จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1023 วิชาลี้ลับของเผ่าโลหิต
ลำพังคนเดียว ต่อให้ต้องตกลงไปภายในหุบเขาลึก เพียงแค่ให้ความหวังกับเขาเล็กน้อย เขาก็ยังสามารถที่จะคิดหาวิธีการปีนป่ายขึ้นมาได้
แต่ว่า ถ้าหากแม้แต่ความหวังเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่มี มีแต่เพียงความสิ้นหวังอย่างที่สุด
ถ้าอย่างนั้นคนผู้นี้ก็คงจะหมดหวังทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลง
จิตใจของเขา ปณิธานของเขา ต่างก็ถูกทำลายลง
ภาพบนจอมอนิเตอร์ใหญ่ หลินหยุนกำลังเดินอยู่บนซากปรักหักพัง
ซากปรักหักพังเหล่านั้น ที่อยู่เบื้องหน้าของเขา ราวกับพื้นราบเรียบอย่างไรอย่างนั้น
เขาไม่ได้เดินบนซากปรักหักพังไปเรื่อย ๆ ตามอำเภอใจ ดูเหมือนกับว่าจะมีจุดมุ่งหมาย
กองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดกับผู้บังคับบัญชาชั้นสูงทั้งหมด กำลังมองดูหลินหยุนผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ โดยคาดเดาอยู่ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
ในที่สุด หลินหยุนก็หยุดฝีเท้าลงที่กองซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง
หลินหยุนมองไปยังหลุมที่ถูกทับถมปกคลุมด้วยซากของสิ่งก่อสร้าง และพูดขึ้นว่า: ออกมาเถอะ ไม่ต้องหลบซ่อนตัวแล้ว
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง แต่ว่าเหมือนกับใช้ลำโพงอย่างไรอย่างนั้น ดังไปจนถึงภายในหลุม
โคโมโดยิ้มเยาะและพูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม: ไอ้หลินชางฉองคนนี้ คิดที่จะหลอกให้พวกเราออกไป เขาคิดว่าพวกเราจะติดกับอย่างนั้นเหรอ?
ไม่คาดคิดว่า ราชาองครักษ์ลับจะลุกยืนขึ้น พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า: ออกไปกันเถอะ เขาหาพวกเราพบแล้ว
อะไรกัน! นี่เป็นไปได้อย่างไร! โคโมโดตกตะลึง
ราชา ท่านอย่าได้ถูกเขาหลอกเลย หลุมนี้ฉันขุดตั้งนาน อย่างน้อยก็น่าจะลึกประมาณยี่สิบกว่าเมตร เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาพวกเราเจอ!
ราชาองครักษ์ลับไม่อยากที่จะสนใจเขา แล้วก็กระโดด ลอยตัวขึ้นมาจากหลุม และพูดไว้คำหนึ่ง
หากนายไม่อยากออกมา คิดจะตายอยู่ในนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย
โคโมโดตื่นตระหนกขึ้นทันที: ราชา อย่าได้ทิ้งฉันเอาไว้!
พูดจบ ก็กระโดดตามขึ้นมา
ตูม!
ซากปรักหักพังที่ทับถมอยู่ปากหลุม ได้ถูกพลังที่แข็งแกร่งพัดลอยกระเด็นออกไป
ตอนที่พวกเศษซากกระจัดกระจายนั้นลอยผ่านร่างของหลินหยุน ก็ได้ถูกพลังที่ไร้ตัวตนพัดจน
กระเด็นออกไป ซึ่งบริเวณหนึ่งเมตรโดยรอบตัวของหลินหยุนนั้น เหมือนกับพื้นที่ปิดอย่างสมบูรณ์
ราชาองครักษ์ลับกับโคโมโดพุ่งตัวออกมาจากหลุม แล้วมายืนอยู่เบื้องหน้าของหลินหยุน
แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ยังไม่สามารถสังหารนายได้ นายเกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว
ราชาองครักษ์ลับพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่เคารพและยำเกรง
มนุษย์? หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย: นายกับฉันไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้อีกแล้ว
ในเมื่อนายถือว่าฉันเป็นประเภทเดียวกันกับนาย อย่างนั้นก็ปล่อยฉันไปเถอะ? ราชาองครักษ์ลับทำเป็นตบตาเพื่อขอความเมตตา
ประเภทเดียวกัน? หลินหยุนหัวเราะ
ฉันพูดเมื่อไรว่าเป็นประเภทเดียวกันกับนาย?
