จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1005 ความเคลื่อนไหวของตระกูลหวาง
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มอย่างขี้เล่น“เขาอยากไป ถ้าผมไม่ให้เขาไปล่ะ มันจะเป็นการทำลายความกระตือรือร้นของเขารึเปล่า?”
หวางโส่วเหรินขมวดคิ้ว ด้วยความโกรธ“งั้นนายก็ต้องคำนึงถึงความสามารถของเขาด้วยสิครับ พอเขาไปแบบนี้ มันก็เท่ากับการใช้คนอย่างเสียเปล่า”
ผู้บริหารคนอื่นๆในตระกูลหวางถึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ใช้สายตาไม่พอใจ มองไปที่หวางเซิ่งเฉียน
หวางเซิ่งเฉียนพูดอย่างยิ้มๆ“อารองครับ งั้นคุณอาว่าตอนนี้เราควรทำยังไงหรอครับ?”
หวางโส่วเหรินกล่าว“ร่วมมือกับห้าตระกูลอื่นๆ เพื่อทำการจู่โจมชางฉองกรุ๊ปอย่างเต็มรูปแบบ จัดการทำลายล้างชางฉองกรุ๊ปให้สิ้นซาก”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหวางเซิ่งเฉียนเพิ่มมากขึ้น“ด้วยอำนาจในปัจจุบันของตระกูลหวางในโลกมนุษย์ตอนนี้ อยากจะทำลายล้างชางฉองกรุ๊ป มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ จะต้องใช้กำลัง”
“นี่มันผิดกฎนะครับ!”
หวางโส่วเหรินยิ้มอย่างเย้ยหยัน“ฉันพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ว่าคุณชายใหญ่ใส่ใจกับกฎของโลกมนุษย์มากขนาดนี้!”
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มมุมปาก“ผมไม่สนใจหรอกนะ แต่ถ้า จู่ๆหลินชางฉองกลับมาล่ะ?”
“ถ้าเขารู้ว่าเราใช้กำลังกับชางฉองกรุ๊ป เขาจะทำยังไง?”
“ถึงยังไงผมก็ไม่สนใจหรอกนะ ถึงเวลาอาจารย์ลับมา ถึงจะเป็นหลินชางฉองก็ไม่กล้าตามมาที่โลกบู๊โบราณหรอก แต่คนอย่างพวกคุณล่ะ?”
หวางเซิ่งเฉียนไม่พูดต่อ
แต่ว่า หวางโส่วเหรินกับผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง กลับรู้สึกตกใจ ขนลุกไปตามๆกัน
จริงด้วย ถ้าหลินชางฉองกลับมา แต่พวกเขาบุกทำลายกฎก่อน ถึงเวลานั้นทางการจีนที่พวกเขาพึ่งพา ก็จะไม่มีเหตุผลช่วยเหลือพวกเขาอีก
การรอคอยของพวกเขา จะเป็นการแก้แค้นด้วยเลือดของหลินชางฉอง
หวางโส่วเหรินรวมถึงผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ แอบปาดเหงื่อไปตามๆกัน
เมื่อนึกถึงหลินหยุนมาที่เคยมาถึงหน้าประตูของตระกูลหวาง ฟันคานประตูบ้านของตระกูลหวางด้วยดาบเล่มเดียว ยังมีเรื่องอะไรที่เขาไม่กล้าทำอีก?
“แต่ว่า เขาตายไปแล้ว!”
“ไม่อย่างงั้น ฉันก็คงไม่แนะนำให้นายไปจัดการทำลายล้างชางฉองกรุ๊ปหรอก”
หวางโส่วเหรินแก้ตัว
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มเบาๆ ไม่เอ่ยปากพูดว่าถูกหรือผิด“ตายแล้ว?อารองเห็นศพของเขาแล้วหรอครับ หรือเห็นมากับตาว่าเขาถูกฆ่าตาย?”
หวางโส่วเหรินกล่าว“ไม่เห็น”
“งั้นอารองแน่ใจได้ยังไงว่าเขาตายแล้ว?”หวางเซิ่งเฉียนจ้องมองหวางโส่วเหรินแล้วถามกลับ
หวางโส่วเหรินขมวดคิ้ว แล้วกล่าวกับหลานชายที่ยกตกข่มท่านด้วยความโกรธ“งั้นคุณชายใหญ่รู้ได้ยังไงว่าเขายังไม่ตาย?”
