแต่เรื่องการเติบโต ไม่เคยคิดถึงเรื่องความอันตราย
แต่ตอนนี้เสาที่หนึ่งเดียวที่ค้ำยันตระกูลหลินล้มลง ทุกคนในตระกูลหลินถึงพึ่งพบว่า ตระกูลหลินยังคงเป็นตระกูลหลินที่ปั่นป่วนอันตราย
มีร่างของคนคนหนึ่ง อาศัยเขาเพียงคนเดียว สร้างโลกทั้งใบให้กับตระกูลหลิน
ตอนนี้พอมาคิดๆดูแล้ว ถึงแม้หลินหยุนจะเย็นชาต่อทุกคนในตระกูลหลิน แต่ว่า ทั้งตระกูลหลินกลับพึ่งพาอาศัยเขา
ในห้องโถงของตระกูลหลิน มีเมฆครึ้มปกคลุม
สายตาของนายท่านหลินซื่อเฉิง ค่อยๆกลับมาสว่างขึ้น
เขากวาดตามองทุกคนในตระกูลหลินที่โศกเศร้าสิ้นหวัง จึงตำหนิว่า“ทำตัวให้มีชีวิตชีวาเดี๋ยวนี้!”
“ฉันยังไม่ตายไม่ใช่หรอ?จะตกใจทำไม!”
“อีกอย่าง ไม่ต้องไปฟังข่าวลือพวกนั้น เสี่ยวหยุนเป็นใคร คนเป็นปู่อย่างฉันรู้ดีกว่าใครทั้งหมด!”
“ฉันเชื่อว่า เขาจะไม่ตาย และไม่มีทางตายแน่นอน!”
“อย่าว่าแต่พ่อของระเบิดทั้งหมดเลย ถึงจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์ ก็ฆ่าเสี่ยวหยุนไม่ตาย!”
“ฉันมั่นใจในตัวเขา!”
น้ำเสียงยืนกรานของหลินซื่อเฉิง มีพลัง ทำให้ผู้คนในตระกูลหลิน อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย
“จริงด้วย มันเป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีใครเห็นว่าหลินหยุนตายจริงๆ แม้แต่คนของทางการรัสเซียยังไม่แน่ใจ ไม่อย่างนั้นทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดกองทัพภาคเหนือของรัสเซียทำไมถึงยังปักหลักกันอยู่ที่ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุด?”
หลินตงถิงซึ่งอยู่ในโลกแห่งการเมือง ติดตามข่าวของทางด้านรัสเซียอยู่ตลอดเวลา
“ฉันเชื่อว่าพี่หลินหยุนยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นเซียน เซียนจะตายได้ยังไง!คนพวกนั้นอิจฉาในความสามารถของพี่หลินหยุน จงใจสาปแช่งพี่หลินหยุน”ใบหน้าจิ้มลิ้มของหลินโร่สุ่ยเผยให้เห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยว เธอมั่นใจ ว่าหลินหยุนจะไม่ตาย ไม่เหมือนกับหลินตงถิงผู้เป็นลุง ที่ปลอบขวัญตัวเอง
หลินตงถิงมองไปที่นายท่านหลิน แล้วถามเบาๆว่า“ถ้าอย่างงั้น ตระกูลหลินต้องทำยังไงต่อไปครับ?”
นายท่านหลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า“ควรจะทำอะไร ก็ไปทำ อีกทั้ง จะต้องทำให้ดีกว่าที่ผ่านๆมา!”
หลินตงถิงขมวดคิ้ว“พ่อครับ แต่ก่อนหน้านี้ตระกูลหลินอยู่ในสภาพขยายตัว?ตอนนี้ยังจะขยายต่อไหมครับ?”
นายท่านหลินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า“ขยายต่อไป และจะต้องขยายให้ดีกว่าที่ผ่านมา”
“อย่าให้คนอื่นเห็นว่าตระกูลหลินของเราหวาดกลัว!”
