จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1018 องครักษ์
รัสเซีย กองบัญชาการใหญ่ของกองทัพภาคเหนือ
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดกำลังตรวจดูแผนที่อย่างละเอียด ครุ่นคิดว่าจะทำการวางแผนสกัดกั้นหลินหยุนที่บริเวณไหน
“กรมทหารที่ 6 ของกรูท คือกรมทหารชั้นยอดที่สุดในจำนวนกรมทหารชั้นยอดทั้งหมด บวกกับการระดมยิงเข้าใส่ของกองกำลังทางอากาศ อย่างน้อยก็คงจะยืนหยัดได้สิบวันหรือกว่าครึ่งเดือน”
“แม้แต่พ่อของระเบิดทั้งหมดหลินชางฉองก็ยังไม่กลัว คิดต้องการที่จะกำจัดเขา เกรงว่าจะต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างเดียวแล้ว”
“แต่ว่า เขารวดเร็วอย่างมากทีเดียว เกรงว่าไม่ทันจะรอให้อาวุธนิวเคลียร์ระเบิด เขาก็หลบหนีออกมาจากบริเวณที่อาวุธนิวเคลียร์ระเบิดแล้ว”
“จะต้องหาวิธีสกัดกั้นเขาให้ได้! ”
ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดกำลังคิดหาวิธีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รายงานข่าวก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับเหงื่อที่ไหลท่วม
“รายงาน ผู้บังคับบัญชา กรมทหารที่ 6 และผู้บัญชาการระดับร้อยโทขึ้นไปทั้งหมดได้เสียชีวิตลงแล้ว! กรมทหารที่ 6 บาดเจ็บล้มตายไปกว่าครึ่งหนึ่ง และสูญสิ้นกำลังใจในการต่อสู้ไปหมดแล้ว”
ทั้งกองบัญชาการต่างก็เงียบกริบโดยพลัน เงียบสงบลงไปอย่างน่ากลัว
สายตาของทุกคน มองไปยังเจ้าหน้าที่รายงานข่าวผู้นั้นด้วยความหวาดกลัว
มีเสนาธิการเกิดความสงสัยขึ้น: “นายกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่ใช่ไหม? ”
“กรูทและกรมทหารที่ 6 ของเขาเพิ่งจะเคลื่อนกำลังพลออกไปไม่ถึงวัน นายกลับมาบอกว่าพวกเขาล้มตายกันไปหมดแล้ว และกรมทหารที่ 6 ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพต่างก็สูญสิ้นกำลังใจในการสู้รบแล้ว? ”
“นายรู้ไหมว่าหากรายงานข่าวเท็จจะต้องโทษอะไร? ”
เสนาธิการคนนั้นเดินไปยังด้านข้างของเจ้าหน้าที่รายงานข่าว แล้วก็ชักปืนพกออกมาจากเอว และจ่อไปที่ศีรษะของเจ้าหน้าที่รายงานข่าวคนนั้น
เจ้าหน้าที่รายงานข่าวแทบจะร้องไห้: “รายงาน! ที่ฉันพูดล้วนเป็นความจริงทั้งหมด! ”
“ด่านหน้าเพิ่งจะแจ้งมาให้ทราบเมื่อครู่นี้ ถ้าหากผู้บังคับบัญชาไม่เชื่อ สามารถที่จะโทรศัพท์ไปสอบถามดูได้”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดนั่งลงไปบนเก้าอี้ แล้วพูดขึ้นกับเสนาธิการที่กำลังโมโหคนนั้นว่า: “ที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ปล่อยเขาไปเถอะ! ”
เสนาธิการขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า: “ผู้บังคับบัญชา คุณเชื่อในคำพูดนี้ด้วย! ”
“กรูทเป็นถึงผู้ที่มีประสบการณ์การสู้รบมากมายซึ่งเคยได้ต่อสู้กับผู้ที่ไม่ธรรมดามาแล้ว โดยเขาได้นำกรมทหารที่ 6 ซึ่งก็คือกองทัพที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพภาคเหนือของพวกเราไปสู้รบ
ส่วนหลินชางฉองนั้นมันเป็นเทพหรืออย่างไร? ที่จะสามารถกำจัดกรมทหารที่ 6 ลงได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นอย่างจำใจว่า: “เขาก็คือเทพ! ”
“ถ้าหากเขาไม่ใช่เทพ เขาเพียงคนเดียวจะสามารถต่อสู้เอาชนะยอดฝีมือทั้งกาฬโลกได้อย่างไร! ”
“ถ้าหากเขาไม่ใช่เทพ หลังจากที่เขาเพิ่งผ่านการรบศึกหนักกับซีซาร์แล้ว ยังจะสามารถต้านทานการโจมตีของจรวดและขีปนาวุธอากาศสู่พื้น อีกทั้งพ่อของระเบิดทั้งหมดได้อย่างไร? ”
“เหอะเหอะ อย่าได้สงสัยอีกเลย ไปเตรียมการใช้อาวุธนิวเคลียร์เถอะ! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เด็ดขาด
เวลานี้ ถึงคราวที่เสนาธิการตื่นตระหนกแล้ว
“ผู้บังคับบัญชา การใช้อาวุธนิวเคลียร์ จะต้องทำการขอต่อท่านประธานาธิบดี อีกทั้งจะต้องได้รับ
การยินยอมจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทุกกองทัพเสียก่อน”
“นอกจากนี้ หากทิ้งระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ลงในพื้นที่ของเรา จะก่อเกิดปัญหามลพิษอย่างหนัก เกรงว่าอาจจะทำให้พวกเราถูกประชาชนดุด่าได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใช้อาวุธนิวเคลียร์ จะต้องเคลื่อนย้ายประชาชนบริเวณโดยรอบ ซึ่งจะต้องใช้เวลามากพอสมควร! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดว่า: “ที่นายพูดนั้นฉันเข้าใจทั้งหมดเป็นอย่างดี”
“แต่ว่า นอกจากอาวุธนิวเคลียร์แล้ว ฉันคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีวิธีการใดที่จะสามารถหยุดยั้งหลินชางฉองได้! ”
ภายในกองบัญชาการใหญ่ เงียบสงบกันไปหมด
แม้แต่พ่อของระเบิดทั้งหมดยังไม่สามารถจัดการหลินหยุนได้ กรมทหารที่ 6 ที่ยอดเยี่ยมเกรียงไกรแม้แต่วันเดียวก็ไม่สามารถที่จะต้านทานอยู่ได้
ซึ่งนอกจากอาวุธนิวเคลียร์แล้ว จะยังสามารถใช้อะไรได้อีก?