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มให้กับหวางโส่วเหริน แล้วหันไปแกว่งไม้ตีกอล์ฟ แล้วฟาดออกไปอีกลูก
“เพราะฉะนั้น หวางเจี้ยนหลีอยากไป ผมก็เลยให้เขาไปยังไงล่ะครับ”
หวางโส่วเหรินตกตะลึง เขาไม่ใช่คนโง่ จึงเข้าใจความหมายของหวางเซิ่งเฉียนในทันที
“นายหลอกใช้หวางเจี้ยนหลี โยนหินเพื่อถามทาง!”
“ถ้าหลินชางฉองยังไม่ตาย ถ้าอย่างงั้นเมื่อชางฉองกรุ๊ปถูกโจมตี เขาต้องปรากฏตัวออกมาแน่ ถึงตอนนั้น ก็จะรู้เองว่าเขาตายจริงไหม”
หวางโส่วเหรินไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขามองไปที่คุณชายใหญ่ที่ยังคงทำตัวขี้เล่น ด้วยความชื่นชม“ฉันขอถอนคำพูดเมื่อกี้นะ คุณชายใหญ่ผู้ปราดเปรื่อง”
“อารองชมเกินไปแล้วครับ”หวางเซิ่งเฉียนแสร้งทำเป็นเคารพกลับ ด้วยท่าทีขี้เล่น ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่สบอารมณ์
หวางเจ๋อที่อยู่ใต้ต้นไม้ ไม่ไกลกัน แอบส่ายหัวไปมา
พี่ใหญ่คนนี้ของเขา ไม่เข้าใจตระกูลหวางมากพอจริงๆ
“เกรงว่า ด้วยความสามารถของหวางเจี้ยนหลี ไม่มีสิทธิ์ทำให้หลินชางฉองปรากฏตัวออกมาได้หรอก”
“มาวันนี้ชางฉองกรุ๊ป ถึงจะเป็นตระกูลหวาง ก็ไม่สามารถประเมินค่าต่ำได้หรอก”
และโลกบู๊ในทุกวันนี้ หินเพียงก้อนเดียวก็สามารถสะเทือนได้เป็นพันๆคลื่น
ณ หุบเขาลึกแห่งหนึ่ง มีสำนักที่มีคนไม่กี่สิบคน
ชายชราผมงอกทั้งศีรษะรูปร่างผอมบาง นั่งขัดสมาธิบนข้างสระน้ำ ฟังสิ่งที่ลูกศิษย์รายงานเรื่องราวในโลกบู๊
“หลินชางฉองตายแล้ว?”
“ข่าวนี้จริงหรอ?”
“ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ นี่ล้วนเป็นโอกาสที่ดี”
“วิชาของผู้บำเพ็ญเซียน แค่คิดก็รู้สึกตั้งตารอคอยแล้ว!”
บนภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีสำนึกแห่งหนึ่งในโบกบู๊ สำนักจิ่วหลี
ด้านหลังเขาของสำนักจิ่วหลี จู่ๆ ก็มีเสียงดัง‘ปึ้ง’ ภูเขาระเบิด มีชายชราหัวล้านคนหนึ่งที่ไม่สวมใส่อะไรเลย กระโดดออกมาจากภูเขา
ตีนเขา ลูกศิษย์ต่างพากันรีบเคารพอย่างระมัดระวัง“ขอแสดงความยินดีด้วยครับที่เหล่าจู่ออกจากภูเขา!”
ชายชราหัวล้านคนนั้นยืนอยู่บนยอดเขาด้วยสภาพล่อนจ้อน ปล่อยให้ลมพัดปลิวผมสีดอกเลาของเขา เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
“หลินชางฉองตายแล้ว ฮ่าๆ ตายไปก็ดี วิชาของผู้บำเพ็ญเซียน แน่นอนว่าจะต้องแบ่งปันให้ทุกคน”
“ไปบอกเข้าสำนักของพวกแก ให้ดูแลประตูภูเขาให้ดี ฉันจะออกไปหน่อย”
“ครับ!”เหล่าลูกศิษย์ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง กลิ่นอายที่ออกมาจากชายชราผู้นั้น ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า
ทั้งตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือแม้แต่ในต่างประเทศในเอเชียตะวันออกและสถานที่อื่นๆ สัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ได้ปรากฏตัวขึ้นทีละคน และพวกมันทั้งหมดวิ่งไปที่ชางฉองกรุ๊ปกันแล้ว
ตอนนี้ ภายในชางฉองกรุ๊ป บรรยากาศอึมครึม
ดวงตาของหวางซูเฟินและฉินหลันแดงก่ำ เป็นการพิสูจน์แล้วไม่รู้ว่าพวกเธอร้องไห้กันมานานเท่าไร