หลินตงถิงพยักหน้า“ผมเข้าใจแล้วครับ”
“เพราะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มีสายตาจำนวนมากกำลังจ้องมองมาที่ตระกูลหลิน ถ้าหากตระกูลหลินหดตัวในเวลาแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงให้เห็นว่าข่าวการตายของหลินหยุนเป็นเรื่องจริง”
“แต่ถ้าตระกูลหลินยิ่งแสดงออกอย่างบ้าคลั่ง ในทางกลับกันจะทำให้คนพวกนั้นสงสัยในตระกูลหลิน ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม”
“เพราะตอนนี้ใครก็ไม่แน่ใจว่า หลินหยุนตายจริงหรือไม่?”
“แต่ว่า การสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเป็นวิธีที่อันตรายมาก ถ้ามีคนมาทดสอบตระกูลหลิน ถึงเวลานั้นเราจะทำยังไงครับ?”
หลินซื่อเฉิงหัวเราะอย่างสุขใจ บนตัวของเขาแพร่รัศมีความอข็งแกร่ง“สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญเพื่อตบตา?ตงถิง แกคิดแบบนั้นจริงๆหรอ?”
“อย่าพูดถึงข่าวการตายของเสี่ยวหยุนจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถึงเสี่ยวหยุนจะไม่อยู่แล้ว ขอแค่ตาแก่อย่างฉันยังอยู่ ก็ไม่มีใครมาแตะต้องตระกูลหลินได้”
หากหลินหยุนไม่อยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นหลินซื่อเฉิงก็จะเป็นผู้บำเพ็ญเซียนหนึ่งเดียวในโลกใบนี้
อีกทั้ง มาวันนี้ความสามารถของหลินซื่อเฉิง ถึงขั้นแดนเทพแล้ว ตราบใดที่ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นไม่ปรากฏ ถึงจะเป็นคนของหกตระกูลสุดยอด ก็ไม่อาจแตะต้องตระกูลหลินได้
เมื่อรู้สึกถึงรัศมีอันทรงพลังบนร่างของนายท่านหลิน หลินตงถิงก็มั่นใจ
“มีคุณพ่ออยู่ด้วย ตระกูลหลินก็ไร้ความกังวล!”
เจียงหนาน ตระกูลอี
อีหยุ่นอยู่ในห้อง สั่งกับพ่อบ้านว่า“เกี่ยวกับข่าวการตายของปรมาจารย์หลิน จะให้คุณหนูรู้ไม่ได้นะ”
“ครับ!”พ่อบ้านโค้งรับคำสั่ง
“งั้นต่อไปเราจะทำอย่างไรครับ?ถ้าแม้แต่ปรมาจารย์หลินก็ตาย งั้นชางฉองกรุ๊ปก็จะกลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ตระกูลอีของเราก็อยู่ในอันตรายเช่นกัน”
“สู้เราถอนตัวออกจากชางฉองกรุ๊ปเถอะครับ!”พ่อบ้านแนะนำ
อีหยุ่นส่ายหัวไปมา“ไม่ได้ ปรมาจารย์หลินมีบุญคุณต่อตระกูลอี เวลานี้ชางฉองกรุ๊ปกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เราจะทอดทิ้งไม่สนใจได้งั้นหรอ?”
“ถึงจะสูญเสียตระกูลอี เราก็ต้องอยู่และตายไปพร้อมกับชางฉองกรุ๊ป”
แต่ว่า ทั้งสองพึ่งคุยกับจบ ด้านนอกก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น“คุณอีหลิง คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ เจ้าบ้านกับพ่อบ้านกำลังปรึกษาหารือกันนะคะ?”