ฉันไม่ใช่มนุษย์ เพราะว่าฉันในสายตาของมนุษย์ในปัจจุบันนั้น คือระดับเทพเซียน
ส่วนที่นายไม่ใช่มนุษย์นั้น เป็นเพราะนายคือลูกผสมระหว่างเผ่าโลหิตกับเผ่ามนุษย์
ราชาองครักษ์ลับโกรธเคืองอย่างมาก: หลินชางฉอง ประเทศจีนของนายมีคำพูดที่ว่านักรบฆ่าได้ แต่เหยียดหยามไม่ได้
ต่อให้วันนี้ฉันต้องตายไป ก็จะต้องให้นายชดใช้อย่างสาสม
เงาร่างของราชาองครักษ์ลับ ได้หายวับไป ทันใดนั้น ทั่วทั้งท้องฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยม่านดำ
น้ำเสียงที่โมโหดังสนั่นกึกก้องอยู่บนท้องฟ้า
หลินชางฉอง ต่อให้ฉันตาย นายก็จะต้องชดเชยกับความหลงระเริงของนายอย่างสาสม!
เคล็ดระเบิดโลหิต!
หลินหยุนสีหน้าค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้น: วิชาต้องห้ามของเผ่าโลหิต!
นี่เป็นการเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างที่มีความสัมพันธ์กับสายเลือดของนายเลยทีเดียว
เคล็ดระเบิดโลหิตของเผ่าโลหิตนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ระเบิดร่างกายของราชาองครักษ์ลับเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขา ซึ่งรวมถึงญาติสนิทและเพื่อนของเขาด้วย
เคล็ดระเบิดโลหิตจะปลิดชีวิตทุกคนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับราชาองครักษ์ลับ
แน่นอนว่า ผู้ที่ถูกปลิดชีวิตเหล่านี้ ล้วนเป็นทายาทผู้สืบทอดที่ราชาองครักษ์ลับได้ฝึกฝนพัฒนาขึ้นมา ส่วนคนที่มอบโลหิตให้กับราชาองครักษ์ลับนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบ
นี่คือวิชาลับในการตัดขาดผู้สืบสกุลของตนเองโดยแท้
วิชาลับนี้ ได้ถูกเผ่าโลหิตเรียกขานว่าวิชาต้องห้าม ต่อให้เป็นคนของเผ่าโลหิตที่แท้จริงก็ยังไม่เคยใช้วิชานี้มาก่อนเลย
คิดไม่ถึงว่า ลูกผสมบนโลกนี้จะสามารถใช้เคล็ดระเบิดโลหิตได้ด้วย
วิชาลับนี้ จะทำให้ตนเองไร้ผู้สืบสกุล โดยพลังอานุภาพที่แสดงออกมานั้น ก็จะรุนแรงไร้เทียมทานเช่นกัน
หลินหยุนไม่อาจมองข้ามได้
แล้วก็ก้าวเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับแสดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นนภาในทันที
หลินหยุนยืนตัวตรง แล้วก้าวย่ำออกไปบนความว่างเปล่าที่อยู่เบื้องหน้า ราวกับว่าที่ตรงนั้น
มีบันไดล่องหน
ย่ำฟ้าเก้าที ขึ้นนภาเก้าขั้น
ดาบเฮ่าเทียนรับรู้ได้ถึงจิตใจของเจ้าของตั้งแต่แรกแล้ว ตัวดาบเปล่งประกายลำแสงสีแดงเข้ม และลอยวนเวียนรอบตัวหลินหยุนอย่างไม่หยุด
ดาบพิกัดต้าเต๋า!
กระบี่ยาวสีเทาเล่มหนึ่ง ปรากฏขึ้นที่บนศีรษะของหลินหยุน
ดาบเฮ่าเทียนอยู่ด้านหน้าของกระบี่ยาวสีเทาเล่มนั้น กลับส่งเสียงคร่ำครวญขึ้นเป็นระยะ เหมือนกับว่าหวาดกลัวกระบี่ยาวสีเทาเล่มนั้นเป็นอย่างมาก
ดาบพิกัดต้าเต๋า ไม่ฟาดฟันพลังทิพย์ ไม่ฟาดฟันวัตถุ จะฟาดฟันแต่กฎเกณฑ์และเวรกรรมทุกประเภท
พลังของสายเลือด นั่นก็คือกฎเกณฑ์และเวรกรรมประเภทหนึ่ง
นั่นคืออะไร! ท่ามกลางท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยม่านดำ น้ำเสียงของราชาองครักษ์ลับดังขึ้นอย่างอื้ออึงราวกับฟ้าร้อง
ในน้ำเสียงของเขา แสดงออกถึงความหวาดกลัวเล็กน้อย
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: นายคิดว่าฉันจะให้เวลานายเพียงพอ ที่จะให้นายไปดูดพลังของสายเลือดเหรอ?
ฟัน!
เสียงตะโกนดังขึ้น หลินหยุนชูสองนิ้วขึ้น แล้วชี้ไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดนั้น
ดาบพิกัดต้าเต๋าหายวับไปในทันที
จากนั้น ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของท้องฟ้าอันมืดมิด ราวกับงูสีเงินที่กำลังเต้นรำ หมุนวนไปมาอยู่บนท้องฟ้า
ไม่!