“ตอนนี้ฉันจะไปรายงานต่อท่านประธานาธิบดี เพื่อขอใช้อาวุธนิวเคลียร์! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
ไม่นาน ก็ได้ต่อสายโทรศัพท์
ผ่านไปสักครู่ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดก็พูดขึ้นอย่างดีใจว่า: “ประธานาธิบดีอนุญาตให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์แล้ว! ”
“ส่วนผู้บังคับบัญชาของแต่ละกองทัพ เขาจะเป็นผู้แจ้งให้ทราบเอง”
“เพียงแต่ว่า ตอนนี้คิดต้องการที่จะสกัดกั้นหลินชางฉองให้อยู่หมัดนั้น จะต้องหาสถานที่เหมาะสมในการทิ้งอาวุธนิวเคลียร์”
เสนาธิการยิ้มอย่างขมขื่น: “แม้แต่กรมทหารที่ 6 ยังถูกกำจัดลงแล้ว พวกเรามีวิธีการอะไรที่จะไปขัดขวางเขาเอาไว้ได้ล่ะ? ”
ทุกคนต่างก็เงียบกริบ
ต่อให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก็จำเป็นต้องหาสถานที่ที่เหมาะสม
ถ้าหากไม่มีผู้ที่สามารถหยุดยั้งหลินชางฉองเอาไว้ได้ ถ้าอย่างนั้นอาวุธนิวเคลียร์ก็ไม่มีโอกาสที่จะทิ้งระเบิดได้
“ให้ฉันมาเป็นผู้ที่หยุดยั้งเขาเอง! ”
ในที่มืด ทันใดนั้นก็ได้ปรากฏชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ในชุดทหารสีดำคนหนึ่งขึ้น
เขาผมหยิกสีน้ำตาล ดวงตาเฉียบคมดั่งอินทรี ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาปรากฏตัวอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อไร
เหมือนกับว่าเขาเดินออกมาจากเงามืดอย่างไรอย่างนั้น
“นายเป็นใคร! พวกผู้บัญชาการทหารรีบชักปืนพกออกมาจากเอว แล้วจ่อไปยังชายผู้นั้นทันที”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมองไปที่ชายผู้นั้น แล้วก็ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า: “นายคือ องครักษ์ลับ? ”
ชายผู้นั้นกวาดสายตามองไปที่ปืนพกในมือของพวกผู้บัญชาการทหารเหล่านั้น ยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “ฉันรังเกียจคนที่ใช้ปืนมาจ่อที่ตัวฉันอย่างที่สุด”
เมื่อพูดจบลง เขาก็เคลื่อนไหวทันที ราวกับสายลม พัดผ่านไปที่ใบหน้าของพวกผู้บัญชาการทหารทั้งหมดในห้อง
จากนั้น ทุกคนต่างพบว่าปืนในมือของพวกเขานั้น ได้กลายเป็นก้อนเหล็กไปแล้ว
เพียงครู่เดียวก็สามารถทำให้ปืนในมือของทุกคนกลับกลายเป็นก้อนเหล็กไปได้ วิธีการของคน
ผู้นี้ดั่งกับปีศาจ
“นี่มัน……”
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
ในเมื่อเขาสามารถบีบปืนในมือของพวกเขาให้แหลกละเอียดได้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็สามารถที่จะบีบศีรษะของพวกเขาให้แหลกละเอียดได้โดยง่ายเช่นกัน
“ตกลงนายเป็นใครกันแน่! ” มีคนตะโกนถามขึ้น
ชายวัยกลางคนผู้นั้นไม่ได้สนใจผู้ที่ถามขึ้น หันหลังแล้วก็แสดงความเคารพแบบทหารต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุด
“ผู้การองครักษ์ลับโคโมโด มารายงานตัวตามคำสั่งแล้ว! ”
ผู้การองครักษ์ลับ นี่คือองครักษ์ลับที่มีความสามารถรองจากราชาองครักษ์ลับ ซึ่งในจำนวนองครักษ์ลับทั้งหมด ถือว่าอยู่ภายใต้ราชาองครักษ์ลับคนเดียว และอยู่เหนือองครักษ์ลับทั้งหมด