“ถอยไปนะ ฉันมีเรื่องด่วนจะคุยกับคุณพ่อ!”เสียงรีบร้อนของอีหลิงดังขึ้น
อีหยุ่นกับพ่อบ้านสบตากัน ทั้งสองก็เข้าใจกัน
“ให้เธอเข้ามา!”อีหยุ่นตะโกนออกไปนอกห้อง
ประตูถูกเปิดออกมา อีหลิงก้าวเข้ามาข้างในอย่างเร่งรีบ พร้อมกับกลิ่นหอม
วันนี้ อีหลิงสวมชุดสีขาวทั้งตัว ผมดำคลับยาวสลวย ดวงตาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าพึ่งผ่านการร้องไห้มา
สตรีหากอยากสง่าผ่าเผย ก็ต้องสวมชุดสะอาดตา
สิ่งที่อี้หลิงสวมใส่ในวันนี้ทำให้เธอมีความงามที่น่าตื่นตา สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่ทำให้ใจสั่น
เมื่อเห็นฉากนี้ อีหยุ่นก็รู้สึกไม่ดี
“คุณพ่อคะ ข่าวของหลินหยุน พ่อได้ยินแล้วใช่ไหมคะ!”อีหลิงมองไปที่อีหยุ่น ลูกตาดำและขาวแบ่งแยกอย่างชัดเจน ไม่มีความสดใสดั่งวันวาน มีเพียงแค่ความเสียใจและสิ้นหวัง
เรื่องมาถึงจุดนี้ แผนการของอีหยุ่นถูกทำลายจนวุ่นวายไปหมด เขาไม่อยากให้อีหลิงรู้เรื่องนี้ แต่อีหลิงกลับรู้ดี
ตอนนี้ ถึงจะปิดไปก็ปิดไม่ได้อีกแล้ว
อีหยุ่นรีบตัดสินใจ ไม่ปิดบังเรื่องนี้
“หลิงเอ๋อร์ เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่ลูกคิดนะ ปรมาจารย์หลินเป็นเหมือนเทพ จะตายง่ายๆขนาดนั้นได้ยังไง!”
“ข่าวลือพวกนี้ มีแนวโน้มว่าศัตรูจงใจปล่อยข่าวออกมา ลูกอย่าเชื่อเรื่องพวกนี้นะ”
อีหลิงกล่าว“หนูก็คิดว่ามันเป็นข่าวลือค่ะ พี่หลินหยุนไม่มีทางตายแน่”
“ดังนั้น หนูตัดสินใจจะไปทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดของรัสเซียด้วยตัวเอง จะไปตามหาหลินหยุนเจอให้ได้ !”
“ถึงเขาจะตายไปแล้ว หนูก็จะเอาศพเขากลับมาที่จีน จะไม่ให้เขาตายอยู่ต่างแดนเด็ดขาด!”
อันที่จริงแล้ว ภายในใจของอีหลิงยังมีชื่อของคนอีกคน นั่นก็คือคาร์นอตวิลเลียม
อีหยุ่นเคยจินตนาการถึงภาพข่าวการตายของหลินหยุน
เธออาจจะเสียใจสิ้นหวัง อาจจะร้องไห้โวยวาย หรือเธออาจจะหดหู่เป็นเดือนหรือเป็นปี
แต่ว่า เขาไม่เคยคิดเลยว่า อีหลิงจะไปหาหลินหยุนที่ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดด้วยตัวเอง
“ไร้สาระ!”
“ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดสถานที่แบบนั้น อากาศหนาวอุณหภูมิต่ำจัด แม้แต่นักบู๊ไปด้วยตัวเองยังอันตรายเลย ลูกเป็นแค่คนธรรมดา จะไปสถานที่แบบนั้นได้ยังไง!”
แต่ว่า อีหลิงเปลี่ยนความอ่อนแอในอดีต ทัศนคติของเธอหนักแน่นมาก“ขอโทษครับพ่อ ครั้งนี้หนูจะไม่มีทางฟังคุณพ่อ หนูจะไปด้วยตัวเองค่ะ มีชีวิตก็ต้องเห็นคน ตายก็ต้องเห็นศพ”