ราชาองครักษ์ลับตะโกนเสียงร้องที่หวาดกลัวขึ้น
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่เพิ่งจะสร้างขึ้นมานั้น ยังไม่ทันได้ดูดพลังจากร่างกายของทายาทผู้สืบสกุลของเขาเลย ก็ถูกตัดขาดลงทั้งหมดแล้ว
พลังของสายเลือด ก็คือพลังของกฎเกณฑ์อย่างหนึ่ง
ดาบพิกัดต้าเต๋า ใช้สำหรับฟาดฟันพวกกฎเกณฑ์เหล่านี้
มีเพียงผู้ที่มีพลังความสามารถเหนือกว่าหลินหยุน จึงจะสามารถต้านทานพลังของดาบพิกัดต้าเต๋าได้
หรือว่า ผู้ที่เข้าใจพลังของกฎเกณฑ์อย่างถ่องแท้ พลังของดาบพิกัดต้าเต๋าก็ไม่สามารถที่จะฟาดฟันตัดขาดได้
แต่น่าเสียดายที่ ราชาองครักษ์ลับยังไม่เพียบพร้อมด้วยสองประการนี้
ดาบทะลุสวรรค์!
ไม่ทันรอให้ราชาองครักษ์ลับตั้งตัวได้ทัน น้ำเสียงที่สงบนิ่งของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ดาบเฮ่าเทียนได้รับการเรียกขาน ก็ส่งเสียงร้องดีใจขึ้นในทันที
หลินหยุนมือถือดาบเฮ่าเทียน แล้วก็ฟาดฟันไปที่ ท้องฟ้าอันมืดมิด
ฉับ!
ลำแสงสีแดง เริ่มต้นจากจุดวงกลม ทันใดนั้นก็แผ่ขยายใหญ่จนเป็นแผ่นผืนปกคลุมไปทั่วชั้นฟ้าชั้นดิน
เหมือนกับว่าท้องฟ้าไม่สามารถที่จะรองรับพลังอานุภาพของลำแสงกระบี่นี้ได้ จึงส่งเสียงพลังทิพย์อันแสบหูและเสียงเสียดสีของแรงต่อต้านในช่องอากาศ
ม่านดำบนท้องฟ้า ได้แบ่งแยกจากหนึ่งออกเป็นสองแสงสว่างสาดส่องขึ้นใหม่อีกครั้ง
รังสีนิวเคลียร์ในอากาศ ได้เกิดการหักเหและส่องสะท้อนเป็นแสงที่มีสีสันหลากหลาย สวยงามราวกับภาพในความฝัน แต่กลับมีพิษภัยร้ายแรงอย่างมหาศาล
ดาบทะลุสวรรค์!
ร่างกายของราชาองครักษ์ลับ มีเสียงดังกร็อกแกร็ก โดยร่วงตกลงมาจากกลางอากาศ หักแยกออกเป็นสองท่อน
หลินหยุนฟาดฟันใส่ม่านท้องฟ้า ขณะเดียวกันก็คือร่างกายของราชาองครักษ์ลับ
โคโมโดตะโกนขึ้นด้วยความหวาดกลัว: ราชา นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ราชาองครักษ์ลับผู้ยิ่งใหญ่คือผู้ที่ไร้เทียมทานปราศจากคู่ต่อกร ทำไมถึงพบกับความพ่ายแพ้ได้!
ภาพลวงตา คงเป็นภาพลวงตาอย่างแน่นอน!
ในฐานะที่เป็นลูกน้องผู้จงรักภักดีต่อราชาองครักษ์ลับที่สุด โคโมโดนับถือและเลื่อมใสราชาองครักษ์ลับเป็นอย่างมาก
ในสายตาของผู้การองครักษ์ลับคนนี้ ราชาองครักษ์ลับก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้ เป็นผู้ไร้เทียมทานที่สุด
แต่น่าเสียดายที่ คิดไม่ถึงว่าไอดอลของตนเองจะถูกฟันจนขาดออกเป็นสองท่อน ต่อหน้าต่อตาของตนเอง
อีกทั้งยังมีสมญานามว่าเผ่าโลหิตผู้เป็นอมตะ
โคโมโดรู้สึกว่าไอดอลได้ถูกทำลายสูญสิ้นลงแล้ว
การที่ถูกทำร้ายจิตใจแบบนี้ สำหรับผู้ที่ติดตามคลั่งไคล้อย่างโคโมโด ถือว่ารุนแรงอย่างที่สุด
ในเมื่อนายเลื่อมใสในตัวของเขามากขนาดนี้ ก็ตายตามเขาไปด้วยเลยสิ!
หลินหยุนสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก แล้วก็กวัดแกว่งดาบขึ้นอีกครั้ง
ศีรษะของโคโมโดกระเด็นลอยสูงขึ้น ส่วนร่างกายก็ยังคงคุกเข่าอยู่ด้านข้างร่างศพที่ขาดออกเป็นสองท่อนของราชาองครักษ์ลับ
จบสิ้นแล้ว
ต่อไปคือ กองบัญชาการใหญ่กองทัพภาคเหนือ
หลินหยุนแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็ย่างเท้าก้าวเดิน ออกจากตำบลไป