ตอนนี้ ผู้นำที่มีอิทธิพลที่ยอมจำนนต่อหลินหยุนพวกนั้น ล้วนพากันมาที่ชางฉองกรุ๊ป ปรึกษาหารือกันถึงเรื่องการเผชิญหน้ากับอันตราย
คนเหล่านี้มีเจี่ยงสงเจ้าพ่อแห่งเมืองหลินโจว โม่จือมิ่งแห่งหุบเขาเทพยา อีหยุ่นแห่งเจียงหนาน ราชินีแห่งหลินหนาน โล่เสว่ฉีแห่งนักบู๊ตระกูลโล่เจียงหนาน เจี่ยงหลินหลินผู้นำตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน เสิ่นเหยียนเจ้าพ่อแห่งหว่างหนัน ซูจื่อเหลียงคัดท้ายเรือสำนักชางฉองและอื่นๆ ทุกคนล้วนเป็นคนใหญ่คนโตด้านใดด้านหนึ่ง
“ประธานกรรมการหวางครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ!เวลานี้ ชางฉองกรุ๊ปไว้วางใจให้คุณมาเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ คุณอย่าสับสนไปนะครับ”เจี่ยงสงกล่าว
เสิ่นเหยียนกล่าว“ผมได้ข่าวมาว่า คนของตระกูลหวางเริ่มเคลื่อนไหวแล้วครับ เกรงว่าอีกไม่นานก็จะจู่โจมเราแล้ว”
โม่จือมิ่งกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ที่ผมเป็นกังวลไม่ใช่ตระกูลหวาง แต่เป็นผู้แข็งแกร่งพวกนั้น ก่อนอื่น ไม่รู้ว่าใคร ปล่อยข่าวของผู้บำเพ็ญเซียนออกไป นักบู๊จำนวนมากได้เห็นความสามารถในการพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็วจึงพากันลุกขึ้นด้วยความตกใจ”
“ตอนที่ปรมาจารย์หลินอยู่ ถึงพวกเขาจะประเมินค่าต่ำ และก็ไม่กล้าทำอะไร แต่ทว่า ตอนนี้ปรมาจารย์หลินไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะต้องหันเหความสนใจมาที่คนในครอบครัวของปรมาจารย์หลิน”
“คนพวกนี้ถ้าเกิดจองหองขึ้นมา มันจะต้องอันตรายมากแน่ๆ”
ทุกคนพากันพยักหน้า โม่จือมิ่งถึงได้พูดสิ่งที่พวกเขากังวล
ตระกูลหวางแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าหากเป็นเพียงแค่สงครามธุรกิจ ชางฉองกรุ๊ปไม่เคยกลัวเขา
แต่ถ้าหากเป็นผู้แข็งแกร่งที่บ้าคลั่ง เพื่อที่พวกเขาจะทำได้ตามเป้าหมาย พวกเขาจะทำทุกวิถีทาง
ซูเหลียงจึที่เอาแต่เงียบไม่พูดอะไร ทำเสียงหึอย่างเย็นชา“ทุกท่านวางใจเถอะครับ ถึงนักบู๊พวกนั้นจะมา ให้มาจัดการสำนักชางฉองให้ได้ก่อนเถอะ”
“นอกเหนือจากนั้น ผมไม่เชื่อว่าท่านอาจารย์จะตาย!”
“เขาอาจจะแค่ กำลังหลบรักษาบาดแผลที่ใดที่หนึ่งก็เป็นได้”
ซูจื่อเหลียงไม่เชื่อมาตลอด ว่าหลินหยุนที่แข็งแกร่งดุจดั่งเทพและปีศาจจะตาย
หวางซูเฟินเก็บอารมณ์ แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม“อันที่จริง ฉันไม่เชื่อว่าเสี่ยวหยุนจะตายแล้ว แต่ว่า ตอนนี้เรายังคงต้องลดการป้องกันของพวกเราก่อน!”
หลังจากนั้น หวางซูเฟิงก็กวาดตามองทุกคน
“ต่อไป อาจจะเป็นช่วงที่ชางฉองกรุ๊ปตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หากทุกท่านมีใครอยากถอนตัวออกจากชางฉองกรุ๊ป ผมก็เข้าใจได้”
“แต่ ผมหวังว่าพวกเราจะจากกันด้วยดี ไม่ทรยศหักหลังชางฉองกรุ๊ปก็พอ”
เจี่ยงสงกล่าวสาบาน“ท่านประธานกรรมการพูดอะไรน่ะ ผมเจี่ยงสงมีทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะปรมาจารย์หลินเป็นคนให้ชีวิต ถึงจะต้องตาย ผมก็ไม่มีวันหักหลังชางฉองกรุ๊ป”