พลังความสามารถของเขา เป็นรองเพียงราชาองครักษ์ลับเท่านั้น
ได้ยินว่าเป็นผู้การองครักษ์ลับ ทุกคนก็เบาใจลงได้บ้างแล้ว
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นว่า: “ราชาองครักษ์ลับล่ะ? เขาไม่ได้มาด้วยเหรอ? ”
โคโมโดพูดว่า: “ราชากำลังเดินทางมาอยู่”
“นายมาก็ดีแล้ว พวกนายองครักษ์ลับสามารถสกัดกั้นหลินชางฉองเอาไว้ได้ไหม? ” นี่คือเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดกังวลใจมากที่สุด
โคโมโดพูดว่า: “ฉันต้องการที่จะไปลองดู”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดขมวดคิ้ว มองไปที่โคโมโดและพูดขึ้นว่า: “หากพูดแบบนี้ นายเองก็ยังไม่มีความมั่นใจ? ”
โคโมโดยิ้มอย่างเย็นชา: “ฉันต้องการลองดูว่าจะสามารถฆ่าเขาได้หรือไม่! ”
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดดวงตาเป็นประกาย: “โอ้ว ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจนายผิดไป ฉันต้องขออภัยกับคำพูดเมื่อสักครู่นี้ด้วย! ”
“ฉันไม่ต้องการให้นายฆ่าหลินชางฉอง แต่ว่า จำเป็นต้องขัดขวางเขาไว้สักช่วงเวลาหนึ่ง”
โคโมโดพูดขึ้นว่า: “ทราบแล้ว”
พูดจบ เงาร่างนั้นก็แวบหายไป
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเบาใจลงได้บ้าง: “มีองครักษ์ลับออกโรง คงน่าจะสามารถยื้อเวลาให้กับพวกเราได้บ้าง”
“ตอนนี้ ต้องรีบหาสถานที่ที่เหมาะสม เพื่ออพยพประชาชนบริเวณโดยรอบระเบิดนิวเคลียร์”
หลังการปรึกษากันของทุกฝ่าย ในที่สุดก็เลือกตำบลแห่งหนึ่งที่เป็นเส้นทางผ่านไปยังสโมกและเมืองวาดอร์
“ตำบลแห่งนี้ชื่อว่าตำบลอูปะ มีประชาชนหนึ่งร้อยกว่าครัวเรือน ถ้าหากหลินชางฉองเดินทางมา จะต้องผ่านตำบลแห่งนี้อย่างแน่นอน” ผู้บัญชาการคนหนึ่งพูดขึ้น
ผู้บังคับบัญชาสูงสุดพูดขึ้นว่า: “อย่างนั้นก็เลือกที่นี่แล้วกัน! ”
“นายรีบไปสั่งให้คนอพยพชาวบ้านของตำบลแห่งนี้ จำไว้นะว่า ต้องรีบจัดการโดนเร็วที่สุด! ”
“ฉันคิดหาวิธีแจ้งให้กับราชาองครักษ์ลับทราบ บอกให้คนของเขาอย่าเดินทางไปที่ตำบลอูปะ”
หลังจากที่หลินหยุนกำจัดกรมทหารที่ 6 ที่นำโดยกรูทเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตก
กรูทและคนอื่น ๆ ถือได้ว่าเป็นเพียงแค่ดอกเบี้ยโบนัส
เป้าหมายของหลินหยุน คือกองทัพภาคเหนือ คือพวกคนที่ออกคำสั่ง ใช้พ่อของระเบิดทั้งหมดโจมตีคนในหุบเขา
หลินหยุนรวดเร็วอย่างมาก มุ่งหน้าตรงไปยังตำบลอูปะ
แต่ว่า เพิ่งจะกำจัดกรมทหารที่ 6 ไปได้ไม่นาน ก็มีคนมาขัดขวางเขาอีกแล้ว
ครั้งนี้คือคนขององครักษ์ลับ
โคโมโดนำองครักษ์ลับจำนวนแปดนาย มาขัดขวางระหว่างทางผ่านของหลินหยุน
หลินหยุนมองไปที่พวกเขา และพูดขึ้นว่า: “พวกนายเป็นใคร ฉันจะไม่ฆ่าบุคคลนิรนาม”
โคโมโดยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “องครักษ์ลับ”
หลินหยุนเคยได้ยินถึงองครักษ์ลับมาก่อน ซึ่งก็คล้ายกับสำนักหลงถังของจีน พูดได้ว่าคือยอดฝีมือของรัสเซีย
“พวกนายถึงเวลาตายแล้ว”
คนขององครักษ์ลับ มีคุณสมบัติที่จะตายภายใต้น้ำมือของหลินหยุนได้